What HI-FI? Thailand

3 LP SET ในวาระฉลองครบรอบ 125 ปีของ THORENS จัดทำโดย QRP ที่ให้คุณภาพการรับฟังยอดเยี่ยม

...ย้อนไปในปี 2008 Thorens ได้มอบหมายให้ Analogue Productions จัดทำแพ็คเกจแผ่นเสียง 3 แผ่น/ชุด ในวาระฉลองครบรอบ 125 ปีของบริษัท ผลลัพธ์ที่ได้คือ limited edition set สุดพิเศษ – ด้วยเพลงที่เลือกจากชุดที่ผลิต หรือได้รับอนุญาตการผลิตจาก Analogue Productions

แผ่นเสียง 3 แผ่น/ชุดดังกล่าวจำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็ว และตอนนี้ได้มีราคาจำหน่ายมหาศาลบน Discogs ราคาจำหน่ายถูกที่สุดอยู่ที่ 170.00 ดอลลาร์ ในขณะที่ราคาสูงสุดคือ มากกว่า 400 ดอลลาร์ และ ณ ตอนนี้ทาง Analogue Productions ได้นำแพ็คเกจนี้ไปทำการผลิตใหม่ โดยเพิ่มเข้าไปในซีรีส์ “Wonderful Sounds” ที่มีคอลเลกชันนักร้องชายและหญิง รวมถึงแพ็คเกจคริสต์มาสด้วย ซึ่งแตกต่างจากชุด Thorens ชุดนี้ ที่มีให้เฉพาะในรูปแบบ SACD

โดยได้จัดวางเพลงในแผ่นทั้งสามไว้ดังนี้:- Side A เป็นเสียงของนักร้องหญิง Rickie Lee Jones จำนวน 2 เพลงนั่นคือ “Show Biz Kids” และ “Low Spark of High Heel Boys” จากอัลบั้ม It’s Like This ของเธอเองทั้งสองเพลง

ถัดมาคือ เพลง “Nobody’s Buying” ของ Nancy Bryan, เพลง “Angel From Montgomery” ของ Susan Tedeschi ซึ่งก่อนหน้าเวอร์ชันนี้ Bonnie Raitt เป็นเจ้าของโดยเฉพาะ (นอกเหนือจากต้นฉบับของ Prine) และเพลง “The Spider And the Fly” ที่สวยงามของ Myra Taylor ซึ่งเป็นต้นฉบับของ Analogue Productions ที่บันทึกลงเทป 30IPS

สำหรับ Side B เป็นผลงานของ Arthur Fiedler จากแผ่นเสียงของ Boston Pops ที่ชื่อว่า Classical Music For People Who Hate Classical Music ซึ่งบันทึกโดย Dr. Keith O. Johnson แห่ง Reference Recordings ด้านนี้จึงเป็นผลงานของ Reference Recordings โดยแท้ ซึ่งเพลงส่วนใหญ่จะเป็นที่คุ้นเคย แม้กระทั่งผู้ที่อ้างว่า ไม่ชอบดนตรีคลาสสิก

รวมถึงเพลง “Dance of the Tumblers” จาก The Snow Maiden ของ Rimsky-Korsakov ที่ควบคุมวงโดย Eiji Oue บรรเลงเพลงโดย Minnesota Orchestra ซึ่งตัดตอนมาจาก Piano Concerto #21 AKA (to Baby Boomers) ของ Mozart “the theme from Elvira Madigan” รวมถึง Firebird Suite ของ Stravinsky

Side C เป็นคอลเลคชั่นเพลงบลูส์ทั้งหมด ซึ่งคัดมาจากแคตตาล็อก APO (Analogue Productions Originals) หลายเพลงด้วยกัน ซึ่งบันทึกลงเทปอย่างยอดเยี่ยมโดยศิลปินหลายต่อหลายคนที่คุณอาจไม่คุ้นเคย แต่ทั้งหมดนี้น่าจะได้รับความสนใจจากคุณภาพเสียงคุณภาพระดับออดิโอไฟล์

มีผลงานของทั้ง Rhythm & Blues และ Jazz สองด้าน ซึ่งรวมถึง “Round Midnight” โดย The Wes Montgomery Trio ที่เปิดตัวในปี 1959 (กลุ่มนั้นรวมถึง Melvin Rhyne) “September Song” ของ Chet Baker จากอัลบั้ม Chet และ Bill Evans ในปี 1959 “My Foolish Heart” จากรายการชื่อดัง Sunday at the Village Vanguard และ “Alternate One” จาก Pablo ที่นำมาจาก Alternate Blues ซึ่งร่วมแจมโดย Clark Terry, Dizzy Gillespie, Freddie Hubbard และ Oscar Peterson น่าเสียดายที่ Norman Granz ไม่สามารถทำสถิติให้ Pablo ได้ ส่วนอีกด้าน เปิดด้วยเพลง “Poinciana” จาก Sounds Unheard Of Shelly Manne ที่ตอบโต้ต่อ Percussion Percussion ของ Enoch Light

Side F นำเสนอเพลงของ Hugh Masekela จำนวน 2 เพลงจาก Stimela รวมถึงเพลงไตเติ้ล ที่มีเสียงหวีดร้อง “wooo Wooo” อันน่าตื่นตาตื่นใจ …นี่คือ บทสรุปถึงทั้ง 6 ด้านของบทเพลงที่บรรจุอยู่ในอัลบั้ม 3 แผ่น/ชุดดังกล่าว ซึ่งบทเพลงเกือบทั้งหมด มีแหล่งที่มาแบบแอนาล็อก ซึ่งหมายความว่า ถูกตัดออกจากเทปต้นฉบับ รวมถึงฝั่ง Reference Recordings และ APO

มีเพียงไม่กี่แทร็กเท่านั้น ที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล (เพลง “Angel From Montgomery” ของ Tedeschi ถูกบันทึกลงเทปแต่หาเทปไม่พบ) แต่ไม่ว่าจะจัดหาด้วยวิธีใด บทเพลงทั้งหมดล้วนสรรค์สร้าง “เสียงที่ไพเราะ” และแน่นอนว่า คุณภาพการจัดทำแผ่นเสียงทั้ง 3 แผ่นนั้นมีความสมบูรณ์แบบ บนแผ่นเสียง 180g ที่ราบเรียบแท้จริง ซึ่ง MASTERED BY: Kevin Gray และ LACQUERS CUT BY: Kevin Gray at Cohearent Audio

Exit mobile version