รีวิว PIEGA: ACE 30 ลำโพงวางหิ้ง

0

Mongkol Oumroengsri

PIEGA เป็นแบรนด์ลำโพงชื่อดัง ซึ่งมีที่มาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดินแดนแห่งมีดพกทหาร และนาฬิกาชั้นยอด รวมทั้งชอคโกแลตเลิศหรู กระทั่งความสวยงามแห่งเทือกเขาแอลป์อันเลื่องชื่อ ทว่าสวิสเซอร์แลนด์ก็เป็นแหล่งก่อกำเนิดเครื่องเสียงชั้นสุดยอดด้วยเช่นกัน “PIEGA” นั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อกว่า 35 ปีมาแล้วในปีคศ.1986 โดย Leo Greiner และ Kurt Scheuch ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้มีความหลงใหลในเสียงไฮ-ไฟอย่างคลั่งไคล้ จึงได้มุ่งเน้นไปสู่การบุกเบิกลำโพงที่ให้คุณภาพเสียงอันไม่มีใครเทียบได้ และสง่างามเหนือกาลเวลาควบคู่กัน นำไปสู่การจัดตั้งบริษัท PIEGA SA ร่วมกันตั้งอยู่ในเมือง Horgen ริมทะเลสาบซูริก (Lake Zurich)

คำว่า Piega นั้นมีความหมายว่า “พับ” (fold) ในภาษาอิตาลี โดยที่ยังอ้างอิงไปถึงความเป็นลำโพงแบบริบบอน (ribbon speakers) ซึ่งนับเป็นจุดเด่นของลำโพง PIEGA จนเป็นที่รู้จักกันดี โดยที่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ได้สร้างชื่อให้กับลำโพง Piega ควบคู่กับความเป็นลำโพงแบบริบบอน นั่นก็คือ การใช้วัสดุอะลูมิเนียมเป็นตัวตู้ลำโพง (aluminium cabinets) …โดยที่ Leo และ Kurt มุ่งไปที่วัสดุ extruded aluminium ซึ่งมีความมั่นคงและความแข็งแกร่งตามที่ต้องการ ร่วมกับการใช้วัสดุคอมโพสิตพิเศษ (special composite materials) ซึ่งสัมพันธ์กับความหนาของผนังตัวตู้ นับเป็นปัจจัยการออกแบบที่สำคัญสำหรับการผลิตตัวตู้ที่ให้อคูสติกอันสมบูรณ์แบบของ PIEGA

Leo และ Kurt จึงใช้วัสดุอะลูมิเนียมเป็นตัวตู้ลำโพงมาตั้งแต่ปีคศ.1997 (ช่วงแรกเริ่มนั้นตัวตู้ของลำโพง PIEGA ก็จะเป็นวัสดุประเภทไม้ แต่ด้วยการวิจัยและค้นคว้าอย่างเคร่งครัด ทำให้ Leo และ Kurt รับรู้ได้ถึงความเป็น ideal material ของวัสดุอะลูมิเนียมที่มีคุณสมบัติหลายด้านต่อการนำมาใช้เป็นตัวตู้ลำโพง โดยนับตั้งแต่ปี 1997 เป็นต้นมา ลำโพงทุกซีรี่ส์ของ PIEGA ก็จะเป็นอะลูมิเนียมทั้งสิ้น (อนึ่งเฉพาะ  Classic Series เท่านั้นที่ยังคงความเป็น wooden cabinets เช่นดั้งเดิม)

ลำโพง PIEGA ในปัจจุบันมีซีรี่ส์หลักๆ อยู่ด้วยกัน 4 ซีรี่ส์ ได้แก่ MASTER SERIES, COAX SERIES, PREMIUM SERIES และ ACE SERIES (โดยที่ยกเว้นเฉพาะ MASTER SERIES กับ COAX SERIES เท่านั้น จึงจะไม่มี WIRELESS SERIES เป็นตัวเสริมอยู่ด้วย ในลักษณะของลำโพงแอคทีฟ พร้อม digital technology เพื่อเอื้ออำนวยการเชื่อมต่อแบบไร้สายผนวกมาด้วยในตัว) ทั้งนี้เมื่อกล่าวถึง ACE SERIES ซึ่งนับเป็นซีรี่ส์ที่เพิ่งออกมาล่าสุดนั้น ก็จะประกอบไปด้วย 3 รุ่นด้วยกัน นั่นคือ ACE 50, ACE 30 และ ACE CENTER ซึ่งบ่งบอกถึงว่า ACE SERIES ได้รับการออกแบบมาให้พร้อมใช้งานได้ทั้งเพื่อการดูหนังและรับฟังเพลง โดยที่ ACE 50 จะเป็นลำโพงตั้งวางพื้น ในขณะที่ ACE 30 จะเป็นลำโพงแบบวางขาตั้ง หรือ วางหิ้งนั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น STEPHAN HÜRLEMANN นักออกแบบชื่อดังชาวสวิส (Swiss architect) นับเป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง PREMIUM  SERIES และ ACE SERIES ของ PIEGA

คุณลักษณ์

จริงๆ แล้ว STEPHAN HÜRLEMANN ได้ตั้งใจออกแบบ ACE 30 ให้มีรูปแบบการใช้งานเป็น 2-way system satellite loudspeaker ที่แนะนำให้ใช้งานควบคู่กับ subwoofer ในรูปแบบการใช้งาน 2.1 แชนแนล เพื่อการรับฟังเพลงได้อย่างมีคุณภาพครบสมบูรณ์ ภายใต้ขนาดตัวตู้ – สูง 22 x กว้าง 14 x ลึก 16 ซม. เท่านั้น เรียกได้ว่า แผงหน้าตัวตู้ขนาดเท่ากับกระดาษ A5 (เล็กกว่ากระดาษ A4 ซะอีกอะ) ในขณะที่น้ำหนักแต่ละตู้นั้นอยู่ที่ 3 กก. ซึ่งก็มิใช่น้อยๆ สำหรับมิติขนาดที่เล็กประมาณกล่องใส่รองเท้า โดยมีโครงสร้างตู้อะลูมิเนียมอะโนไดซ์แบบใหม่ (ปราศจากสแตนดิ้งเวฟและให้ความแกร่งขึ้นอีก 30%) ที่มีรูปทรงแบบ C-shaped cabinet profile มีลักษณะยาวรีลู่ไปด้านหลังแบบหยดน้ำ (elliptically shaped) ซึ่งดูหรูหราและมีแผงหน้าแคบเป็นพิเศษ

“ACE 30” มีระบบการทำงานเป็นแบบ 2-ทาง ตู้เปิด (ท่อเปิดจำนวน 1 ท่อ ติดตั้งอยู่ด้านหลังตัวตู้) พร้อมด้วยจุดเด่นในการใช้ริบบ้อนทวีตเตอร์แบบ AMT – 1 ซึ่งมีแผ่นกำเนิดเสียงแบบ folded membrane ขนาด 24 x 36 มม. สามารถให้เสียงความถี่สูงที่เปี่ยมรายละเอียด และมุมกระจายเสียงที่แผ่กว้าง ทำงานควบคู่กับเบส/มิดเรนจ์ขนาด 120 มม. ที่เป็นไดร์เวอร์แบบ MDS เอกสิทธิ์เฉพาะของ PIEGA ที่มีช่วงเคลื่อนตัวของไดอะแฟรมได้ยาวมาก (long-stroke) จึงสามารถส่งมอบไดนามิค และพลังเสียงได้ดีเป็นพิเศษ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการส่งมอบความถี่เสียงโดยรวม ร่วมกับ AMT – 1 ribbon tweeter ได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน ครอบคลุมตั้งแต่ 50 Hz ถึง 40 kHz ค่าความไวเสียง 87 db/W/m อิมพีแดนซ์ 4 โอห์ม กำลังขับแนะนำ 20 – 150 วัตต์ แผงหลังตัวตู้ติดตั้งขั้วลำโพงแบบ Multi Connectors Single-wired คุณภาพสูง

ผลการรับฟัง

อย่างที่ได้บอกไป – STEPHAN HÜRLEMANN ได้ตั้งใจออกแบบ ACE 30 ให้มีรูปแบบการใช้งานเป็น 2-way system satellite loudspeaker ที่แนะนำให้ใช้งานควบคู่กับ subwoofer ในรูปแบบการใช้งาน 2.1 แชนแนล เพื่อการรับฟังเพลงได้อย่างมีคุณภาพครบสมบูรณ์ แต่หากว่า เป็นการรับฟังในห้องขนาดเล็ก และน่าจะเป็นการใช้งานแบบ near field โดยเฉพาะแล้วละก้อ “ACE 30” ก็นับว่าลงตัวนะ และเพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะและคุณภาพอันถ่องแท้ของ ACE 30 การฟังทดสอบนี้จึงไม่มีลำโพงซับวูฟเฟอร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งนับตั้งแต่แกะกล่องออกมาเปิดฟังตั้งแต่ยังไม่ได้เบิร์น-อิน ACE 30” ก็ส่งมอบความโดดเด่นในช่วงย่านเสียงกลางสูง และสูงที่มีความอิ่มฉ่ำ นุ่มนวล ละมุนละไม และให้ความพละพลิ้วดีมากๆ พร้อมด้วยปลายหางเสียงสูงที่ทอดยาวไกลเป็นละอองอณูรับรู้ได้

เนื่องด้วยการใช้ริบบอนทวีตเตอร์แบบ AMT – 1 ซึ่งมีแผ่นกำเนิดเสียงแบบ folded membrane ขนาด 24 x 36 มม. จึงให้พื้นที่ตัวขับเสียงทวีตเตอร์ที่มากกว่าตัวขับเสียงแบบ โดม (dome) ซึ่งด้วยการออกแบบที่ตัวขับเสียงแบบริบบอนนี้สามารถรับภาระหน้าที่ในการขับขานช่วงย่านความถี่ได้กว้างมาก ตั้งแต่ช่วงย่านความถี่เสียงกลางตอนบนครอบคลุมขึ้นไปจนถึงช่วงย่านความถี่เสียงสูงปลายสุด จึงให้ความกลมกลืนกันอย่างมากของเสียงกลางและสูงโดยตลอดทั้งช่วงย่านความถี่ที่รับฟัง

เมื่อผ่านพ้นสภาพการเบิร์น-อิน ACE 30” ก็บ่งบอกถึงความเป็นลำโพงขนาดเล็กที่จิ๋วแต่แจ๋วซ่อนอยู่ในตัว …ซึ่งหากพูดถึงเสียงของลำโพงขนาดเล็กมักจะทำให้นึกไปถึง LS3/5A ที่จริงๆ แล้วได้รับการออกแบบให้เป็นลำโพงมินิมอนิเตอร์เพื่อใช้งานในสถานที่เล็กๆ แคบๆ อย่างในรถโมไบล์ สำหรับการตรวจเช็คเสียงของโฆษก หรือ ผู้ประกาศข่าว ดังนั้นผู้ออกแบบ LS3/5A จึงได้มีการ equalized ช่วงความถี่ราวๆ 160 Hz ไว้ในวงจรตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่ … LS3/5A จึงฟังเพลงร้อง (vocal) ที่ให้ลักษณะเสียงอิ่มหนา มีเนื้อหนัง ในขณะที่ “ACE 30” มิได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นลำโพงมินิมอนิเตอร์ก็จริง แต่เสียงที่รับฟังก็ให้ความแม่นยำที่สูงมาก ไร้ซึ่งการเติมแต่งและบิดเบือน พร้อมด้วยความสดใส ฉับไว เปี่ยมในไดนามิก เนื่องจากการใช้ไดรเวอร์คุณภาพ ร่วมกับตัวตู้ที่เป็นวัสดุอะลูมิเนียม สุ้มเสียงที่รับฟังจึงให้ความถ่องแท้ – น่าฟังอย่างนึกไม่ถึง !

“ACE 30” สร้างความน่าประทับใจในด้านการส่งมอบลักษณะเสียงที่ปลดปล่อย และเปิดโปร่งได้อย่างน่าทึ่งมาก ทั้งในแง่ของความกระชับ ฉับไวในท่วงท่า ควบคุมจังหวะจะโคนของดนตรีได้ดี เสียงเบสก็มีน้ำหนัก และทิ้งทอดตัวได้ลึกพอตัวทีเดียว แม้ว่ามิดเรนจ์/วูฟเฟอร์จะมีขนาดเพียงแค่ 120 มม.ก็ตาม โดยไม่รู้สึกขาดแคลนช่วงย่านความถี่ต่ำเท่าใดนัก แต่สำหรับผู้ที่อยากได้เสียงเบสใหญ่ๆ และลึกล้ำยิ่งกว่าที่เป็น ความเป็น satellite speaker ของ ACE 30 ก็น่าจะมีแอคทีฟซับวูฟเฟอร์ดีๆ เข้ามาใช้งานร่วมด้วย (โดยน่าจะกำหนดจุดตัดความถี่ของแอคทีฟซับวูฟเฟอร์เอาไว้ที่ 30 หรือ 40 Hz ด้วยอัตราความชัน 6dB เพื่อเสริมฐานต่ำๆ ของเสียงเบส โดยไม่รบกวน หรือบดบังความโดดเด่นในช่วงย่านเสียงกลาง แต่ให้ความกลมกลืนได้กับช่วงย่านเสียงต่ำที่ ปลดปล่อยออกมาเป็นหลัก)

ACE 30” โดดเด่นมากในเรื่องของความสดใส สว่าง-กระจ่างแจ้ง ในน้ำเสียงที่ส่งมอบออกมา ทำให้การจำแนกแยกแยะรายละเอียดต่างๆ บ่งบอกได้อย่างระยิบระยับ แจ่มชัด ถนัดหู พร้อมๆ กับสุ้มเสียงที่กลมกลืน-กลมกล่อม ละเอียด ละเมียดละไม ควบคู่ความฉับพลันทันใดอย่างน่าประทับใจ  ใครที่ชื่นชอบกับการรับฟังแบบจับรายละเอียดของเสียงเครื่องเคาะจังหวะ รับรองว่าได้ทุกเม็ดไม่มีพลาด รวมไปถึงเสียงของทรานส์เชี้ยนท์ และแอมเบี้ยนต่างๆ ก็แจ่มชัด ทั้งยังแยกแยะระยะความลึก-ใกล้-ไกลของแต่ละชิ้นดนตรีได้ดีมาก เหลื่อมไปทางซ้ายนิด เยื้องไปทางขวาหน่อย ไม่มีอาการซ้อนทับกัน

ด้วยขนาดตัวที่เล็กกะทัดรัดของ ACE 30” ทำให้รับรู้ได้ถึงสภาพความลึกของเวทีเสียง พร้อมด้วยสนามเสียงที่แผ่กว้าง-แยกแยะแถวชั้น-ตำแหน่งเสียงที่ไม่ซ้อนทับกัน และไม่มีเสียงใดๆ ที่ล้ำหน้าเกินกว่าแนวตำแหน่งตั้งวางลำโพงออกมา แม้ว่า จะให้สุ้มเสียงที่ออกไปทางแจ่มชัด-สดใส ทว่า “ACE 30” ก็จะไม่ทำให้รู้สึกกร้านหู หรือ ล้าหูเมื่อรับฟังต่อเนื่องกันยาวนานทั้งวัน หรือ ทั้งคืน “ACE 30” ยังสามารถทำให้สัมผัสได้ถึงสภาพบรรยากาศ (atmosphere) ในสถานที่ที่บันทึกเสียงนั้นๆ ชัดเจนมาก ให้การรับรู้ถึงความโอฬารของสถานที่บันทึกเสียง พร้อมด้วยความกังวานของเสียงช่วยให้การรับฟังมีความอบอวลของมวลอากาศอย่างสมจริงในเหตุการณ์ที่รับฟัง บ่งบอกได้ถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพโดยรวมของทั้งไดรเวอร์ที่ใช้และครอสโอเวอร์ที่ออกแบบอย่างดี ผ่านวัสดุตัวตู้ที่เป็นอะลูมิเนียมซึ่งไร้บุคลิกเสียงออกมาปลอมปนอย่างสิ้นเชิง

ทวีตเตอร์ AMT-1 ซึ่งเป็นแบบ ribbon tweeter ของ “ACE 30” สามารถส่งมอบบุคลิกเสียงที่สดใส ฉับไว จะแจ้ง เปล่งประกายให้ความกังวานของปลายหางเสียงสูงที่แจ่มชัด ทอดตัวยาวไกล พร้อมๆ กับความฉ่ำชุ่ม นุ่มนวลอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อทำงานร่วมกับมิดเรนจ์/วูฟเฟอร์แบบ MDS ขนาด 120 มม. “ACE 30” จึงให้ความมีตัวตน มีชีวิตชีวา มีวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นเสียงนักร้องหรือเครื่องดนตรีชิ้นใดก็ตามจะถูกถ่ายทอดออกมาด้วยองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ทั้งนี้ตัวขับเสียงแบบ ribbon นั้น นับเป็นตัวขับเสียงที่มีพื้นฐานทางด้านของ electromagnetic อย่างมากที่สุด  – แถบสี่เหลี่ยมยาวของเมมเบรน (membrane) เป็นลอนอะลูมิเนียม ฟอยล์ซึ่งบางมากๆ (ultra-thin aluminium foil) ที่พับไปมา (folded) นั้น (มวลที่เคลื่อนที่ (moving mass) ของเมมเบรนนี้ มีน้ำหนักเบากว่าทวีตเตอร์โดมทั่วไปที่เบาที่สุดถึง 30 เท่า) ซึ่งถูกแขวนลอยอยู่ระหว่างขั้ว (pole) ของแถบแม่เหล็กที่เป็นแม่เหล็กแบบนีโอไดเมียม (neodymium) ให้ความเข้มเส้นแรงแม่เหล็กสูง จะสามารถนำพากระแสสัญญาณในทันทีที่กระแสสัญญาณไหลเข้าสู่ไดอะแฟรม – แผ่นอะลูมิเนียม ฟอยล์ ก็จะขยับออกและขยับเข้า ไปๆ -มาๆ ตามลักษณะสัญญาณไฟฟ้า เกิดเป็นแรงผลักอากาศให้กลายเป็นคลื่นออกมา ผลลัพธ์ก็คือ เสียงที่มีมวลอากาศนั่นเอง

ข้อดีของตัวขับเสียงแบบ Ribbon (เมื่อได้รับการออกแบบ-ใช้งานอย่างถูกต้อง) จะเกี่ยวโยงไปถึง-การสิ้นสูญไป-ในเรื่องของ passband resonances รวมทั้งการบิดเบือนทางเสียงที่ต่ำมากๆ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วไซร้ ตัวขับเสียงแบบ ribbon สามารถให้เสียงที่ไร้ซึ่งอาการต่างๆ อย่าง fizzes, honks และ squawks ที่มักพบได้เสมอกับตัวขับเสียงแบบกรวยหรือโดม และที่สำคัญ ribbon tweeter ยังมีสมรรถนะในการถ่ายเทความร้อนภายในตัวเองที่ส่งผ่านอากาศออกมาในขณะเคลื่อนตัวได้ดีกว่าตัวขับเสียงแบบกรวยหรือโดมอีกด้วย

ขอบอกจากใจครับว่า “ACE 30”  ให้สุ้มเสียงที่เปี่ยมด้วยความกระชับ ฉับไว สดใส กระจ่าง แจ่มชัด โดยเฉพาะรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ที่อุบัติขึ้นอย่างปุ๊บปั๊บ ฉับพลัน ทั้งในช่วงย่านเสียงกลางและสูง – ไม่เพียงแค่ประกายเปล่งปลั่งของเสียงนะครับ การจางหายไปของเสียงต่างๆ ก็ถูกจาระไนออกมาได้ดีมาก ฟังสมจริงอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับสำแดงให้รับรู้ถึงสมรรถนะในการส่งมอบไดนามิกอันน่าประทับใจจริงๆ ครับ ควบคู่กับปลายหางเสียงที่มีประกายทอดตัวยาวไกล ทั้งยังให้ความกลมกลืนกันของเนื้อเสียงที่ดีมาก และให้ความมีตัวตนของแต่ละชิ้นเครื่องดนตรีที่มีทรวดทรง เป็นลักษณะน้ำเสียงที่เปี่ยมในความมีชีวิตชีวา พร้อมด้วยการส่งมอบสภาพเวทีเสียงได้ทั้งลึกและแผ่กว้าง …เวทีเสียงมาลอยเด่นอยู่ต่อหน้า ไล่เป็นชั้นๆ (layered) เข้าไปนั่นเลยเชียวล่ะครับ – อลังการมาก !

สรุปส่งท้าย

“ACE 30” ให้การแยกแยะระยะห่าง-ช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรีก็มีความจะแจ้งมาก ให้การไล่ระดับความลึกในเวทีเสียงที่เพิ่มขึ้นกว่าธรรมดาจากที่เคยรับฟัง รวมถึงความอวบอิ่มมีน้ำมีนวล และความมีตัวตนของทุกสรรพเสียง ทั้งยังให้สภาพมวลบรรยากาศ (airy) และการบ่งบอกความลึกในเวทีเสียงก็ทำได้ดีมาก การรับฟังจากการแสดงสด สามารถส่งมอบบรรยากาศของฮอลล์ หรือสถานที่ที่ใช้แสดงนั้นได้อย่างอบอวลมาก เสียงปรบมือของผู้ชมเวลาชื่นชอบถูกใจในการแสดง ช่างยิ่งใหญ่โอฬาร !! และเกลี่ยระยะชัดลึกแผ่ออกไปไกลมาก ฟากซ้ายจรดฟากขวา ทั้งไม่จับตัวเป็นปึกเป็นก้อนนะครับ เรียกว่าแทบจะเห็นมือไหวๆเลยทีเดียว

“ACE 30” ได้สำแดง “ข้อดี” ของการเป็น ribbon tweeter ร่วมกับตัวขับเสียง MDS ให้ได้ประจักษ์ นั่นก็คือ “ความกลมกลืนกัน” จนได้มาซึ่งความกลมกล่อมของช่วงย่านเสียงกลาง/สูงที่เป็นเนื้อเสียงเดียวกันอย่างนวลเนียนไร้ซึ่งตะเข็บช่วงรอยต่อ (seamless) อย่างแท้จริง ทำให้รับฟังรายละเอียดต่างๆ ในช่วงย่านเสียงกลาง/สูงที่ให้ความมีมิติ มีตัวตน มีเนื้อมีหนัง ฟังเพลงร้องได้เพลิดเพลินจำเริญใจ

…ยิ่งฟังยิ่งสนุก ยิ่งรู้สึกคึกคัก กระฉับกระเฉงในจิตใจ “ACE 30” ทำให้เรารับรู้ถึงสารพัดเสียงสอดแทรกต่างๆ ที่ถูกบ่งบอกออกมาราวกับรายรอบตัวเรา มันจะแจ้งมากๆ สดสะอาดและแจ่มชัดให้ทิศทางที่มาของเสียงนั้นๆ ในขณะที่ช่วงย่านความถี่เสียงกลาง/สูงก็ครบชัด ให้รายละเอียดได้ยิบยับ ฟังแล้วประทับใจยิ่งนัก …ขอบอกครับ

ขอขอบคุณ บริษัท Wanpat 59 จำกัด ที่ได้เอื้อเฟื้อ PIEGA: ACE 30 ให้ทดสอบกันในครั้งนี้


บจก.วันพัฒน์ (59)

Tel : 02 – 1752933-4

Moblie : 081- 8328195

Line ID : https://line.me/R/ti/p/%40cxu4395f