จากฐานข้อมูลของ Discogs เวปไซต์จำหน่ายอัลบั้มเพลงรายใหญ่ เปิดเผยว่าคาสเซ็ตเทปมียอดจำหน่ายในท้องตลาดที่เติบโตรวดเร็วกว่าแผ่นไวนิลและซีดี จากยอดจำหน่ายรวมทั้งหมดของ Discogs ในปี 2018 เป็นคาสเซ็ตเทป 1.8 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 200,000 ชุด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2017 ราว 24 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม คาสเซ็ตเทปส่วนใหญ่ผลิตออกมามีจำนวนไม่มาก และมียอดสต็อกสินค้าต่ำ บางอัลบั้มจึงกลายเป็นสินค้าที่หายากมากเป็นพิเศษ กว่าร้อยอัลบั้มที่จำหน่ายอยู่บน Discogs ขายในราคาสูงกว่า 500 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นอัลบั้มลิมิเต็ดอีดิชั่น ซึ่งอัลบั้มคาสเซ็ตเทปที่มีราคาแพงมากที่สุดที่ถูกจำหน่ายไปแลัวใน Discogs สามอันดับแรก มีดังนี้
“The Versace Experience – Prelude 2 Gold” อัลบั้มของ Prince จากงาน Paris Fashion Week ในปี 1995 ถูกซื้อไปในราคา 4,117 เหรียญสหรัฐ (ราว 126,855 บาท)
“United Dairies 1979-87” อัลบั้มรวมเพลงอิเล็กทรอนิคส์ / ร็อค ของศิลปินสังกัด United Dairies แบบ Box Set 32 ม้วน ถูกซื้อไปในราคา 2,300 เหรียญสหรัฐ (ราว 70,868 บาท)
“24 Hours” อัลบั้มแนวอิเล็กทรอนิกส์ ปี 1980 ของ Throbbing Gristle แบบ Box Set 26 ม้วน ถูกซื้อไปในราคา 2,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 61,625 บาท)
นอกเหนือจากนี้ ก็ยังมีอัลบั้มของศิลปินมากมาก อาทิ “Year Zero” ของ Buck 65, “Lonely Is An Eyesore” เดโมเทปแรกของ Depeche Mode, “We Spit On Their Graves” ของ Sutcliffe Jügend จำนวน 10 ม้วน และ Box Set “The Madonna Collection” ของมาดอนนา ที่มีมูลค่าสูงถึง 1,500 เหรียญสหรัฐ (ราว 46,305 บาท)