Electrocompaniet: ECI 80D + Neat Acoustics: IOTA ALPHA

0

แบรนด์เครื่องเสียงบ้านคุณภาพระดับ ไฮ-เอ็นด์ ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำจากประเทศนอร์เวย์ หรือ Nordic (นอร์ดิก) – ภาษาถิ่น สื่อถึงรากเหง้าแบบแท้ๆ ว่าสินค้าของ ELECTROCOMPANIET นั้นมีฐานการออกแบบ การผลิต ทำทุกอย่างจนเสร็จสรรพในแถบถิ่นสแกนดิเนเวีย โดยมีจุดขายอยู่ที่ความละเมียดละไมในการใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ให้ทุกผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกมาสู่สายตาของผู้บริโภค มีความใกล้เคียงกับคำว่า สมบูรณ์แบบมากที่สุด

จุดสตาร์ทของแบรนด์ ELECTROCOMPANIET เริ่มต้นจากความต้องการง่ายๆ ของคนสองคนที่เห็นตรงกัน เรื่องการหวังจะทำแอมปลิฟายเออร์ ในหมวดทรานซิสเตอร์ที่มีเสียงดีกว่าแอมป์ตัวอื่นๆ ในยุคเดียวกัน ทำให้ทาง Per Abrahamsen และ Svein Erik Børja จัดตั้งบริษัทขึ้นมาในปี 1973 แล้วใช้งานวิจัยเรื่องวงจรของ Dr.Matti Otala จากมหาวิทยาลัย Tampere University of Technology เป็นต้นแบบในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรก ซึ่งเรียกได้ว่า ทั้งคู่ต้องลองผิดลองถูกกันหลายต่อหลายครั้ง จนกว่าจะเจอสิ่งที่ลงตัวที่สุด …แล้วออกมาเป็น “The 2 Channel Audio Power Amplifier” ซึ่งสามารถเรียกอีกชื่อได้ว่า “The Otala Amplifier” เป็นการอุทิศให้กับชิ้นงานที่เป็นจุดตั้งต้น

“The 2 Channel Audio Power Amplifier” มีพื้นฐานแนวคิดที่ต้องการออกแบบให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่าเดิม มีกำลังขับที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 25 วัตต์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความต้องการในคุณลักษณ์ทางเสียงในแบบที่ทั้ง Per Abrahamsen และ Svein Erik Børja วางบรรทัดฐานไว้ นั่นคือ ทรานซิสเตอร์ที่เป็นหัวใจในการทำงาน ต้องออกแบบให้ไร้ซึ่งความผิดเพี้ยน (TIM-free transistor design) ตามแนวทางของ Dr. Matti Otala เน้นให้ได้มาซึ่งเสียงที่เที่ยงตรง มีความเป็นธรรมชาติ ทว่ามีความดุดันซ่อนอยู่…

กระทั่งในปี 1976 ทางนิตยสารเครื่องเสียงไฮ-เอ็นด์ชื่อดังอย่าง The Audio Critic ได้เขียนรีวิวเกี่ยวกับเจ้าแอมป์ตัวนี้ แล้วได้ระบุไว้ว่า “Audio freaks – eat your hearts out. This is the world’s best-sounding amplifier.” ที่สื่อความหมายเป็นนัยว่า คุณภาพของสินค้าชิ้นนี้มันเกินเกณฑ์มาตรฐานในยุคนั้นไปไกล ผิดแปลกแหวกแนวกับชาวบ้าน… ซึ่งวลีว่า “eat your hearts out.” นั้น เป็นแสลงทางภาษาอังกฤษเชิงเย้ยหยันว่า “ช่างน่าอิจฉาเสียเหลือเกิน ที่คิดค้นเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้สำเร็จ” …จนส่งผลให้ “The 2 Channel Audio Power Amplifier” ได้รับความนิยมอย่างสูงมาก

ในเวลาต่อมา ELECTROCOMPANIET ก็เริ่มขยายตลาดออกไปสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงกลุ่มอื่นๆ รวมไปถึง เครื่องเล่นซีดี และ เครื่องเล่นแผ่นเสียง จนวันหนึ่งในปี 1991 Bruce Swedien โปรดิวเซอร์ของศิลปินระดับโลกอย่าง Michael Jackson ได้รับการติดต่อจากโปรดิวเซอร์เพลงมือทองของประเทศนอร์เวย์อย่าง Nils Bjarne Kvam บอกเล่าถึง ความดีงามอันประทับใจที่ได้มีต่อเครื่องแอมปลิฟายเออร์ของ ELECTROCOMPANIET และเพื่อการพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ จึงมีการส่งแอมปลิฟายเออร์ต่อมา ELECTROCOMPANIET ไปให้ Bruce Swedien ทดลองฟังดู (เป็นพัสดุชิ้นใหญ่มาก น้ำหนักเกินปกติ โดยจัดส่งไปถึงสตูดิโอ ลาร์ราบี ในเมืองลอส แองเจลีส แล้วถูกถ่ายภาพเก็บไว้ได้)

ปรากฏว่า Bruce Swedien มีความประทับใจเป็นอย่างมาก จนเกือบจะรื้ออัลบั้ม Dangerous ของ Michael Jackson ออกมาทำการอัดใหม่หมดตั้งแต่เริ่มต้น …เพียงแต่ว่าน่าเสียดายที่ทุกอย่างมันเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว หากไปตั้งต้นใหม่จะเสียทั้งเวลาและเงินทุนมากเกินไป แต่ทว่าการที่ Bruce Swedien กล้าพูดออกมาจากปาก ว่า “แอมป์ตัวนี้เปลี่ยนชีวิตของผม” คงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อย่างแน่นอน

ซึ่งในท้ายที่สุด Bruce Swedien ก็ได้ใช้แอมปลิฟายเออร์ของ ELECTROCOMPANIET ในอัลบั้มลำดับถัดไป โดยใช้งานเป็นครั้งแรกกับ Sergio Mendez และต่อมาเมื่อ Bruce Swedien เดินเข้าไปในสตูดิโอบันทึกเสียงกับ Michael Jackson ในเดือนมกราคม 1995 เขาก็เริ่มใช้มันจริงๆ กับสองอัลบั้มถัดมา นั่นคือ History และ Invincible โดยได้รับการมาสเตอร์ด้วยแอมปลิฟายเออร์ของ ELECTROCOMPANIET

…เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นลง Bruce Swedien ต้องการที่จะขอบคุณเพื่อนๆ ของเขาจากนอร์เวย์ ในการแนะนำให้รู้จักกับสินค้าจากแบรนด์ ELECTROCOMPANIET จึงพยายามจะใส่คำอุทิศลงไปในปกอัลบั้ม และทั้งสองอัลบั้มก็มีข้อความ “Special thanks to Electrocompaniet” พร้อมโลโก้ปรากฏบนหน้าปก ซึ่งตัวบอร์ดบริหารของค่ายเพลงนั้นไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ เหมือนมองว่า อยู่ดีๆ ELECTROCOMPANIET ก็ได้รับเครดิตบนพื้นที่ของเขาโดยไม่ได้มีการแลกเปลี่ยนใดๆ แต่เรื่องราวมันก็จบลงอย่างง่ายดาย ไม่น่าเชื่อ เมื่อตัวศิลปินอย่าง Michael Jackson ได้เอ่ยปากออกมาว่า “มันควรจะเป็นไปแบบนั้นน่ะถูกแล้ว” …นั่นจึงเป็นการช่วยสนับสนุนเสียงของโปรดิวเซอร์ของตัวเองให้หนักแน่นขึ้นไปอีกระดับ เพราะถ้าไม่มีเครื่องเสียงแบรนด์นี้ พวกเขาก็อาจจะไม่สามารถทำชิ้นงานออกมาได้เป็นที่น่าพอใจอย่างที่เห็น อีกทั้งยังน่าจะมีความหมายเป็นนัยๆ ได้ว่า  Michael Jackson นั้นก็คงถูกมนต์สะกดของเสียงสไตล์ ELECTROCOMPANIET เล่นงานเข้าอย่างจังแล้วเช่นกัน

ในปี 2004  บริษัทล้มละลาย แต่ในปี 2007 บริษัทก็ถูกซื้อโดยบริษัท Westcontrol ของนอร์เวย์ การผลิตทั้งหมดถูกย้ายไปที่ Tau ใกล้ Stavanger ปัจจุบัน ELECTROCOMPANIET มีตัวแทนอยู่ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ในเดือนมิถุนายน 2018, ELECTROCOMPANIET ถูกยื่นฟ้องล้มละลายเป็นครั้งที่สอง แล้วบริษัทก็ถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มนักลงทุนที่กลับมาดำเนินกิจการของบริษัท…

ELECTROCOMPANIET เป็นแบรนด์เครื่องเสียงจากประเทศนอร์เวย์ ที่มีรูปลักษณ์การดีไซน์ที่เน้นไปที่ความเรียบหรู เหมือนจะน้อยแต่ว่ามาก มองอย่างไรก็ไม่ตกยุค เหมือนดั่งผลิตภัณฑ์สายคลาสสิก ปัจจุบันELECTROCOMPANIET แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 กลุ่มหลัก :- EC Living Line (WIRELESS LIFESTYLE AUDIO SERIES) กับ Classic Line (HIGH-END PRODUCTS COLLECTION) แล้วจึงแยกย่อยออกไปสู่ประเภทผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้ง STREAMERS AND
SOURCES (REFERENCE CD PLAYER & HIGH END DAC AND MUSIC STREAMER); PREAMPLIFIERS; POWER AMPLIFIERS และ INTEGRATED AMPLIFIERS

ทั้งนี้ เมื่อเดือน ตุลาคม ปี 2022 ที่ผ่านมา ELECTROCOMPANIET ได้ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับเรือธงรุ่นล่าสุดในกลุ่ม POWER AMPLIFIERS ด้วยรุ่น AW 800 M ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีของ ELECTROCOMPANIET และครบรอบ 25 ปีนับตั้งแต่ AW600 NEMO ในตำนานได้เปิดเป็นตัวครั้งแรก

 “AW 800 M” เป็นแอมปลิฟายเออร์ โมโนบล็อก กำลังขับ 800 วัตต์ที่ 8 โอห์ม ซึ่งสามารถทำงานในโหมดสเตอริโอ และโหมดไบแอมป์ได้ด้วยการกดสวิตช์ที่ด้านหลังเครื่อง

ELECTROCOMPANIET ระบุว่า ประสิทธิภาพเสียงอันน่าทึ่งของ ELECTROCOMPANIET  ได้รับการปรับปรุงอย่างมากในแอมปลิฟายเออร์รุ่นใหม่นี้ “AW 800 M” ทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ ในขณะเดียวกันก็รักษาปรัชญาการออกแบบและเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

ECI 80D

ECI 80D เป็นอินทิเกรตแอมปลิฟายเออร์รุ่นเล็ก น้องใหม่ล่าสุดของ Electrocompaniet  “ECI 80D” ให้กำลังขับ 2 x 80 วัตต์ที่ 8 โอห์ม ด้วยภาคขยายเสียงคลาส A/B ที่ Electrocompaniet พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ ทั้งยังได้รับการติดตั้งภาคขยายสัญญาณหัวเข็มแบบ MM ตรงตามมาตรฐาน RIAA ในตัว ด้วยค่าเบี่ยงเบนที่ +/-0.1dB (25-20kHz) พร้อมสำหรับการรับฟังเครื่องเล่นแผ่นเสียงของคุณ ทั้งยังรองรับกับ 2-way Bluetooth HD สำหรับการสตรีมจาก iOS, Android, Mac หรือ PC กับทั้งยังสตรีม HD ไปยังหูฟังไฮ-เอ็นด์ของคุณ และแน่นอนว่า  “ECI 80D” มีภาค DAC ผนวกในตัว ที่เชื่อมต่อได้กับช่องเสียบ Toslink – 3 อินพุต และ COAX – 2 อินพุต อีกทั้งสำหรับใครที่อาจจะต้องการขยับขยายการใช้งาน เผื่อไว้สำหรับในอนาคต  “ECI 80D” ก็มีช่องจ่ายสัญญาณขาออกในแบบ preamp output เตรียมไว้สำหรับการเสียบต่อเพาแอมป์ภายนอกได้อย่างสะดวกสบาย

แม้ว่า ภาคถอดรหัสข้อมูลดิจิทัลผ่านการเชื่อมต่อ Toslink และ COAX ของ “ECI 80D” จะมีสมรรถนะรองรับไฟล์ PCM ได้ถึงระดับสูงสุด 24 บิต/192kHz แต่ทว่าการที่ “ECI 80D” ไม่มีอินพุต USB ก็ย่อมหมายความว่า ไม่สามารถเลือกเล่นไฟล์ DSD หรือ PCM ที่มีอัตราการสุ่มตัวอย่างสูงกว่าปกติได้ ในขณะที่ “ECI 80D” มีฟังก์ชั่นสามารถรองรับได้กับอินพุตไร้สายผ่านทาง Bluetooth Input ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า “ECI 80D” ให้สมรรถนะในด้านนี้ได้อย่างดีเยี่ยม พิสูจน์ได้ว่า เสียง Bluetooth ของ ECI 80D นั้น “ไม่ธรรมดา” มีประสิทธิภาพที่น่าประทับใจ

ส่วนในด้านของค่าสเปคฯหลักๆ อย่างช่วงค่าความถี่ตอบสนองนั้น “ECI 80D” สามารถครอบคลุมได้กว้างขวางมากเป็นพิเศษตั้งแต่ 1 – 150 kHz (-3dB) โดยมีค่าความเพี้ยน THD+N เพียงแค่ < 0.002% ทั้งนี้ในส่วนของการรองรับข้อมูลดิจิทัลนั้นจะเป็นดังนี้  Optical input: PCM: 44.1kHz/16bit up to 192kHz/24bit / Coaxial input: PCM: 44.1kHz/16bit up to 192kHz/24bit / Bluetooth support: BT5.0, A2DP, SBC, AAC, aptX-HD โดยบรรจุไว้ภายใต้ขนาดตัวเครื่อง (กว้างxลึกxสูง): 470x262x90 มม. น้ำหนัก 8 กก.

Neat Acoustics

นับเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่ลำโพง Neat Acoustics ได้รับการประดิษฐ์ขึ้นด้วยมือ โดยทีมงานเล็กๆ ที่อุทิศตนซ่อนตัวอยู่ใน Teesdale เมืองชนบททางตอนเหนือของอังกฤษ เพื่อทำการผลิตลำโพงที่ให้เสียงเพลงที่มีความเป็นดนตรีดีมากๆ ลำโพงเหล่านี้ได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางว่า ให้คุณภาพเสียงระดับไฮ-เอ็นด์ โดยไม่คำนึงถึงขนาดหรือราคา

การพัฒนาลำโพง Neat Acoustics นั้นเกี่ยวข้องกับการทดสอบฟังหลายร้อยชั่วโมงติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ห้องฟังแบบ Neat Acoustics คือ จุดเริ่มต้น แม้ว่าการออกแบบใหม่ๆ จะต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองในห้องปฏิบัติการ รวมทั้งระบบทดสอบต่างๆ ที่หลากหลาย ก่อนที่จะตกลงทำการผลิต

การใช้ศิลปะการออกแบบลำโพงที่ไม่ธรรมดาของ Neat Acoustics นั้นเกี่ยวข้องกับกระบวนการฟังเพลงหลายหลากประเภทมากมาย และปล่อยให้เสียงดนตรีนั้นควบคุมการปรับจูน (tuning) และการเปล่งเสียง (voicing) ของลำโพง โดยไม่คำนึงถึงบรรทัดฐานอื่นใด ทั้งนี้ในโลกที่อุปกรณ์ไฮ-ไฟส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับชุดพารามิเตอร์ที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง แนวทางของ Neat Acoustics นั้นแตกต่างอย่างชัดเจน

ลำโพง Neat Acoustics ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้รักเสียงเพลงได้สัมผัสกับทุกอารมณ์และทุกจุดประสงค์ที่บรรจุอยู่ในเสียงเพลงที่บันทึกไว้ และเปิดเผยสาระสำคัญของข้อความทางดนตรีนั้นๆ ออกมาอย่างเต็มที่ นักออกแบบของ Neat Acoustics ทำงานจากมุมมองของผู้ฟัง โดยรับฟังดนตรีหลากหลายประเภท การออกแบบจะค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างโดยกระบวนการซ้ำๆ ปรับแต่งและปรับแต่ง แล้วตัดสินผลลัพธ์บนพื้นฐานทางดนตรีอย่างแท้จริง

การเลือกใช้และการพัฒนาส่วนประกอบทั้งหมดที่ใช้ในลำโพง Neat Acoustics ได้รับการเอาใจใส่เป็นอย่างดี คำนึงถึงตามความเหมาะสม และจะใช้ชิ้นส่วน OEM บางครั้งอยู่ในรูปแบบของการโมดิฟายด์ ทว่าชิ้นส่วนใหญ่จะผลิตขึ้นเอง หรือโดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญที่ผลิตตามข้อกำหนดของ Neat Acoustics

จริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์ Neat Acoustics ครอบคลุมประเภทผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยมี IOTA range ที่เป็นลำโพงขนาดเล็ก กะทัดรัด สามารถตั้งวางบนชั้นวาง ตั้งโต๊ะ บนตัวยึดผนัง หรือบนขาตั้งโดยเฉพาะได้อย่างสะดวก

IOTA range

IOTA range ส่งมอบประสิทธิภาพเสียงที่น่าทึ่งจากตู้ขนาดเล็กที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานใกล้กับผนัง หรือในสถานที่ต่างๆ เช่น ชั้นวางหนังสือ เดสก์ท็อป ฯลฯ ซึ่งดีไซน์ขนาดทั่วไปอาจใหญ่เกินไปสำหรับชั้นวางหนังสือขนาดปกติ

IOTA – ALPHA

ลำโพงของ Neat Acoustics มีชื่อเสียงมายาวนานในด้านการสร้างเสียงกระหึ่มจากตัวตู้ที่กะทัดรัดและดูสวยงาม น่ารัก อย่างไรก็ตาม IOTA ALPHA นับเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการขยายแนวคิดนี้ของ IOTA range ออกไปให้เกินขอบเขตที่คาดไว้ ทั้งนี้ลำโพง IOTA range ดั้งเดิม (original) ประสบความสำเร็จอย่างมาก และผลิตต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2011 โดยที่ IOTA ALPHA ส่งมอบเป้าหมายอย่างสมบูรณ์ ในแบบฉบับของลำโพงตั้งวางพื้นขนาดกะทัดรัดอันน่าทึ่งชะมัด…

IOTA ALPHA

IOTA ALPHA เป็นการรวมแนวความคิดที่ “ต่างไปจากเดิม” อย่างสิ้นเชิงมาใช้ เพื่อให้ได้มาซึ่งลำโพงขนาดเล็กที่มีความยืดหยุ่นอย่างมากในแง่ของการจัดวาง-ใช้งาน โดยสามารถวางบนชั้นวาง ตู้ข้างผนัง โต๊ะทำงาน หรือวางตั้งพื้นได้หลากหลายลักษณะ (นอกจากนี้ยังมีแท่นวางเฉพาะแยกจำหน่าย หากต้องการ) พร้อมส่งมอบความสมบูรณ์และคุณภาพเสียงทางดนตรีที่ (แทบจะ) ไม่ต่างจากลำโพงตั้งวางพื้นขนาดใหญ่กว่า โดยที่ Neat Acoustics:  IOTA ต้นตำรับนั้นเผยโฉมเป็นครั้งแรกในปี 2011 และประสบความสำเร็จอย่างมาก จนได้รับการพัฒนาต่อเนื่อง กระทั่งมาเป็น “IOTA ALPHA” ณ ปัจจุบัน

“IOTA ALPHA” อาจดูเป็นลำโพงแบบ 3-ทาง ด้วยการมีตัวขับเสียง หรือ ไดรเวอร์จำนวน 3 ตัวด้วยกันติดตั้งอยู่ โดยที่ตัวขับเสียงความถี่ต่ำ หรือ วูฟเฟอร์นั้นมีขนาด  4.5 นิ้ว ซึ่งติดตั้งอยู่ด้านใต้ตัวตู้ ในลักษณะที่คว่ำหน้าลง ดังนั้นวูฟเฟอร์นี้จึงทำหน้าที่ “ยิงเสียง” ลงพื้นแบบ down-firing woofer ซึ่งนี่เองที่ทำให้ IOTA ต้องมาพร้อมสไปค์เดือยแหลม (และแป้นรอง) ที่สามารถปรับระดับความสูงได้ทั้งสี่มุม ซึ่งเมื่อใส่สไปค์เดือยแหลม ความสูงลำโพงจะอยู่ที่ 48.5 เซนติเมตร เรียกว่า สูงเพียงหน้าแข้งเราเท่านั้นเอง

แต่แท้จริงแล้ว  Neat Acoustics ระบุว่า ครอสโอเวอร์เป็นแบบ 2-ทางครึ่งอันเรียบง่าย “simple two-and-a-half-way design” ภายใต้ระบบตัวตู้แบบ ท่อเปิด หรือ bass reflex โดยมีพอร์ต หรือ ท่อระบายเบสส์อยู่ด้านหลังตัวตู้ ด้วยอัตราความลาดชันในการตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่ที่ 1st & 2nd order  โดยส่วนประกอบภายในวงจรครอสโอเวอร์นี้เป็นแบบเดินสายเชื่อมโยงระหว่างกัน (hard-wired, point-to-point connections) มิได้เป็นแบบแผงวงจร ทำให้การเดินทางของสัญญาณเป็นไปได้อย่างเต็มที่ ไม่มีจุดใดที่เป็นคอขวดลดทอนคุณภาพสัญญาณ ส่วนประกอบของครอสโอเวอร์เน้นคุณภาพออดิโอไฟล์ระดับพรีเมียม และประกอบด้วยตัวเก็บประจุ polypropylene capacitors รวมถึงตัวขดลวดเหนี่ยวนำแกนอากาศ DCR ต่ำ (low-dcr air-core inductors)

ตัวตู้ส่วนบน ได้รับการออกแบบ “แยกส่วน” จากตัวตู้ส่วนล่างที่เป็นแบบ ท่อเปิด หรือ bass reflex ให้มีลักษณะเป็นระบบตัวตู้ระบบ ปิดสนิท (sealed volume) แล้วติดตั้งตัวขับเสียงย่านความถี่กลาง อย่างที่เรียกกันว่า มิดเรนจ์ ขนาด 3.5 นิ้ว จำนวน 1 ตัว ร่วมกับตัวขับเสียงความถี่สูง หรือ ทวีตเตอร์แบบ EMIT (electromagnetic induction tweeter) Planar Magnetic จำนวน 1 ตัว ไว้บนแผงด้านหน้าตัวตู้

โดยที่แผงด้านหน้าตัวตู้ส่วนบนนี้ ได้รับการปาดเอียงองศาเป็นลักษณะเฉียงทำมุมหงายขึ้น (angled upwards) ประมาณ 45 องศากับผนังตัวตู้ลำโพงส่วนล่าง ด้วยวัตถุประสงค์ของการ “ยิงเสียง” เพื่อการสร้างมุมกระจายเสียงที่แผ่กว้างอย่างมาก ในลักษณะเดียวกับ projector ฉายภาพ ซึ่งด้วย “มุมองศา” ของแผงด้านหน้าตัวตู้นี้เอง ที่ส่งผลให้ “IOTA ALPHA” สามารถสร้างสภาพเวทีเสียงที่แผ่กว้าง พร้อมทั้งการไล่ระดับความลึกได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่ตัวตู้ลำโพงนั้นมีความสูงจากพื้นเพียงแค่หัวเข่า !!

IOTA ALPHA มีลักษณะที่หลอกลวงทางสายตา ด้วยความสูงเพียง 45 ซม. คุณสามารถวาง IOTA ALPHA ไว้ในห้องได้อย่างเรียบง่าย สุขุมลุ่มลึก แต่มอบประสบการณ์ทางดนตรีเต็มรูปแบบอย่างแท้จริงในระดับที่วัดได้กับลำโพงที่ใหญ่กว่า (และแพงกว่า) มาก “IOTA ALPHA” สามารถตอบสนองช่วงความถี่เสียงตั้งแต่ 33Hz – 22kHz ด้วยค่าความไวเสียง 86dB/2.83v ที่ค่าอิมพีแดนซ์ 4 โอห์ม

คุณภาพการรับฟัง

พูดได้เลยว่า Electrocompaniet: ECI 80D + Neat Acoustics:  IOTA ALPHA ทำงานร่วมกันอย่างมีความสอดคล้องต้องกันเป็นพิเศษ เข้าคู่เข้าขากันได้ดีมาก เสียงที่ได้รับฟังมีความกลมกลืนกัน และกลมกล่อมอย่างน่าฟัง เฉพาะอย่างยิ่งช่วงเสียงกลางและเสียงสูงที่ไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ ในการที่คุณจะจมกลืนเข้าสู่ความเป็นดนตรีที่กำลังรับฟัง ยิ่งหากเป็นเพลงร้องด้วยแล้ว ยิ่งฟังยิ่งเพลิดเพลินใจไหลลื่นในห้วงอารมณ์เพลงกันเลยจริงๆ เมื่อจับสังเกตในช่วงย่านเสียงเบส ก็ให้ความถี่เสียงทุ้มที่ลงไปได้ลึกอย่างน่าประหลาดใจ และให้ความสอดคล้องเป็นเนื้อเดียวกันกับช่วงเสียงกลางและเสียงสูงอย่างไร้ตะเข็บรอยต่อ พร้อมด้วยจังหวะจะโคนที่แม่นยำเยี่ยมยอด ฟังแล้วรู้สึกรุกเร้าสนุกสนานในทุกท่วงทำนองของแนวดนตรี นี่จึงแสดงให้เห็นว่า IOTA ALPHA ตัวน้อยมีความสามารถอะไรที่ซ่อนอยู่ในตัว

Electrocompaniet: ECI 80D + Neat Acoustics:  IOTA ALPHA ฟังแล้วน่าประทับใจ ติดไปในทางนุ่มนวลเล็กน้อย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็แฝงความรุกเร้าสนุกสนานเอาไว้ให้ได้รู้สึก เมื่อรับฟังกับท่วงทำนอง-จังหวะเพลงเร็วๆ ด้วยช่วงไดนามิกเสียงที่มีความฉับพลัน ไม่อืดอาด อัดอั้น กับทั้งช่วงเสียงเบสที่ลงไปได้ลึกล้ำอย่างแท้จริง จึงบอกได้เลยว่า IOTA ALPHA เป็นเจ้าเล็กพริกขี้หนูตัวจริง ที่ให้เสียงดังอย่างเกินพอในห้องเล็กๆ จนลืมนึกถึงขนาดของมัน …นี่มิใช่ “ลำโพงของเล่น” ที่คุณหรือใครจะดูถูกมัน …ด้วยความเหนือชั้นที่ซ่อนอยู่ในขนาดตัว-สูงแค่หัวเข่า !! ซึ่งเมื่อยกไปลองฟังในห้องที่ใหญ่ขึ้น (ประมาณ 5×7 เมตร) IOTA ALPHA ก็ยัง “เอาอยู่” อย่างชนิดที่เรียกได้เต็มปากว่า เกินตัวกันจริงๆ

พูดตามตรงครับว่า ด้วยขนาดตัวของ IOTA ALPHA อาจทำให้ใครหลายคน (รวมทั้งผมด้วย) รู้สึกด้อยค่า มองว่าไม่น่าสนใจ แล้วข้ามผ่านมันไป… แต่พอได้ฟังเสียงของมัน รับรองได้ว่า จะต้องทึ่งในคุณภาพเสียงที่ได้ฟัง “IOTA ALPHA” ส่งมอบสมรรถนะอันเกินตัวยิ่งนักที่สามารถก้าวขึ้นไปท้าทายสมรรถนะของลำโพงขนาดใหญ่กว่ามันหลายเท่า …ใครก็ตามที่ได้ฟังจะรู้สึกตกใจในทันใดเมื่อได้รับฟังเสียงของมัน ซึ่งปลดปล่อยออกมาจากรูปลักษณ์เตี้ยๆ เล็กๆ ของ “IOTA ALPHA” มัน ทั้งยังเป็นเสียงที่ฟังดูสนุกสนานอย่างน่าเพลิดเพลินใจเช่นกัน หากคุณมีห้องขนาดเล็กถึงขนาดกลาง และต้องการเสียงเยี่ยงลำโพงขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องมีลำโพงขนาดใหญ่มาตั้งวางให้รู้สึกเกะกะสายตา และยิ่งหากว่า คุณชอบที่จะดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงด้วยแล้วไซร้ ขอแนะนำว่า ต้องห้ามพลาด Neat Acoustics: IOTA ALPHA กันเลยเชียวล่ะ

สำหรับ Electrocompaniet: ECI 80D ที่แม้จะเป็นอินติเกรตแอมป์รุ่นน้องเล็ก แต่สมรรถนะและคุณภาพเสียงที่ส่งมอบออกมานั้น มิใช่กระจิบกระจอกเลยแม้แต่น้อย Electrocompaniet ยังคงสรรค์สร้าง ECI 80D ให้เป็นอินติเกรตแอมป์สูงค่าในแนวทางของความเป็น Electrocompaniet ไว้อย่างเต็มตัว โดดเด่นที่ความต่อเนื่องไหลลื่นของเสียง ฟังได้นวลเนียนกลมกลืนกัน ไม่มีอะไรที่ล้ำหน้าระหว่างเสียงทุ้ม – เสียงกลาง – เสียงแหลม ให้ความมีเนื้อเสียง ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ไร้ซึ่งความแข้งกระด้างระคายหู ซึ่งในความนวลเนียนกลมกลืนกันนั้นก็มีความคมชัดให้ได้รับฟัง เป็นความคมชัดที่ไม่ใช่ความคมแข็ง และเป็นเสียงที่ไม่ได้สร้างความรู้สึกอึดอัด แนวทางเสียงของ Electrocompaniet นั้นเป็นลักษณะเสียงที่พูดได้ว่า ควบรวมความเป็นหลอดฯเข้ากับความเป็นโซลิด-สเตทอย่างลงตัวโดยมีเอกลักษณ์เฉพาะตน เป็นลักษณะเสียงที่สืบสานแบบอย่างมาจากต้นตำรับของ Dr.Matti Otala

ซึ่งเมื่อจับคู่กับลำโพงที่เหมาะสม ECI 80D จะให้เวทีเสียงที่เด่นชัด ไล่ระดับความลึกได้น่าพึงพอใจ แม้จะมิใช่แอมป์รุ่นใหญ่ก็ตามที นี่คืออินทิเกรตแอมปลิฟายเออร์ที่ประสบความสำเร็จ และมีคุณสมบัติที่ดีที่คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายราคาแพง(มากเกินไป)เพื่อแลกมันมาใช้งาน ซึ่งยิ่งหากคุณเป็นคนรักในเสียงเพลงที่ไม่ยึดติดกับความต้องการระดับเงินล้าน แต่ต้องการคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมสำหรับการฟังเพลง Electrocompaniet: ECI 80D จะเป็นอินติเกรตแอมป์ตัวหนึ่งที่คุณต้องห้ามพลาด…

สรุปส่งท้าย

Electrocompaniet: ECI 80D + Neat Acoustics:  IOTA ALPHA ทำงานร่วมกัน ราวกับเป็นเนื้อคู่ที่เกิดมาคู่กัน ลักษณะเสียงให้ความสอดคล้องต้องกันเป็นพิเศษ เป็นเสียงที่รับฟังอย่างกลมกลืน – กลมกล่อมอย่างน่าฟัง ทั้งคู่นั้นพูดได้ว่า ให้ความคุ้มค่าของเงิน เพียบพร้อมในสมรรถนะ-ศักยภาพการใช้งาน และคุณภาพเสียงที่น่าจะเป็นตัวเลือกประเภท “ซื้อครั้งเดียวแล้วจบ” ไม่ต้องคิดอัปเกรด หรือ ปรับเปลี่ยนใหม่ไปอีกหลายปี ด้วยคุณสมบัติเพียงพอสำหรับใช้งานจริง…

ขอขอบคุณ Bulldog Audio โทร. 081-454-0078 ที่เอื้อเฟื้อสินค้าสำหรับการทดสอบ