โดย Andy G. (Updated on March 7, 2025)
…ขึ้นชื่อว่า ลำโพง นับเป็นอุปกรณ์ที่ใกล้ชิดการรับฟังมากที่สุดในชุดเครื่องเสียง เพราะหน้าที่ของลำโพงก็คือ แปรรูปสัญญาณทางไฟฟ้าให้กลับมาเป็นพลังงานเสียงที่เรา ๆ ท่าน ๆ รับรู้ หรือ รับฟังได้ หากไร้ซึ่งลำโพงที่ดี มีสมรรถนะสูง คุณภาพเสียงที่รับฟังก็ย่อมยากที่จะชี้ชัดถึงคุณค่าในตัวของลำโพงที่ใช้งาน เสียงที่เรา-ท่านรับฟัง อาจผิดเพี้ยน-เบี่ยงเบนไป ไม่ตรงกับความเป็นจริงอย่างที่ควรจะได้รับฟัง ดังนั้นถ้าเราสามารถประเมินคุณค่าของลำโพงได้…ก็น่าจะดีไม่น้อย และอะไรจะดีไปกว่า หยิบจับเอาเพลงดีๆ ที่เหมาะเจาะจะใช้ในการประเมินคุณค่าของลำโพงอย่างรอบด้าน ให้เรารู้กันเลยว่า ลำโพงที่ใช้งานอยู่ มันมีคุณค่าเป็นอย่างไร หรือว่ามีความโดดเด่นในแง่ใด
…บทความนี้ที่เรียบเรียงมาจาก Andy G. จึงขอนำเสนอเพลงและดนตรีจำนวนหนึ่งที่คัดสรรว่า (น่าจะ) ดีพอนำมาใช้ในการประเมินคุณค่าของลำโพงในแต่ละด้าน(แทบจะทุกด้าน) ซึ่งแยกย่อยออกเป็นการประเมินคุณค่าของลำโพงใน 5 ด้านด้วยกัน :- การตอบสนองเสียงเบสและการควบคุมความถี่ต่ำ/ความชัดเจนของเสียงกลางและการสร้างเสียงร้อง/รายละเอียดเสียงแหลมและการขยายความถี่สูง/ช่วงไดนามิกและสัญญาณฉับพลัน/เวทีเสียง การสร้างภาพ และความลึกเชิงอาณาบริเวณ
เพลงต่างๆ ต่อไปนี้จะเปิดเผยจุดแข็งและจุดอ่อนที่ซ่อนอยู่ในระบบลำโพงที่ใช้รับฟัง ลำโพงนั้นๆ พร้อมรับมือกับความท้าทายนี้หรือไม่? สัญชาตญาณแรกของเราๆ ท่านๆ เมื่อทดสอบลำโพงกัน ย่อมหนีไม่พ้น การนำเอาเพลงโปรด หรือ เพลงที่คุ้นเคยมาเปิดฟัง ถือเป็นวิธีที่ดีในการเพลิดเพลินกับการรับฟัง แต่เพลงที่หยิบจับมารับฟัง อาจไม่ได้เปิดเผยจุดแข็ง หรือ จุดอ่อนทั้งหมดของลำโพง ทั้งนี้ทั้งนั้น “ลำโพง” (Speakers) ต่างจาก “หูฟัง” (Headphones) ลำโพงจะปฏิสัมพันธ์กับห้อง ผ่านการสะท้อนจากผนัง พื้น เพดาน รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ และ สิ่งของต่าง ๆ ในห้อง ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลง ‘สิ่งที่เราควรได้ยิน’ ได้อย่างมาก โดยส่งผลต่อการตอบสนองเสียงเบส, การสร้างภาพสเตริโอ และความคมชัดโดยรวม ในขณะที่ “หูฟัง” ส่งเสียงตรงไปที่หูของเราเลย
สิ่งสำคัญคือ ต้องทดสอบคุณลักษณะเสียงที่สำคัญในแง่ต่างๆ หากต้องการทราบถึงประสิทธิภาพของลำโพงอย่างแท้จริง ซึ่งจากนี้ไปจะอธิบายว่า ควรฟังเสียงประเภทใด และเพลงใดเหมาะที่สุด สำหรับการทดสอบระบบลำโพงที่คุณใช้งาน…เรามาเริ่มกันเลย !
• การตอบสนองเสียงเบสและการควบคุมความถี่ต่ำ (Bass Response & Low-Frequency Control)
เสียงเบส (Bass) สามารถสร้าง หรือ ทำลายระบบลำโพงได้ เมื่อเสียงเบสเหมาะสม เสียงเบสจะช่วยเพิ่มความลึก และพลังเสียง เมื่อเสียงเบสไม่เหมาะสม เสียงเบสอาจฟังดูอืดอาด เฉื่อยเนือง บวม หรือ บาง ระบบลำโพงที่ปรับแต่งมาอย่างดีจะส่งมอบเสียงเบสที่ลึกล้ำ หนักแน่น และทรงพลัง ซึ่งยังคงความกระชับ และควบคุมตัวได้ โดยไม่กลบทับเสียงเบสอื่นๆ ในซาวด์ที่มิกซ์มานั้น
หากฟังแล้ว รู้สึกว่า เสียงเบสบวม (Boomy) หรือ ขุ่นมัว (Muddy) ปัญหาอาจเกิดจากลำโพง หรือ ห้อง-ในทางกลับกัน หากเสียงเบสไม่มีน้ำหนัก (Weight) และ ไม่รู้สึกถึงความทรงพลัง (Authority) ซิสเต็มของคุณอาจประสบปัญหาในการขยายช่วงย่านความถี่ต่ำ
หากต้องการประเมินประสิทธิภาพของเสียงเบส ให้เน้นที่ปัจจัยสำคัญ 2 ประการ
– การยืดขยายและความลึกล้ำ (Extension & Depth) : ลำโพงของคุณสามารถเข้าถึงย่านเสียงเบสต่ำ (ต่ำกว่า 40Hz) โดยไม่เกิดการบิดเบือนได้หรือไม่? คุณควรจะรู้สึกถึงโน้ตที่ต่ำที่สุด แทนที่จะได้ยินเพียงเสียงเท่านั้น
– การควบคุมช่วงจังหวะและความเร็ว (Control & Speed) : เบสควรกระแทกฉับพลัน และหยุดได้ชัดเจน หากโน้ตค้างนานเกินไป หรือ เลอะเทอะในโน้ตถัดไป ระบบของคุณอาจขาดการ Damping และความแม่นยำ
เพลงที่แนะนำ (Recommended Tracks)
ชื่อเพลง | ศิลปิน | อัลบั้ม | ข้อสังเกต |
Flight of the Cosmic Hippo | Béla Fleck and the Flecktones | Flight of the Cosmic Hippo | มาสเตอร์คลาสในด้านความชัดเจน ของเสียงเบสพร้อมด้วยโน้ตเสียงต่ำที่ใสก้องกังวาน และเข้มข้น |
Angel | Massive Attack | Mezzanine | ไลน์เบสที่ลึกและต่อเนื่อง ซึ่งทดสอบทั้งการยืดขยาย (Extension) และการควบคุม (Control) |
Limit to Your Love | James Blake | James Blake | มีเสียงเบสที่ลึกถึงความถี่ต่ำสุด เหมาะสำหรับการ ทดสอบเสียงต่ำของระบบ |
Hysteria | Muse | Absolution | เบสไลน์ที่รวดเร็วและหนักแน่น ซึ่งเผยให้เห็นว่า ซิสเต็มของคุณจัดการกับความถี่ต่ำที่ซับซ้อนและรวดเร็ว ได้ดีเพียงใด |
When the Levee Breaks | Led Zeppelin | Led Zeppelin IV | กลองกระเดื่อง (Kick Drum) ที่มีเสียงก้องกังวานและทุ้มลึก ซึ่งสามารถเผยให้เห็นข้อบกพร่องของลำโพงในความถี่ต่ำได้ |
Summer Madness | Kool & The Gang | Light Of Worlds | ไลน์เบสที่นุ่มนวล ซึ่งควรให้เสียงที่อบอุ่น และชัดเจน ไม่ อืดอาด |
Mookid | Aphex Twin | …I Care Because You Do | เบสอิเล็กทรอนิกส์ที่มีช่วงไดนามิก และเนื้อสัมผัสที่ซับซ้อน ทดสอบว่า ระบบของคุณทำงานได้ดีแค่ไหน |
Bad Guy | Billie Eilish | When We All Fall Asleep, Where Do We Go? | แทร็กเสียงเบสหนักที่จัดทำมาอย่างดี และทันสมัย ซึ่งสามารถ เปิดเผยความไม่สอดคล้องกันในการสร้างเสียงความถี่ต่ำ |
Doin’ It Right | Daft Punk | Random Access Memories | ได้รับการยอมรับถึงเสียงเบสที่หนักแน่น และการแบ่งชั้นเสียง เหมาะสำหรับการทดสอบความชัดเจนในความถี่ต่ำ |
• ความชัดเจนของเสียงกลางและการสร้างเสียงร้อง (Midrange Clarity & Vocal Reproduction)
ช่วงย่านเสียงกลาง (Midrange) ถือเป็นหัวใจของดนตรี เป็นช่วงย่านของเสียงร้อง, เครื่องดนตรีอะคูสติก และท่วงทำนองดนตรี (Melody) หากควบคุมเสียงกลางได้ไม่ดี เสียงร้องก็จะฟังดูฟุ้ง-คลุมเครือ เครื่องดนตรีจะขาดความอบอุ่น และดนตรีก็จะดูไม่มีชีวิตชีวา
ลำโพงที่ดีจะทำให้เสียงกลางมีความชัดเจน สมดุล และถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี ทำให้ทุกรายละเอียดถ่ายทอดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ช่วงย่านเสียงกลางที่ได้รับการปรับแต่งอย่างดีควรจะ :
– สร้างเสียงร้องที่สมจริง และมีพลัง นักร้องควรฟังดูเหมือนว่า พวกเขาอยู่ในห้องเดียวกับคุณ โดยทุกลมหายใจ และระดับเสียงต้องไม่เปลี่ยนแปลง
– รักษาการจำแนกระหว่างเครื่องดนตรี การดีดกีตาร์ โน้ตเปียโน และเส้นสายที่สั่นไหวควรชัดเจน ไม่จมหายไปในเสียงผสมที่สับสน
– หลีกเลี่ยงเสียงที่หยาบ หรือเสียงคมกัดหู ลำโพงบางตัวทำให้เสียงฟังดูเป็นเสียงขึ้นจมูก (นาสิก-Nasal) บาง (Thin) หรือ แหลมใสเกินไป (Overly Bright) เสียงกลางที่เหมาะสมคือ เสียงที่นุ่มนวล (Smooth) เต็มอิ่ม (Full-Bodied) และฟังได้สบาย ไม่เหนื่อยล้าเป็นเวลาหลายชั่วโมง
เพลงที่แนะนำ (Recommended Tracks)
ชื่อเพลง | ศิลปิน | อัลบั้ม | ข้อสังเกต |
Hallelujah | Jeff Buckley | Grace | การบันทึกเสียงร้องที่ใกล้ชิด พร้อมความลุ่มลึกและห้วงอารมณ์ อันน่าทึ่ง-ฟังการควบคุมลมหายใจ และการสั่นเสียง อันละเอียดอ่อน |
Strange Fruit | Nina Simone | Pastel Blues | เสียงร้องที่ชวนหลอน พร้อมอารมณ์ดิบๆ การทดสอบความแม่นยำ ของโทนเสียง และการมีชีวิตชีวาที่ยอดเยี่ยม |
Fast Car | Tracy Chapman | Tracy Chapman | เสียงของ Tracy Chapman ควรฟังดูอบอุ่น ชัดเจน และเป็นธรรมชาติ โดยไม่แหลมหรือมีเสียงตัวเอส (Sibilance) มากเกินไป |
The Chain | Fleetwood Mac | Rumours | เสียงประสานอันไพเราะและเครื่องดนตรีอันซับซ้อนทำให้เพลงนี้เป็นการ ทดสอบความสมดุลและการแยกเสียงกลางที่ยอดเยี่ยม |
Caislean Óir | Clannad | Macalla | แสดงถึงเสียงร้องที่เข้มข้นและล้ำลึก ซึ่งทดสอบความเปิดกว้าง และความลึกของช่วงย่านเสียงกลาง |
Tears in Heaven | Eric Clapton | Unplugged | เสียงกีตาร์อะคูสติก และเสียงร้องควรฟังดูอบอุ่น และสมจริงโดยให้เสียงดีดสาย และการสั่นไหวแต่ละสายอันแจ่มชัด |
It Was a Very Good Year | Frank Sinatra | September Of My Years | เสียงบาริโทนของ Frank Sinatra ควรมีความเข้มข้นและลุ่มลึก โดยไม่มี เสียงขึ้นจมูก (นาสิก) หรือเสียงกลวงๆ |
Diamonds on the Soles of Her Shoes | Paul Simon | Graceland | เสียงประสานเป็นชั้นๆ และรายละเอียดในเสียงกลางที่ซับซ้อนต้องการความ ชัดเจนและการแยกแยะเสียง |
Ain’t No Sunshine | Bill Withers | Just As I Am | เสียงร้องที่ทุ้มนุ่มลึก และมีรายละเอียดอ่อน-แก่ของ Bill Withers ทำให้ เพลงนี้เป็นบททดสอบที่ยอดเยี่ยม สำหรับการมีอยู่ และการแยกแยะ เสียงกลาง |
• รายละเอียดเสียงแหลมและการขยายความถี่สูง (Treble Detail & High-Frequency Extension)
เสียงแหลม (Treble) ทำให้ดนตรีมีประกาย มีบรรยากาศ และมีรายละเอียดที่ละเอียดอ่อน เมื่อทำอย่างถูกต้อง เสียงฉาบจะส่องประกาย สายจะแวววาว และเสียงร้องจะมีความเปิดกว้างและเป็นธรรมชาติ หากทำไม่ถูกต้อง เสียงแหลมอาจฟังดูแข็งกร้าวและเหนื่อยล้า หรือแย่กว่านั้น อาจฟังดูมัวมน อับทึบ และไม่มีชีวิตชีวา
เสียงแหลมที่ดี มีสมดุลควรจะ :
– เสียงฉาบที่ใสปิ๊ง และเป็นธรรมชาติ เสียงฉาบควรดังกังวานอย่างนุ่มนวล ไม่หายไปเร็วเกินไป หรือส่งเสียงดังซ่า (Sizzle) ไม่หยุดหย่อน
– ควบคุมเสียงเสียดสี (Sibilance) ไว้ดีพอ เสียง “S” และเสียง “T” ควรแหลมใส แต่ไม่แหลมจนเกินไป หากเสียงเหล่านี้ทำให้คุณถึงกับสะดุ้ง แสดงว่า มีบางอย่างผิดปกติ
– เปิดเผยรายละเอียดที่ละเอียดอ่อน องค์ประกอบพื้นหลังที่ละเอียดอ่อน สายกีตาร์อะคูสติก และเสียงไวโอลินที่ไม่โด่งเกินไป ควรให้ความรู้สึกมีองค์ประกอบ (Textured) และแจ่มชัด (Distinct)
– สร้างความรู้สึกถึงอากาศและอาณาบริเวณ (ปริมณฑล) เสียงแหลมควรเพิ่มความเปิดกว้าง ป้องกันไม่ให้ดนตรีฟังดูแออัดหรือถูกจำกัด
The Durutti Column : Sketch for Summer Laurie Anderson : Born, Never Asked Miles Davis : Concierto de Aranjuez (Adagio) Portishead : Humming Steely Dan : Do It Again Múm : I’m 9 Today Kamasi Washington : Clair de Lune Sergio Mendes & Brasil ’66 : Night and Day Trent Reznor & Atticus Ross : A Thousand Details
เพลงที่แนะนำ (Recommended Tracks)
ชื่อเพลง | ศิลปิน | อัลบั้ม | ข้อสังเกต |
Sketch for Summer | The Durutti Column | The Return Of The Durutti Column | เสียงกีตาร์ที่สะอาด และแวววาว ทำให้การทดสอบเสียงแหลมนี้ ยอดเยี่ยมมาก |
Born, Never Asked | Laurie Anderson | Big Science | ฟังเสียงแหลม และความเร็วในการบรรเลงของไวโอลิน |
Concierto de Aranjuez (Adagio) | Miles Davis | Sketches of Spain | เสียงความถี่สูงของทรัมเป็ตควรฟังดูสดใส แจ่มชัด ไม่แหลมหรือรุนแรง (จัดจ้า) จนเกินไป |
Humming | Portishead | Portishead | เสียงฉาบ Hi-Hat และ Theremin (เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่มี การสร้างโทนเสียงจากออสซิลเลเตอร์ความถี่สูง 2 ตัว และควบคุม ระดับเสียงด้วยการเคลื่อนไหวมือของนักแสดง) ของซินธิไซเซอร์ ควรมีรายละเอียด แต่ไม่คมกริบจนเกินไป |
Do It Again | Steely Dan | Can’t Buy a Thrill | การผสมผสานระหว่างเสียงคองกา ฉาบไรด์ และเปียโนไฟฟ้า ช่วย ทดสอบการแยกแยะเสียงแหลม และความละเอียดของเสียง |
I’m 9 Today | Múm | Yesterday Was Dramatic- Today Is OK | เพลงอิเล็กทรอนิกส์ที่ชวนฝัน ซึ่งควรจะฟังดูโปร่งสบาย และ แผ่กว้าง พร้อมเสียงแหลมที่ควบคุมได้ |
Clair de Lune | Kamasi Washington | The Epic | เครื่องดนตรีทองเหลือง และเครื่องสาย ควรยืดขยายได้อย่างเป็น ธรรมชาติโดยไม่ให้เสียงโหวงเหวงเปราะบาง (Brittle) |
Night and Day | Sergio Mendes & Brasil ’66 | Equinox | การตีกลองเบาๆ ควรให้เสียงที่คมชัด และแยกเสียงได้ดี |
A Thousand Details | Trent Reznor & Atticus Ross | The Girl With the Dragon Tattoo | พื้นผิวเสียงสังเคราะห์ที่มีเสียงแหลมสูง ควรมีความสดสะอาด แจ่มชัด และไม่ผิดเพี้ยน |
• ช่วงไดนามิกและสัญญาณฉับพลัน (Dynamic Range & Transients)
ช่วงไดนามิก (Dynamic Range) คือ ความแตกต่างระหว่างเสียงกระซิบที่เบาที่สุด กับเสียงดังสนั่นที่สุดในเพลง ลำโพงที่มีช่วงไดนามิกที่ดีจะทำให้ช่วงเสียงแผ่วเบา มีความละเอียดอ่อนและควบคุมได้ ขณะเดียวกันก็ให้เสียงที่ระเบิดออกมาได้อย่างเต็มที่ เสียงฉับพลัน (Transients) หรือเสียงที่ดังและรวดเร็ว เช่น เสียงสแนร์ หรือสายดีด ควรให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉงและแม่นยำ ไม่อืดอาด หรือเลอะเทอะ (Smeared)
สิ่งที่ต้องฟัง :
– การเปลี่ยนจากเบาไปดัง คุณได้ยินรายละเอียดพื้นหลัง (Background) ที่ละเอียดอ่อน ก่อนที่เสียงจะดังขึ้นอย่างกะทันหันหรือไม่? ระบบที่ดีจะรักษาความคมชัด (Contrast) เอาไว้ได้
– แรงกระทบของเครื่องเคาะจังหวะ (Percussion) การตีกลองควรให้ความรู้สึกกระชับและทันทีทันใด ไม่ทึมทึบ (Dull) หรือ ขุ่นมัว (Muddy)
– การแยกเครื่องดนตรีในท่อนที่มีเสียงดัง เมื่อดนตรีเริ่มดัง คุณยังสามารถแยกแยะเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้หรือไม่? หรือว่ามันจะกลายเป็นเสียงที่สับสน-ยุ่งเหยิง?
– รายละเอียดสัญญาณแผ่วเบา (Low-Level Details) แม้จะเปิดฟังที่ระดับเสียงเบา ๆ องค์ประกอบพื้นหลังก็ควรจะยังคงคมชัด แทนที่จะค่อยๆ จางหายไป
เพลงที่แนะนำ (Recommended Tracks)
ชื่อเพลง | ศิลปิน | อัลบั้ม | ข้อสังเกต |
B.Y.O.B. | System of a Down | Mezmerize | คอนทราสต์เสียงที่ดัง กับ แผ่วเบา มากเป็นพิเศษ และจังหวะกลองที่รวดเร็ว |
Tame | Pixies | Doolittle | ตัวอย่างที่ดีของบทกวีที่เงียบงัน ซึ่งระเบิดออกมา เป็นเพลงประสานเสียงที่ดังและดุดัน |
Take the Veil Cerpin Taxt | The Mars Volta | Deloused in the Comatorium | เพลงที่ไม่ธรรมดาที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่าง กะทันหัน และวุ่นวายในระดับเสียงและความเข้มข้น |
Ripley’s Rescue | James Horner | Aliens | เสียงดนตรีออเคสตราที่เร้าใจ จะทดสอบทั้งความ ละเอียดอ่อน และความไดนามิกในสเกลขนาดใหญ่ |
Sea of Love | The National | Trouble Will Find Me | การตีกลองแบบรัวเร็ว และการเปลี่ยนความเข้มข้น ของเสียงร้อง ช่วยให้ออกกำลังได้อย่างมีไดนามิก |
Pockets of Light | Lubomyr Melnyk | Corollaries | การเล่นเปียโนอย่างต่อเนื่องของ Melnyk ต้องอาศัย ความเร็วและความแม่นยำจากลำโพง |
Sketches of Spain-Concierto de Aranjuez (Adagio) | Miles Davis | Sketches of Spain | จับช่วงจังหวะ อันนุ่มนวลและใกล้ชิด รวมถึง จุดไคลแม็กซ์ที่เข้มข้นและสดสว่างเจิดจ้า |
Is It Always Binary | Soulwax | From Deewee | พลังงานอันทรงพลังและเสียงสังเคราะห์อันพุ่งโฟล้ง เน้นย้ำถึงความเร็วฉับพลัน |
Watching You Without Me | Kate Bush | Hounds Of Love | ช่วงไดนามิกที่กว้างขวางพร้อมเสียงร้องกระซิบ และเสียงแหลมที่ฉับพลันทันใดและน่าตื่นเต้น |
• เวทีเสียง, จินตภาพ และความลึกเชิงอาณาบริเวณ (Soundstage, Imaging & Spatial Depth)
การติดตั้งลำโพงที่ดี ไม่เพียงแต่เล่นเพลงเท่านั้น แต่ยังสร้างประสบการณ์อีกด้วย เมื่อติดตั้งลำโพงในตำแหน่งที่เหมาะสม ลำโพงจะแผ่กระจายเสียงได้เกินตำแหน่งจริง ทำให้เครื่องดนตรีดูกระจายตัว (Spread Out) และซ้อนเรียงกัน (Layered) เหมือนการแสดงสด
ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำนี้ สรุปได้เป็น 3 สิ่ง ได้แก่ เวทีเสียง (Soundstage), จินตภาพ (Imaging) และความลึกเชิงอาณาบริเวณ (Spatial Depth)
“เวทีเสียง” คือ ความรู้สึกถึงความกว้างและความลึกในสนามเสียงที่รับฟัง ระบบที่ดีจะทำให้ดนตรีมีความเปิดกว้าง และดื่มด่ำ ไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ระหว่างลำโพง “จินตภาพ” จะทำให้ดนตรีมีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยช่วยให้คุณระบุได้อย่างชัดเจนว่า เสียงแต่ละเสียงมาจากที่ใด กีตาร์อยู่ทางซ้าย กลองอยู่ตรงกลาง และเสียงร้องประสานอยู่ด้านหลังเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมี “ความลึกเชิงอาณาบริเวณ” ซึ่งสร้างเอฟเฟกต์สามมิติ ทำให้เสียงบางเสียงรู้สึกอยู่ใกล้ ในขณะที่เสียงบางเสียงดูอยู่ไกลออกไป แทร็กที่ผสมเสียงได้ดีควรมีการไล่เป็นชั้นๆ (Layers) ไม่ใช่ผนังเสียงแบบเรียบๆ
สิ่งที่ต้องฟัง :
– ดนตรีขยายออกไปเกินระหว่างลำโพงหรือไม่ หรือรู้สึกว่า ติดอยู่ระหว่างลำโพงกระนั้น
– คุณสามารถระบุตำแหน่งเครื่องดนตรี หรือเสียงแต่ละชิ้นได้หรือไม่
– มีความรู้สึกถึงความลึกหรือไม่-บางองค์ประกอบอยู่ใกล้กว่า ในขณะที่บางองค์ประกอบอยู่ไกลออกไป
– เสียงบางเสียงดูเหมือน “ลอย” อยู่ในอากาศ ทำให้เกิด Holographic Effect หรือไม่
เพลงที่แนะนำ (Recommended Tracks)
ชื่อเพลง | ศิลปิน | อัลบั้ม | ข้อสังเกต | |
Bubbles | Yosi Horikawa | Wandering EP | แทร็กนี้มีเอฟเฟกต์เสียงที่ดูเหมือนจะสะท้อนไปทั่วห้อง ทำให้เป็นการทดสอบเชิงอาณาบริเวณอันยอดเยี่ยม | |
Blue Train | John Coltrane | Blue Train | มาสเตอร์คลาสในด้านการแยกแยะเครื่องดนตรี, ความลึก และบรรยากาศของคลับแจ๊ส | |
No Sanctuary Here | Chris Jones | Roadhouses & Automobiles | การแบ่งชั้นเชิงอาณาบริเวณ อันอิ่มอุดม ทั้งในส่วนของเสียงร้อง และเบสที่มีพื้นผิว (Textured) อันลึกล้ำ | |
Royals | Lorde | Pure Heroine | การผสมผสานแบบมินิมอลนิสต์ กับเสียงเบสที่ทุ้มลึก และก้องกังวาน รวมทั้งเสียงร้องที่ควรจะฟังดูมีศูนย์กลาง และใกล้ชิด | |
Take Five | The Dave Brubeck Quartet | Time Out | การบันทึกเสียงแจ๊สส่วนใหญ่มักจะมีการแยกเสียงเครื่องดนตรี ได้ดีเยี่ยม และเพลงนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด | |
Bird on a Wire | Jennifer Warnes | Famous Blue Raincoat | ตำแหน่งเสียงที่สมบูรณ์แบบ และความรู้สึกถึงอาณาบริเวณ ที่เป็นธรรมชาติ | |
Hotel California (Live) | Eagles | MTV Unplugged | ผู้ชมสดและเครื่องดนตรีที่แยกเป็นชั้นๆ ควรทำให้คุณรู้สึกเหมือน อยู่ท่ามกลางการแสดงสดกระนั้น | |
Private Investigations | Dire Straits | Love over Gold | เพลงที่ผสมผสานอย่างสวยงามพร้อมเสียงเบสที่หนักแน่น จินตภาพคมชัด และเวทีเสียงที่ดื่มด่ำ | |
New York Minute | Eagles | Hell Freezes Over | การบันทึกสดนี้ให้ความรู้สึกถึงมวลอากาศ และอาณาบริเวณ ได้อย่างยอดเยี่ยม | |
On Every Street | Dire Straits | On Every Street | การให้ความลึกและการสร้างภาพสเตริโอที่ยอดเยี่ยม |
• เคล็ดลับการทดสอบเชิงปฏิบัติ สำหรับการประเมินลำโพง (Practical Testing Tips for Evaluating Speakers)
ก่อนที่จะตัดสินลำโพงของคุณ สิ่งสำคัญคือ ต้องทดสอบลำโพงนั้น ๆ อย่างมีการควบคุมและรอบคอบ นี่คือขั้นตอนง่าย ๆ แต่มีประสิทธิภาพบางประการที่คุณสามารถดำเนินการ เพื่อประเมินลำโพงของคุณได้แบบเรียลไทม์ :
– ใช้แหล่งเสียงคุณภาพสูง : หากคุณกำลังทดสอบลำโพง ด้วย MP3 บิตเรตต่ำ ก็ไม่ต่างจากคุณอาจตัดสินทีวี 4K โดยการดูเทป VHS ดังนั้น ควรเลือกใช้รูปแบบไร้การสูญเสีย (Lossless Formats) เช่น FLAC, WAV หรือ ALAC หรือสตรีมจากบริการความละเอียดสูง เช่น Tidal HiFi, Qobuz หรือ Apple Music Lossless-ยิ่งแหล่งเสียงดี ลำโพงของคุณก็จะยิ่งทำงานได้ดีขึ้น
– ค้นหาตำแหน่งการวางลำโพงที่เหมาะสม : เริ่มต้นด้วยการวางลำโพงไว้สูงระดับหู เว้นระยะห่างเท่าๆ กัน และทำมุมเล็กน้อยให้เข้ากับตำแหน่งการฟังของคุณ พยายามดึงลำโพงออกห่างจากผนัง เพื่อป้องกันเสียงเบสที่ดังเกินไป และปรับระยะห่างระหว่างลำโพง เพื่อปรับแต่งจินตภาพ และเวทีเสียง-การปรับ/ขยับตำแหน่งเพียงเล็กน้อย เช่น เพียงไม่กี่นิ้ว ไม่กี่เซนฯ ก็สามารถส่งผลต่อเสียงได้อย่างมาก
– ทดสอบที่ความดังเสียงระดับต่างๆ : ลำโพงบางตัวให้เสียงที่ยอดเยี่ยมเมื่อใช้ระดับความดังเสียงไม่มากนัก แต่จะย่ำแย่เมื่อเปิดเสียงดังขึ้น ลำโพงบางตัวต้องใช้กำลังขับเล็กน้อย จึงจะเปิดเสียงได้เต็มที่ ลองเล่นเพลงด้วยระดับความดังเสียงต่างๆ เพื่อดูว่า ซิสเต็มของคุณจัดการกับไดนามิก และความชัดเจนได้ดีเพียงใด หากเสียงออกมาหยาบกร้าน (Harsh) หรือขุ่นมัว (Muddy) เมื่อเร่งระดับความดังเสียงที่มากขึ้น อาจจำเป็นต้องปรับอะคูสติกของห้อง หรือตำแหน่งตั้งวางลำโพง
– ใช้การทดสอบ A/B (ถ้าทำได้) : หากคุณกำลังเปรียบเทียบลำโพง ให้เล่นแทร็กเดียวกันในระดับเสียงเดียวกัน และสลับไปมาระหว่างลำโพงเหล่านั้น รับฟังความแตกต่างในความสมดุลของโทนเสียง การสร้างจินตภาพแบบสเตริโอ และประสิทธิภาพของลำโพงแต่ละตัว ในการจัดการกับช่วงเสียงที่ซับซ้อน หากลำโพงตัวหนึ่งให้รายละเอียดที่โดดเด่น ในขณะที่อีกตัวฟังดูไม่ชัดเจน-คุณก็จะได้คำตอบแล้ว
• ประเภท รูปแบบ และผลกระทบต่อการทดสอบลำโพง (Genres, Formats & Their Impact on Speaker Testing)
เพลงที่คุณเลือกสำหรับการทดสอบ อาจเปิดเผยจุดแข็งของลำโพงของคุณ หรือทำให้คุณเข้าใจผิดได้อย่างสิ้นเชิง เพลงบางเพลงเหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการประเมินรายละเอียด (Detail), ไดนามิก (Dynamics) และการสร้างจินตภาพ (Imaging) ในขณะที่เพลงบางเพลง ไม่ว่าคุณจะชอบเพลงเหล่านั้นมากเพียงใด ก็ไม่สามารถบอกอะไรคุณเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่แท้จริงของซิสเต็มที่คุณใช้งานอยู่ได้มากนัก
การบันทึกเสียงดนตรีแนวแจ๊ส, คลาสสิก และอะคูสติก ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการทดสอบ แนวเพลงเหล่านี้เน้นการแยกเครื่องดนตรีตามธรรมชาติ ไดนามิก และสภาพเวทีเสียง ทำให้เหมาะสำหรับการประเมินความแจ่มชัด (Clarity) และความลึก (Depth) สำหรับเพลงร็อกและป๊อบที่มีการจัดทำคุณภาพสูง ช่วยให้มีความแจ่มชัด และกลมกล่อม (Balance) ในขณะที่เพลงอิเล็กทรอนิกส์และฮิปฮอปจะผลักดันการตอบสนองของเบส และความเร็วฉับพลัน (Transient Speed) ให้ถึงสุดขีดขั้น
ในทางกลับกันแนวดนตรีเมทัล และฮาร์ดร็อก มักจะถูกบีบอัดจนเกินไป จนไม่สามารถแสดงช่วงไดนามิกได้ มิกซ์เพลงป๊อบและวิทยุสมัยใหม่จะเร่งเสียงเบสและความดัง ซึ่งบางครั้งก็ซ่อนรายละเอียดที่ละเอียดอ่อนกว่าเอาไว้ และแม้ว่าการบันทึกเสียงแบบโล-ไฟ (Lo-Fi) และแบบวินเทจจะมีเสน่ห์ แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับการฟังอย่างมีวิจารณญาณ
ระบบเสียงสเตริโอนั้นเหมาะที่สุด สำหรับการประเมินลำโพง โดยเพลงส่วนใหญ่จะถูกมิกซ์ เพื่อให้ได้เวทีเสียงที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ ระบบเสียงรอบทิศทาง (Surround Sound) และ Dolby Atmos อาจรู้สึกสนุกได้ แต่การมิกซ์บางส่วนจะทำให้เอฟเฟกต์เชิงอาณาบริเวณที่เกินจริง ทำให้ประสิทธิภาพที่แท้จริงของลำโพงผิดเพี้ยนไป
***ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องของเพลงเท่านั้น การติดตั้งลำโพงในตำแหน่งที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับแทร็กที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบที่ดีกลายเป็นระบบที่ยอดเยี่ยม***
______________________