Test Report: Esoteric N-01

0

Network Audio Player

อนาคตแห่งสตรีมมิ่งมิวสิค

DAWN NATHONG

Esoteric N-01 เน็ตเวิร์คออดิโอเพลเยอร์

ทุกวันนี้การฟังเพลงผ่านระบบเน็ตเวิร์คหรือสตรีมมิ่งมิวสิคได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในด้านคุณภาพเสียงก็พัฒนาขึ้นเรื่อยด้วยเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เครื่องเล่นเน็ตเวิร์คระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางในปัจจุบันก็ให้คุณภาพที่เสียงสามารถตอบโจทย์สำหรับนักเล่นกลุ่มมิวสิคเลิฟเวอร์ที่นิยมความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี แต่กระนั้น สำหรับนักเล่นระดับออดิโอไฟล์ที่พิถีพิถันอย่างถึงที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ฟร้อนต์เอ็นด์ระดับไฮเอ็นด์ อย่างซีดีเพลเยอร์ เครื่องเล่น SACD หรือแม้แต่เทิร์นเทเบิล ในชุดเครื่องเสียงชุดใหญ่ที่ปรับเซ็ตมาอย่างลงตัวแล้ว ต้องยอมรับว่าเน็ตเวิร์คเพลเยอร์ทั่วไปยังไม่สามารถดึงเอาศักยภาพของการถ่ายทอดความเป็นดนตรีออกมาได้น่าฟังเท่า เพราะการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง มีตัวแปรที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพเสียงมากกว่าหลายประการ

ยกตัวอย่างที่สำคัญอย่างหนึ่งคือน้อยส์ที่เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการรับ-ส่งสัญญาณ โดยเฉพาะภาครับสัญญาณ Wi-Fi ในตัวเครื่องเองที่เป็นตัวการสำคัญที่ดึงสัญญาณรบกวนต่าง ๆ จากภายนอกผสมเข้ามา ส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบ หรือแม้แต่การรบกวนภายในของตัวอุปกรณ์เอง ล้วนบั่นทอนคุณภาพเสียงได้ง่ายดาย ด้วยตัวแปรที่อ่อนไหวเหล่านี้ คุณภาพของการออกแบบภาคจ่ายไฟที่สะอาดราบเรียบ วงจรต่าง ๆ และภาคดีทูเอคอนเวอร์เตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ขจัดและป้องกันสัญญาณรบกวนได้ดี ย่อมมีผลต่อคุณภาพเสียงมากเป็นพิเศษ

Esoteric จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้แสวงหาเนื้อแท้จากการฟังสตรีมมิ่ง เนื่องจากเป็นผู้ผลิตเครื่องเสียงระดับไฮเอ็นด์ ที่เรียกได้ว่ามีประสบการณ์ชำช่องและตกผลึกพอจะสร้างเน็ตเวิร์คออดิโอเพลเยอร์คุณภาพสูง ที่จะตัดปัญหาจุกจิกกวนใจและปลดปล่อยศักยภาพของการเล่นสตรีมมิ่งมิวสิคออกมาได้อย่างแท้จริง ด้วยองค์ความรู้จากการผลิตเครื่องเล่น CD, SACD และดีทูเอคอนเวอร์เตอร์ระดับสเตทออฟดิอาร์ต ที่สั่งสมมาหลายสิบปี และเป็นที่ยอมรับในวงการมาช้านาน และถูกถ่ายทอดลงมาสู่เน็ตเวิร์คออดิโอเพลเยอร์ระดับเรือธงของบริษัทนามว่า Esoteric N-01 ที่ผู้เขียนจะมารีวิวในครั้งนี้

รายละเอียดที่น่าสนใจ

หัวใจสำคัญของ Esoteric N-01 คืออัลกอริธึ่มของวงจรประมวลผลที่มีความละเอียดสูงถึง 35 บิต ซึ่งมีความละเอียดสูงกว่าแบบ 24 บิตถึง 2,048 เท่า ในแง่ของดิจิทัลนั้นจะช่วยส่งผลดี ทำให้ขั้นตอนการแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาล็อคมีรูปคลื่นที่ถูกต้องเข้าใกล้อุดมคติได้มากยิ่งขึ้น ใช้ชิพถอดรหัส 32 บิตของ AKM เบอร์ AK4497 จำนวนสี่ตัวทำงานแบบต่อขนานแชนแนลละสองตัว จัดวงจรแบบ Eight Parallel Differential เพื่อให้ชิพทำงานได้อย่างราบรื่น มีความเป็นเชิงเส้นสูง และมีความเพี้ยนที่ต่ำเป็นพิเศษ ใช้ออปแอมป์ขยายสัญญาณเกรดไฮเอ็นด์ MUSES03

วงจรภาคถอดรหัสจะถูกแยกบอร์ดวงจรของแชนแนลซ้าย-ขวารวมถึงภาคจ่ายไฟเป็นอิสระจากกัน โดยหม้อแปลงเทอรอยด์พร้อมภาคเรกูเลทแปดชุดจ่ายไฟให้กับวงจรแต่ละข้าง ติดตั้งถัดจากแผงวงจรเพื่อให้มั่นใจว่าจ่ายไฟได้สะอาดและราบเรียบถึงที่สุด มีการแยกส่วนของแผงวงจรดิจิทัลและภาคอนาล็อคจากกันอย่างเด็ดขาด โดยแยกหม้อแปลงเทอรอยด์จ่ายไฟให้วงจรดิจิทัลและวงจรเน็ตเวิร์คโมดูลอีกอย่างละหนึ่งลูก เท่ากับว่า N-01 ใช้หม้อแปลงเทอรรอยด์ขนาดใหญ่ทั้งหมดถึงสี่ลูกเลยทีเดียว

ภาคจ่ายไฟแยกหม้อแปลงเทอรอยด์ถึงสี่ตัว

ในส่วนของวงจรภาคอนาล็อค ทาง Esoteric ใช้เทคโนโลยี ES-LINK Analog จัดการกับสัญญาณที่ถูกส่งมาจากภาคถอดรหัส โดยสัญญาณอนาล็อคจะถูกส่งมาเข้ามายังวงจรบัพเฟอร์ประสิทธิภาพสูงที่เรียกว่า HDLC (High Current Line Drive) ซึ่งใช้ชุดตัวเก็บประจุขนาดใหญ่ถึง 125,000 ไมโครฟารัตสำหรับแต่ละแชนแนล สามารถจ่ายกระแสได้สูง รวมถึงขยายสัญญาณได้อย่างรวดเร็วฉับไว (ค่า Slew Rate สูง) อันเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพเสียงจากภาคอนาล็อคเอาท์พุตเป็นอย่างยิ่ง ทาง Esoteric การันตีว่าปราศจากการลดทอนคุณภาพของสัญญาณโดยสิ้นเชิง ค่าไดนามิกเรนจ์กว้าง ๆ ของสัญญาณที่ถูกส่งต่อมาจากภาคถอดรหัสจะไม่ถูกบั่นทอนลงไปหรือสูญเสียเมื่อผ่านวงจรนี้แม้แต่น้อย

Esoteric N-01 เลือกใช้ VCXO (Voltage-Controlled Crystal Oscillator) คล็อกความเที่ยงตรงสูง เพื่ออ้างอิงการทำงานของภาคดิจิทัลทั้งหมด ซึ่งทาง Esoteric ได้ใช้อุปกรณ์กำเนิดความถี่ขนาดใหญ่ (Crystal) มาทำการปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ค่าความเที่ยงตรงระดับสูงสุดที่ + 0.5 ppm และมีค่าสัญญาณรบกวนทางเฟส (Phase Noise) ต่ำมากเป็นพิเศษ

สำหรับท่านที่ต้องการอัพเกรดคุณภาพขึ้นไปอีก N-01 ก็มีฟังก์ชั่น Clock Sync เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับ Master Clock ภายนอกของ Esoteric เองผ่านช่อง BNC อาทิ G-02X หรือ G-01X นอกจากนี้สิ่งที่พิเศษสุดคือ N-01 ออกแบบอัลกอริธึ่มสำหรับแปลงสัญญาณดิจิทัลในฟอร์แม็ตต่าง ๆ ให้มีความละเอียดสูงขึ้น โดยสามารถปรับเลือกค่าได้อย่างละเอียดตั้งแต่ 2Fs, 4Fs, 8Fs, และ 16Fs (เท่ากับ 768kHz) รวมทั้งสามารถแปลงสัญญาณเป็น DSD ที่เลือกความละเอียดสูงสุดได้ถึง 22.5MHZ ซึ่งถือว่าเป็นอัตราแซมปลิ้งเรตสูงสุดแล้วเท่าที่มีในท้องตลาดขณะนี้

บอร์ดวงจรแต่ละส่วนจะถูกแยกอิสระจากกัน

ข้อดีของ N-01 คือเลือกใช้การเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คผ่านทางช่อง Ethernet คุณภาพสูง (1000BASE-T) เพียงอย่างเดียว ไม่มีวงจรรับส่งสัญญาณไว-ไฟในตัวเครื่อง เพื่อขจัดปัญหาสัญญาณรบกวนในระบบให้เหลือน้อยที่สุด โครงสร้างตัวถังเครื่องนั้นหายห่วง เน้นความแข็งแกร่งเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนมากเป็นพิเศษ

Esoteric เลือกใช้เป็นโครงโลหะและอลูมิเนียมหนาซ้อนกันสองชั้น ภายในจะแบ่งส่วนวงจรออกเป็นสองชั้นด้านบน-ล่างในลักษณะหันหลังประกบกันมีแผ่นตัวถังเครื่องกั้นกลาง โดยส่วนล่าง (ใต้เครื่อง) จะเป็นส่วนภาคจ่ายไฟพร้อมหม้อแปลงเทอรอยด์สี่ลูก ในขณะที่ส่วนบนเป็นส่วนของแผงวงจรต่าง ๆ นอกจากจะช่วยลดการรบกวนกันระหว่างภาคจ่ายไฟกับวงจรแล้ว ยังทำให้ลดระยะการเชื่อมต่อสายไฟให้สั้นมากที่สุด แท่นเครื่องทำจากโลหะหนา 5 มม. ติดตั้งขา Pinpoint Feet ที่ออกแบบมาเพื่อขจัดแรงสั่นสะเทือนทางกลได้อย่างมีประสิทธิภาพจำนวนสี่จุด

ช่องเชื่อมต่อด้านหลังครบครัน

การเซ็ตอัพระบบ

ในครั้งนี้เป็นการทดสอบสัญจรที่โชว์รูมของบริษัท Inventive AV แถวบางรัก อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งถือว่ามีห้องสำหรับการฟังทดสอบเสียงที่ดีมากห้องหนึ่ง ซิสเต็มที่ทางร้านจัดเตรียมไว้คร่าว ๆ ได้แก่ ฟร้อนต์เอ็นด์ Esoteric N-01 เชื่อมต่อกับเร้าท์เตอร์ผ่านช่อง Ethernet ชุดปรีแอมป์-เพาเวอร์แอมป์ Jeff Rowland รุ่น Corus และ Model 725 Series ขับด้วยลำโพง Canton Reference 1 K ส่วนของสายสัญญาณเชื่อมต่อมีทั้ง Kimber Select 1136 จากต้นทางมายังปรีแอมป์ สาย Tara Labs RSC Air ระหว่างปรี-เพาเวอร์ สายลำโพง Tara Labs The One และสายไฟเอซีเป็นของ Acrolink นอกจากนี้ยังอัพเกรดด้วยการเพิ่ม Master Clock รุ่น G-02 เข้าไปในระบบอีกด้วย

ผู้เขียนมีเวลาทดสอบราวสองชั่วโมง ดังนั้นจึงเลือกที่จะไม่ไปปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมอีก เนื่องจากหากจะทดสอบฟังก์ชั่นอันมากมายในตัว N-01 แบบละเอียดครบถ้วนจริง ๆ ในเวลาจำกัดเพียงเท่านี้คงเป็นไปได้ยาก และเท่าที่ก็ฟังถือว่าเป็นซิสเต็มมีความสมบรูณ์ลงตัวในระบบค่อนข้างสูงอยู่แล้ว

โดยการทดสอบครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การฟังสตรีมมิ่งผ่าน TIDAL เป็นหลัก เนื่องจากทาง Esoteric เองตั้งใจออกแบบ N-01 มาเพื่อเน้นการฟังสตรีมมิ่งเซอร์วิสทั้งหลายด้วยคุณภาพสูงสุดด้วยเช่นกัน แถมยังรองรับการถอดรหัส MQA มาให้เสร็จสรรพ นี่จึงน่าจะเป็นการทดสอบศักยภาพของ N-01 ที่ตรงประเด็นมากที่สุดแล้ว ส่วนกรณีที่ต้องการฟังไฟล์เพลงจากแหล่งเก็บข้อมูลผ่าน N-01 ก็สามารถเลือกใช้ External ฮาร์ดดิส, USB ไดร์ฟเชื่อมต่อเข้าที่ช่อง USB อินพุต หรือเชื่อมต่อ NAS ผ่านเน็ตเวิร์คผ่านเน็ตเวิร์คได้ตามปกติ

หน้าอินเตอร์เฟสของแอพ Esoteric Sound Stream

        ก่อนเริ่มการใช้งานจำเป็นต้องโหลดแอพที่ชื่อ “Esoteric Sound Stream” ซึ่งรองรับทั้งฝั่ง iOS และแอนดรอยด์ มาติดตั้งบนมือถือให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นทำการเชื่อมต่อสัญญาณไว-ไฟเข้ากับเน็ตเวิร์คเดียวกันกับที่ N-01 เชื่อมต่ออยู่ เพื่อให้แอพมองเห็นอุปกรณ์และสามารถใช้สั่งงาน N-01 ผ่านมือถือได้ ใช้เวลาแค่ชั่วอึดใจเป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นทดลองปรับระดับการอัพแซมปลิ้งค่าต่าง ๆ เปรียบเทียบกับการฟังที่ค่าเนทีฟของไฟล์ ปรากฎว่าการเลือกแปลงสัญญาณเป็น DSD และเลือกค่าอัพแซมปลิ้งไปที่ระดับสูงสุดคือ DSD 22.5 MHZ นั้นให้คุณภาพเสียงโดยเฉลี่ยออกมาดีมากที่สุดสำหรับการฟังบน TIDAL ซึ่งต่างกับการเลือกโหมดไปที่ “No Upsampling” อย่างชัดเจน

ในประเด็นของการทำอัพแซมปลิ้งนี้ N-01 ทำได้อย่างเหนือชั้นเมื่อเทียบกับการแปลงสัญญาณและอัพแซมปลิ้งด้วยซอฟท์แวร์บนคอมพิวเตอร์ทั่วไป จะไม่รู้สึกว่ามีเงาเสียงฟุ้ง ๆ คอยเกาะกุมอยู่รอบตัวเสียงเลย เนื้อเสียงเคลียร์สะอาดและอิ่มแน่นชัดเจน เวทีเสียงถ่างขยายออกไปรอบทิศและให้ความรู้สึกของไดนามิกทรานเชียนต์ที่ใกล้เคียงกับการฟังมาสเตอร์ DSD จริง ๆ เป็นอย่างมาก

ผลการลองฟัง

Esoteric N-01 ทำให้การฟังเพลงบนสตรีมมิ่งเซอร์วิสอย่าง TIDAL เสียงดีจนน่าประหลาดใจ (เมื่อใช้ร่วมกับฟังก์ชั่นอัพแซมปลิ้ง DSD)  อิมเมจตัวเสียงมีทรวดทรงกลมกลึงเป็นตัวตน ฟังสบายผ่อนคลาย แต่มีน้ำหนักเสียงการย้ำเน้นที่เด็ดขาด ให้ช่องว่างช่องไฟเป็นอิสระและมีพื้นหลังที่เงียบสงัดเอามาก ๆ ไม่ต่างไปจากการเล่นผ่านไฟล์เพลงบนฮาร์ดิสโดยตรง เหนือชั้นกว่าการฟังบนเน็ตเวิร์คเพลเยอร์ทั่ว ๆ ไปแบบไม่ต้องทำเอบีเทสให้เสียเวลา

อานุภาพของวงจรอัพแซมปลิ้งในตัว N-01 ทำให้คุณภาพเสียงจากการฟัง TIDAL ยกระดับขึ้นมาอย่าน่าตื่นตาตื่นใจ จนไม่สามารถกลับไปฟังแบบเดิม ๆ ได้เลย รู้สึกว่าสากเสี้ยนแบบดิจิทัลถูกขัดเกลาจนให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการฟังจากอัลบั้มแผ่นไวนิลบนเทิร์นเทเบิลชั้นดีมากกว่า โดยเฉพาะย่านเสียงกลางมีความโดดเด่นน่าฟังมากเป็นพิเศษ ทั้งหวานใสละเมียดละไม มีบรรยากาศห้อมล้อมตัวเสียงที่อบอวลเข้มข้น ไม่มีคำว่าบอบบบางหรือแห้งแล้งออกมาให้สัมผัสแม้แต่น้อย Ella Fitzgerald อัลบั้ม Mack The Knife – Ella In Berlin [1960]

         อัลบั้ม Takin’ Off ของเฮอร์บี แฮนด์ค็อก ที่บันทึกมาแบบอัดสดในช่วงปี 1962 ดูจะเปิดเผยความพิเศษของการบันทึกเสียงออกมาให้รับรู้ได้อย่างชัดเจน อย่างแทร็ค Watermelon Man ที่คุ้นหู ผู้เขียนชอบที่จะฟังแทร็คเวอร์ชั่นออริจินอลมากที่สุด เพราะเคยฟังเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์แล้วมีความรู้สึกว่าเนื้อเสียงบางลงและถูกฟอกจนสูญเสียบรรยากาศมากเกิน จนรู้สึกว่าอารมณ์ร่วมกับบทเพลงนั้นพร่องไปอย่างน่าเสียดาย แต่เมื่อฟังแทร็คออริจินอลกับ N-01 แล้วกลับทำให้บรรยากาศเหล่านั้นมีความสดใหม่และมีชีวิตชีวามากขึ้น เสียงเครื่องเป่าทองเหลืองมีพลังและกัดหูนิด ๆ เสียงเคาะแฉสว่างเป็นประกายละเอียดเป็นเส้นฝอยอย่างชัดเจน ในขณะที่เสียงเปียโนที่เล่นคุมจังหวะมีหัวเสียงที่นุ่มนวล มีน้ำหนักและการย้ำเน้นที่ดี ให้จังหวะของการเล่นช้า-เร็ว หนัก-เบาของเครื่องดนตรีสอดรับกันอย่างกลมกลืน รับรู้ถึงลีลาและชั้นเชิงการเล่นของนักดนตรีผ่านเสียงได้เป็นอย่างดี แสดงถึงความสามารถในการถ่ายทอดไดนามิกและทิมเบอร์ของเครื่องดนตรีได้อย่างยอดเยี่ยม

     ฟังกับเพลงยุคใหม่อย่าง Talk To Me ของนักร้องสาว คานเดซ สปริงส์ ในอัลบั้ม Soul Eyes ก็ถ่ายทอดบรรยากาศการบันทึกเสียงยุคใหม่ที่ให้ความเคลียร์ใสชัดเจนของชิ้นดนตรีออกมาได้อย่างน่าฟัง เสียงร้องของ คานเดซ สปริงส์ มีความอบอุ่นเข้มข้นเป็นตัวตนชัดเจนมาก น้ำเสียงนุ่มนวลไม่มีสากเสี้ยนหรือขึ้นขอบคมแข็ง นี่แสดงให้เห็นความสามารถของ N-01 ในการดึงเอาบรรยากาศในการบันทึกเสียงออกมาได้ดี ทำให้เรารับรู้ความแตกต่างระหว่างในแต่ละยุคสมัยได้อย่างชัดเจน ซึ่ง N-01 ก็เลือกที่จะนำเสนอข้อดีทั้งหมดออกมาอย่างไม่มีการปิดบังอำพราง และถ่ายทอดความเป็นดนตรีออกมาอย่างถึงที่สุดเท่าที่อัลบั้มนั้นจะให้ได้

ลองเปลี่ยนมาฟังอัลบั้มนักร้องชายอย่าง เกร็กกอรี่ พอร์เตอร์ ในอัลบั้ม Liquid Spirit ดูบ้าง เสียงกระตุกสายเบสในแทร็ค Musical Genocide ฟังสนุกจริง ๆ หนักแน่นคมชัด ได้ยินเสียงดับเบิ้ลเบสดีดเป็นเส้น ๆ สั่นไหวลอยอยู่ในอากาศเบื้องหน้าจนเหมือนจะเห็นขนาดและรูปร่างกันเลย ปกติที่เคยฟัง TIDAL จะไม่ได้ยินเสียงเบสที่มีไดนามิกรุนแรงและฉับพลันขนาดนี้ จังหวะที่เสียงหวดกลองดังขึ้นให้ความสดเหมือนจริงมาก ในขณะที่เพลงท่วงทำนองเนิบช้า ก็ให้ความต่อเนื่องลื่นไหลไต่ระดับความดัง-เบาของเสียงได้อย่างละเอียดยิบเช่นกัน แสดงถึงไดนามิกคอนทราสที่ดี พิสูจน์ให้เห็นว่าประสิทธิภาพการจ่ายไฟของ N-01 นั้นรวดเร็วฉับไวไม่อั้น รวมทั้งภาคอนาล็อคเอาท์พุตที่ไม่เกิดการสูญเสียไดนามิกและรายละเอียดใด ๆ อย่างที่อ้างไว้จริง ๆ

       มีข้อสังเกตเล็ก ๆ ตอนลองฟังกับบางอัลบั้มของ จิมมี่ เฮนดริกซ์ แทร็ค Voodoo Chile เมื่อปรับไว้ที่โหมด DSD 22.5 MHZ กลับให้ความรู้สึกว่าน้ำเสียงฟังดู “สุภาพ” ไปเล็กน้อย แม้รายละเอียดจะออกมาดีก็ตาม พอลองเทียบกับการปรับโหมดไปที่ “No Upsampling” เพื่อฟังแบบค่าเนทีฟของไฟล์ แม้เวทีเสียงจะดูหุบเข้ามานิดหน่อยแต่ฟังแล้วได้ความดิบสดเข้าถึงอารมณ์เพลงได้มากกว่า

กับเพลงอย่าง Bad To The Bone ของ จอร์จ โธโรกู๊ด (ซาวด์แทร็คภาพยนตร์ Terminator 2) การใช้อัพแซมปลิ้งที่ค่า 2Fs (เท่ากับ 88.2kHz) ให้ความเป็นอนาล็อคและฟังได้อารมณ์มากที่สุด ยิ่งฟังเสียงตบสลับดีดกีตาร์อคูสติกส์ กับเสียงร้องของวงเอ็กซ์ตรีมในเพลง More Than Words แล้วจะทึ่งกับมวลเสียงที่และความเข้มข้นของบรรยากาศก้องสะท้อนที่อยู่ในแทร็ค จนเหมือนเรานั่งฟังอยู่ในสตูดิโอ ตรงนี้อยากบอกว่าท่านไม่จำเป็นต้องเลือกปรับโหมดแซมปลิ้งไปที่ค่าสูงสุดตลอดเวลา กับบางเพลงบางแทร็คที่มีการบันทึกมาสเตอร์มาแตกต่างกัน การใช้ค่าแซมปลิ้งเรตต่ำ ๆ หรือเลือก “No Upsampling” ก็อาจให้ความน่าฟังหรือตรงกับรสนิยมของท่านได้มากกว่าเช่นกัน

        ไฮไลท์ของการฟัง TIDAL กับ N-01 อยู่ที่การฟังฟอร์แมต MQA ต้องบอกว่านี่คือ หนึ่งในเครื่องเล่นที่สามารถเปิดเผยศักยภาพของ MQA ออกมาได้มากที่สุดรุ่นหนึ่งในท้องตลาด สารภาพตามตรงว่าที่ผ่านมาผู้เขียนไม่ค่อยตื่นเต้นกับฟอร์แมตนี้มากนัก แต่การได้ฟังผ่าน Esoteric N-01 ถือเป็นประสพการณ์ที่น่าสนใจ อัลบั้ม Connatus ของ Joep Beving นักเปียโนชาวดัตช์ ซึ่งมีเวอร์ชั่นที่บันทึกเสียงและเข้ารหัสแบบ MQA มาด้วย เมื่อเล่นแทร็คนี้ N-01 จะสวิตช์โหมดมาอยู่ที่ MQA โดยอัตโนมัติ (แสดงผลบนหน้าจอเครื่อง) อัลบั้มนี้เป็นแนวเพลงบรรเลงที่ผสมผสานความเป็นนิวเอจ มีการใช้เสียงซาวด์เอฟเฟ็คต่าง ๆ มาช่วยสร้างจินตนาการและอารมณ์ให้กับการฟัง ทันทีที่แทร็คแรก Prelude ดังขึ้น ซาวด์เอ็ฟเฟคต่าง ๆ ทั้งเสียงเอี้ยดอ้าดของแผ่นไม้หรือบานประตู และเสียงคลอต่ำลึกของซินธิไซเซอร์ที่แผ่คลื่นความถี่ต่ำมาปะทะช่วงในท้ายของเพลง ประกอบกับเสียงเคาะเปียโนที่ลอยออกมาเป็นเม็ด ๆ มีทั้งน้ำหนักแรงปะทะและความกังวานอยู่ตรงหน้า ใสกระจ่าง โปร่งทะลุและมีความสมจริงมาก มีรายละเอียดสูงเสมือนกับการได้ชมภาพบนตร์บนจอยักษ์ IMAX ในโรงหนังชั้นดี ที่เราถูกดึงเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์เบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว แต่นี่คือการฟังผ่านเสียงดนตรีล้วน ๆ เวทีเสียงแผ่ขยายออกไปรอบทิศทางจนเต็มห้องฟังขนาดราว 5 x 7 เมตรและโอบล้อมมาถึงด้านข้างเกือบถึงตำแหน่งนั่งฟัง

N-01 สำแดงมิติเวทีเสียงผ่านการฟัง TIDAL ออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ให้รูปวงที่มีความโอ่อ่าและแยกเลเยอร์ชั้นของชิ้นดนตรีได้ชัดเจน ไม่เว้นแม้แต่ตำแหน่งชิ้นดนตรีที่อยู่ไกลออกไป อย่างการฟังซิมโฟนีออเครสตร้า Piano Concerto No.2, Op.18 ของ รัคมานีนอฟ ก็เก็บเอารายละเอียดแผ่วเบาและแสดงตำแหน่งโฟกัสของชิ้นดนตรีแถวหลังสุดพร้อมทั้งบรรยากาศรายล้อมออกมาได้คมชัดไม่พร่าเบลอ

สามารถเล่นไฟล์เพลงผ่าน USB ไดร์ฟด้านหน้าได้

สรุป

Esoteric N-01 เป็นเน็ตเวิร์คเพลเยอร์ที่สามารถยกระดับคุณภาพของการฟังสตรีมมิ่งเซอร์วิสแบบ Lossless ให้เทียบเท่าการฟังกับฟร้อนต์เอ็นด์มาตรฐานอื่น ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยฟังชั่นอัพสเกลประสิทธิภาพสูง ช่วยเสริมคุณภาพเสียงให้กับอัลบั้มต่าง ๆ ให้เหมือนกับได้ฟังการบันทึกที่สดใหม่ โดยเฉพาะการเปิดเผยบรรกาศหรือแอมเบียนซ์ที่ซุกซ่อนอยู่ออกมาได้หมดจด เชื่อว่าหลายคนที่ยังกังขาในเรื่องของคุณภาพเสียงจากการฟังสตรีมมิ่งมิวสิคอยู่นั้น หากได้ลองฟัง N-01 สักครั้ง ท่านจะเปลี่ยนมุมมองของการฟังเพลงผ่านเน็ตเวิร์คไปอย่างแน่นอน นับว่า Esoteric ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ของการเล่นสรีมมิ่งมิวสิคในอนาคตขึ้นมาแล้ว หรืออย่างน้อยก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า เราสามารถเข้าถึงจิตวิญญาณความเป็นดนตรีผ่านเน็ตเวิร์คเพลเยอร์ได้มากเพียงใดแล้วในยุคนี้

รายละเอียดเชิงเทคนิค

Digital Audio Inputs XLR Connectors 1
Input Level 5.0Vp-p
Input Impedance 110Ω
Input Signal Formats Linear PCM (AES/EBU) 32 – 192kHz, 
16bit, 24bit
DSD 2.8MHz (DoP)
RCA Connectors 1
Input Level 0.5Vp-p
Input Impedance 75Ω
Input Signal Formats Linear PCM (IEC60958) 32 – 192kHz, 
16bit, 24bit
DSD 2.8MHz (DoP)
Optical Digital 
Connector
1
Input Level -24.0 to -14.5dBm peak
Input Signal Formats Linear PCM (IEC60958) 32 – 192kHz, 
16bit, 24bit
DSD 2.8MHz (DoP)
USB Port 1 (Type B)
Input Signal Formats Linear PCM 44.1 – 768kHz, 
16bit, 24bit, 32bit
DSD 2.8MHz, 5.6MHz, 11.2MHz, 22.5MHz
Ethernet Port 1 (1000BASE-T)
Input Signal Formats Linear PCM 44.1 – 384kHz (Stereo),
16bit, 24bit, 32bit (IEC 60958) 
*384kHz/354kHz signals will be downconverted to 192kHz/176.4kHz when played back.
*32bit signals will be downconverted to 24bit when played back.
*32bit audio files only support integer formats.
DSD 2.8MHz, 5.6MHz (Stereo)
Supported File 
Formats
DSD Lossless: DSF, DSDIFF (DFF), DoP
PCM Lossless: FLAC, Apple Lossless (ALAC), WAV, AIFF, MQA
Compressed Audio: MP3, AAC (m4a container)
USB drive Ports 2 (front/rear)
Supported File System FAT32, NTFS; Single partition; USB 2.0 or faster recommended
maximum Power Supply 0.5A
Input Signal Formats Linear PCM 44.1 – 384kHz (Stereo),
16bit, 24bit, 32bit (IEC 60958) 
*384kHz/354kHz signals will be downconverted to 192kHz/176.4kHz when played back.
*32bit signals will be downconverted to 24bit when played back.
*32bit audio files only support integer formats.
DSD 2.8MHz, 5.6MHz (Stereo)
Supported File 
Formats
PCM Lossless: FLAC, Apple Lossless (ALAC), WAV, AIFF, MQA
DSD Lossless: DSF, DSDIFF (DFF), DoP
Compressed Audio: MP3, AAC (m4a container)
Clock Sync Input BNC Connectors 1
Frequencies that can be input (±10ppm) 44.1kHz, 48kHz, 88.2kHz, 96kHz, 176.4kHz, 192kHz, 10MHz, 22.5792MHz, 24.576MHz
Input Impedance 50Ω
Input Level Rectangle wave: equivalent to TTL levelsSine wave: 0.5 to 1.0 Vrms (50 – 75Ω)
Analog Audio Outputs XLR Connectors 1pair (L/R)
Output Impedance 20Ω
Maximum Output Level 
(at 1kHz, 10kΩ load)
5.0Vrms
RCA Connectors 1pair (L/R)
Output Impedance 23.5Ω
Maximum Output Level 
(at 1kHz, 10kΩ load)
2.5Vrms
Frequency Response (192kHz PCM) 5Hz – 70kHz
(-3dB)
S/N Ratio 120dB
Distortion 0.0007% (1kHz)
General Power Supply AC 220-240V, 50/60Hz
AC 120V, 60Hz
AC 220V, 60Hz
Power Consumption 33W
External Dimensions 
(W x H x D, including protrusions)
445 x 162 x 438mm
(17 5/8″ x 6 1/2″ x 17 1/4″)
Weight 25.7kg (56 3/4 lb)
Included Accessories Power cord x 1
Felt pads x 4
Owner’s manual x 1
Warranty card x 1

ขอขอบคุณ บริษัท อินเวนทีฟ เอวี จำกัด โทร. 0-2238-4078-9 ที่เอื้อเฟื้อสถานที่สำหรับการทดสอบในครั้งนี้