DAWN NATHONG
มนต์เสน่ห์ของความเรียบง่ายจากอังกฤษ
กระแสเปิดตัวลำโพงรุ่น 40th Anniversary ของ Harbeth นั้นเริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2017 ด้วยรุ่น Super HL5 plus 40th Anniversary และ รุ่นเรือธง Monitor 40.2 40th Anniversary ก่อนจะตามมาด้วยลำโพงวางหิ้งรุ่นเล็กสุด P3ESR 40th Anniversary และรุ่น Compact 7ES-3 40th Anniversary ตอนแรกทางผู้ผลิตระบุว่ามีแค่ 4 รุ่นเท่านั้น แต่ก็ยังปล่อยรุ่น Monitor 30.2 40th Anniversary ที่ผู้เขียนนำมาทดสอบนี้ออกมาเป็นการส่งท้ายแบบฟินาเล่ (สงสัยจะกระแสดี)
สำหรับ Monitor 30.2 40th Anniversary เป็นการอัพเกรดมาจากโมเดล Monitor 30.1 และเพราะเป็นรุ่นลิมิเต็ด ทางผู้ผลิตจึงเลือกใช้ผิววิเนียร์ลายไม้ Silver Eucalyptus ที่ดูโดดเด่นสะดุดตาผู้เขียนมากที่สุดในบรรดาโมเดล 40th Anniversary ทั้งหมด รวมถึงยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ไม่เหมือนรุ่นอื่นซึ่งผู้ผลิตใส่มาให้ในรุ่นนี้ ที่ผู้เขียนจะกล่าวถึงต่อไป
หากเข้าไปชมบนเวปไซต์ในปัจจุบันจะไม่เห็นในไลน์อัพของสินค้าแล้ว เนื่องจากทาง Harbeth ได้ยุติสายการผลิตรุ่นพิเศษ 40th Anniversary ทั้งหมดลงเป็นที่เรียบร้อย นั่นแปลว่าลิมิเต็ดจริง ๆ หมดแล้วหมดเลย
รายละเอียดที่น่าสนใจ
ขออนุญาตเรียก Monitor 30.2 40th Anniversary ย่อ ๆ ว่า 30.2 เป็นลำโพงวางหิ้งแบบสองทางขนาดกลาง ๆ ระบบตู้เปิดพอร์ตอยู่หน้า วูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว ดีไซน์ของลำโพงใช้พื้นฐานเหมือนกับลำโพง BBC LS5/9 ทำให้มันมีความเหมาะสมในการใช้งานได้ทั้งห้องขนาดเล็กและขนาดใหญ่
ตามธรรมเนียมของรุ่น 40th Anniversary ทุกโมเดลนอกจากจะเลือกผิววิเนียร์ลายไม้พิเศษที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นแล้ว ก็จะมีอัพเกรดอัพเกรดอุปกรณ์บนครอสโอเวอร์เน็ตเวิร์คให้ดีขึ้นกว่ารุ่นมาตรฐาน ด้วยโพลีเอสเตอร์คาปาซิเตอร์แบบออดิโอเกรดที่ Harbeth ผลิตเองกับสายวายริ่งเกรดพิเศษฉนวนสีดำซึ่งใช้ตัวนำบริสุทธิ์ขึ้นเป็น UPOFC ที่ สั่งผลิตแบบคัสต้อมเมดจาก Van Damme
พร้อมขั้วต่อไบดิ้งโพส WBT-0710 NexGen ซิงเกิ้ลไวร์ เลย์เอาท์ของวงจรยังคงเหมือนรุ่น 30.1 แต่ทาง Harbeth ก็มีการจูนครอสโอเวอร์เน็ตใหม่ ผลิตแบบแมตช์แพร์จับคู่ลำโพงข้างซ้าย-ขวา พร้อมป้ายระบุซีเรียลนัมเบอร์ที่รันตัวเลขต่อกัน
ทวีตเตอร์ยังคงใช้ซอฟทโดมขนาด 1 นิ้วที่สั่งทำพิเศษจาก SEAS แต่มีความพิเศษเล็ก ๆ ตรงตระแกรงรังผึ้งโลหะจะทำสีเงินเป็นพิเศษซึ่งไม่มีในรุ่นอื่น นัยว่าอาจล้อกับชื่อของผิวไม้ Silver Eucalyptus ก็เป็นได้ มีการจูนเสียงทวีตเตอร์มาพร้อมกับตระแกรงและยึดติดกับเบ้าของโดมทวีตเตอร์และไม่สามารถถอดออกได้ ส่วนไดร์เวอร์เบส / มิดเรนจ์มีขนาด 7.9 นิ้ว ใช้กรวยโพลิเมอร์ RADIAL2 ของ Harbeth ที่มีดัสแคปตรงกลางทรงหัวกระสุน
ถ้าเอามือเคาะตัวตู้ของ 30.2 ดูเสียงจะก้องแบบทุ้มต่ำเหมือนเราเคาะบอดี้ของอคูสติกกีตาร์ ต่างกับตู้ลำโพงที่เน้นความหนาและแข็งแรงของผนังตู้ เสียงจะแน่น ๆ ห้วน ๆ เหมือนเราเคาะหิน ตรงนี้คือจุดเด่นที่ Harbeth แตกต่างจากลำโพงทั่วไป Alan Shaw ผู้ออกแบบตั้งใจที่จะทำให้ทั้งตู้และไดร์เวอร์มีบุคลิกเสียงของวัสดุน้อยที่สุด เขาเคลมว่า RADIAL2 เป็นไดร์เวอร์เบส/มิดเรนจ์ที่ปลอดสีสันของวัสดุมากที่สุดในปัจจุบัน
Shaw นิยามว่าระฆังที่สมบูรณ์แบบเมื่อถูกตีจะเกิดเสียงก้องกังวานยาวนานหลายวินาที แต่ระฆังที่มีรอยร้าวเล็ก ๆ นั้นแทบจะไม่กังวานเลย ทำนองเดียวกันโครงสร้างตู้ลำโพงที่ยึดกันอย่างแน่นหนา ก็มีโอกาสจะถูกกระตุ้นด้วยเรโซแนนท์บางความถี่ได้ง่ายกว่า
ด้วยการคาดโครงโครงคร่าวตู้แบบ T-shaped และแดมป์ผนังตู้ด้วยการใช้แผ่น MDF บาง ๆ โครงสร้างตู้แบบนี้ถูกเรียกว่า Thin-wall ซึ่งอาศัยรอยต่อของไม้เป็นตัวช่วยสลายเรโซแนนท์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีการบุฟองน้ำซับเสียงภายในตัวตู้ ซึ่ง Shaw อาศัยหลักการทำโครงสร้างตู้อันเรียบง่ายนี้มากว่า 30 ปี จนประสพความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ทฤษฎีของของเขาได้เป็นอย่างดี
ผลการทดสอบ
เวลาฟัง 30.2 จะรู้สึกว่าเสียงจากทั้งไดร์เวอร์และตู้ลำโพงกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน เสมือนกับไร้ตู้ และเกิดความไพเราะเวลาฟัง เพราะมันจะให้ความกังวานของฮาร์โมนิกเสียงเหมือนเราฟังเสียงเครื่องดนตรีจริงหรือเสียงคนร้องจริง ๆ มากเป็นพิเศษ กลายเป็นลำโพงที่ให้เสียงราบรื่นทุกย่านความถี่เหมือนลำโพงมอนิเตอร์ แต่มีฮาร์โมนิกของเสียงที่ราบรื่นไม่แข็งกระด้าง โดยเฉพาะย่านเสียงกลางจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของลำโพง Harbeth
แต่อย่างได้เข้าใจผิดว่า 30.2 เป็นลำโพงที่ให้เสียงติดไปทางนุ่ม แต่เป็นลำโพงที่ถ่ายทอดรายละเอียดทุกย่านเสียงออกมาได้อย่างราบรื่นถึงที่สุด โดยปราศจากความคมแข็ง ให้เกรนเสียงที่ละเอียดยิบและมีความต่อเนื่องลื่นไหลของย่านเสียงจากย่านทุ้นจรดย่านแหลมที่กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน หากใครฟัง 30.2 แล้วรู้สึกว่าเสียงมีความสด สว่าง หรือจัดจ้านเกินงาม ให้พิจารณาไปที่อุปกรณ์ร่วมอื่นในซิสเต็มก่อนโดยเฉพาะสายลำโพง เพราะลำโพงคู่นี้ไม่ค่อยจะถูกโฉลกกับสายลำโพงที่โครงสร้างซับซ้อนหรือพิสดารเกินไป แนะนำให้เริ่มต้นด้วยสายฝอย Multi Strand ทั่ว ๆ ไปขนาด 14 AWG ขึ้นไปเป็นการชิมลางก่อนที่จะอัพเกรดไปเป็นสายราคาแพง ๆ ท่านจะจับการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายชึ้นว่าได้อะไรหรือเสียอะไรไป
อินทิเกรตแอมป์กำลังขับสัก 35 – 45 วัตต์ขึ้นไปไม่เกี่ยงว่าเป็นหลอดหรือโซลิดสเตท ก็สามารถขับลำโพงคู่นี้ออกมาได้อย่างน่าฟัง ขอเพียงเป็นวัตต์ที่มีคุณภาพสักหน่อย ถ้าเลือกแอมป์โซลิดสเตทที่เป็นเพียวคลาสเอหรือแอมป์หลอดพวกซิงเกิ้ลเอ็นด์ไตรโอดก็ยิ่งแจ๋ว ท่านจะได้ทั้งความสะอาด โปร่งใสและความฉ่ำหวานของเสียงแบบที่ยิ่งฟังยิ่งเพลิดเพลินในอารมณ์มากทีเดียว ให้ระดับความดังเพียงพอที่จะครอบคลุมห้องฟังขนาดกลางสัก 4 x 6 ได้สบาย แต่หากเล่นในห้องขนาดใหญ่กว่านี้และต้องการฟังดังขึ้น อาจขยับเป็นแอมป์ที่มีกำลังขับสัก 100 วัตต์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง และจะมีส่วนในช่วยเพิ่มความกระชับแน่นของย่านต่ำอีกเล็กน้อย
ลำโพงบางรุ่นเวลาฟังเสียงจะมีบุคลิกของวัสดุที่ใช้ทำไดร์เวอร์ให้พอรับรู้ได้ แต่โทนเสียงของ 30.2 มีความเป็นมอนิเตอร์สมชื่อ ถ่ายทอดสีสันความแตกต่างของบทเพลงในแต่ละอัลบั้มออกมาได้อย่างชัดเจน ให้โทนเสียงของเครื่องดนตรีสมจริง น้ำเสียงทุกย่านมีปริมาณที่สมานเสมอกันหมดไม่ค่อนไปทางใดทางหนึ่งเลย และรองรับการสวิงไดนามิกของเสียงแบบกว้าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม เวลาฟังพวกเพลงคลาสสิคช่วงที่พีคขึ้นมาฟังแล้วไม่อึดอัด รู้สึกถึงพลังงานของเสียงที่ปลดปล่อยออกมาอย่างเป็นอิสระ กับแนวร็อคหรือแจ๊สที่มักต้องการความแม่นยำในการถ่ายทอดไทมมิ่งหรือจังหวะจะโคนของดนตรีก็ทำออกมาได้พอดิบพอดี ควบคุมได้ในทุกระดับความดัง ไม่รู้สึกว่ามากไปหรือน้อยไป
ในมุมกลับกันเมื่อทุกอย่างถูกควบคุมเอาไว้ได้อย่างราบรื่น ก็อาจจะทำให้ไม่ถูกหูนักเล่นที่ชอบความดิบ ความเฉียบคม มีแรงปะทะของเสียงหนักหน่วงอยู่บ้าง โดยเฉพาะกับแนวเพลงที่มีบีทหนัก ๆ หรือดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ แต่หากใครที่ชอบฟังเสียงเครื่องดนตรี เสียงร้องสด ชอบบรรยากาศของเสียงที่อบอวลเหมือนนังฟังในคอนเสริตฮอลล์ 30.2 เป็นลำโพงที่ห้ามมองข้ามไปเด็ดขาด เพราะมันจะตรึงคุณอยู่กับที่นั่งและทำให้อยากฟังเพลงต่อไปเพลงแล้วเพลงเล่า และอยากกระซิบว่า 30.2 เป็นลำโพงอีกรุ่นที่ฟังเพลงร้องได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะลูกทุ่งไทยยุคเก่า ๆ ที่ยังบันทึกเสียงด้วยมิกเซอร์แบบอนาล็อก ฟังแล้วจะเข้าถึงอารมณ์ของนักร้องได้อย่างวิเศษ มีความชัดถ้อยชัดคำ มีตัวตนเหมือนจับต้องได้
มิติเวทีเสียงของลำโพงคู่นี้มีความเปิดโปร่งและโอ่อ่าเกินขนาดตัวไปมาก ด้วยคุณสมบัติของโครงสร้างตู้ Thin-wall ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับช่วยผสานเสียงให้ตัวไดร์เวอร์ไปด้วย ตู้ลำโพงขนาดเขื่องตรงหน้านั้นอันตรธานหายไปเหมือกับกำลังฟังลำโพงเล็กจอมมิติทั้งหลาย ขอเพียงหาขาตั้งลำโพงที่มีความมั่นคงแข็งแรง ความสูงไม่เกิน 24 นิ้ว มีสไปค์ที่ปรับระนาบของลำโพงได้ การเซ็ตลำโพงคู่นี้ให้ล่องหนก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป
สรุป
สำหรับใครที่เป็นแฟนของลำโพง BBC มอนิเตอร์อยู่แล้ว หรือต้องการลำโพงที่จะอยู่กับมันได้นาน ๆ ฟังเพลงเพื่อการผ่อนคลายและอยากสัมผัสดนตรีแบบเข้าถึงอารมณ์ ขับไม่ยาก และเป็นมิตรกับห้องฟังทั่วไป มีความสวยงามและคลาสสิคของรูปลักษณ์ที่เหนือกว่ารุ่นมาตรฐาน Monitor 30.2 40th Anniversary เป็นลำโพงที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าควรต้องหาโอกาสมาลองฟังให้ได้สักครั้ง และควรรีบสักนิดเพราะเห็นทางร้านตัวแทนจำหน่ายบอกว่าเหลือแค่เพียงไม่กี่คู่ มิฉะนั้นอาจจะต้องรออีกหลายปี ลุ้นให้ Harbeth ฉลองครบรอบ 50 ปีนั่นเลย
รายละเอียดด้านเทคนิค
- Two-way, bass-reflex, stand-mounted, ported loudspeaker.
- Drive-units: 1″ (25mm) soft-dome tweeter, 7.9″ (200mm) bass/midrange.
- Frequency response: 50Hz–20kHz, ±3dB.
- Sensitivity: 85dB/W/m.
- Nominal impedance: 6 ohms.
- Power handling: 150W.
- Recommended amplification: >25W.
ขอขอบคุณร้าน Sound Box อาคารศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ชั้น 3 โทร. 092-890-4660, 094-124-2732 ที่เอื้อเฟื้อสินค้าสำหรับการทดสอบในครั้งนี้