Klipsch แบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมสานต่อการร่วมงานกับ McLaren ทีมรถสูตรหนึ่งตัวท็อปในวงการในการร่วมมือกันพัฒนาสินค้าในหมวดลำโพง มีชื่อรุ่นว่า Klipsch | McLaren Legends Series หลังจากเคยออกผลิตภัณฑ์ที่ทำงานร่วมกันมาแล้วก่อนหน้านี้ เป็นตัวหูฟังรุ่น McLaren Edition True Wireless Earphones ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ใช้พอสมควร
จุดเด่นของสินค้ารุ่นนี้ที่แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์การเชื่อมกับ McLaren เป็นเรื่องการใช้ภาพจำและสัญลักษณ์ต่างๆ อาทิ สีส้มของมะละกอสุข และ หมายเลขรถเบอร์ 5 ที่เคยสร้างตำนาน ในสมัยที่ Bruce McLaren ได้แชมป์โลกอายุน้อยที่สุดในรายการกรังปรีซ์ ในปี 1958 ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีด้านเครื่องเสียงของ Klipsch ที่แฟนๆ ไว้ใจได้เสมอมา แบ่งแยกย่อยออกมาเป็นทั้งหมด 4 รุ่น โดยจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
รุ่นแรก Klipsch The One II McLaren Edition
เป็นลำโพงตั้งโต๊ะแบบพกพา รูลักษณ์ภายนอกออกแบบให้ดูเรียบหรูเหมือนรถสูตรหนึ่ง แต่คุณภาพเสียงมาแบบจัดเต็ม กำลังขับ 60 วัตต์ ในระบบ Stereo 2.1 biamplified ประกอบไปด้วย full range drivers ขนาด 2.25” สองตัว และวูฟเฟอร์ขนาด 4.5” อีกหนึ่งตัว เชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth ส่วนแบบใช้สายผ่านช่อเสียบขนาด 3.5mm เตรียมวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2023 สนนราคาอยู่ที่ 349 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ ตีเป็นค่าเงินไทยได้ราว 11,548 บาท (ขึ้นลงตามเรทค่าเงิน)
รุ่นที่สอง The Nines
เป็นลำโพงไร้สายที่สามารถเล่นไฟล์เพลงแบบ Hi-res ระดับ 192kHz/24-bit ได้สบายๆ จัดวางง่ายไม่เปลืองพื้นที่มากนัก มีการใส่ built-in ultra-low noise amplifiers ช่วยลดเรื่องเสียงรบกวนเข้ามาในตัว ซึ่งเป็นการออกแบบเฉพาะตัว เพื่อขับเสียงออกมาได้เต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องต่อตัวแอมปลิฟายเออร์แยก มาพร้อมกับวูฟเฟอร์ขนาด 8” ลักษณะ long-throw ported ให้เสียงที่รื่นหู แม่นยำ และตอบสนองเสียงเบสได้ยอดเยี่ยม สามารถใช้งานร่วมกับ อุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ได้ด้วยการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth แต่ก็เติมการเชื่อมต่อแบบอื่นๆ มาให้แบบครบครัน อาทิ
- ช่อง integrated phono preamp, HDMI-ARC, digital optical, analog RCA และ USB ครอบคลุมการใช้งานร่วมกับเครื่องเล่นต้นทางทั้งแบบ อะนาล็อก และ ดิจิตอล
- มีฟีเจอร์ควบคุมผ่าน Klipsch Connect app ปรับแต่ง EQ ได้ตามชอบใจ มีคลิปแนะนำการปรับจูนเสียง และการลงทะเบียนตัวสินค้าครบจบที่เดียว
ตอนนี้วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วผ่านทางเว็บไซต์ Klipsch.com สนนราคาอยู่ที่ 1,899 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ ตีเป็นค่าเงินไทยได้ราว 62,837 บาท (ขึ้นลงตามเรทค่าเงิน)
รุ่นที่สาม Forte
เป็นลำโพงตั้งพื้นแบบสามทิศทาง รุ่นที่เป็นมรดกตกทอดและโด่งดังมาตั้งแต่อดีต มีการใส่ตัว K-702 horn-loaded midrange driver ผสมผสานกับตัว Tractrix horn ที่เป็นเทคโนโลยีการคิดค้นขึ้นมาเฉพาะตัวของ Klipsch บวกด้วยตัว titanium diaphragm ขนาด 1” คอยจัดการย่านเสียงสูง รวมไปถึงวูฟเฟอร์ขนาด 12” มาพร้อมกับ passive 15” sub-bass radiator แผงการเชื่อมต่อด้านหลังใช้วัสดุอะลูมิเนียมแบบ พรีเมี่ยม เกรด สามารถใช้งานร่วมกับสายเคเบิ้ลต่างๆ ที่หนักและใหญ่ได้แบบไร้ปัญหา เพราะมีตัว binding posts ที่แข็งแรงรองรับ สำหรับการต่อแบบ bi-amping วัสดุผิวตู้ภายนอกจบด้วยไม้วีเนียร์ทำดด้วยมือทุกชิ้น มีการเติมสีสันด้วยไวนิลสีส้ม คาดหมายเลข 5 อันสื่อถึงความสำเร็จของ McLaren มั่นใจได้เลยว่าจะมาพร้อมน้ำเสียงที่ทรงพลัง คุ้มค่าในราคาที่จ่ายไป การวางจำหน่ายจะเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2023 สนนราคาอยู่ที่ 10,998 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ ตีเป็นค่าเงินไทยได้ราว 363,923 บาท (ขึ้นลงตามเรทค่าเงิน)
รุ่นที่สี่ MCL-905
เป็นลำโพงตั้งพื้นตัวใหญ่สุดประจำซีรี่ย์นี้ ซึ่งตัวผู้พัฒนาการรันตีคุณภาพเอาไว้ว่า คาแรกเตอร์การให้ไดนามิกนั้นมีความดุดัน และจะพาผู้ฟังเข้าสู่การเปิดประสบการณ์ความสมจริงที่เหนือระดับ ไม่ต่างกับลำโพงที่ใช้อยู่ในโรงภาพยนตร์ชั้นนำ ซึ่งนับเป็นลำโพง professional cinema รุ่นแรกที่ผลิตขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานได้ภายในบ้าน บรรจุตัว titanium diaphragm ขนาด 3” ทำงานร่วมกับ K-691 horn เพื่อดูแลย่านเสียงสูง ส่วนย่านเสียงต่ำจะมี dual 15” K-45 composite woofers ทำงานร่วมกับตัวตู้ทำมือ ให้เสียงกระหึ่ม หนักแน่น เกินขนาดตัว แถมการใช้ตัว Tractrix horn จะช่วยให้จัดวางได้หลากหลายพื้นที่แบบไม่มีข้อจำกัด ทำขึ้นมาเพียง 25 คู่บนโลกเท่านั้น เตรียมวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2023 สนนราคาอยู่ที่ 15,998 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อคู่ ตีเป็นค่าเงินไทยได้ราว 529,373 บาท (ขึ้นลงตามเรทค่าเงิน)