11 หัวเข็มที่เคยได้ฟังและขอแนะนำ ถ้าจะเปลี่ยนหัวเข็มจากหัวเข็มที่ติดตั้งมาพร้อมเครื่อง

0

Mongkol Oumroengsri

เครื่องเล่นแผ่นเสียงพร้อมเล่นที่วางจำหน่ายกันในปัจจุบัน ช่วยให้การรับฟังแผ่นเสียงเป็นเรื่องง่าย หากแต่บางครั้งหัวเข็มที่ติดตั้งมาพร้อมเครื่องอาจเป็นหัวเข็มที่ให้สมรรถนะยังไม่ดีพอ ซึ่งเมื่อรวมกับการติดตั้งจากโรงงานที่อาจคลาดเคลื่อนไปจากค่าที่ปรับตั้งแท้จริง เนื่องจากการขนส่งจึงอาจส่งผลการรับฟังที่ไม่ดีพอ และยังอาจกระทบต่อสภาพแผ่นเสียงที่นำมารับฟังในระยะยาว ดังนั้นการเปลี่ยนหัวเข็มใหม่ทดแทนหัวเข็มที่ติดตั้งมาพร้อมเครื่อง ย่อมส่งผลดีต่อทั้งการรับฟัง ทั้งด้วยคุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น และการปรับตั้งค่าต่างๆ ที่ถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น

จากประสบการณ์ของผม ที่มีโอกาสได้ฟังคุณภาพเสียงของหัวเข็มราคาย่อมเยาที่มีจำหน่ายในท้องตลาดไม่เกิน 10,000 บาท  จึงขอถ่ายทอดประสบการณ์นั้น เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่มีความคิดอยากจะเปลี่ยนหัวเข็มที่ติดมาพร้อมเครื่อง จะได้ลองพิจารณากัน

Audio-Technica: AT95E

หัวเข็มราคาย่อมเยา ยอดนิยมของ AT มีความเป็นกลาง (neutral) ค่อนข้างดี ฟังได้เนื้อได้หนัง เบสแน่นกระชับ จับท่วงทำนองได้ดี ปลายเสียงสูงอาจไม่ใสกระจ่างนัก แต่ก็ฟังดีกว่าหัวเข็มธรรมดาที่ติดตั้งมาพร้อมเครื่อง

Audio-Technica: AT120E

จัดเป็นหัวเข็มราคาไม่แรงที่ให้ความครบเครื่อง ช่วงย่านเสียงสูงสดพลิ้ว ทอดยาวไปไกล รายละเอียดที่ส่งมอบแจ่มชัด เบสกระชับ และทรงพลัง ไดนามิกที่ฉับพลัน ฟังได้มันส์

Goldring: E3

เป็นรุ่นใหญ่สุดของซีรี่ส์ที่เป็นแบบ MM (Moving Magnet) ถือได้ว่า เป็นรุ่นที่คุ้มค่ามากๆ ตอบรับได้ดีกับหลากหลายแนวดนตรี มีเบสที่แน่น เสียงกลางที่กระจ่าง ชัด อาจรู้สึกเดินหน้านิดๆ (forward) แต่ฟังแล้วไม่สากกร้าน ช่วงย่านเสียงสูงที่สดพลิ้ว

Goldring: 2100

เป็นรุ่นเล็กสุดของซีรี่ส์ที่เป็นแบบ MI (Moving Iron) ด้วยมวลส่วนเคลื่อนที่ (moving mass) ที่น้อยกว่าหัวเข็มแบบ MM โดยทั่วไป จึงให้รายละเอียดเสียงได้สะอาด แจ่มชัดขึ้น ในขณะที่เนื้อเสียงยังคงอิ่มฉ่ำ เบสแน่น พร้อมด้วยเวทีเสียงที่โอ่อ่า

Grado: Prestige Red 1

ไปกันได้ดีกับแทบทุกแนวดนตรี แต่ออกจะเหมาะเจาะกับกับเพลงร้อง (vocal) ที่ฟังแล้วค่อนข้างให้ความมีตัวตน ให้ความเป็นกลาง (neutral) ส่งมอบรายละเอียดพอประมาณ ฟังได้ยาวนานสบายหู

Grado: Prestige Silver 3

สำหรับคอเพลงร้อง รับรองคุณจะตกหลุมรักหัวเข็มนี้ เสียงเครื่องสายก็หวานหยดย้อย ไร้ซึ่งสากกร้านใดๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้ความไพเราะ อบอุ่น และนวลนุ่มราวกับเสียงหลอดสุญญากาศ

Nagaoka: MP-110

นี่คือ ผู้สืบสกุลความสำเร็จต่อจาก MP-11 อาจจะรู้สึกราบเรียบ ไม่โดดเด่น ให้ความเป็นกลาง (neutral) ส่งมอบรายละเอียดได้พอประมาณ เน้นช่วงปลายเสียงสูงเชิดขึ้นเล็กน้อย ฟังเรื่อยๆ สบายๆ ไม่คมแข็ง เบสแน่น กลางดี เวทีเสียงโออ่า

Ortofon: 2M Red 

ย่อมเยาสุดๆ จัดเป็น entry-level สำหรับ Ortofon สำหรับบางคนอาจจะถูกใจในความโปร่งใส สดสะอาด จนดูเหมือนจะส่งมอบรายละเอียดได้ดีในระดับราคา แต่สำหรับบางคนอาจรู้สึกว่า มีความเกรี้ยวกราด คมแข็ง ซ่อนอยู่ในช่วงกลาง-สูง

Ortofon: 2m blue

ยกระดับขึ้นมาอีกขั้นจาก 2M Red ได้มาซึ่งรายละเอียดที่แจ่มชัด สดสะอาดมากขึ้น ปลายเสียงสูงที่เน้นโด่งน้อยลง ในขณะที่ลดความคมแข็งในช่วงย่านเสียงกลาง-สูง ฟังดูนิ่มนวลขึ้น เบสน่าฟังขึ้นด้วยเช่นกัน

Sumiko: Rainier

สำหรับแนวดนตรียุคใหม่ ที่เน้นใช้คอมพิวเตอร์ หรือ ซินธีไซเซอร์ในการแต่งเพลง หัวเข็มนี้น่าจะเหมาะ และไปกันได้ดีด้วยแนวเสียงที่ค่อยข้างเจิดจ้า แจ่มชัด และรุกเร้าใจ

Sumiko: Olympia

ฟังดีมากให้ความสมบูรณ์ทางดนตรีที่รับฟัง ให้ความสมดุลที่ดีมากๆ ระหว่างเสียงสูง-กลางและต่ำ, เบสที่อิ่มแน่น และสมจริง พร้อมด้วยเวทีเสียงขนาดใหญ่