รีวิว Perlisten R7t ลำโพง THX Certified Dominus

0

Mongkol Oumroengsri

“Perlisten Audio” ชื่อแบรนด์อันไม่เป็นที่คุ้นตา ทว่ามาแรง ด้วยการคว้า THX Certified Dominus Speaker มาครองเป็นบริษัทแรกในโลก …น้องใหม่รายนี้ – ไม่ธรรมดาจริงๆ

เกริ่นนำ

เป็นที่ทราบกันดีว่า “Dominus” เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดจาก THX Certification ซึ่งมีความแตกต่างค่อนข้างมากจากมาตรฐาน THX ก่อนหน้า ด้วยความเงียบที่สงัดกว่า ความดังของเสียงที่ดังยิ่งขึ้น ค่าความผิดเพี้ยนที่ต้องต่ำสุดๆ รวมถึงอีกสารพัดที่ต้องสอบผ่านการตรวจวัดด้วยสมรรถนะในระยะที่ไกลยิ่งขึ้นกว่าเดิม

Dominus จึงเป็นระบบก้าวหน้าล่าสุดและทรงประสิทธิภาพสูงสุดของ THX Certification ณ ปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างลำโพงที่ใช้ในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก เข้ากับลำโพงเพื่อโฮม เธียเตอร์ขนาดใหญ่ …ท่านใดมีห้องโฮม เธียเตอร์ที่ปริมาตรมากถึง 184 ลูกบาศก์เมตร (6500 ลูกบาศก์ฟุต) และให้ระยะการรับชมไกลถึง 6 เมตร (20 ฟุต) จะสามารถอ้างอิงได้จากผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง THX Certification ใหม่ล่าสุดนี้ ด้วยคุณภาพเสียงอันเหนือชั้นยิ่งกว่าที่เคย

“Perlisten Audio” อาจเป็นน้องใหม่แต่ไฟแรงในแวดวงโฮม เธียเตอร์ แต่ด้วยความถึงพร้อมในเทคโนโลยีอันรุดล้ำนำหน้า ได้ส่งผลให้ลำโพงของ Perlisten Audio เป็นที่กล่าวขวัญถึงในวงการนับตั้งปี 2016 เป็นต้นมา (ปีก่อตั้ง) และยิ่งกว่านั้น ในทุกวันนี้ลำโพงของ Perlisten Audio ทุกรุ่นยังได้รับการสร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน THX Certified Dominus อย่างแท้จริง ทั้งนี้ลำโพงโฮม เธียเตอร์ที่สอบผ่าน THX Certified Dominus Speaker นั้น จะต้องมีค่าความไวเสียง (sensitivity) ซึ่งมากพอที่จะไปได้ถึง THX Reference Level สำหรับโรงภาพยนตร์ด้วย

อย่างเช่นรุ่น S7t ระดับเรือธงของ Perlisten Audio นี่คือ ลำโพงโฮม เธียเตอร์ที่หาญกล้าท้าทายความเป็นลำโพงฟังเพลงซึ่งได้ชื่อว่า ‘ดีที่สุดในโลก’ ด้วยการสรรค์สร้างลำโพง audibly invisible ให้คุณรับรู้ได้ราวมองเห็นจากการรับฟังเสียงในทรานส์เชี้ยนอันปรู๊ดปร๊าด-ฉับไว และไดนามิกอันรุนแรง-เฉียบคม ให้คุณได้ค้นพบในทุกๆ รายละเอียดที่คุณใส่ใจไม่ต่างจากกำลังรับฟังระบบ 2-แชนแนล ด้วยค่าความเพี้ยน THD ซึ่งต่ำกว่า 0.5% ที่ระดับความดังการรับฟัง (listening levels) 90 dB และสามารถพุ่งทะยานขึ้นไปทะลุระดับ 120 dB SPL เลยทีเดียว ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกน่าประทับใจอย่างสุดสุด…

“Perlisten Audio” มุ่งสู่เป้าหมายหลักในการบรรลุพันธกิจ “Perceptual Listening experience” (ประสบการณ์การฟังอันรับรู้ได้) ขั้นสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีก้าวหน้าล่าสุด (จึงเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ Perceptual Listening experience) “Perlisten Audio” นั้นเคี่ยวเข้มกับ R&D อันแข็งแกร่ง ด้วยเป้าหมายการสอบผ่าน THX Certification นับตั้งแต่แรกก่อตั้ง (เมษายน ปี 2016) ทั้งยังร่วมลงทุนกับกลุ่มผู้ผลิตระดับไฮ-เอนด์ ทำให้ Perlisten Audio บรรลุสู่ประสบการณ์และวิทยาการระดับสูง ซึ่งคุณจะพบกับเทคโนโลยีล้ำสมัยได้ในลำโพงของ Perlisten Audio ทุกรุ่น

พูดได้ว่า ทีมวิศวกรของ Perlisten Audio ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบ ทดสอบ และสร้าง Audio DSP systems เพื่อการใช้งานอันแสนเข้มงวดที่สุดในโลกมาตั้งแต่ยุคปี 80’s ดังนั้นจึงมั่นใจได้เกินร้อยว่า ผู้ใช้งานจะได้รับความทันสมัย สดใหม่ในวิทยาการสุดล้ำ ควบคู่การสอบผ่านมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับระดับโลก ทีมวิศวกรของ Perlisten Audio ให้สำคัญที่สุดกับความเที่ยงตรงสูงสุดอย่างแท้จริง

“DPC-Array” นี่คือ เอกสิทธิ์เฉพาะของ Perlisten Audio ในการควบคุมความถี่กลาง/สูง โดยมีหัวใจ หรือ แกนหลักอยู่ที่ตัวขับเสียงสูงแบบ Beryllium dome ขนาด 28mm และ dual 28mm TPCD ultra-lightweight domes (THIN PLY CARBON DIAPHRAGM) ซึ่งค้นคว้าและพัฒนายาวนานนับสิบปีโดยทีมวิศวกรของ Perlisten Audio นำไปสู่การออกแบบลำโพง S Series ที่ทุกรุ่นใช้ DPC-Array (DIRECTIVITY PATTERN CONTROL) แบบเดียวกัน ผสานร่วมทวีตเตอร์ Beryllium dome เข้ากับการใช้เบส/มิดเรนจ์แบบ Carbon Fiber ขั้นสูง ผ่านการออกแบบตัวตู้ระบบ bass reflex หรือ acoustic suspension เพื่อตอบสนองสู่ความต้องการประสิทธิภาพสูงสุดของห้องฟังใดๆ ก็ตามได้อย่างเต็มที่ ทั้งในด้านไดนามิกและรายละเอียดเสียงที่ไม่มีใครเทียบได้

…นี่จะทำให้คุณสัมผัสได้ในคุณภาพเสียงอันน่าทึ่ง ตัวขับเสียงเบส และตัวขับเสียงมิดเรนจ์ของ Perlisten Audio ใช้วัสดุตัวกรวยแบบ (TPCD) TexTreme Carbon Fiber เทคโนโลยีขั้นสูงนี้ได้มาซึ่งเส้นใยคาร์บอนสุดพิเศษที่เบากว่าเส้นใยคาร์บอนมาตรฐาน 30% ที่มีความหนาเท่ากัน โดยมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นจากการใช้กระบวนการซ้อนหลายชั้น รวมทั้งลายทอประสานเส้นใยอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร ไร้ซึ่งข้อผิดพลาดใดๆ และยังช่วงกระจาย break-up modes โดยไม่มีการตอบสนองปลายสุดที่คมชัด (without sharp response peaks) ในขณะที่ยืดขยายช่วงกว้างย่านความถี่เสียง (bandwidth) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ส่งผลให้คุณรับรู้ได้ในไดนามิกที่เบากว่าอากาศ (lighter-than-air dynamics) และแรงกระทบ-ปะทะ (impact) อันสุดเร้าใจ Perlisten Audio เป็นลำโพงโฮม เธียเตอร์เพื่อสร้างเสียงระดับโลก ทุกอย่างที่เลือกใช้จึงต้อง SUPERIOR QUALITY ระดับโลก ซึ่งการันตีความไม่ผิดหวังให้แก่คุณในทุกขณะการรับฟัง ไม่ว่าคุณจะกำลังดูหนัง หรือว่าฟังเพลง ไม่ว่าไดนามิกนั้นจะรุนแรงขนาดไหน ไม่ว่าเสียงจะดังเพียงใด ไม่ว่าคุณจะใช้งานติดต่อกันนานเพียงไรก็ตาม “Perlisten Audio” จะทำให้คุณพึงพอใจไปตราบนานเท่านาน…

คุณลักษณ์

R-Series นี่คือ ระดับรองรุ่นเรือธงโดยอ้างอิงจากเทคโนโลยีที่สำคัญของ S-Series ที่เป็นรุ่นระดับเรือธง “R-Series” จึงนับเป็นระบบลำโพงดีที่สุดเป็นอันดับสองในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Perlisten Audio “R-Series” โดดเด่นด้วยการใช้ DPC-Array และวูฟเฟอร์แบบ Long Excursion เพื่อการบิดเบือนที่ต่ำมาก รวมถึงการควบคุมทิศทางการยิงเสียงที่พุ่งเป็นลำเสียง (beam forming controlled) ในช่วงความถี่ตอบสนองที่ลงต่ำลงมาได้ถึง 500Hz เฉกเช่นเดียวกับ S-Series ทำให้ R7t เป็นผลงานชิ้นเอกที่มีศักดิ์ศรีเป็นคู่แข่งกับ S7t รุ่นเรือธง ซึ่งได้รับรางวัล Class A Stereophile Recommended Component

Perlisten R7t ลำโพงมาตรฐานใหม่ THX Dominus ของ Perlisten Audio …นี่คือ ลำโพงโฮม เธียเตอร์ที่หาญกล้าท้าทายความเป็นลำโพงฟังเพลงซึ่งได้ชื่อว่า ‘ดีที่สุดในโลก’ ด้วยการสรรค์สร้างลำโพง ‘audibly invisible’ ให้คุณรับรู้ได้ราวมองเห็นจากการรับฟังเสียงในทรานส์เชี้ยนอันปรู๊ดปร๊าด-ฉับไว และไดนามิกอันรุนแรง-เฉียบคม ให้คุณได้ค้นพบในทุกๆ รายละเอียดที่คุณใส่ใจไม่ต่างจากกำลังรับฟังระบบ 2-แชนแนลอันยอดเยี่ยม ด้วยค่าความเพี้ยน THD ซึ่งต่ำกว่า 0.5% ที่ระดับความดังการรับฟัง (listening levels) 90 dB และสามารถพุ่งทะยานขึ้นไปทะลุระดับ 120 dB SPL เลยทีเดียว ซึ่งนี่จะทำให้คุณรู้สึกน่าประทับใจอย่างสุดๆ

Perlisten R7t ได้รับการออกแบบให้เป็นลำโพงแบบ stand alone 2ch high fidelity speaker ที่มีความเหมาะสมในการใช้เป็นระบบลำโพงหลักของระบบ มัลติ-แชนแนล โดดเด่นด้วยการใช้เทคโนโลยี “DPC-Array” ที่ถอดแบบจาก S-Series โดยปรับเปลี่ยนมาใช้ทวีตเตอร์แบบ โดมผ้าไหม (silk diaphragms) ขนาด 26 มม. จำนวน 3 ตัว ให้ความมั่นใจในการควบคุมทิศทางยิงลำเสียงความถี่สูงอันยอดเยี่ยม

จับคู่การทำงานร่วมกับวูฟเฟอร์แบบ HPF diaphragms ขนาด 165 มม. จำนวน 4 ตัว ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Perlisten Audio ซึ่งใช้เวลาพัฒนานานกว่า 2 ปี นำเทคโนโลยีใหม่มาสู่วัสดุเยื่อกระดาษแบบเก่าแก่ที่สุด ซึ่ง Perlisten Audio นำมาใช้ในการออกแบบลำโพงรุ่น R7t นอกจากนี้ Perlisten Audio ยังออกแบบอย่างชาญฉลาดให้ “R7t” สามารถปรับระบบการทำงานให้เป็นแบบ bass reflex หรือ acoustic suspension ได้ตามต้องการ ขึ้นอยู่กับรสนิยมเฉพาะของแต่ละผู้ฟัง ทำให้ได้มาซึ่งไดนามิกเบสที่หนักแน่น ฉับไวอย่างที่ต้องการ ควบคู่กับการควบคุมรูปแบบทิศทางยิงลำเสียงของไดรเวอร์เสียงกลาง/เสียงแหลมขั้นสูงที่ให้ความนวลนุ่มสบายโสตประสาท “R7t” พร้อมส่งมอบประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในระบบลำโพงระดับเดียวกัน

“R7t” สามารถครอบคลุมช่วงความถี่ตอบสนองได้ตั้งแต่ 27 – 32kHz (-10dB) เมื่อปรับระบบการทำงานตัวตู้เป็นแบบ bass reflex และ 38 – 32kHz (-10dB) เมื่อปรับระบบการทำงานตัวตู้เป็นแบบ acoustic suspension ซึ่งจะให้ค่า bass extension ลงไปได้ลึกล้ำถึง 19Hz เมื่อปรับระบบการทำงานตัวตู้เป็นแบบ bass reflex และ 30Hz เมื่อปรับระบบการทำงานตัวตู้เป็นแบบ acoustic suspension โดยมีค่าความไวเสียง 90dB ค่าความดังเสียงสูงสุด (peak) 116.0dB ค่าอิมพีแดนซ์ปกติ 4 โอห์ม / ต่ำสุด 3.1 โอห์ม รองรับกำลังขับ 100 – 400 วัตต์ RMS ขนาดมิติตัวตู้  (สูงxกว้างxลึก) 1,268 x 230 x 350 มม. น้ำหนัก 48 กก.ต่อข้าง สอบผ่านการรองรับมาตรฐาน THX Dominus และTHX Ultra

ผลการรับฟัง

Perlisten R7t นับเป็นระบบลำโพงแบบ “Slim-Tower” Floor-standing Speakers เนื่องเพราะนอกจากจะมีรูปทรงที่สูงฉลูดในแบบ Tower แล้ว ยังมีแผงหน้าตัวตู้ที่แคบแทบจะพอดีกับขนาดของวูฟเฟอร์ ทั้งนี้ทั้งนั้นการออกแบบให้มีลักษณะตัวตู้แบบ Slim-Tower style เยี่ยงนี้ก็เพื่อให้สอดรับสัมพันธ์กับการติดตั้ง-ใช้งานไดรเวอร์ขนาด 165 มม. ทั้ง 4 ตัว ทำให้สามารถออกแบบแผงหน้าตัวตู้ลำโพงเป็นแบบ แผงหน้าแคบ – แทบจะพอดีกับขนาดวูฟเฟอร์นั่นเอง

ด้วยว่า แผงหน้าตัวตู้ที่แคบ – แทบจะพอดีกับขนาดวูฟเฟอร์นั้น ย่อมจะส่งผลต่อการลดทอนพื้นที่ตกกระทบ-สะท้อน-หักเหของเสียงบนแผงหน้าตัวตู้โดยตรง เสียงที่รับฟังจึงถึงได้ว่า แทบจะไร้ซึ่งอาการ early diffraction กันเลยทีเดียว เมื่อมาผสานร่วม “ขนาด” ของวูฟเฟอร์/มิดเรนจ์ที่พอเหมาะพอสม (165 มม.) ก็จะสามารถทำหน้าที่ขับขานเสียงได้ “ดีที่สุด” ในช่วงความถี่ที่ครอบคลุมตั้งแต่ช่วงย่านความถี่เสียงต่ำขึ้นไปจนถึงช่วงย่านความถี่เสียงกลาง นอกจากนี้ ขนาดที่พอเหมาะพอสมของวูฟเฟอร์ /มิดเรนจ์นี้ ก็จะส่งผลไปยังการ “สอดประสาน” สัมพันธ์การทำงานที่ดี ร่วมกับทวีตเตอร์แบบ DPC-Array ที่ Perlisten Audio เรียกขานว่า full range tweeter มารับภาระหน้าที่ในการขับขานช่วงย่านความถี่เสียงกลาง-สูง และความถี่เสียงสูงขึ้นไปได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน

อีกทั้งจากการศึกษาอย่างลึกซึ้งตลอดระยะเวลายาวนานนับทศวรรษ ทำให้พบว่า การออกแบบตัวตู้ลำโพงให้มีแผงหน้าที่แคบ แต่ลึกเข้าไป (narrow-and-deep enclosure) แทบจะพอดีกับขนาดของไดรเวอร์ (มิดเรนจ์/วูฟเฟอร์) นั้นจักส่งผลดีต่อการส่งมอบ “อิมเมจเสียง” ที่โดดเด่นกว่าธรรมดา ระบบลำโพงยุคใหม่อย่าง Perlisten Audio ก็เลยออกแบบให้มี “ขนาดตัวตู้” ที่ไม่สูญเสียพื้นที่ตั้งวางมากนัก ด้วยการมีรูปทรงตัวตู้ที่สูงฉลูด และเพรียวบาง พร้อมด้วยแผงหน้าแคบ แต่ลึก-ยาว ทำให้ไม่ต้องสูญเสียพื้นที่ตั้งวางมากนัก จึงลงตัวได้กับห้องฟังในบ้านที่ต้องการพื้นที่ใช้สอย หรือไม่ต้องการใช้ลำโพงที่มีขนาดใหญ่โตอะไรนัก ทว่าเน้นหนักที่ประเด็นเรื่องคุณภาพเสียงอันดีเยี่ยมเป็นสำคัญ

ขอยืนยันว่า “R7t” นั้น “ชอบ” ที่จะถูกตั้งวางให้ “หนีห่างจากผนัง” ทุกด้าน (พื้น-ผนัง) เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงสะท้อนจากบริเวณรอบข้าง พร้อมด้วยการตั้งวางแบบหน้าตรงหรือขนานกับผนังห้องด้านข้าง มากกว่าที่จะโท-อิน (toe-in) หรือวางเฉียงเอียงหน้าตัวลำโพงเข้าหากัน อันจะทำให้ได้มาซึ่งลักษณะ “สนามเสียง” ที่กว้างขวาง แผ่ใหญ่ กระจายตัว (spacious) มีการโอบล้อมของบรรยากาศรายรอบ (ambience) พร้อมด้วยความลึกของเวทีเสียงที่เด่นชัดและนิ่งสนิท ไม่ไหวตัววูบวาบแกว่งไปมา สามารถส่งมอบการรับรู้ได้ถึงสภาพเสียงที่มีหน้า-มีหลัง ให้ความรู้สึกถึงความถอยลึกเข้าไปในเวทีเสียงอย่างเด่นชัด สามารถรับรู้ได้ถึงตำแหน่งแห่งที่-การวางตัวของเสียงแต่ละเสียง และมีระดับสูง/ต่ำได้อย่างชัดแจ้งครบถ้วนส่งมอบสภาพ-ลักษณะเวทีเสียงที่ทั้งแผ่กว้างและลึก (อย่างน่าทึ่ง) ทั้งยังรับรู้ได้ถึงสภาพการโอบล้อมทางเสียงอย่างโดดเด่นอีกด้วย

ซึ่งในระดับการรับฟังที่ความดังปกติ (ไม่เร่งเสียงดังมากๆ) คุณจะสัมผัสได้ในสภาพความแผ่กว้างของเสียงเต็มพื้นที่ห้อง ถอยลึกเลยผนังหลังห้องฟังเข้าไป แยกเป็นแถว/ชั้นของเสียงชัดเจน บ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่เกิดขึ้นได้แน่นอน โดยไร้ซึ่งอาการเสียงเดินหน้า (forward) หรือว่า จัดจ้า หรือแม้กระทั่งอาการที่มักเรียกกันว่า ขึ้นขอบ “R7t” จักส่งมอบรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ออกมาให้ได้รับฟัง เฉพาะอย่างยิ่งกับความรู้สึก-รับรู้ถึงมวลอากาศรายรอบ และความมีชีวิตชีวาของชิ้นดนตรีอะคูสติกชนิดต่างๆ ชนิดที่ว่า มีความรู้สึกอันสมจริงยิ่งนัก

“R7t” จะส่งมอบเสียงของชิ้นดนตรีชนิดต่างๆ เสมือนลอยล่องออกมา ผลุดโผล่จากตรงโน้นตรงนี้ มีตำแหน่งแห่งที่ชี้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเสียงกีต้าร์-เสียงเปียโน-เสียงไวโอลิน-เสียงเครื่องสายทั้งหลายเรียกได้ว่า แทบจะมองเห็นเป็นเส้นสายที่สั่นไหวกันเลยทีเดียว ซึ่งนี่สำแดงให้เห็นถึง การผสานทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว ระหว่างวูฟเฟอร์แบบ HPF diaphragms ขนาด 165 มม. จำนวน 4 ตัว และทวีตเตอร์แบบ DPC-Array ที่เป็น Silk Dome จึงทำให้ “R7t” ถ่ายทอดสรรพเสียงที่เปี่ยมด้วยรายละเอียด ให้การจำแนกแยกแยะลักษณะเสียงจำเพาะ-เฉพาะตัวของแต่ละเสียง (timbre) ได้อย่างดีทีเดียว ทั้งยังสามารถส่งมอบการผุดโผล่ของรายละเอียดเสียงระยิบระยับ รวมทั้งสัญญาณเสียงฉับพลันได้อย่างทันทีทันใด ให้ทั้งความจะแจ้ง-แจ่มชัด-สดใส พร้อมการเปิดโปร่ง-โล่งกระจ่าง ไร้สภาพ “หมอกควัน” ปกคลุม

อันสืบเนื่องจากอานิสงส์ “ความเบา” ของตัวกรวยลำโพงที่ใช้ ควบคู่การเลือกใช้วูฟเฟอร์ขนาดเล็ก – หลายๆ ตัวทำงานร่วมกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงโดดเด่นอย่างมากในด้าน “ความเปิดโล่ง-โปร่งกระจ่าง-ฉับไว” – “R7t” จึงตอบรับกับสัญญาณฉับพลันได้อย่างทันทีทันใด รับฟังแล้วสะใจมากเรื่องของไดนามิก-ความไหลลื่น และเรี่ยวแรงปะทะ (impact) รวมทั้งรายละเอียดเสียง (detail) พร้อมด้วยเวทีเสียงที่แผ่กว้าง ไล่ระดับความลึก ให้ตำแหน่งแห่งที่อันแจ่มชัดในจินตภาพเสียง (image) สุ้มเสียงโดยรวมไปในทาง-สดใส-กระชับ น้ำหนักเบสที่พอดีๆ ไม่มีล้น หรือ บวม จับจังหวะจะโคน-ท่วงทีลีลาได้ถนัด ที่สำคัญนอกจากจะไม่ปรากฏอาการคลุมเครือ ตีรวน แบ่งแยกช่วงเสียงต่างๆแล้ว ‘เนื้อเสียง’ ทั้งแหลม-กลางและต่ำยังกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน

ว่ากันตามจริงแล้วไซร้ ประโยชน์สำคัญในการเลือกใช้วูฟเฟอร์ขนาด 165 มม. จำนวน 4 ตัวทำงานร่วมกัน (แทนที่การใช้วูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ราวๆ 12 นิ้วเพียงตัวเดียว) ของ “R7t” ได้ส่งผลดีอย่างมากต่อความฉับไวในการตอบสนองต่อสัญญาณเสียง ช่วยให้การเปิดเผยต่อรายละเอียดต่างๆ ทั้งในช่วงย่านความถี่เสียงต่ำและช่วงย่านความถี่เสียงกลางที่คาบเกี่ยวต่อเนื่องกันนั้นทำได้ดียิ่งขึ้น เพราะตัวลำโพงขนาดเล็กก็ย่อมที่จะมีความฉับไวในการตอบสนองได้ดีกว่าวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ที่ย่อมมีความเฉื่อยมากกว่า ทำให้ได้มาซึ่งรายละเอียดเสียงช่วงย่านความถี่เสียงต่ำ-กลางที่ดีขึ้น ครบถ้วนตามต้นฉบับสัญญาณมากขึ้น โดยไม่มีปัญหาข้อด้อยในด้าน “ความถี่ตอบสนอง” และ “น้ำหนัก” ของเสียงในช่วงย่านความถี่ต่ำ

“R7t”  ให้ลักษณะเสียงโดยรวม ที่มีมวลมีน้ำหนัก เพียบพร้อมด้วยความอิ่มฉ่ำ (มีมวลบรรยากาศห้อมล้อมไม่แห้งผาก) และกระจ่างชัดในทุกสรรพเสียง …แน่นอนละครับ “R7t” ส่งมอบเสียงร้องเพลงทั้งชายและหญิงได้อย่างชนิด “สมจริง” เป็นน้ำเสียงของมนุษย์จริงๆ มีตัวมีตน มีวิญญาณ มีลมหายใจราวกับกำลังยืนร้องให้เราฟังกันสดๆ อยู่ต่อหน้าเลยจริงๆ น่าประทับใจ ….น่าฉงนใจมากที่ “R7t” มิได้ใช้ทวีตเตอร์แบบโดมโลหะ ทว่ากลับสามารถส่งมอบบุคลิกเสียงที่สดใส ฉับไว เปล่งประกาย ให้ความกังวานของหางเสียงสูงที่แจ่มชัด ทอดตัวยาวไกล พร้อมๆ กับความฉ่ำชุ่มนุ่มนวลอย่างเป็นธรรมชาติ

ลักษณะน้ำเสียงของ “R7t” ต้องขอบอกว่า เป็นความโดดเด่นที่สำคัญ โดยเป็นเสียงที่มีความกลมกลืนต่อเนื่องนวลเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน สดใส สะอาด มีมวลมีน้ำหนัก (แรงกระทบ-ปะทะ) ให้ความมีตัวตน มีลมหายใจ พร้อมด้วยความคึกคัก กระฉับกระเฉง ไม่โฉ่งฉ่าง ฟังแล้วรู้สึกคึกคัก รุกเร้าใจ สามารถให้การจำแนก-แยกแยะเสียงดนตรีที่ซ้อนทับกันนั้นได้แจ่มชัดมาก รวมถึงสมรรถนะการถ่ายทอด-บ่งบอกจินตภาพและสภาพเวทีเสียงที่ดูจะมีความโดดเด่นมากเป็นพิเศษ (เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถอดหน้ากากออกในขณะรับฟัง) สามารถให้การรับรู้ถึงสภาพเสียงที่นอกจากจะแผ่กว้าง – จนสามารถสร้างความรู้สึกโอบล้อมของบรรยากาศเสียงแล้ว ยังถอยลึกเข้าไปหลังตำแหน่งตั้งวางระบบลำโพงเป็นปริมณฑลเสียงอยู่หลังตำแหน่งตั้งวางลำโพง สามารถจำแนกแยกแยะแถวชั้นของตำแหน่งชิ้นดนตรีได้อย่างมีอาณาบริเวณเป็นอิสระ ปราศจาการเบียดบัง กลบซ้อนทับกัน ทั้งยังไล่ระดับความสูง/ต่ำในตำแหน่งแห่งที่ของสรรพเสียงได้อย่างสมจริง –ราวเป็นเสียง 3 มิติพร้อมด้วยมวลอากาศรายรอบของสภาพบรรยากาศเสียง

สรุปส่งท้าย

“R7t” นับเป็นระบบลำโพงที่สามารถสร้างความประทับใจได้อย่างง่ายๆ เมื่อได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นในด้านน้ำหนัก – ความฉับไว – พลังกระแทกกระทั้น และการตอบสนองความถี่เสียงต่ำที่ทำได้อย่างลึกล้ำ รวมไปถึงความยิ่งใหญ่-อลังการของสุุ้มเสียงที่ส่งมอบออกมา ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยความเอิบอิ่มของน้ำเสียงโดยรวม และรายละเอียดเสียงสอดแทรกต่างๆ ทั้งในช่วงย่านเสียงต่ำ, กลางและสูง ที่ถูกถ่ายทอดอย่างพรั่งพรูบวกกับสมรรถนะอันน่าทึ่ง ในการบ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของสรรพเสียงอันแจ่มชัด รวมถึงการมีตัวตนของเสียงนั้นๆ ในสภาพอิมเมจและซาวด์สเตจอย่างสมจริง

…ไม่โม้ก็เหมือนโม้ละครับ แต่นี่คือความสัตย์จริง ยิ่งฟังยิ่งเพลินอารมณ์ครับ สำหรับ “R7t” ที่ทำให้รับรู้ได้ถึงสารพัดเสียงสอดแทรกต่างๆ ที่ถูกบ่งบอกออกมาจะแจ้งมากๆ สดสะอาด และแจ่มชัดให้ทิศทางที่มาของเสียงนั้นๆ รายละเอียดต่างๆ มีความครบชัด ระบุตำแหน่งแห่งที่ของเสียงได้อย่างมีตัวตน สามารถรับรู้การแยกแยะแถว-ชั้นของเสียง พร้อมด้วยความโปร่งโล่งในมวลบรรยากาศ (airy)

อย่างไรก็ตามจากการรับฟังนั้นรู้สึกได้ว่า “R7t” ดูจะมิได้ถูกมุ่งเน้นไปที่เรื่องของ “ความหนักหน่วง-เข้มข้น” ในพลังเสียงเบสนัก หากแต่ถ้าเป็นในด้าน “ความกระชับ-ฉับไว-แจ่มชัด-สดใส” กันแล้วละก้อ รับรองได้เลยว่า คุณจะถึงกับทึ่งในสมรรถนะของเจ้า “R7t” ที่ไม่ว่าคุณจะปรับเร่งระดับความดังเสียงขึ้นไปเท่าใด ก็จะไร้ซึ่งอาการเสียงเดินหน้า (forward) หรือว่า จัดจ้า ทั้งยังสามารถนำพาตัวคุณให้ได้รู้สึกทึ่งในรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ยิบย่อยที่ “R7t”  ได้ส่งมอบออกมาอย่างน่าประทับใจครับ

ขอขอบคุณ Theater House ที่กรุณาเอื้อเฟือลำโพง Perlisten Audio R7t ในการรับฟังครั้งนี้