McIntosh รุ่น MA12000
อินทิเกรตแอมป์รุ่นใหญ่ใหม่ล่าสุด ที่จัดเต็มแบบไร้ซึ่งการประนีประนอมใดๆ ด้วยขุมพลังขับต่อเนื่อง 350 วัตต์ ทั้งที่ค่าอิมพีแดนซ์ 2,4 หรือ 8 โอห์ม โดดเด่นด้วยการออกแบบไฮบริด (hybrid) ภาคปรีแอมป์แบบ หลอดสุญญากาศ ผสานภาคเพาเวอร์ แอมป์แบบ โซลิด-สเตท อันทรงพลัง พร้อมการรองรับดิจิทัลออดิโอเต็มรูปแบบสำหรับยุคสมัย
MA12000 ภาคปรีแอมป์ใช้หลอด 12AX7A จำนวน 4 หลอด (2 หลอดต่อแชนแนล) ส่วนภาคเพาเวอร์แอมป์ใช้เทคโนโลยีหม้อแปลงเอาท์พุต Autoformerติดตั้งโมดูลดิจิทัลออดิโอมาให้จากโรงงาน พร้อมช่องอินพุตดิจิทัลครบครันรวมถึงช่องเสียบต่อ MCT สำหรับ SACD Transport ของ McIntosh ภาคดีเอซีขนาด 32 บิตแบบ Quad Balance 8- แชนแนล รองรับการเล่นไฟล์ความละเอียดสูงสุด PCM 32-bit / 384kHz และ DSD512 แบบเนทีฟ รวมถึงมี Roon Tested รวมไปถึงยังมีช่องอนาล็อกอินพุตทั้งหมด 10 ชุด ประกอบด้วยบาล้านซ์ XLR 2 ชุด, อันบาล้านซ์ RCA 6 ชุด และอินพุตโฟโนสำหรับหัวเข็ม MM และ MC อีกอย่างละชุดซึ่งสามารถปรับพารามิเตอร์ต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังมีช่องจ่ายเอาท์พุตแบบ XLR และ RCA สำหรับต่อเพาเวอร์แอมป์ภายนอกได้อย่างละ 1 ชุด
McIntosh รุ่น MA8950
อินทิเกรตแอมป์แบบ โซลิด-สเตทใหม่ล่าสุด (มาแทนที่รุ่นดังอย่าง MA8900) จึงอัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพที่มากกว่าเดิม ภาคเพวเวอร์ แอมป์ใช้หม้อแปลงเอาต์พุต Autoformer จึงสามารถจ่ายกำลังขับต่อเนื่องได้คงที่ 200 วัตต์ ทั้งที่ค่าอิมพีแดนซ์ 2/4/8 โอห์ม โดดเด่นด้วยค่าไดนามิคเฮดรูมที่เพิ่มขึ้นถึง 55% (เดิม 2.0dB เป็น 3.1dB) โดยมีความเพี้ยนทางฮาร์โมนิค 0.005% และค่าแดมปิ้งแฟคเตอร์มากกว่า 40
มาพร้อมภาคดิจิทัลโมดูล DA2 ที่เป็น DAC 8 Channel Quad Balanced รองรับไฟล์ PCM 32-bit/384kHz, DSD512 โดยเล่นไฟล์ผ่านช่อง USB สามารถถอดรหัสเพลงดิจิทัลได้สูงถึง 24-bit/192kHz โดยผ่านทางดิจิทัลอินพุต Coaxial, Optical, USB, MCT, HDMI (ARC) และรองรับ ROON Tested
ภาคแอนาล็อกให้อินพุตที่ครบครันทั้ง อันบาลานซ์, บาลานซ์ และ Phono MM, MC นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเอกสิทธิ์จาก McIntosh อาทิ Power Guard, Sentry Monitor, Home Theater PassThru, High Drive Headphone Amp with HXD และ Power Control
McIntosh MA252
MA252 Integrated Amplifier ที่เป็นระบบ ไฮบริดตัวแรกจาก McIntosh ด้วยการออกแบบย้อนยุคจากเครื่องขยายเสียงแบบหลอดสุญญากาศ “McIntosh MC275.ในตำนาน ผสานเข้ากับการออกแบบวงจร โซลิด-สเตท จนได้มาซึ่งแอมปลิฟายเออร์ที่ทรงสสมรรถนะทั้งรูปลักษณ์ และคุณภาพเสียงอันน่าทึ่ง
ในส่วนของภาคปรีแอมป์ใช้หลอดสุญญากาศ 12AX7a จำนวน 2 หลอด และหลอด 12AT7 จำนวน 2 สองหลอดทำงานร่วมกัน ส่วนภาคเอาต์พุต สเตจเป็นแบบ โซลิดสเตตโดยตรง ที่ให้กำลังขับได้ 100 วัตต์ต่อแชนแนลที่ค่าอิมพีแดนซ์ 8 โอห์ม หรือ 160 วัตต์ต่อแชนแนลที่ค่าอิมพีแดนซ์ 4 โอห์ม ดีไซน์เป็นแบบ แอนาล็อกล้วน ที่มาพร้อมกับอินพุตโฟโนสเตจ ทั้งแบบ RCA จำนวน 2 ชุด และแบบ XLR 1 ชุด นอกจากนี้ยังมีเอาต์พุตสำหรับซับวูฟเฟอร์เพื่อเพิ่มความถี่ต่ำเสริมเข้าไปในระบบ ตัวเครื่องทั้งหมดเป็นโครงสร้างสเตนเลสสตีลคุณภาพสูง ขัดเงาอย่างสวยงาม สวยสะดุดตาในความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ McIntosh
Audio Research รุ่น I/50
อินทิเกรตแอมป์หลอดสุญญากาศรุ่นล่าสุด ซึ่งนับเป็นผลิตภัณฑ์แรกในซีรีส์ใหม่ล่าสุดของ Audio Research โดยได้รับการออกแบบให้เป็นอินทิเกรตแอมป์หลอด ระบบสเตริโอ 2-แชนแนลที่เลือกใช้หลอดเพาเวอร์เอาต์พุตเบอร์ 6550WE แบบแมตช์แพร์จำนวน 2 คู่ ทำงานร่วมกับหลอดทวินไตรโอดเบอร์ 6922 อีก 3 หลอด สามารถจ่ายกระแสเอาต์พุตในระดับสูงด้วยกำลังขับข้างละ 50 วัตต์ ขั้วต่อสายลำโพงมีให้เลือกใช้ทั้งขั้ว 4 โอห์ม/8 โอห์ม และยังมีช่องเสียบแจ็คหูฟังมาให้ด้วย
โดดเด่นด้วยลักษณะการออกแบบที่เป็นแบบ modular นั่นหมายความว่า ให้ความเปิดกว้างสำหรับการเพิ่มโมดูลภาคโฟโนสเตจ หรือโมดูล DAC เพิ่มเติมเข้าไปได้ โดยตัวเครื่องของ Audio Research I/50 นั้นมีสีให้เลือกถึง 6 สี พร้อมทั้งมีตะแกรงฝาครอบให้เลือกซื้อเพิ่มเป็นออปชันเสริม ทั้งนี้ I/50 เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกที่ผลิตขึ้นในโรงงานของ Audio Research ที่รัฐมินนิโซตาทั้งหมด
Pass Labs รุ่น INT-250
อินทิเกรตแอมป์ Pass Labs รุ่น INT-250 ตัวเครื่องใหญ่มาก ทั้งกว้างและลึก น้ำหนักเกือบ 50 กิโลกรัม ซึ่งได้รับการกล่าวถึงชื่มชมเอามาก ทั้งยังติดในรายชื่อ“2017 HIGH-END AUDIO BUYER’s GUIDE” และ “2017 THE ABSOLUTE SOUND EDITOR’s CHOICE AWARD” อีกด้วย โดยสามารถให้กำลังขับ 250 วัตต์ ที่ 8 โอห์ม และ 500 วัตต์ ที่ 4 โอห์ม ด้วยการหม้อแปลงขนาดใหญ่ ทำงานร่วมกับ output device แบบมอสเฟตจำนวน 8 ตัวต่อข้าง จึงสามารถจ่ายกระแสขาออกได้สูงถึง 20 แอมป์ และพีคได้ถึง 80 แอมป์
วงจรภายในถอดแบบมาจากเพาเวอร์แอมป์รุ่น X-250.8 การไบอัสวงจรเป็นแบบ Class A โวลุ่มขยายเสียงค่อนข้างละเอียดมาก ขยับขึ้นทีละ 1dB อีกทั้งเกนเสียงยังต่ำอีกด้วย ทำให้ได้ยินไดนามิกเรนจ์ของเสียงที่กว้างขวางมาก และรายละเอียดในเรโซลูชั่นที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น มาพร้อมรีโมตคอนโทรลควบคุมการทำงานได้ครบทุกฟังก์ชั่น