แผ่นเสียงเคียงเครื่อง บอย – นภ : Boyd – Nop Brilliance Music & Studio : BMS-009

0

Mongkol Oumroengsri

จริงๆ แล้วต้องขอบอกว่า อัลบั้มแผ่นเสียงชุดนี้มิใช่งานเพลงชุดใหม่เอี่ยมอ่องของทั้งคุณบอย โกสิยพงษ์ ฉายา เจ้าพ่อเพลงรัก และคุณนภ พรชำนิ นักร้องเสียงดี ผู้ก่อตั้ง Dobe Music Production ที่มีปริญญาในสาขา Business Administration จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ที่ได้ชื่อว่า ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก ลำดับที่ 4 พ่วงท้าย

แต่นี่คือ การนำผลงานเพลงเก่าของทั้งคู่ที่ได้จัดทำไว้ และเคยออกจำหน่ายมาแล้วเมื่อสิบปีก่อน (2010) ภายใต้สังกัด LOVEiS มาจัดทำใหม่ในแบบฉบับ Reissues พร้อมกับการยกระดับคุณภาพเสียงจากดั้งเดิมด้วยการ Remastered จากพ่อมดของวงการ นามว่า Bernie Grundman โดยจัดทำครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันของสังกัด Brilliance Music & Studio กับ The Flying Tomato Music Co. Ltd. – เจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งการจัดทำแผ่นเสียง “บอย – นภ : Boyd – Nop” ครั้งนี้ (2021) นับเป็นความพิเศษอย่างมาก ที่นอกจากจะได้รับการ Remastered จาก Bernie Grundman (มีลายเซ็นกำกับบน dead wax) แล้ว ยังผ่านการจัดทำต้นฉบับใหม่ในแบบฉบับสปืด 45 (45 RPM) ซึ่งยิ่งเป็นการการันตีคุณภาพให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นไปอีก เพราะอย่างที่ทราบกันว่า ความเร็วรอบ 45 RPM จะเก็บเกี่ยวรายละเอียดเสียงจากร่องแผ่นเสียงได้มากกว่าความเร็วรอบ 331/3 RPM การรับฟังจะให้คุณภาพเสียงที่ดียิ่งกว่าธรรมดา จากนั้นจึงได้รับการจัดส่งไปทำการผลิตแผ่นเสียงระดับ audiophile pressing ณ ประเทศญี่ปุ่น โดย VPY (Vinyl Pounder Yokohama) ที่สำคัญแผ่นเสียงชุดนี้สั่งผลิตมาจำหน่ายเพียงแค่ 600 ชุดเท่านั้น

ดังนั้นแผ่นเสียง “บอย – นภ : Boyd – Nop” (2021) ของสังกัด Brilliance Music & Studio นี้จึงมาในรูปแบบของแผ่นดำ “audiophile vinyl” HQ-180g / 2 แผ่นคู่ต่อชุด ฟังครบทุกเพลงทั้ง 12 เพลงด้วยกันที่ต้องรับฟังด้วยสปีด 45 (มิใช่ไวนิลลายหินอ่อน สีเขียวขี้ม้า สปีด 33 แผ่นเดียวอย่างของเดิม) แผ่นเสียงแต่ละหน้าจึงบรรจุเพลงคุณภาพไว้แค่ 3 เพลง ด้วยความใส่ใจและพิถีพิถันตั้งแต่กระบวนการส่งไฟล์มาสเตอร์ไปยังมาสเตอริ่งสตูดิโอของ Bernie Grundman โดยส่งฮาร์ดดิสก์ตัวมาสเตอร์ไปให้ ไม่ใช่การส่งไฟล์แบบดาวโหลดไปทำงานต่อ และอัลบั้มชุดนี้ทาง Bernie Grundman จะเป็นผู้รีมาสเตอร์และตัด Lacquer ด้วยตนเองทั้งหมด ซึ่งเมื่อรับฟังหลังจากได้รับมอบแผ่นตัวอย่างจาก Brilliance Music & Studio จับสังเกตได้ชัดเจนเลยว่า รายละเอียดยิบย่อยโดดเด่นขึ้นมาก ทั้งเสียงร้อง เสียงเปียโน เสียงเครื่องเคาะจังหวะ เสียงกีต้าร์ เสียงกลอง สุ้มเสียงโดยรวมเข้มข้นขึ้น พื้นเสียงสงัดขึ้น อาจจะเพราะสปีด 45 หรือว่าฝีมือรีมาสเตอร์ของ Bernie หรือว่าทั้ง 2 อย่าง …ฟังดีมากๆ ครับ บรรยากาศก็มาเต็มๆ ด้วยนะ

คุณบอย โกสิยพงษ์ได้เคยให้สัมภาษณ์เมื่อครั้งจัดทำอัลบั้มนี้ว่า “ที่เราสองคน Boyd-Nop มารวมตัว และลงตัวกันได้กับการเป็นอัลบั้ม Boyd-Nop เพราะความที่เราสองคนต่างก็ชอบดนตรีในช่วงยุค 60-70 เหมือนกัน ก็เลยคิดว่าการมาทางแนวดนตรีในแบบ Motown Sound ที่เราทั้งสองชอบ แล้วทำให้มันมีชีวิตอีกครั้งในยุคปัจจุบัน ก็น่าจะเป็นงานที่น่าประทับใจที่สุดงานหนึ่ง แต่แม้ว่า เราจะเป็นคนที่ชอบดนตรีคล้ายๆ กัน ประเภทเดียวกัน แต่เราจะมีจุดยืนการมองเห็นที่แตกต่างกัน สิ่งที่ผมมองไม่เห็น นภเขาก็มองเห็น เหมือนกับมือของผมที่เอื้อมไม่ถึง นภก็จะเป็นคนหนึ่งที่ยืนอยู่อีกด้าน และช่วยเอื้อมสิ่งที่เราต้องการมาให้ ทำให้เราเห็นทิศทางการมองเห็นที่กว้างขึ้นจาก 180 องศา เป็น 360 องศาเลยทีเดียว”

ด้านโปรดักชั่นก็ทำอย่างยิ่งใหญ่ เพราะมีการไปใช้ห้องอัดเสียงไกลถึง L.A. สหรัฐอเมริกาของ Capital Studio ซึ่งคุณนภ พรชำนิก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้เช่นกันว่า “เลือกที่นั่นเพราะที่ห้องอัดที่ Capital Studio จะมีคาแรกเตอร์ของเสียงที่ถ้าเราได้ฟังเพลงโบราณๆ ที่เคยฟังมาก่อนในยุค 60-70 ศิลปินหลายๆ วงที่เราชื่นชม อย่าง แฟรงซ์ ซินาท่า, ดีน มาร์ติน, ไดอาน่า รอส ฯลฯ เราจะได้ยินเสียงรีเวิร์บที่ไพเราะมากจากที่นี่นี่แหละ ห้องอัดเสียงเขาจะพิเศษเวลาเขาอัดเสียงในห้อง ระบบของห้องนั้นจะดูดเสียงลงไปในใต้ดิน ให้เสียงรีเวิร์ดทั้งหมดดูดกลับมาข้างบนอีกทีหนึ่ง ดังนั้นเราจะได้เสียงพิเศษ จากการอัดเสียงของนักดนตรี-เครื่องดนตรีต่างๆ ก็จะมีที่นี่แหล่ะ ที่เป็นส่วนประกอบที่เหมาะสมที่สุด”

ซึ่งกว่าจะได้รับฉายาว่าเป็น “เจ้าพ่อเพลงรัก” หนทางของคุณบอย โกสิยพงษ์ ก็ไม่ได้ราบรื่น ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ นั่นเพราะชีวิตมีทั้งความสุขและความผิดหวัง …บางครั้งก็ต้องเจอกับพายุฝนซัดกระหน่ำ ที่ต้องอดทนจนกว่าจะถึงวันที่ท้องฟ้ากลับมาสว่างสดใสอีกครั้ง หรือบางครั้งก็ต้องเรียนรู้ว่าการล้มลงบ้างก็ไม่ได้เป็นเรื่องแย่สักเท่าไร… คุณบอยเคยกล่าวไว้

…แบบฉบับของเจ้าพ่อเพลงรักของคุณบอย โกสิยพงษ์ จึงมิใช่แบบนักแต่งเพลงทั่วไป ที่ใช้คำร้องตัดพ้อต่อว่าเมื่อผิดหวัง แต่จับเอาความดี ความน่าประทับใจในแง่มุมของความรักความอบอุ่นมานำเสนอ ด้วยท่วงทำนองที่ยังคงคึกคักร่าเริง – มีอยู่เพลงหนึ่งซึ่งโดนใจผมอย่างจัง จนเปิดฟังซ้ำหลายรอบมาก นั่นคือ ชีวิตผิดเลน ภาค 4 (Sad IV) ที่ได้เสียงของคุณมนต์สิทธิ์ คำสร้อย มาเป็นนักร้องรับเชิญร่วม featuring ซึ่งทั้งสไตล์การร้อง รวมทั้งลูกคอ-ลีลา และน้ำเสียงของคุณมนต์สิทธิ์ คำสร้อย มันช่างเข้ากั๊นเข้ากันกับท่วงทำนองเพลงอันแสนไพเราะ และคำร้องตามแบบฉบับของคุณบอย โกสิยพงษ์ (ที่ลาออกจากค่าย เลิฟอีส เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อปีพ.ศ. 2563) ซึ่งเพลงนี้คุณโก้ Mr.Saxman ก็ได้มาสำแดงลีลาการปล่อยเสียงแซกโซโฟนอันแสนกัดกินใจ…