แสงเสียงทอง
ยุคสัมยนี้สมัยที่คนสามารถจะเข้าถึงดนตรีได้จากทุกที่ ที่มีอินเตอร์เน็ต มีหลากหลายแพตฟอร์มให้เลือกเสพย์ แต่เสน่ห์ของการเล่นแผ่นเสียงเทคโนโลยีที่เคยถูกมองว่าล้าหลัง และเคยถูกตราหน้าว่า “จบแล้ว” กลับมาครองพื้นที่ตลาดในธุรกิจเพลงได้อย่างสง่าผ่าเผย
เมื่อ 7-8 ปีก่อนค่ายเพลงต่างๆ ในเมืองไทยเลือกที่จะหยิบอัลบั้มเพลงเก่าๆ ในยุค 80 ปลายๆ หรือ 90 มารีมาสเตอร์ (ผลิตใหม่) กันหลายอัลบั้มเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นวงเพลงร็อกในตำนานอย่าง silly fools, Moderndog เพราะศิลปินเหล่านี้ยังไม่เคยมีแผ่นเสียงออกมาสู่ตลาดมาก่อนซึ่งแผ่นที่เรียกเสียงฮือฮาในสมัยนั้นและปลุกกระแส
แผ่นเสียงไทยขึ้นมาก็คงจะไม่พ้น แผ่นเสียงของแสตมป์ อภิวัฒน์ที่มีราคาสูงลิ่ว ตามมาด้วยแผ่นของ Moderndog เสริมสุขภาพ Made in England ที่ราคากระโดดไปถึง 2-3 หมื่นบาทกันเลยทีเดียว
ทำให้ค่ายเพลงต่างๆ หยิบเอาอั้ลบั้มในตำนานช่วง 90 ออกมาปั้มกันอย่างไม่รอช้า และเจ้าพ่อ Remaster ชื่อดังที่รับมรดกนี่ไปก็คงไม่พ้น Bernie Grundman ที่เห็นกันแทบจะทุกแผ่นรีมาสเตอร์ในตลาดแผ่นเสียง (เรียกว่ารวยเละเทะจนลืมเกษียณกันเลยทีเดียว) รีมาสเตอร์จริงไม่จริงหรือแค่หยิบยืมชื่อเขามาใช้ขึ้นปกอันนี้ผู้เขียนมิอาจทราบได้เพราะมันเยอะเหลือเกิน
ยุคแรกๆ ปั้มกัน 1000 ชุดขายหมดบ้างไม่หมดบ้าง… แต่ความต้องการของตลาดยังพอมี ทีนี้เริ่มจะออกกันมาเยอะจนไม่คิดถึงเงินในกระเป๋าผู้บริโภคสักเท่าไรนัก จะว่าไปแค่เรื่องเงินอย่างเดียวไม่น่าจะพอ คุณภาพที่ได้ยินกันมาย่างหนาหูว่าบางอัลบั้มนั้นไม่สมแก่การเป็นแผ่นเสียงเลยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสัดส่วนของตลาด จนความต้องการเริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆ จากผลิต 1000 มา 600 บ้าง 500 บ้าง จนสุดท้ายมาอยู่ที่ 300 แผ่น เชื่อไหมว่า 300 แผ่นบางอัลบั้มยังไม่หมดเลย
ถึงอย่างไรก็ตามผู้เขียนยังมองว่ามันเป็นเสน่ห์ของการเล่นแผ่นเสียง เพราะถ้าพูดถึงคุณภาพเสียงอะนาลอกที่หลายท่านใฝ่ฝันอยากจะได้จากแผ่นเสียงไทยแล้วละก็ ก็เหมือนกับซื้อหวยแหละครับ โชคดีได้ไฟล์ต้นฉบับดีส่งไปให้มือดีรีมาสเตอร์ก็แจ๊กพอตถูกหวยกันไป เกิดซวยได้ไฟล์ต้นฉบับไม่ดีก็หวยออกกันไปเช่นกัน ทีนี้พอตลาดแผ่นเสียงดูคล้ายจะทรงๆ ทรุดๆ มันก็จะมีแผ่นสองแผ่นที่มาต่อลมหายใจให้กับตลาดนี้
ถ้ายังจำกันได้ช่วงปลายปี 2562 ป๋าเต็ตได้สัมภาษณ์บังโต ซิลลี่ฟูล แล้วบังเอิญแกดันหยิบเอาแผ่นเสียงซิลลี่ฟูลออกมาให้บังโตเซ็น แถมบังโตยังถามป๋าเต็ตอีกว่าใครเขายังฟังแผ่นเสียงกันอีกหรือ เท่านั้นแหละทำเอาราคาแผ่นเสียงซิลลี่ฟูลพุ่งกระจุยกระจาย แผ่นของนักร้องขาวิ่ง อย่างพี่ตูน Bodyslam ก็พุ่งตามเขาไปด้วย ไม่วายให้ผู้ผลิตต้องเร่งผลิตแผ่นเสียงออกมาตอบสนองความต้องการ ทำให้พ่อค้าหน้าใหม่ที่จ้องจะหยิบแผ่นเสียงในราคาปรีออร์เดอร์และมาปล่อยต่อในราคาที่สูงขึ้น เกิดขึ้นมากมาย จนทำให้ความต้องการของตลาดอาจจะเกิดอาการเฟ้อ ล้นตลาดกันก็เป็นไปได้
แต่เสน่ห์ของแผ่นที่เป็นปั้มแรกและมีเลขรันนัมเบอร์มันไม่จางหายไป ดังนั้นใครที่ได้ครอบครองแผ่นปั้มแรกและมีรัมนัมเบอร์การันตีก็เก็บกันไว้ให้ดีและให้รู้เอาไว้ว่านั้นแหละออริจินัล…
ทีนี้มันก็จะมีแผ่นบางแผ่นที่มีความต้องการสูงมากที่ปั้มแรกขายหมดไปแล้ว (out of printed) ซึ้งปั้มแรกถ้ามีหลุดมาให้เห็นไม่ว่าจะแพงเท่าไรก็ต้องมีคนซื้อไปครอบครองจนได้อย่าง Polycat จนผู้ผลิตตัดสินใจที่จะทำปั้มสองมีจำนวนจำกัด แต่ระบบจัดการของการจองผ่านเว็ปนั้นดันมีปัญหาจนทำให้บางคนทำการจองได้ก่อนเวลาที่กำหนด และยอดจองทะลุเป้า
จึงทำให้เกิดมิติใหม่แห่งวงการแผ่นเสียงคือ Made to order มียอดปรีออร์เดอร์สั่งมาเท่าไรก็ผลิดตามจำนวนเลยครับ พณฯ ท่าน เอาเป็นว่าผู้เขียนคนนึงที่จองแล้วแคนเซิลทันทีหลังจากที่รู้ข่าว จะแง่บวกแง่ลบอันนี้ลองคิดกันเอาเอง
การเล่นแผ่นเสียงมันเป็นเสน่ห์ทั้งตัวแผ่นเสียงเอง ปกแผ่นเสียง การจับต้องได้ รวมไปถึงคุณภาพเสียง ทุกวันนี้ผู้บริโภคเข้าถึงเพลงได้ง่ายเหลือเกิน แผ่นเสียงถึงแม้จะโตขึ้นแต่ก็ยังเป็นตลาดที่จำกัด เข้าใจว่าผลกำไรมันดูเป็นกอบเป็นกำถึงแม้มันจะไม่ได้เยอะอะไรเหมือนแต่ก่อน แต่มันก็ทำให้ตาโตไม่น้อย
จึงอยากจะฝากไปถึงผู้ผลิตให้คำนึงถึงคุณภาพของแต่ละชุดที่ท่านผลิตออกมา ความรู้สึกของผู้บริโภคหลังจากที่เขาเหล่านั้นซื้อแผ่นท่านไปแล้ว มิใช่คำนึงถึงแต่ตัวเลขในกระเป๋าท่านอย่างเดียว ทุกอย่างกำลังไปได้ดี จงอย่าทำลายมัน…