ช่วงบ่าย 1 ธันวาคม 65 / บ.อัศวโสภณ จำกัด ได้ถือเป็นโอกาสฤกษ์งามยามดี ทำการ “เปิดบ้านใหม่” เป็นสถานที่ทำการสำนักงานใหญ่บนถนน รามคำแหง ย่านหัวหมาก พร้อมทั้งเป็นวาระพิเศษในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รายการด้วยกันจาก BOSE Corp.
ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ BOSE Corp. ได้เดินทางตรงจากสิงคโปร์มาเพื่อส่งมอบข้อมูลของทั้งสองผลิตภัณฑ์ แนะนำให้สื่อมวลชนไทยได้รับทราบกัน อันได้แก่ BOSE Video Bar จำนวน 2 รุ่น และ AMM Multipurpose Speakers อีก 3 รุ่นด้วยกัน …เป็นที่น่าสังเกตว่า BOSE ได้มุ่งหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของ professional โดยเฉพาะ มากกว่าจะอยู่ในกลุ่มของ Home Use.
เฉพาะอย่างยิ่ง BOSE ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นของตัวเองขึ้นมารองรับเป็นพิเศษ เรียกว่า Bose Work เพื่อใช้ควบคุม Bose Videobar VB1 และ VB-S ได้อย่างสมบูรณ์จากอุปกรณ์มือถือ คุณสมบัติต่างๆ ได้แก่ การค้นหาอัตโนมัติ ปิดเสียงไมโครโฟน การจับคู่บลูทูธ แพน/เอียง/ซูมกล้อง การตั้งค่าล่วงหน้าของกล้อง เปิด/ปิดเฟรมอัตโนมัติ และควบคุมระดับเสียงของลำโพง
Bose Videobar: VB-S
เหมาะสำหรับพื้นที่การประชุมขนาดเล็ก ในการส่งมอบประสบการณ์การประชุมที่ดียิ่งขึ้น “Bose Videobar VB-S” เหมาะสำหรับบูธการประชุมในพื้นที่ห้องที่มีขนาดไม่เกิน 3 x 3 เมตร (10 x 10 ฟุต) ด้วยไมโครโฟนควบคุมด้วยลำเสียงแบบ beam-steering microphones จำนวน 4 ตัว ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากขึ้นโดยเน้นที่เสียง ซึ่งช่วยปฏิเสธเสียงที่ไม่ต้องการ ทั้งยังมี EQ อัตโนมัติให้เสียงที่ปรับตามความเหมาะสมแก่ผู้เข้าร่วมทุกคน ด้วยกล้อง 4K ultra-HD และระบบเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bose โดยมีโหมดการใช้งานให้เลือกได้ 2 โหมด :- Group Mode และ Individual Mode
Group Mode ช่วยให้ผู้เข้าร่วมในห้องทุกคนมองเห็นกันได้ และช่วยให้ผู้เข้าประชุมร่วมระยะไกลมองเห็น และเข้าใจการสนทนาบนกระดานไวท์บอร์ด ฟลิปชาร์ต หรือวัตถุอื่นๆ ในห้องได้ดียิ่งขึ้น
Individual Mode จะจับภาพและติดตามผู้นำเสนออยู่ตลอดแบบไดนามิก เหมาะสำหรับครู บริบทการฝึกอบรม และอื่นๆ
การออกแบบที่มีโปรไฟล์ต่ำและสง่างาม ด้วยวิศวกรรม Bose ที่มีชื่อเสียง ทำให้สามารถวางลำโพง ไมโครโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ใกล้กัน ในขณะที่ให้ประสิทธิภาพที่น่าทึ่งโดยปราศจากการรบกวน ผ่านตัวขับเสียงที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Bose ให้เสียงที่สมบูรณ์และเข้าใจได้ชัดเจน สะดวกง่ายดายด้วยการเชื่อมต่อกับแล็ปท็อป หรือ อุปกรณ์ Bluetooth® ไร้สายเพื่อประสบการณ์เสียงที่น่าพึงพอใจ เชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายไร้สายที่มีอยู่ ทำให้การติดตั้งและแก้ไขปัญหารวดเร็วขึ้น และช่วยให้สามารถอัปเดท จัดการ และตรวจสอบจากระยะไกลได้สะดวกรวดเร็ว
ซอฟต์แวร์ Bose Work Configuration สำหรับการตั้งค่าเริ่มต้นที่ง่ายดาย พร้อมใช้งานในรูปแบบแอปหรือผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และจัดการจากระยะไกล ด้วยซอฟต์แวร์ Bose Work Management สำหรับการเปลี่ยนแปลงหลายอุปกรณ์ในอุปกรณ์เดียวหรือทั่วทั้งองค์กร และเพื่อดูสถานะอุปกรณ์ ทั้งนี้ผู้ใช้แอพมือถือ “Bose Work” สามารถทำการควบคุมแบบเรียลไทม์จากสมาร์ทโฟน ปรับระดับเสียง ปิดเสียง แพน เอียง ซูม การควบคุมที่ตั้งไว้ล่วงหน้า และการจับคู่ Bluetooth ได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังใช้การเชื่อมต่อ Bluetooth เพื่อทำงานเป็นสปีกเกอร์โฟนแบบสแตนด์อโลน หรือ สตรีมเพลงได้อีกด้วย
Bose Videobar VB-S มีช่องเสียบต่อใช้งานUSB Type-C®, Wi-Fi และ Bluetooth ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของบริษัทอื่นได้หลากหลาย (เรียนรู้เพิ่มเติมที่หน้า Alliance Partner Network) นอกจากนี้ Bose ยังมีแท่นวางบนโต๊ะ และชุดยึดผนังเพื่อให้ติดตั้งได้ง่ายในหลายวิธี และมีอุปกรณ์เสริมติดตั้งจอแสดงผล ที่แยกจำหน่ายอีกด้วย
Bose Videobar: VB1
Bose Videobar รุ่น VB1 เป็นอุปกรณ์การประชุมผ่าน USB แบบ all-in-one ที่นำเสียงและวิดีโอระดับพรีเมียมมาสู่ห้องประชุมขนาดกลางประมาณ 6 x 6 เมตร (20 x 20 ฟุต) ด้วยไมโครโฟนควบคุมลำเสียง (beam-steering microphones) อัตโนมัติจำนวน 6 ตัว ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากขึ้นโดยเน้นที่เสียง: โซนแยกช่วยปฏิเสธเสียงที่ไม่ต้องการ; และ EQ อัตโนมัติให้เสียงที่ปรับให้เหมาะสมแก่ผู้เข้าร่วมทุกคน รวมถึงกล้อง 4K ultra-HD ที่ให้ขอบเขตการมองเห็นที่กว้าง ช่วยให้ผู้เข้าร่วมประชุมสื่อสารและมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมด้วยระบบเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bose
การเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลเส้นเดียวและการออกแบบโปรไฟล์ต่ำให้ความหรูหรา ซึ่งเกิดขึ้นได้โดยวิศวกรรม Bose ที่มีชื่อเสียง ทำให้สามารถวางลำโพง ไมโครโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ใกล้กันในขณะที่ให้ประสิทธิภาพที่น่าทึ่งโดยปราศจากการรบกวน ในขณะที่ให้ประสิทธิภาพที่น่าทึ่งโดยปราศจากการรบกวน ผ่านตัวขับเสียงที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Bose ให้เสียงที่สมบูรณ์และเข้าใจได้ชัดเจน สะดวกง่ายดายด้วยการเชื่อมต่อกับแล็ปท็อป หรือ อุปกรณ์ Bluetooth® ไร้สายเพื่อประสบการณ์เสียงที่น่าพึงพอใจ เชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายไร้สายที่มีอยู่ ทำให้การติดตั้งและแก้ไขปัญหารวดเร็วขึ้น และช่วยให้สามารถอัปเดท จัดการ และตรวจสอบจากระยะไกลได้สะดวกรวดเร็ว
ซอฟต์แวร์ Bose Work Configuration สำหรับการตั้งค่าเริ่มต้นที่ง่ายดาย พร้อมใช้งานในรูปแบบแอปหรือผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และจัดการจากระยะไกล ด้วยซอฟต์แวร์ Bose Work Management สำหรับการเปลี่ยนแปลงหลายอุปกรณ์ในอุปกรณ์เดียวหรือทั่วทั้งองค์กร และเพื่อดูสถานะอุปกรณ์ ทั้งนี้ผู้ใช้แอพมือถือ “Bose Work” สามารถทำการควบคุมแบบเรียลไทม์จากสมาร์ทโฟน ปรับระดับเสียง ปิดเสียง แพน เอียง ซูม การควบคุมที่ตั้งไว้ล่วงหน้า และการจับคู่ Bluetooth ได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังใช้การเชื่อมต่อ Bluetooth เพื่อทำงานเป็นสปีกเกอร์โฟนแบบสแตนด์อโลน หรือ สตรีมเพลงได้อีกด้วย
Bose Videobar VB-S มีช่องเสียบต่อใช้งาน USB Type-C®, Wi-Fi, 1 Gbps Ethernet, Bluetooth connectivity, HDMI output, 3.5mm (1/8in) aux input และ 2-pin Euroblock GPI นอกจากนี้ Bose ยังมีแท่นวางบนโต๊ะ และชุดยึดผนังเพื่อให้ติดตั้งได้ง่ายในหลายวิธี และมีอุปกรณ์เสริมติดตั้งจอแสดงผล ที่แยกจำหน่ายอีกด้วย
มาถึงในส่วนของ AMM Multipurpose Speakers ที่มีออกมาจำหน่าย 3 รุ่นด้วยกัน ซึ่งก็เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของ professional โดยเฉพาะเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ Bose Professional AMM เป็นลำโพงอเนกประสงค์ ที่มีการออกแบบเป็นระบบ 2-ทางแบบพาสซีฟ ในรูปแบบของลำโพงโคแอกเซียล (coaxial) ที่มีสมรรถนะรอบด้าน ด้วยการให้เสียงที่สม่ำเสมอด้วยการใช้ Bose AM array modules ร่วมกับตัวลำโพง Bose AMU utility loudspeakers ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถผสมและจับคู่รุ่น ผสมผสานกันจากทั้งสามรุ่นได้อย่างละดวก เพื่อสร้างประเภทระบบใช้งานต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม AMM ประกอบด้วย ลำโพงฟูลเรนจ์สองรุ่นและซับวูฟเฟอร์อีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งต้องใช้ Bose DSP ทำงานควบคู่กัน เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพสูงสุดและการป้องกันลำโพง ด้วย Bose Beamwidth Matching Waveguide ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ลำโพง AMM รับประกันคุณภาพเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bose ให้การตอบสนองความถี่ที่สม่ำเสมอ ความชัดเจน และการฉายภาพทั่วพื้นที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นประสบการณ์เสียงที่ทรงพลังอย่างน่าทึ่งสำหรับทั้งนักแสดงและผู้ชม
AMM Multipurpose Speakers ประกอบด้วย AMM108, AMM112 และ AMS115 โดยที่ AMM108 มีลักษณะเป็นลำโพงแบบพาสซีฟ ระบบสองทางแบบโคแอกเชียล พร้อม compression driver ขนาด 1.7 นิ้ว ทำงานควบคู่กับตัวขับเสียงความถี่ต่ำขนาด 8 นิ้ว สามารถให้เอาต์พุตได้สูงถึง 128 dB มีจุดเด่นสำคัญอยู่ที่ Beamwidth Matching Waveguide ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Bose รับประกันคุณภาพเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Bose ให้เสียงที่สม่ำเสมอ การตอบสนองความถี่ ความชัดเจน และการกระจายเสียงที่ทั่วทั้งพื้นที่ครอบคลุม
AMM112 เป็นลำโพงอเนกประสงค์แบบพาสซีฟ ออกแบบระบบสองทางแบบโคแอกเชียล พร้อม compression driver ขนาด 3 นิ้ว ทำงานควบคู่กับตัวขับเสียงความถี่ต่ำขนาด 12 นิ้ว สามารถให้เอาต์พุตได้สูงถึง 131 dB มีจุดเด่นสำคัญอยู่ที่ Beamwidth Matching Waveguide ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Bose รับประกันคุณภาพเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Bose ให้เสียงที่สม่ำเสมอ การตอบสนองความถี่ ความชัดเจน และการกระจายเสียงที่ทั่วทั้งพื้นที่ครอบคลุม
AMS115 ผลิตภัณฑ์ซับวูฟเฟอร์อเนกประสงค์ สำหรับเลือกการใช้งานควบคู่กับ AMM108 และ/หรือAMM112 โดยที่ AMS115 มีขนาด 15 นิ้ว สามารถให้ความถี่ต่ำลงได้ถึง 35 เฮิร์ตซ ตัวตู้ลำโพงมีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 28 กก. (63 ปอนด์) เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ในการติดตั้งแบบพกพาหรือการติดตั้งถาวร เมื่อจับคู่กับลำโพงอเนกประสงค์ Bose AMM โดยสามารถให้เอาต์พุตสูงสุดได้มากถึง 130 dB ตู้ปรับเสียงเบสแบบกระจายเสียงโดยตรง พร้อมที่จับขนาดใหญ่ที่จับตามหลักสรีรศาสตร์และจุดยึดล้อ จับคู่กับแอมป์ Bose PowerMatch และ ControlSpace DSP เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและการป้องกันลำโพง ติดตั้งได้ง่ายในการติดตั้งแบบถาวร
ผลิตภัณฑ์ทั้งในกลุ่ม BOSE Video Bar และ AMM Multipurpose Speakers สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บ.อัศวโสภณ จำกัด เลขที่ 17 ซอยรามคำแหง 24 แยก 2 (ถาวรธวัช 1) หัวหมาก บางกะปิ กทม. 1020 โทร.0 2266 8136, 0 2234 6467-8
