What HI-FI? Thailand

JBL 4312G Control Monitor

DAWN NATHONG

ลำโพงมอนิเตอร์เพื่อการฟังเพลงในบ้าน

ลำโพงมอนิเตอร์ตระกูล 4310 / 4311 ของ JBL นั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในสตูดิโอบันทึกเสียงช่วงยุคปี 70s กลายเป็นหนึ่งในลำโพงโปรเฟสชันแนลที่ประสพความสำเร็จมากที่สุดรุ่นหนึ่งของ JBL และยังแตกแขนงมาเป็นรุ่น L100 ด้วยคอนเซ็ปต์คุณภาพระดับสตูดิโอมาสู่บ้าน ก็โด่งดังขายดิบขายดีเช่นเดียวกัน ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบ “West Coast Sound” หรือสไตล์เสียงแบบระบบลำโพงตู้เปิดที่เล่นได้ดัง ให้ย่านกลางแหลมชัดเจน เปิดโปร่ง ทุ้มหนักแน่นฟังสนุก

หลังจากทางบริษัท Harman ได้นำโปรเจคลำโพงรุ่น L100 มาปัดฝุ่น และผลิตใหม่เป็นรุ่น L100 Classic ก็ได้มีการเปิดตัวลำโพงรุ่นล่าสุดอย่าง 4312G ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากลำโพงสตูดิโอมอนิเตอร์ตระกูล 4310 / 4311 ด้วยเช่นเดียวกัน หากว่ากันจริง ๆ แล้วทาง JBL คงมีความตั้งใจที่จะผลิตลำโพงรุ่นนี้ออกมาเป็นคอลเลคชั่นเพื่อใช้งานภายในบ้าน มากกว่าที่จะผลิตเพื่อการใช้งานในสตูดิโอแบบจริงจังดังเช่นในอดีต จะเรียก 4312G ว่าเป็นเวอร์ชั่น “ย่อมเยา” ของรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น 4312 SE ที่ออกมาเพื่อฉลองครบรอบ 70 ปีไปก่อนหน้านี้ก็ว่าได้ ยิ่งทำให้ 4312G มีความน่าสนใจมากขึ้นตรงเรื่องของราคาจับต้องง่ายกว่า 4312 SE อีกต่างหาก

รายละเอียดที่น่าสนใจ

JBL 4312G เป็นลำโพงแบบตู้เปิด 3 ทางที่วางตำแหน่งของดอกลำโพงในลักษณะ Mirror-image เป็นเงาของกันและกัน และสามารถจัดวางได้หลากหลายรูปแบบทั้งวางแนวตั้ง-นอน เอาทวีตเตอร์อยู่ด้านนอก-ด้านใน ได้อย่างอิสระ จะวางขาตั้งก็ได้หรือจะวางบนชั้นวางก็ยังไหว นอกจากนี้ยังไม่เกี่ยงสภาพแวดล้อมและขนาดของห้อง ไม่ว่าจะเอาไปเล่นในห้องแบบไหน ก็ยังคงรายละเอียด อิมเมจ ซาวด์สเตทที่ถูกต้องแม่นยำอย่างที่ลำโพงมอนิเตอร์ที่ดีควรจะเป็น

โครงสร้างตู้ยังคงใช้สัดส่วนตามแบบ 4310 / 4311 ดั้งเดิม ผลิตจาก MDF เกรดพิเศษ เสริมความแกร่งโครงคร่าวภายในเพื่อรองรับไดนามิกของชุดไดร์เวอร์ ประกอบด้วยวูฟเฟอร์กรวยกระดาษ Pure Pulp cone รุ่น JW3000SW-8 ขนาด 12 นิ้ว (4312SE ใช้ 1200FE-8 Aqua-Plas®-coated Pure Pulp cone) ส่วนมิดเรนจ์กรวยกระดาษ Pure Plup Cone เคลือบโพลิเมอร์ รุ่น JM125PC-8 ขนาด 5 นิ้ว (4312SE ใช้ 105H-1) ตอบสนองเสียงกลางได้สะอาดราบเรียบ และทวีตโดมอลูมิเนียม / แม็กนีเซียมอัลลอยด์รุ่นเดียวกับ 4312SE นั่นคือ 054 ALMg-1 ขนาดหนึ่งนิ้วพร้อมเวฟไกด์ รองรับย่านความถี่สูงของไฮเรสออดิโอได้ดีเป็นพิเศษ

ด้านบนแผงหน้าลำโพงมีปุมโทนคอนโทรลปรับย่านความถี่ Mid และ High ปรับได้ละเอียดและไม่เพิ่มหรือลดจนโอเวอร์ ด้านหลังมีขั้วต่อสายลำโพงไบดิ้งโพสต์แบบซิงเกิ้ลไวร์ ตอบสนองความถี่ 44 Hz – 40 kHz ความไว 90 ดีบี ความต้านทาน 6 โอห์ม แนะนำกำลังขับ 10 – 200 วัตต์ ราคาโปรโมชั่น 79,900 บาท / คู่ มีออพชั่นเสริมเป็นขาตั้งรุ่น JS-120 แยกจำหน่าย

รายละเอียดการเซ็ตอัพ

ครั้งนี้เป็นการทดสอบนอกสถานที่ ณ ร้าน Dream Theater สาขา Siam Paragon ชั้น 3 แถมยังเป็นการแกะกล่องกันสด ๆ ตอนที่ผู้เขียนจะไปฟังนั่นละ เรียกว่าทาง What Hi-Fi? Thailand ได้ฟังทดสอบก่อนใคร

หลังจากแกะกล่องก็จับลำโพงวางบนขาตั้งไม้สูงประมาณ 1 ฟุต ไม่มีสไปค์อะไรทั้งสิ้น วางกันแบบบ้าน ๆ เลย ไม่ต้องพิถีพิถัน ผู้เขียนเพียงแต่ขยับปรับตำแหน่งบ้างเล็กน้อยด้วยสายตาลำโพงห่างกันสักราว 2 เมตร โทอินเข้าหาตำแหน่งนั่งฟังหน่อย ส่วนตัวลำโพงจัดวางโดยเอาทวีตเตอร์หันออกด้านนอก (ตามที่ยกเข้ามาแต่แรก) สภาพอคูสติกไม่ได้เป็นห้องฟังที่มิดชิด สภาพอคูสติกมีเสียงรบกวนบ้างอะไรบ้างตามประสาโชว์รูม ซึ่งผู้เขียนก็จะฟังทดสอบไปในลักษณะนี้ ไม่ไปยุ่มย่ามเรื่องการเซ็ตอัพให้มากความ ตามสไตล์การฟังกึ่งลำลองนอกสถานที่ซึ่งไม่ใช่ห้องทดสอบของผู้เขียน ดีชั่วก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า ดีเสียอีกจะได้รู้กันว่า “เล่นง่าย” อย่างที่นาย Jim Garrett  ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์และวางแผนผลิตภัณฑ์ HARMAN โม้เอาไว้จริงรึเปล่า

ซิสเต็มหลักที่ใช้ทดสอบ ประกอบด้วยเครื่องเล่น Denon DCD-SA1, ปรีแอมป์ Mark Levinson No.326S, เพาเวอร์แอมป์ Mark Levinson No.534, สายไฟเอซี / สายลำโพง / สายสัญญาณแบบบาล้านซ์ เป็น Chord Company ทั้งหมด จากนั้นเปิดให้ลำโพงและซิสเต็มได้ทำการอุ่นเครื่องทิ้งไว้ราว ๆ หนึ่งชั่วโมงจึงเริ่มการทดสอบ ใช้เวลาฟังเพื่อประเมินบุคลิกเสียงทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง ถอดหน้ากากลำโพงตลอดการรับฟัง

เสียง

จากที่เคยได้ฟังทดสอบรุ่น L100 Classic ไปก่อนหน้านี้ 4312G มีความแตกต่างกันด้านบุคลิกเสียงพอสมควร จะออกไปในแนวทางของลำโพงสมัยใหม่ มากกว่าจะมีบุคลิกเสียงที่เจือความวินเทจนิด ๆ ความเป็น West Coast Sound จะไม่เด่นชัดเท่า L100 Classic หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งลำโพง 4312G จะมีความแฟล็ตราบเรียบของแต่ละย่านความถี่มากกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับราบเรียบแบบลำโพงสตูดิโอมอนิเตอร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังคงสีสันของดนตรีที่มีความน่าฟังเอาไว้อยู่ให้พอฟังสนุก

แม้ว่าจะเพิ่งแกะกล่องใช้งานไม่นาน 4312G ก็ฉายแววความน่าฟังออกมาแล้ว เป็นลำโพงที่มีน้ำเสียงฟังง่าย เป็นดนตรีและไม่เกี่ยงแนวเพลง คุณสามารถเพลิดเพลินกับดนตรีได้ทุกประเภทเมื่อเล่นกับลำโพงคู่นี้ มีความสว่างสดใสผสานความนุ่มนวล (กว่าที่คิด) เอาไว้ได้อย่างพอเหมาะ เนื้อเสียงมีความอิ่มแน่น ไม่ผอมบาง ได้สมดุลทั้งย่านทุ้ม-กลาง-แหลม ไม่ใช่ประเภททุ้มดีแต่แหลมจัด บาง หรือแหลมดีทุ้มบางอะไรเทือกนั้น แถมเกรนของเนื้อเสียงก็มีความละเอียดละออดีเกินหน้าเกินตาลำโพงรุ่นเล็ก ๆ ของ JBL ไปพอสมควร

เสียงคนร้องนี่ทำได้น่าประทับใจ มีความชัดถ้อยชัดคำและสอดใส่อารมณ์ได้ดี ไม่ผิดหวังกับกรวยกระดาษรุ่นนี้ของ JBL จริง ๆ มีความเป็นธรรมชาติสูงทีเดียวไม่แข็งกระด้าง ติดไปทางหวาน ๆ ลื่นไหลด้วยซ้ำไป (La Vie En Rose – Ute Lemper) หรือแนวเสียงที่สดจริงจัง มีพลัง ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม (Tennessee Waltz – Chie Ayado) เสียงร้องไม่สาดพุ่งเข้าหาคนฟังและมีระนาบตื้นลึกที่เหมาะสม

แม้จะเป็นลำโพงแบบ 3 ทาง ไดร์เวอร์กลางกับทุ้มมีขนาดหน้าตัดต่างกันมาก (5 นิ้วกับ 12 นิ้ว) แต่ถ่ายทอดความกลมกลืนของเสียงจากไดร์เวอร์แต่ละตัวได้อย่างแนบเนียน ต่อเนื่องไร้รอยขยัก เหมือนกับว่ากำลังฟังลำโพงแบบสองทางยังไงยังงั้น ส่งผลให้ถ่ายทอดบรรยากาศอ่อน ๆ รอบตัวโน้ตได้อย่างอบอวล สเกลของเสียงมีขนาดสมจริง ฟังแล้วรู้สึกถึงความสดมีชีวิตชีวา (Rain Forest Dream – Joji Hirota) เบสจากไดร์เวอร์ 12 นิ้ว สะอาด กระชับ หนักแน่น และควบคุมได้อย่างเด็ดขาดไม่กวนเสียงย่านกลางเลย ให้จังหวะจะโคนของดนตรีที่แม่นยำฟังแล้วชวนกระดิกเท้าตาม

ให้เสียงหลุดตู้ตั้งแต่แรกฟัง เวทีเสียงใหญ่และโอ่อ่า ทั้งด้านกว้างด้านลึกที่เป็นชั้น ๆ ในขณะที่ยังรักษาโฟกัสความชัดคมของชิ้นดนตรีภายในเวทีเสียงเอาไว้ โดยเฉพาะตรงกลางได้อย่างน่าพอใจ (อย่าลืมว่าวางทวีตเตอร์หันออกนอกด้วย) แม้จะวางบนขาตั้งที่ไม่สูงนักแต่ตำแหน่งเสียงร้องก็ยังมีความสูงเหนือลำโพงชัดเจน การแพนเสียงในทิศทางต่าง ๆสามารถติดตามได้ตลอด ถ้าจะเอาไปชมภาพยนตร์ก็น่าสนใจดีทีเดียว

สรุป

สำหรับใครที่มองหาลำโพงทรงคลาสสิคแบบนี้อยากให้มาลองฟัง โดยเฉพาะถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ JBL ที่ต้องการลำโพงเล่นง่าย เซ็ตง่าย แต่เสียงต้องดีด้วย ฟังเพลงหลากหลายแนวตั้งแต่ลูกทุ่งยันเพลงคลาสสิค JBL 4312G ไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน

JBL 4312G Specification

ขอขอบคุณร้าน Dream theater สาขา Siam Paragon โทร 02-610-9671 ที่เอื้อเฟื้อสถานที่เพื่อการทดสอบในครั้งนี้


Exit mobile version