Test Report: Monitor Acoustics : Glory A+
การุณชาติ พุกกะเวส
ผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์นี้คือ Mr.Ken Chang ซึ่งมีประสบการณ์ในแวดวงเครื่องเสียงตลอดจนระบบปลั๊ก / ระบบไฟต่างๆ มาประมาณ 30 ปี ในที่สุดความคิดที่ตกผลึก คิดค้นปลั๊กผนังที่มีคุณภาพระดับออดิโอไฟล์อย่างแท้จริงเพราะใช้ตัวนำระดับ breakthrough ที่ไม่เคยมีปลั๊กไฟรายใดใช้มาก่อน แต่นั่นทำให้ต้นทุนการผลิตสูงกว่าคู่แข่งเป็นเท่าตัว ซึ่งก็ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ต่อไป ปัญหาเรื่องราคาผลิตภัณฑ์ที่แพงมากเกินไปจะกลายเป็นตัวขวางกั้นระหว่างนักเล่นกับผู้ผลิต ในที่สุดเขา และทีมงานจึงหาวิธีบริหารต้นทุนให้ไม่แพงจนเกินเพื่อทำตลาดแข่งขันได้นั่นเอง
หลายคนไม่รู้จักแบรนด์นี้เท่าใดนัก เรามาทำความรู้จักกันก่อนเลยครับ แบรนด์ที่ว่าคือ Monitor Acoustics หรือเรียกสั้นๆ ว่า MA ซึ่งเริ่มจากการเป็นร้านจัดจำหน่ายสินค้าไฮเอนด์มากว่า 36 ปีในไต้หวัน ซึ่งประสบความสำเร็จมาก และชาวไต้หวันชอบความพิเศษ เราจึงเริ่มค้นหาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ได้ ในที่สุดเริ่มก่อตั้งแบรนด์ Monitor Acoustics ในปีค.ศ.1993 จากนั้นได้เริ่มพัฒนาสินค้าจนในที่สุดออกสู่ตลาดในปีค.ศ.1996 คือผลิตภัณฑ์กรองไฟรุ่น MA-1586F ซึ่งได้รับการตอบสนองอย่างยอดเยี่ยม โดยทาง MA ยังคงพัฒนาสินค้าต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน เว็บไซต์คือ www.aceaudio.com.tw
อย่างที่บอกกล่าวไปแล้ว Monitor Acoustics ชำนาญในเรื่องระบบไฟ ทางผู้แทนจำหน่ายในบ้านเราจึงได้นำไลน์อัพล่าสุดมาทำตลาด คือ Glory
Glory คือ ผลิตภัณฑ์เครื่องกรองไฟ มีขนาดกะทัดรัด สายไฟเอซีถอดได้ เสียบต่อเครื่องอื่นๆ ได้ 2 เครื่อง จุดเด่นคือใช้ปลั๊กผนังที่ใช้ตัวนำน้องๆ ระดับ breakthrough อย่าง AG-I, AG-H, IG AG-P / IG AG-Q (ที่แยกจำหน่ายต่างหาก) มาใส่ไว้ พร้อมกลเม็ดเคล็ดลับพิเศษอีกจำนวนหนึ่ง แบ่งเป็น 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ รุ่นที่ใช้กับระบบภาพ ใช้อักษร V กำกับ (มี 2 รุ่นย่อย) และรุ่นที่ใช้กับระบบเสียง ใช้อักษรA กำกับ (มี 3 รุ่นย่อย) รวมทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกัน
ผมได้รับเครื่องมาทั้ง 2 ไลน์ (ภาพ และเสียง) อย่างละ 1 รุ่น แต่ผมขอนำเสนอบททดสอบในกลุ่มระบบเสียงก่อน ซึ่งมี 3 รุ่นย่อย เริ่มจากเล็กสุดไปใหญ่สุดคือ Monitor Acoustics : Glory A / Glory A+ / Glory AGR
รุ่นที่ผมได้รับคือ Monitor Acoustics : Glory A+ โดยที่รุ่นนี้เพิ่งผลิตออกมาล่าสุดตามหลัง Glory A / Glory AGR ที่ออกมาก่อนหน้า (ขณะเขียนต้นฉบับยังไม่มีข้อมูลในเว๊บไซด์เลย)
ลองมาเปิดใจกว้างๆ กันดูครับว่า Monitor Acoustics : Glory A+ นี้จะมีคุณภาพเป็นอย่างไร?
คุณสมบัติพิเศษ Monitor Acoustics : Glory A+
– เป็นปลั๊กกรองไฟระดับ Next Generation
– ใช้ปลั๊กผนังรุ่นพิเศษ น่าจะเป็น Berrylium เคลือบทับด้วย Rhodium plated
– ขั้วกราวด์ชุบทอง 24K
– ขาออกเสียบได้ 2 ช่อง
– เบ้ารับ IEC 15 แอมป์
– ผลิตในไทเป ไต้หวัน
ลักษณะทั่วไป Monitor Acoustics : Glory A+
Monitor Acoustics : Glory A+ หัวใจสำคัญอยู่ที่ภายใน ดังนั้นรูปลักษณ์ภายนอกจึงมาในแบบเรียบง่าย ไม่เน้นความหรูหราใดๆ ใช้เหล็กพับขึ้นรูป มีความหนาที่เหมาะสม ไม่บอบบาง พ่นสีระเบิด (ม่วง) ดูสวยงามไม่จำเจ เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ (โปรดอย่าคิดมาก)
แผงด้านหน้าติดตั้งปลั๊กผนัง (หันหน้าออกขนานกับพื้น) ยึดนอต 3 ตัว (ตัวกลางทำหน้าที่กราวด์ด้วย) มุมขวาติดสติ๊กเกอร์วงกลมบรรยายสรรพคุณพิเศษ
ด้านข้างซ้าย และขวา ไม่มีอะไร
ด้านบนฝาหลัง เว้าเป็นหลุมตื้นๆ เกือบเต็มพื้นที่ ปลายด้านหนึ่งโค้งเว้า แล้วติดสติ๊กเกอร์พื้นสีขาว แล้วบรรยายสรรพคุณ เช่น ชื่อยี่ห้อ, รุ่น สำหรับ Audio พร้อมระบุสถานที่ผลิตคือ ไทเป ไต้หวันอย่างชัดเจนด้วยตัวอักษรสีทอง เรียกว่าไม่ต้องทำเป็นปกปิดใดๆ หรือแกล้งว่าผลิตจากอเมริกาหรือยุโรปเพื่อสร้างความมั่นใจได้ดีกว่า?!!…
แผงหลังติดตั้งเบ้ารับ IEC แบบ 15 แอมป์ ยึดนอต 2 ตัว เพียงอันเดียวที่กึ่งกลางเครื่อง มุมขวาบนมีป้ายรุ่น A+ กำกับไว้ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นรุ่นปรับปรุง น่าสังเกตว่าไม่มีสวิตช์เปิดปิดใดๆ ทั้งสิ้น (มั่นใจว่าไม่มีสวิตช์คุณภาพต่ำจะมาทำลายคุณภาพเสียง)
ด้านล่างยกลอยด้วยก้อนยางสีดำทั้ง 4 มุม โดยที่เยื้องๆ นอตตัวหนึ่งมีนอตยึดอะไรบางอย่างภายในเครื่องอยู่ 1 ตัว
สเปคของ Monitor Acoustics : Glory A+
– รองรับกระแส 10A-250V
– ขนาด (กว้างxลึกxสูง) 90x140x62 มิลลิเมตร
– หนัก ระหว่าง 0.818-0.868 กิโลกรัม
อุปกรณ์ที่ใช้ทดลอง Monitor Acoustics : Glory A+
แหล่งโปรแกรม ; Panasonic : DMP-BDT330 (โมดิฟาย), Pioneer DV-400 (โมดิฟาย), โน้ตบุ๊ค HP G42, CPU Core [email protected] GHz, RAM 2 GB
DAC ; Arcam : irDAC, Audiolab : M-DAC
เอ/วี รีซีฟเวอร์ ; Pioneer : VSX-LX70
เพาเวอร์แอมป์ ; Accuphase : A35, Odyssey : Stratos
ลำโพง ; Focus Audio : FP70 SE / FPC SE Center / FS6 SE, Sonus Faber : Concerto Home / Solo Home / Concertino Home
โปรเจ็คเตอร์ ; JVC : DLA-RS10
จอรับภาพ ; Stewart : Grayhawk RS (Reference Screen) 92 นิ้ว
แอคทีฟซับวูฟเฟอร์ ; Velodyne : CT-150
สาย USB ; Entreq : Konstantin, AudioQuest : Carbon
สายดิจิตอล ; Supra : EFF-i(WBT), Canare
สายสัญญาณ ; Kimber Kable : Hero (RCA WBT-0144), Monster : Sigma Retro
สายลำโพง ; Kimber Kable : 8TC
สายภาพ HDMI ; Monster Cable : isf2000HD, Monster Cable : MC1000
สายสัญญาณซับวูฟเฟอร์ ; Monster Cable : M1000SW
สายไฟเอซี ; JPS : In Wall, Kimber Kable : PK10, Sine : Cassio PC, Voodoo Cable : Thunder (2014), Halu Cable, Monster Cable : Power Line 300, Supra : LoRad เบิ้ล 2 เส้น, Acoustic Zen : CL-3, Hovland : Mainline
ระบบไฟ ; ฟิวส์ Furutech : TF-15A, Marsh Sound Design : 10A, SB (Sound Box) : 5A, ปลั๊ก Wattgate : 381, FIM : 886, Cruze First Audio : Maestro, ฝาครอบเต้ารับ FIM : 308-1, ตัวกรอง DC ของ Perfect Power : Super DC Filter, Wood Block : Versalab ตัวคุมไฟ Silicon : VR-100ie, ตัวกรองไฟ Monitor Acoustics : Glory A+, Monitor Acoustics : Glory VGR
อุปกรณ์เสริม ; ชั้นวาง Tombo Audio : PPSC-01 Magic Silk, Brightstar Audio : Big Rock I, XAV #111, Audio Arts : Trisolators, Audio Arts : Classic II, Master Stand Base : 2217, ขาตั้ง Totem T4, Target Audio : ST50, JM Labs : Utopia, ที่รองสาย Cable Elevator, Shunyata : Dark Field, Shunyata : Dark Field Mini, Cardas : Multi Blocks, Cardas : Notched Myrtlewood Blocks, ที่รองเครื่อง / ทิปโท Tombo Audio : TT-01 Magic Spike, Symposium : Rollerblock Series 2, Michael Tender Feet, JJ : Screw Cone, Hi-Fi Block ที่ทับเครื่อง Brightstar Audio : Little Rock, ก้อนอิทธิเจ, VPI : HW dB-5, XAV : EMX-9, อื่นๆ Cardas : RCA Cap, Omni Mount : PMD2
อุปกรณ์ควบคุมสภาพอะคูสติก ; แผ่นซับเสียงสูตร RPG, XAV : G-Sap เบอร์ 1, เบอร์ 2, XAV : Trap + XAV : Base Trap, จิ๊กซอว์ PRS, Room Tune : Michael Green Audio + Echo Tune
การติดตั้ง และการเซ็ทอัพ Monitor Acoustics : Glory A+
การติดตั้ง Monitor Acoustics : Glory A+ ถือว่าง่ายมาก ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด จริงๆ จะวางแอบๆ ไว้มุมไหนก็ได้ แต่หากหวังผลสูงสุด อย่าวางบนพื้นพรมโดยตรง ควรวางบนชั้นวางโดยเฉพาะ (บางยี่ห้อทำชั้นวางไซด์ย่อมๆ สำหรับงานนี้ออกมาแล้วด้วย) ตำแหน่งของสายไฟเข้าเครื่องกับขาออกอยู่คนละด้านกัน ควรพิจารณาให้เหมาะสมว่าควรจะหันหน้าปลั๊กไปทางใด ส่วนเบ้ารับแบบ IEC 15 แอมป์นั้น ข้อดีคือ หาสายไฟได้ง่ายกว่า หากติดตั้งแบบท้าย 20 แอมป์มา จะหาสายไฟได้ยากกว่า ต้องสั่งมาเฉพาะ
การเซ็ทอัพ ไม่มีอะไรมาก เป็นแบบ Plug and Play เสียบแล้วใช้ได้เลย
ผลการลองฟัง Monitor Acoustics : Glory A+
ตัว Monitor Acoustics : Glory A+ เป็นเครื่องใหม่ เบื้องต้นผมจึงเสียบเพื่อเบิร์นในห้องนอนก่อน ตัวปลั๊กมี 2 ช่องเสียบจึงใช้งานร่วมกับอินทีเกรทแอมป์ และเครื่องเล่นบูลเรย์ กว่าจะเสียบปลั๊กทั้ง 2 เครื่องเข้าไปในครั้งแรกได้นี่.. ให้ความรู้สึก “ฟิต” สุดๆ (ของใหม่คุณภาพเยี่ยมมักเป็นแบบนี้)
รูปลักษณ์นั้นอาจแลดูคล้ายคลึงกับ Shunyata : Hydra 2 ไม่น้อย (ผมเคยทดสอบไปเมื่อปี พ.ศ.2549) ยังดีที่ตัวถังพ่นสีม่วง ลดการจำเจของกล่องสีดำๆ หรือเงิน รบกวนดูรูปสีทาง facebook ของ What Audio-Video? นะครับเดี๋ยวจะโพสต์ให้ดู นอกจากนี้น่าจะมีโทนสีที่สดใส เช่น เหลือง / เขียว / แดง ฯลฯให้เลือก อาจจะแลดูสวยงามมากกว่านี้ (เลือกเข้ากับสีห้อง สีอุปกรณ์อื่นๆ ที่มี)
เรามาดูสเปครุ่นล่างกับรุ่นท๊อปไปพลางก่อน
| GLORY A | GLORY AGR | |
| Color | Purple | Gray |
| Weight(PC) | 0.818 kg | 0.868 kg |
| ISOLATED METAL CABINET: | YES | YES |
| FILTER MODE: | LINE FILTER -47db | LINE FILTER -53db / With Ground Filter |
ส่วนรุ่น Glory A+ เพิ่งออกจึงไม่มีให้ดูแต่ก็ต้องอยู่ระหว่าง 2 รุ่นนี้ละครับ ผมเปิดเบิร์นทิ้งไว้ 2 ชั่วโมงแล้วเริ่มดู ตอนแรกผมเองไม่ได้คิดว่า เสียบปุ๊ป Monitor Acoustics : Glory A+ จะต้องแสดงผลต่างทันที แต่ที่ไหนได้ ผมพบว่าให้การแยกแยะชัดเจน มีซ้ายมีขวา เสียงพูดอยู่ตรงกลาง (ฟังแค่ 2 แชนแนล) น้ำหนักเสียงดี ปลายแหลมฉ่ำเป็นประกาย ไม่หยาบกร้านใด จริงอยู่ลำโพงก็มีส่วนช่วย (ลำโพง Focus Audio : FS6 SE) แต่ผมก็ไม่ได้เปิดดังมาก ความเป็นตัวตนจึงไม่น่าจะหลุดลอยออกมาชัดเจน แต่ก็กลับทำได้ดี แถมรับรู้โดยง่าย Harry Potter and The Order of Phoenix (ดีวีดีโซน 3 Dolby Digital 5.1)
พงษ์พัฒน์ Kita KTG-029 เสียงเพลงที่ถ่ายทอดออกมามีสากเสี้ยนลดลง สวิงได้ลื่นไม่สะบัด คล้ายเติมความฉ่ำมากขึ้น เบสมีมวลที่ชัดเจน
ตลอดเวลาใช้งาน แม้ตอนไม่เปิดแอร์ ตัวเครื่องจะไม่มีความร้อนใดๆ แพร่ออกมาเลย สบายใจได้ไม่ว่าจะนำไปใช้งานในสถานการณ์แบบใด
ดูแล้วมีแววน่าชื่นชม จากนั้นรีบเบิร์นอินจนครบ 100 ชั่วโมง แล้วก็นำมาต่อเข้าในห้องโฮมเธียเตอร์ โดยเครื่องที่นำมาต่อเข้า Monitor Acoustics : Glory A+ คือเพาเวอร์แอมป์ และเอ / วี รีซีฟเวอร์ ส่วนวิธีการต่อก็มีหลายวิธี ขึ้นกับจำนวนเครื่องในซิสเต็มว่ามีกี่ชิ้น มีเครื่องกรองไฟอื่นๆ หรือไม่? ต้องทดลองสลับดูกันเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดนั่นเอง
ผมปล่อยให้ระบบเข้าที่ก่อน 1 วัน แล้วค่อยเริ่มฟัง แนะนำว่ายิ่งถ้าเบิร์นนานๆ ยิ่งดีมีช่วงหนึ่งที่ใช้งานผ่านระดับ 200 ชั่วโมงเสียงจะดีขึ้นไปอีก
ผมต้องไปค้นข้อมูลเพิ่มเติมดู ได้มาดังนี้ Monitor Acoustics ได้ทำตัวต้นแบบ Glory ขึ้นมากว่า 100 ตัว เพื่อหาค่าเฉลี่ยต่างๆ ใช้อุปกรณ์อ้างอิงที่เชื่อถือได้ ส่วนรุ่น AGR นั้น ความพิเศษคือ การฟิลเตอร์ที่ตัวกราวด์ จึงเป็นที่มาของอักษรย่อ GR ส่วนตัว A+ คงต้องมีความพิเศษบางอย่างเพิ่มขึ้นมาจากรุ่นเริ่มต้น ซึ่งรายละเอียดที่มากกว่านี้ รบกวนติดต่อผู้แทนจำหน่ายฯ จะให้คำตอบได้ดีที่สุดครับ
เริ่มดูกันดีกว่า Cars (Blu-ray แผ่นญี่ปุ่น Dolby True HD 6.1) เสียงพูดชัดเจน ย้ำหนักเบาสอดใส่อารมณ์ดีขึ้น มุมกล้องจะเปลี่ยนไปทางใดเสียงจะแสดงความใกล้ไกลของตัวละครได้อย่างถูกต้อง ฉากก่อนแข่งรถแสดงเสียงพูดพิธีกรที่มี 2 คันคู่กันได้ในตำแหน่งเยื้องห่างจากจุดศูนย์กลางออกไปทางซ้ายและขวา.. ไม่ได้มาจากตรงกลาง!!
Initial D (Blu-ray แผ่นฮ่องกง, LPCM 5.1) ให้บรรยากาศโอบล้อมดีมาก สนามเสียงเชื่อมโยงอย่างต่อเนื่อง น้ำเสียงหนักแน่น มีพลัง ไดนามิกรุนแรง การสวิงค่อยดังทำได้ดีขึ้น ความใสของชิ้นดนตรีที่ดี ไม่ฟุ้งจนเกินไป
Young Detective Dee : Rise of The Sea Dragon (Blu-ray แผ่นไทย dts HD 5.1 Master Lossless Audio) บรรยากาศโอบล้อมดี การแพนทิศทางแยกแยะดีถูกต้องสอดคล้องกันดี ไดนามิกรุนแรง ไม่ตื้ออั้น สวิงเสียงกว้าง เวทีเสียงกว้างขวางโอ่อ่า ความถี่ต่ำอิ่มแน่น เด้งตัวดี ฟังแล้วสะใจดี ปลายแหลมสะอาดมีความนุ่มนวล ไม่มีการบาดหู มีความกังวานดี
G.I.Joe : Retaliation (Blu-ray แผ่นอเมริกา Dolby True HD 7.1) ปลายแหลมสะอาด เปิดโปร่งดีมาก เสียงกลางโฟกัสดี ความถี่ต่ำจากการต่อสู้หรือยิงปืนต่างๆ ให้แรงปะทะอิ่มแน่นดีมาก บรรยากาศโอบล้อมดีเซอราวด์พรั่งพรู ไดนามิกรุนแรงหนักแน่นดี สวิงเสียงกว้าง ไม่ตื้ออั้นใด
ดูดีวีดี Ender’s Game (ดีวีดีโซน 3 Dolby Digital 5.1) ให้การแพนทิศทางถูกต้อง เวทีเสียงกว้างขวาง โอ่อ่า บรรยากาศโอบล้อมพรั่งพรู ไดนามิกรุนแรงสะใจขึ้น
ลองฟังเพลงจากแผ่นซีดี ไซ่ฉิน Golden Voice Vol.1 (BM-206003) ถ่ายทอดความนุ่มนวลที่ดี ให้การแยกแยะซ้ายขวาได้ดี ปลายแหลมสะอาด ไม่จัดจ้าน เบสอิ่มแน่นมีน้ำหนักที่ดี
VTL Sampler 2 เสียงเครื่องเคาะสะอาด เปิดโปร่ง มีโฟกัสดีเป็นตัวตน ไล่โน้ตเบสชัดเจน ไล่ระดับขึ้นลงได้น่าฟัง ความถี่ต่ำดีดตัวกระแทกกระทั้นด้วยพลังที่ดีขึ้น เสียงร้องลื่นไหล สะอาด เป็นธรรมชาติมาก
จากไฟล์ Hi-Res และไฟล์ธรรมดาอย่าง MP3 เริ่มจากเพลง Violin Concertos No.4 ของ Mozart ที่ใช้ต้นฉบับแบบ 24 Bits/192 KHz ไฟล์ Flac มีบิทเรทสูงมากระดับ 5,1xx Kbps ช่วงเบาให้ความแผ่วดีขณะช่วงดังก็เปิดเผยอย่างเร้าใจ แสดงการมีไดนามิกที่ดี ไม่ตื้ออั้น เบสสะอาด มีตัวตน เสียงกลางเคลียร์เป็นธรรมชาติ ปลายแหลมสะอาดพลิ้วกังวาน ไม่มีจัดจ้านบาดหูใดๆ
Tears in Heaven อัลบั้ม Good Life ของ Chie Ayado (Flac บิทเรท 2,7xx Kbps) โฟกัสชิ้นดนตรีชัดเจน ปลายแหลมนุ่มนวล เสียงร้องอิ่มเอิบ มีบอดี้ มีพลัง ไม่บอบบาง ความถี่ต่ำกระชับ ฉับไว
Hotel California ของ The Eagle (Flac บิทเรท 9xx Kbps) ปลายแหลมเคลียร์ สะอาด เสียงร้องน่าฟัง ไม่แข็งกร้าว ย้ำหนักเบาดี เสียงเบสนั้นมีน้ำหนักดี
เสียงร้องแหบๆ ย้ำเน้นหนักเบาได้ดี ชัดเจน เสียงหีบเพลงให้บรรยากาศที่เหงาๆ ไทมิ่งดี เสียงจึงมีความออดอ้อนดี Holly Cole Trio : Don’t Smoke in Bed เพลง The Tennessee Waltz (Flac บิทเรท 6xx Kbps)
ทริคในการเล่น Monitor Acoustics : Glory A+
ปลั๊กขาออกของ Monitor Acoustic : Glory A+ สามารถเสียบได้ 2 ชิ้น ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะอั้นใดๆ เสียบเพาเวอร์แอมป์ และเอ / วีรีซีฟเวอร์ได้เลย กรณีจะเสียบอุปกรณ์มากกว่า 2 ชิ้นให้ใช้ปลั๊กลอยมาต่อออกไป แต่แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้ย่อมย่อหย่อนไปตามเกรดปลั๊กลอยที่เลือกใช้ และสายไฟเอซีของ Monitor Acoustic : Glory A+ ควรเสียบเข้าปลั๊กผนังโดยตรง อย่าผ่านเครื่องกรองไฟหรือปลั๊กลอยใดๆ
อีกประการหนึ่ง ปลั๊กกรองไฟ Monitor Acoustic : Glory A+ ราคาไม่แพงมาก แต่อย่าไปคิดว่าใช้สายไฟเข้ายี่ห้ออะไรก็ได้ ตรงนี้ผมได้ลอง 3 เส้น 3 ระดับราคา ระดับ 1หมื่น, 2 หมื่น และ 3.3 หมื่นบาท (แปลงจากค่าเงินสหรัฐเป็นเงินบาทโดยไม่ได้บวกอะไรเพิ่ม) แน่นอนว่าเส้นละ 3 หมื่นกว่าบาทให้ผลลัพธ์โดยรวมที่เหนือชั้นกว่า 2 เส้นก่อนหน้า ทั้งที่ 2 เส้นนั้นก็ไม่ใช่สายบ้านๆ แล้ว แนะนำว่าจุดนี้มีความสำคัญยิ่ง ควรใช้สายไฟเอซีเส้นที่มีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ยิ่งคุณใช้สายไฟมีคุณภาพดีมากเท่าไหร่คุณจะยิ่งแปลกใจในผลลัพธ์ที่ได้ยิน
สุดท้าย Monitor Acoustic : Glory A+ ออกแบบมาให้ใช้งานด้านระบบเสียง อย่าพยายามเอาไปใช้ผิดประเภทด้วยการไปต่อเข้าระบบภาพ แล้วมาบอกว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ครับ จริงอยู่มันอาจจะให้ผลดีเลิศกับบางเครื่อง…แต่เครื่องนั้นคือยี่ห้ออะไรละครับ ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน ใครอยากทดลองหาเครื่องนั้นก็ลองดูได้ครับ
เอาเป็นว่าใครอยากได้เครื่องกรองไฟสำหรับด้านภาพ (ทีวี, โปรเจ็คเตอร์ ฯลฯ) ควรพิจารณารุ่น Glory V และ Glory VGR ดูละครับ
บทสรุป Monitor Acoustics : Glory A+
การเน้นที่ระบบไฟเป็นหลักนับเป็นแนวคิดที่ถูกต้อง และคุ้มค่าที่สุดในการลงทุน เนื่องจากเห็นผลต่างที่ชัดเจน ดีกว่าไปเล่นปลายทาง (ลำโพง) เป็นแสนๆ บาท เมื่อกระแสไฟสะอาดแล้วเครื่องต่างๆ จึงทำหน้าที่ได้มีประสิทธิภาพที่สุด และปลั๊กกรองไฟ Monitor Acoustics : Glory A+ มีรูปลักษณ์กะทัดรัด สีสันแปลกตา จัดทำในแบบ Plug and Play คือ ซื้อมาเสียบแล้วเล่นได้เลย ไม่ต้องลงมือประกอบใดๆ เหมาะกับท่านที่เสียบเครื่องเข้าที่ปลั๊กผนังในกำแพงโดยตรง ลองเพิ่ม Monitor Acoustics : Glory A+เข้าไป รับประกันถึงความแตกต่างที่จะได้ยิน!!
กับประสิทธิภาพที่ได้รับ ทำให้ผมชื่นชอบอย่างมาก ขนาดซิสเต็มผมเคยลองใช้ปลั๊กลอยเทพฯ ระดับ 3 หมื่นกว่าบาทที่ไฟน์จูนมาอย่างดีแล้วยังไม่ประทับใจเหมือนฟังผ่าน Monitor Acoustics : Glory A+ ตอนนี้เลย ผมเก็งราคาไว้คร่าวๆ ต้องมีไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท แต่พอทราบว่าขายกันไม่ถึง 1 หมื่นบาท…ขอบอกเพียงประโยคเดียวว่า “จัดไว้คนละเครื่อง” เถิดครับ ส่วนท่านใดจะต่อยอดเพิ่มอีกสัก 1-2 เครื่องเชิญตามอัธยาศรัยเลยครับ
| – Look; ชิ้นงานกะทัดรัด จัดวางง่าย
– Like; สีม่วงที่สร้างความแปลกตา ไม่จำเจ – Love; ความยอดเยี่ยมของเสียงที่ถูกอัพเกรดขึ้น |
