5 อันดับหนังยอดนิยมใน Netflix

0

การุณชาติ พุกกะเวส

Netflix ได้เข้ามามีบทบาทในบ้านเราไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีมาแล้ว รวมหนังหลายประเภทจากทุกมุมโลกไว้ด้วยกัน แน่นอนว่าหนังฮอลีวู้ดยืนพื้น พร้อมซีรีส์ต่าง ๆ มากมาย โดดเด่นคือ ซีรีส์เกาหลี และซีรีส์ที่สร้างโดย Netflix เอง เนื่องจากว่าแต่ละเรื่องงานโปรดักส์ชั่นอลังการสุด ๆ ทุ่มไม่อั้น สเปเชี่ยลเอฟเฟกค์ตระการตา นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาสนุกสนานในหลาย ๆ เรื่อง ฯลฯ เลยทำให้หลายคนชื่นชอบติดกันงอมแงม

ขณะที่ คุณภาพของภาพและเสียงนั้นจะอยู่ที่คุณต่ออะไรไว้ ดูจากไหน เช่น กล่องทีวี ตัวทีวี ฯลฯ ใช้กล่องต่อเข้าทีวีหรือต่อเข้าจอโปรเจคเตอร์ภาพก็ต่างกันไปตามคุณภาพที่เลือก ไม่สามารถระบุได้ว่าอะไรดี เพราะบางคนใช้จอทีวีหมื่นต้นขณะที่บางคนใช้โปรเจคเตอร์ราคากว่า 3 แสนบาทในการดู!! ระบบเสียงก็เช่นกัน ฟังผ่านทีวี ซาวด์บาร์ หรือชุดโฮมฯ คุณภาพก็ดีขึ้นตามลำดับ

บางเรื่อง Netflix จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ 4K / Dolby Atmos แน่นอนว่าใครเล่นทีวี / โปรเจคเตอร์ เป็น 4K ไซด์ 92 นิ้วขึ้นไป ต่อระบบเสียงเข้ากับชุดโฮมฯ แบบ 5.1 แชนแนลขึ้นไปจนถึง Dolby Atmos  ย่อมได้อรรถรสกว่าใคร แต่ไม่ใช่ว่าจอเล็ก ๆ จะดูไม่สนุกนะครับ

ผมเองจุดที่ดู Netflix หลัก ๆ จะเป็นในห้องนั่งเล่น ไม่ใช่ห้องโฮมฯ จอ 43 นิ้วแบบ 4K ระบบเสียงเป็น 2.1 แชนแนล แต่แอบไม่ธรรมดาด้วยการใช้ตัวคุมไฟ UP+ปลั๊กกรอง+ตัวดูดคลื่น+ก้อนแร่+สายไฟเอซีคุณภาพสูง (ไม่แพง)+สาย Optical+แอมป์จิ๋ว+สายลำโพง+ลำโพง Diy+แอคทีฟซับ 10 นิ้ว บอกเลยประทับใจแล้วละครับ

หัวใจสำคัญอยู่ที่การปรับพารามิเตอร์ให้เหมาะสมนั่นเอง ผมค่อย ๆ ปรับ ค่อย ๆ จูนไป อาศัยตา และหูของผมเอง ไม่ได้ใช้เครื่องมือพิเศษใด ๆ ซึ่งจะว่าไปเครื่องมืออาจไม่สำคัญเท่ากับประสาทสัมผัสที่มีนะครับ เพราะแม้คุณจะมีเครื่องมือชั้นเลิศแต่ถ้าไม่เข้าใจ ไม่สนใจความจริงว่าเสียงที่ถูกต้องคืออะไร ยึดติดกับวังวนเดิม ๆ คุณก็ไม่สามารถปรับภาพ และเสียงออกมาดีได้เช่นกัน   

Netflix เอง แบ่งย่อยประเภทหนังไว้มากมาย เผื่อให้คุณค้นหาหนังต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น หรือให้คุณค้นหาเองตามสะดวก นอกจากนี้มีการจัดอันดับ Top 10 ตลอดตามกระแสของหนังที่ลงฉาย เพื่อให้คนที่ไม่รู้จะดูอะไร หรืออยากรู้อยากดูหนังในกระแสสามารถเลือกดูกันสด ๆ ตามอันดับได้เลย ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์สอดคล้องกับคนดูขณะนั้น

ผมอัพเดตช่วงวันที่เขียนต้นฉบับวันที่ 3-5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 อันดับต่าง ๆ เป็นดังนี้   

1. Vicenzo

แปลกตรงใช้ชื่อตัวละครมาตั้งเป็นชื่อเรื่อง ชื่อไทย “ทนายมาเฟีย” เมื่อทนายความหนุ่มอิมพอร์ตจากอิตาลีกับทนายความสาวจากเกาหลี ร่วมกันสร้างกลเม็ดเจ็บแสบเพื่อปราบเหล่าคนร้ายที่พยายามสร้างตึกใหม่โดยย้ายผู้อาศัยในตึกเก่าออกไปด้วยวิธี “เหนือ” กฎหมาย เหมือนเอาด้านสว่างกับด้านมืดมาอยู่รวมกัน ผลลัพธ์คือ น่าติดตาม สนุก ลุ้นระทึก เนื้อหาดีมาก ไม่แปลกใจขึ้นอันดับหนึ่ง มีฉากการฟังแผ่นเสียง และลำโพงฮอร์นประกอบด้วย ฉากอื่น ๆ ไม่เน้นสวยงามเหมือนซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่น ๆ เป็นฉากในชีวิตจริงปกติ เสียงแยกแยะดี ดนตรีประกอบไพเราะ ใช้เพลงคลาสสิคบ่งบอกสไตล์อิตาลีตามคอนเซปท์ได้ดี สกอร์เพลงเร้าใจ   

2. The Mitchells Vs The Machines

หนัง CG ม้ามืดจากโซนี่ หยิบนำความสัมพันธ์ของครอบครัว และการยอมรับในความแตกต่างของตัวเองผสมผสานกับความแอ็คชั่นไซไฟแบบสไตล์หนังวันสิ้นโลก ภาพปกอาจไม่ดึงดูด แต่เมื่อกดเข้าไปดู ผมว่ามันใช่เลย สนุกโดนใจ สะท้อนสังคม ความห่างระหว่างพ่อ-ลูก ค่านิยมต่าง ๆ ได้ดี ดูแล้วดีต่อใจทั้งครอบครัวก็ว่าได้  ด้านภาพถ่ายทอดสีสันสดใส อิ่ม เน้นแม่สีที่ดี โชว์ภาพได้ดี ยิ่งถ้าเป็นจอ OLED / โปรเจคเตอร์ที่แสดงสีได้โดดเด่น รับประกันว่าโดนใจ   ด้านเสียงบันทึกเสียงความถี่ต่ำโดดเด่น เด้งเป็นลูก ๆ มีคลอเกือบทั้งเรื่อง จนผบ.ที่อยู่อีกห้องทักไลน์ว่าให้เบาเสียงหน่อย มันตุ๊บ ๆ ดังทะลุเข้าไป หมดข้อสงสัยในการได้อันดับ 2 ครับ

3. Shadow and Bone

ซีรีส์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ (ตำนานกรีชา) เพิ่งปล่อยตัวอย่างแรกในงาน IGN Fan Fest วันที่ 26 กุมภาพันธ์ และเข้าฉายทั่วโลกวันที่ 23 เมษายน 2564 ทาง Netflix เท่านั้น!! จึงถือว่าพิเศษมาก ๆ หนังเล่าเรื่องราวของโลกที่บอบช้ำจากสงคราม เมื่อ อาลินา สตาร์คอฟ (เจสซี่ เมย์ ลี) เด็กกำพร้าและทหารผู้ต่ำต้อย เธอได้ปลดปล่อยพลังพิเศษที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการกู้อิสรภาพให้กับประเทศของเธอ ขณะที่แดนพยับเงาขนาดมหึมากำลังคืบคลานเข้ามา ทำให้ต้องพึ่งสิ่งที่เหนือกว่าเวทมนตร์เพื่อหาทางเอาชีวิตรอด   ภาพ EP แรกจะเน้นโทนมืด ทีวี / โปรเจคเตอร์ที่มีค่า Contrast ต่ำ ภาพจะกลืนกันไปหมด ขาดรายละเอียด จากนั้นจะดีขึ้นมีเฉดอื่นใน EP.2  ด้านเสียงเน้นบทสนทนา ทั้งหมดจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นใน EP. 3 เชื่อว่าจะขึ้นอันดับ 1 ไม่ยากครับ…

4. อีเรียมซิ่ง

ว่าด้วยเรื่องของ เรียม เจ้าแม่ตัวอิจฉาประจำหมู่บ้าน คนที่เรียมอิจฉาไม่ใช่ใครที่ไหนไกล เป็น แรม พี่สาวเธอนั่นเอง แรมนั้นสวย ทำขนมอร่อย ผิดกับเรียมที่ชอบฝึกวิชาการต่อสู้ ความต่างราวฟ้ากับเหวของทั้งคู่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ เรียมยิ่งอิจฉามากขึ้น แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะการมาของ “แก็งโจรฟันแดง” ที่จับตัวของแรมและแม่ไป จนกลายเป็นวีรกรรมสุดฮา  จุดแข็งไม่ใช่ภาพที่สุดยอด ชัดกริ๊ปหรือเสียงที่เด็ดขาด ไดนามิคถล่มทลาย แต่เป็นเนื้อหาที่สนุกสนาน ถูกใจคนดู ใครดูไม่ฮาน่าจะผิดปกตินะครับ แน่นอนว่ามีน้าค่อม ซึ่งได้จากโลกนี้ไปแล้วร่วมแสดงด้วย แต่ละซีนฮาสุด ๆ เมื่อรวมกับนักแสดงอื่น ๆ ที่มีฝีมือ จึงไม่แปลกใจที่ติดอันดับได้

5. Girl from Nowhere

การจัดลำดับความน่าดูได้คะแนน 7.7/10 · IMDb ถือว่าใช้ได้ น่ายินดีที่เป็นหนังไทยอีกเรื่องครับ ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กผู้หญิงวัยรุ่น แนนโนะ ที่ต้องย้ายโรงเรียนอยู่บ่อยๆ เพราะโรงเรียนไหนที่เธอเข้าไปเธอจะสร้างวีรกรรมไว้เสมอ และคุณจะได้เห็นเรื่องราวของโรงเรียนต่างๆที่คุณไม่เคยรู้ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของซีรีส์ ขณะที่มีมุมกล้องสวยงาม ลำดับภาพน่าตื่นตาตื่นใจ ภาพอาจไม่เน้นสวยงามมาก เพราะทั้งหมดเป็นการสะท้อนปัญหาสังคมปัจจุบัน ซึ่งตีแผ่ได้น่าสนใจ ด้านคุณภาพเสียง บันทึกชัดเจน มีรายละเอียดต่าง ๆ ดี แม้จะแผ่วเบา ความถี่ต่ำคลอตัวได้ดี มีหนักมีเบา แยกแยะได้สมจริง นิยาม “ดูให้เห็นปัญหา และนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมครับ”

ถือว่าหนังที่ติดอันดับทั้ง 5 เรื่องต่างมีความแตกต่างกันในเนื้อหา เลือกดูสักนิด ถ้าไม่ไหวค่อยเปลี่ยน เพราะผมเชื่อว่าแต่ละคนมีความชอบที่ต่างกันไป แต่เชื่อว่าน่าจะชอบ 3 ใน 5 เรื่องละครับ

สำหรับคนที่ดูจอ 40-60 นิ้ว หากอยากให้การรับชม Netflix เป็นไปอย่างมีคุณภาพที่ดีเท่าที่จะทำได้โดยไม่ต้องทุ่มเงินมหาศาล แนะนำเบื้องต้นลองไล่ดังนี้ ปรับภาพให้ถูกต้อง ลองเลือกโหมดเป็น Natural เพื่อให้ค่าสีใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด ใส่สายไฟเอซีคุณภาพสูง เส้นละ 1-2 พัน ถือว่าเริ่มต้นอย่างพอเพียง เสียบผ่านปลั๊กลอยคุณภาพสูง แนะนำหลัก 2-4 พันบาท หรือถ้าประกอบลงบล๊อคไม้ เริ่มด้วย Hubble ก็ได้ ไม่แพง คุ้มราคา จ่ายเท่านี้ถือว่าไม่แพงเกินไป และเพียงพอแล้วที่จะรับชมภาพสวย ๆ จะได้ดูกันยาว ๆ ไปครับ

ส่วนระบบเสียง ลองเพิ่มซาวด์บาร์ซึ่งจะง่ายที่สุด เลือกยี่ห้อตามงบประมาณ เน้นมีตู้ซับฯ ให้ด้วย เป็น 2.1 แชนแนล เสียงจะเต็มอิ่มกว่า จับคู่ผ่านระบบบูลทูธละครับ ง่ายดี เพราะถ้าต่อสาย Optical, HDMI จะต้องเพิ่มเงิน และซื้อแบรนด์ดี ๆ มาอีก ไม่งั้นเสียของละครับ ไม่ต้องพูดถึงการเพิ่มแอมป์ เพิ่มลำโพงแยก ซึ่งจะวุ่นวายกว่านี้อีกละครับ โดยที่ควรอัพเกรดสายไฟเอซีด้วย เส้นละ 1,xxx บาท อาจใช้ 2 เส้น คือ ตัวซาวด์บาร์ 1 และตู้ซับ 1 เพื่อให้คุณภาพเสียงเด็ดขาด มีมวลเข้มข้นขึ้นนั่นเอง เท่านี้ก็สนุกขึ้น 10% ละครับ

ซึ่งถ้าทำตามวิธีนี้ ผมเชื่อว่าระบบจะรองรับได้ 3-4 ปี ไม่ต้องคันบ่อย ๆ เลยละครับ เพราะทุกอย่างดีในระดับของมันเอง ยกเว้นคุณจะเป็นขั้นสุดกว่านี้ อันนั้นคงต้องเล่นระบบจริงจังกว่านี้ ถ้าพร้อมจ่ายนะครับ

ขอให้ทุกท่านสนุกกับเนื้อหาที่มีใน Netflix นะครับ ไว้ครั้งหน้าผมจะแนะนำหนัง / ซีรีส์ที่น่าสนใจที่ไม่ได้อยู่ในอันดับสูงสุด ณ ปัจจุบัน แต่มีความน่าสนใจ ไม่ควรพลาด… สวัสดี