Test Report: GURU JUNIOR
(ความท้าทาย ที่ต้องเลือก)
ไมตรี ทรัพย์อเนกสันติ
GURU AUDIO มีออฟฟิศ, โรงงาน และโชว์รูม ที่ประเทศสวีเดน (เว็บไซต์ www.guruaudio.com) ดูเหมือนว่า GURU JUNIOR จะเป็นลำโพงน้องเล็กสุดของค่ายนี้ ซึ่งผู้ออกแบบพยายาม ปั้นให้มันขึ้นชั้นลำโพงระดับ Monitor ให้ได้ แม้ดอกกลางทุ้มจะเล็กแค่ 4 นิ้ว ซึ่งถือว่าเป็นงานท้าทายมากทีเดียว ในการจัดการทุกอย่างให้บาลานซ์ลงตัวให้ได้
GURU JUNIOR เป็นลำโพง 2 ทาง ตู้เปิดโดยรูระบายอากาศจะอยู่ด้านล่างของตู้ และยิงลงพื้นฐานเสริมมาออกช่องยาวด้านหน้า ทำให้การจัดวางง่าย ไม่ต้องวางชิดผนัง บนชั้นหิ้งเพื่อให้เบสดี ไม่ต้องกลัวบังท่อเบส (ด้านหลัง) ดอกลำโพงแหลมโดมเล็กจิ๋ว บ่งบอกว่าให้ความถี่ไปได้สูงเกิน 20 kHz แน่ๆ ตัวตู้ประณีตแข็งแรง ขั้วต่อด้านหลังแบบซิงเกิ้ลไวร์ ฐานตู้จะกว้างกว่าลำโพงตู้ขนาดเดียวกันทั่วไปอยู่บ้าง ขาตั้งที่จะเอามาใช้จึงควรยกลำโพงไปลองวางดูด้วย
สเปคจากโรงงาน
ความถี่ตอบสนอง (ในห้องทั่วไป) 34 Hz~30 kHz
ความไว 87 dB/ 2.83 V/1 m.
ความต้านทาน 8 โอห์ม (ต่ำสุด 4 โอห์ม)
เฉลี่ย 5 โอห์ม
แนะนำใช้กับภาคขยาย 5 W. ~ 150 W.
รับกำลังขับสูงสุด 160 W. (ที่สูงกว่า 300 Hz)
ระบบท่อเบสตู้เปิด Helmholtz Resonator
ตัวตู้ ไม้ MDF/ โลหะ
ดอกลำโพง ดอกแหลมโดม 20.5 มม. (0.8 นิ้ว)
ดอกกลางทุ้มกรวยกระดาษเคลือบ
102 มม. (4นิ้ว)
ระยะการนั่งฟังที่ดี 1~4 เมตร
ขนาดตู้ (กว้าง × สูง × ลึก) 182 × 239 × 280 มม. หนัก 5 กก.
การทดสอบ
จากเครื่องเล่น Blu-ray OPPO BDP 105 (ปรับปรุงภาคจ่ายไฟ เปลี่ยนตัวเก็บประจุร่วม 10 ตัว ที่คุณภาพสูงสุด โดย POWER PERFECT โทร. 08-1904-2213) และจัดสายภายในให้ดียกหนีแท่นเครื่อง ยกสายดินขาเข้า สายไฟ AC ยกมาจากอินทีเกรทแอมป์ Mark Levinson No.383 (หุ่นสายอาจดูไม่น่าเกรงขาม เพราะมากับเครื่อง แต่คุณภาพแน่นอน, มั่นใจได้ ไม่ผิดเพี้ยนทุกแง่มุม) ด้านบนเครื่อง BDP 105 (ดูรูป) มีทั้งแผ่นแร่อาเกต (แผ่นกลมแบน), แท่งออบซีเดียน (สีดำบนอาเกต), ก้อนกลมออบซีเดียน (บนอาเกต), แท่งผลึกควอตซ์ 3 แท่งรอบอาเกต, โครงปิรามิด (ทำจากผลึกควอตซ์ใสสูงคืบครึ่ง) มุมขวามีอามีทิส 1 ก้อนฝ่ามือ ทั้งหมดทำให้ทั้งมิติและสุ้มเสียงดีที่สุด “เท่าที่ตัว OPPO 105 ควรจะให้ได้” ที่สายไฟ AC ขาเข้า OPPO มีแท่งผลึกทัวมารีนสูงครึ่งคืบวางใกล้
สายเสียง MADRIGAL CZ-GEL 2 (รุ่นหัว RCA) ต่อจากช่อง อะนาลอก 2 CH ของ OPPO 105 ไปช่อง CD IN ของอินทีเกรทแอมป์ MOON 250i (50 W.RMS/CH ที่ 8 โอห์ม) สายไฟ AC ของ CHORD สีม่วง มีแท่งผลึกทัวมารีนสูงครึ่งคืบที่ขาเข้า AC ของ MOON เช่นกัน
สายไฟ AC จากทั้ง OPPO 105 และMOON ไปเข้าตัวกรองไฟ PHD POWER STATION (มีการทำระบบระบาย EDDY CURRENT ลงดินด้วย) สายไฟ AC ที่เข้า PHD ใช้ FURUKAWA CB-10 (3 เส้นทิศถูกต้อง) หัว WATT GATE (ผู้/เมีย) เข้าเต้าเสียบตัวเมียที่ผนังบ้าน (ของ MONITOR ACOUSTICS รุ่นสูงสุดสีเทาพร้อมฝาปิด น่าใช้มากเสียงทุกอย่างจะดีขึ้นกว่า 30%) (โทร. 08-1659-6165) มีก้อนทัวมารีนที่ AC ขาเข้า PHD 1 ก้อน, ที่เต้าเสียบ MONITOR ACOUSTICS อีก 1 ก้อน เต้าเสียบตัวเมียอื่นๆ อีก 2 จุดในห้อง (จุดละอีก 1 ก้อน)
จาก MOON ต่อออกสายลำโพงซิงเกิ้ลไวร์ (FURUKAWA S-2 (ตามทิศ, หัว WBT (บานาน่าล็อคได้))) ไปลำโพง GURU JUNIOR ที่เอาหน้ากากออกและวางอยู่บนขาตั้ง ULTIMA ที่บังเอิญ บริษัทฯ ให้มาด้วย (ความอ้วนและตำแหน่งยางรองใต้ตู้ทั้ง 4 ของลำโพง GURU เกินจากแผงรับลำโพงของขา TARGET 24 HJ ของผมพอดี) (โชคดีที่เขาส่งขามาให้วัดกับ TARGET ด้วย)
วางลำโพงเอียง (TOE IN) ให้ได้จุดตัดเสียงซ้าย, ขวา อยู่เลยหน้าเราไปประมาณ 1 เมตร ขยับให้ได้ทั้งสุ้มเสียงและมิติเสียง (ทรวดทรงดีที่สุด) ลำโพงซ้าย, ขวา ห่างกันประมาณ 2 เมตร และอยู่ห่างจากจุดนั่งฟัง 3.6 เมตร (โหด…สำหรับลำโพงตู้เล็กๆ อย่างนี้) ห้องฟังขนาดประมาณ 3.85 × 9 × 2.5 เมตร ผนังมีฟองน้ำเก็บเสียง SONEX (รุ่นทำเยอรมัน, สีขาว) พื้นปูพรม ไม่ก้อง (มีพวกหนังสือ, แผ่นมากพอสมควร)
เอาผ้าดำ 3 ผืน ปิดที่ดวงไฟ LED สีแดงที่ CD IN และที่ตัวหมุนโวลลุ่ม กับดวงไฟ LED สีน้ำเงิน ที่หน้า MOON (ต้องแยกปิดอย่าใช้ชิ้นเดียวกัน) (หัวเสียงจะคมชัด ละเอียด มีทรวดทรง ลหุดลอยขึ้น)
มีตัวกรองไฟแบบหัวปลั๊กเสียบเคียงสาย AC เครื่องของ PHD อีก 4 หัวที่แผงไฟก่อนเข้าห้องเสียง, ที่ขาออกของกล่อง PHD อีก 1, ในห้องฟังจุดอื่นๆ อีก 3 มีกล่อง (หนังสือ+ตัวอย่างควอตซ์ 12 ก้อนเล็กๆ) ชุด CRYSTAL POWER HEALING ของ JUDY HALLS อีก 5 กล่องในห้อง (กลางห้อง 1, หลังที่นั่งฟังอีก 4 กล่อง) ด้านขวาห่างออกไปจาก OPPO BDP-105 ฟุตกว่า มีก้อนอะมิทิสขนาด 4 ฝ่ามือวางอยู่ (PHD ติดต่อ 08-1347-0904)
สายภาพ HDMI (MONSTER HD 2000 ย้อนทิศ) จาก OPPO 105 ไป HDMI IN 2 ของจอ LCD FULL HD 23 นิ้ว TOSHIBA ที่วางห่างจุดนั่งฟังไปด้านหน้าเมตรครึ่ง (สายไฟ AC ผ่านสาย AC ของ CHORD แล้วไปกล่องกรองไฟ PHD, มีแท่งควอตซ์สูง 1 คืบ ปะอยู่หลังจอ 3 แท่ง กับ อะมิทิสอีก 1 แท่ง) มีฟองน้ำเก็บเสียง SONEX รุ่นบาง 1 ซม. ปิดหลังจอและหมอนข้างจิ๋ว 1 คืบ อีก 2 อัน ลดการสะท้อนเสียงจากลำโพงกับหลังจอ
ภายในห้องไม่มีจอ LCD อื่นๆ อีก ไม่มี PC, โน้ตบุ๊ค, มือถือ, รีโมท (นอกจากของ BDP 105), เครื่องเล่นเกมส์, iPAD, WiFi/ LAN (นอกจากที่รั่วมาจากภายนอก 6-7 จุด) ไม่มีนาฬิกาไฟฟ้าใดๆ (รวมทั้งนาฬิกาข้อมือก็ถอดออก, กระเป๋าเสื้อไม่มีการ์ดแม่เหล็กใดๆ)
ฟังทดสอบสายทุกเส้น, แยกสาย “ทุกเส้น” ไม่ให้แตะต้องกันหรือพันตัวเอง มีกระบอกเซรามิกกรองน้ำ ของเบิร์กฟิลด์ รุ่นกลวง (ยาว 12 นิ้ว) 2 กระบอก (ไม่แตะกัน) ที่สายเสียงซ้าย อีก 2 กระบอกที่สายเสียงขวาที่ต่อจาก OPPO ไป MOON และอีก 2 กระบอกในสาย HDMI จาก OPPO ไปจอ LCD (พวกนี้ทำให้เสียงโฟกัส, ชัด, นิ่งขึ้น)
ปัดลมแอร์ (25 องศา, ลม LOW) ให้เป่าลมลงหลังลำโพง ขาตั้ง ULTIMA ไม่ได้หยอดทรายในท่อของแกน (ไม่มีทราย) แต่ก็หาอิฐ VPI มาวางทับฐานขา ซ้าย 1 ก้อน, ขวา 1 ก้อน ให้ขานิ่ง, หนักขึ้น
เลือกระบบเสียงขาออกจาก OPPO 105 ไว้ที่ LT, RT ตลอด ไม่ว่าจะฟังเพลงหรือดูหนัง
ผมเปิดเพลงเบิร์นอินลำโพงอยู่ทั้งหมดประมาณ 40 ชั่วโมง จริงๆ แล้วตอนฟังครั้งแรกสุดผมก็ว่ามันโอเคแล้วนะ แต่เพื่อความมั่นใจจึงเบิร์นอินด้วยเพลง 40 ชั่วโมง (ไม่ควรเบิร์นอินด้วยสัญญาณเสียงซ่า เสียงจะทึบ คลุมเครือ เพลงจริงๆ นั่นแหละ ดีที่สุด)
ผลการดูหนัง
เช่นเคย ผมใช้แผ่น Blu-ray เรื่อง LUCY เป็นตัวอ้างอิง (เขาบันทึกเสียงมาหายห่วง ความถี่เสียงกว้าง ทุ้มแน่นอิ่มเป็นลูก กลางสดเปิด แหลมใส) ผมชอบฟังเสียงพากย์ไทยจะได้รับรู้อารมณ์ได้ถึงกึ๋นส์กว่า (เช็คเฟสเสียงแล้ว เสียงพากย์กับเสียงประกอบ) (EFFECT) เฟสเดียวกัน
คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ลำโพงที่ดี จะให้ภาพที่ดีด้วย!
เหตุผลง่ายๆ ก็คือ ลำโพงที่ดี มักให้ความต้านทานเฉลี่ยคงที่พอควร ไม่วูบวาบ การควบคุมตัวเองจากการขยับของดอกลำโพงจะกระชับ แม่นยำ ไม่กระพือ ทั้งหมดนี้ ช่วยให้กระแสตีย้อนกลับ (BACK EMF) จากตู้ลำโพง ย้อนกลับมาเข้าภาคขยายเสียง มีน้อยลงและเป็นระเบียบกว่าปกติ การกระเพื่อมของภาคจ่ายไฟของแอมป์จาก BACK EMF ก็จะไม่สูงหรือสะเปะสะปะเกินไป จึงส่งผลย้อนกลับไปยังสายไฟ AC ที่จะไปยังเครื่องเล่น OPPO 105 ผลป่วนก็จะลดลงด้วย พร้อมๆ กับการย้อนกลับไปตามสายเสียง MADRIGAL ไปยัง OPPO 105 ถูกป่วนลดลง ภาพก็ดีขึ้น ผมสังเกตมาหลายคู่ลำโพงแล้ว
การเล่นลำโพง GURU JUNIOR นี้ ภาพคมชัดมีพลังขึ้น เทียบกับตอนทดสอบลำโพง Warfedale Diamond 220 ก่อนหน้านี้ คือชัดดีพอๆ กับตอนทดสอบลำโพง CASTLE AVON 1, กับ KEF LS 50 หรือ GARMUT วางหิ้งตัวเล็กสุด
จากเรื่อง LUCY ลำโพง GURU ให้เสียงที่ออกไปทางผ่อนคลายกลมกล่อมนิดๆ ไม่ใช่ประเภทเปิดจ้าสว่าง เข้มข้น เป็นประกาย (SPARKLE) จะออกทางผู้ดีนิดๆ แต่ไม่เฉื่อย กลับตอบสนองได้ฉับไว ถ่ายทอดและแยกแยะ ความดัง-ค่อยของเสียงได้ละเอียด, กว้าง พูดง่ายๆ DYNAMIC CONTRAST ดีเกินคาด น้องๆ ลำโพง ATC SEM 11 (วางหิ้ง 2 ทาง ราคา 120,000 บาท/ คู่) หรือ KLIPSH RB 61 MK II (วางหิ้ง 2 ทาง ราคา 26,000 บาท/ คู่) แต่ GURU จะตอบสนองเป็นเชิงเส้น (LINEARITY) ได้ดีกว่า ตรงนี้ทำให้เราจับอากัปกิริยา อารมณ์ลุ่มลึก ทุกเม็ดของผู้แสดงได้อย่างชวนติดตามอย่างยิ่ง รู้เลยว่า ทีมพากย์ไทยระดับ “เทพ” เลย แม้ว่าทรวดทรงเสียงไทยอาจไม่ 3D นัก (เรื่องของช่างเสียง ไม่ใช่ทีมพากย์) นี่เป็นจุดเด่นที่สุดของ GURU JUNIOR ผมไม่เคยเจอลำโพง ขนาดเล็กอย่างนี้ ราคาขนาดนี้คู่ไหนทำได้ขนาดนี้เลย คาดหวังตรงนี้ได้เลยว่า จะต้องให้เสียงเพลงเวลาฟัง CD ระดับพระกาฬแน่ๆ
GURU JUNIOR ให้เสียงได้ทุ้มลึก มหึมา แม้ว่าถ้าเสียงนั้นดังมาก รูปลักษณ์ จะไม่เป็นกลุ่มก้อนนัก (เทียบกับ KEF LS 50 หรือ KLIPSH RB 61 MK II) แต่ถ้าเสียงเบาลงมาสักนิด จะเป็นรูปลักษณ์ได้ทันที (อาจอยู่ที่ขาตั้งต่างกัน) ตอนฟังคู่อื่นๆ ก่อนหน้านี้ใช้ TARGET 24 HJ ซึ่งหนักกว่า 30% (แม้ ขาตั้ง ULTIMA จะมีอิฐ VPI ช่วยถ่วงอีก 1 ก้อนก็ตาม) (ขาตั้ง TARGET นั้น ถ้ายังมีขายอยู่ ปัจจุบันก็น่าจะร่วม 40,000 บาท/ คู่)
ยังไงก็คาดหวังได้เลยว่า GURU JUNIOR ให้น้ำหนักเสียงที่ดีตลอดทุกช่วงความถี่ มีทรวดทรงที่ดี (ถ้าบันทึกมาดี) ตลอดทุกช่วงความถี่เช่นกัน เสียงออกราบรื่นดีมาก มีความเป็นดนตรีสูงมาก ถ่ายทอดทุกช่วงรายละเอียด แม้จะฝังลึกหรือค่อยแค่ไหน คุณจะสังเกตได้ถึงเสียงผสมที่สอดซ้อนกันอยู่ (LOOK THROUGH) หรือ LOOK INSIGHT มีหลายๆ เสียงที่คุณไม่เคยสังเกตว่า มีมันอยู่ตรงนั้น อยู่ตรงนี้ คุณจะรู้ว่า คนบันทึกเสียงประกอบ โคตรจะพิถีพิถัน ขนาดไหน ในการหาเสียงมาประกอบได้ตรงกับภาพมากๆ ซึ่ง GURU JUNIOR แฉ, ฉาย สิ่งเหล่านี้ได้ทุกซอกหลืบ เรียนตรงๆ ว่า ดูแล้ว โคตรได้อารมณ์เลย
ด้านบรรยากาศ นี่ก็เป็นอีกจุดเด่นของลำโพงดีๆ ระดับพระกาฬ เวลาดูหนัง คุณจะพบว่า เสียงจะเกิดดับห่อหุ้มรอบตัวคุณตลอดเวลาตามภาพที่เกิดขึ้น คุณจะจมอยู่ในทะเลหรือสนามของเสียง อย่างเป็นหนึ่งเนื้อเดียวกัน (UNIFIED FIELD) บรรยากาศรอบตัวขึ้นจะ HOLOGRAPHIC
GURU JUNIOR ให้บรรยากาศการดูหนังดุจระบบเสียงรอบทิศสมบูรณ์แบบ จากลำโพงแค่คู่เดียว ครบหมด ทั้งสุ้มเสียงและความเป็นรอบทิศ อย่างเป็นธรรมชาติด้วย (กว้าง, สูง-ต่ำ, ตื้น-ลึก)
ภาพกับเสียงตรงกันทั้งบุคลิก การเกิด-ดับ ความเร็ว ผมยังดูอีกร่วม 10 เรื่อง ซึ่ง GURU JUNIOR ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย มันถ่ายทอดคุณภาพของการบันทึกออกมาอย่างซื่อสัตย์ตลอด คุณจะไม่ผิดหวังกับมันเลย
ฟังเพลง
เวลาฟัง CD จาก OPPO 105 ผมจะกดตัดวงจรภาพออก (เสียงดีขึ้นเล็กน้อย) ฟังจากอัลบั้มที่ใช้อ้างอิงทดสอบทุกครั้งได้แก่
- ระนาดเอก (ไทลำภู)
- RHYTHM BASKET, A tasket, A Tisket, A child’s ของ Brent Lewis
- The Greatest Alto Female, Vol.1, Top Music
- อื่นๆ
พอจะจับบุคลิกของ GURU JUNIOR ได้ดังนี้ (ขอย้ำว่า)
- ผมนั่งฟังห่างถึง 6 เมตร
- ผมเร่งโวลลุ่ม (ที่รีโมท OPPO) ประมาณ 78-81 (ต่ำกว่าตอนดูหนังที่เร่ง 90-95)
ประมวลบุคลิก
- ถ้าเปิดไม่ดังมากนัก เอาแค่พูดคุยกันรู้เรื่อง เสียงจะออกมาอบอุ่น นุ่มนวล ผ่อนคลาย สไตล์ผู้ดีอังกฤษ ทรวดทรงเสียงดี (3D) เปิดเผยอากัปกิริยาการเล่น, ร้อง ได้อย่างน่าทึ่งชวนติดตาม แต่บางท่านอาจบ่นว่า เสียงโดยรวมจะขุ่นไปบ้าง อยากให้เปิดโปร่งสดมากกว่านี้ แหลมต่ำจะหายไป ทุ้มไม่หนักเป็นลูกนัก
- ถ้าเร่งขึ้นอีกสัก 2-3 ขีด เสียงจะขึงขัง สด กระชับกระเชง ตื่นตัวขึ้น อย่างฟังออกชัด (เสียงค่อนข้างดัง ถ้านั่งจีบกันคงฟังไม่ได้ศัพท์) ทรวดทรงเสียงแย่ลง ทุ้มต้นดีขึ้น แต่ทุ้มลึกๆ ยังออกฟุ้งๆ ไม่เป็นตัวตนนัก กลางสูง (แหลมต่ำ) ดีขึ้น เสียงจะออกแนวคล้ายตอนดูหนัง อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ขนาดเจี้ยวจ้าว
ทั้ง 1.2 และ 2.2 บอกเราได้เลยว่า
3.1 GURU JUNIOR ให้การตอบสนองความถี่ได้ราบรื่นมาก ทำให้ไม่กลบรายละเอียดหยุมหยิม เล็กๆ น้อยๆ และเปิดเผยออกมาหมดเปลือกดีมาก
3.2 แยกเสียงตรงกับเสียงกังวานจากกันได้ดี ทั้งของเสียงนั้นๆ เอง หรือของทั้งวงโดยรวม
3.3 ให้ Dynamic Contrast ได้ดีอย่างน่าแปลกใจ (เกินราคาทีเดียว)
3.4 การที่ดอกลำโพงกลางทุ้ม ค่อนข้างอยู่ห่างจากดอกแหลมกว่าปกติ เมื่อพิจารณาจากลำโพง 2 ทาง ลักษณะเดียวกันทั่วไป ทำให้ความเป็นจุดกำเนิดเสียงเดียวกัน (POINT SOURCE) สูญเสียไปบ้าง (กว่าเพื่อนฝูงทั่วไป) ตรงนี้ผมเข้าใจได้เลย (จากการฟัง) ว่า ผู้ออกแบบ เลือกที่จะยอมตรงนื้ เพื่อลดปัญหา Microphonic ให้น้อยที่สุด คือลดแรงลมอัดจากหน้าดอกกลางทุ้มที่จะย้อนตลบกลับไปอัดที่ดอกแหลม อันจะทำให้รายละเอียดลึกๆ ขุ่นมัว สูญหาย นี่คือเหตุผลที่ GURU JUNIOR รักษารายละเอียด เบาๆ ได้เยี่ยมมาก (ดีกว่า KEF LS50)
3.5 ผู้ออกแบบไม่จงใจที่จะเป่าทุ้มให้อวบอูมเกินจริง อันจะไปรบกวนความเป็นธรรมชาติของเสียงกลางได้ เอาว่า มันให้ทุ้มได้พองามก็แล้วกัน อาจไม่มหึมา มโหฬาร
3.6 ไม่ควรนั่งฟังใกล้มากนัก นอกจากชอบฟังดังๆ (ถ้าเร่ง ดังๆ ปัญหา POINT SOURCE จะเสมือนบรรเทาลงได้) มิเช่นนั้นเสียงจะขาดความกลมกลืน ทรวดทรงจะแย่
3.7 GURU JUNIOR ให้เวทีเสียงได้อลังการดี เรียกว่า เสียงหลุดตู้ ลำโพงล่องหนอย่างแท้จริง เวทีกว้าง, ลึกดี, โอบมาซ้าย-ขวา ได้ดี “เกือบ” มาถึง ซ้ายหลัง, ขวาหลัง (แต่ดูหนัง มาโผล่ด้านหลังได้เลย) สูง-ต่ำดี มีวิ่งอยู่บนเพดานห้องฟังได้ด้วย
สรุป
ถ้าดูหนังไม่เกินเลยที่จะให้คะแนน GURU JUNIOR 89-90/100 ถ้าฟังเพลงสไตล์ผู้ดี ผ่อนคลาย ก็ใช่เลย แต่ถ้าฟัง เอาสด เอามันส์ เหลือ 88/100 จึงน่าจะเหมาะกับผู้ที่ฟังเพลงไม่ดังมากนัก ก็จะได้อารมณ์แบบขนหัวลุกได้เลย (95/100) เป็นลำโพงที่เรียกว่า ตัวเล็ก, เสียงใหญ่, ใจถึง ถือว่าไม่ธรรมดาคู่หนึ่งทีเดียว
ขอขอบคุณ บริษัท การ์ป ออดิโอ จำกัด โทร. 0-2716-7852, 080-080-4858 ที่เอื้อเฟื้ลำโพงมาทดสอบ
