สัมภาษณ์คุณ สิรวุฒิ วิรัชศิลป์ (LINNK IT UP)
จากความชื่นชอบใน LINN products อย่างเป็นส่วนตัว ถึงขั้นหลงรักจนลงทุนนำผลิตภัณฑ์ LINN สารพัดอย่างมาติดตั้งใช้งานในบ้านอย่างจริงจัง และต่อมาได้ก้าวเข้ามาสู่การเป็น Importer & Distributor ของ LINN อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในนาม LINNK IT UP ภายใต้การบริหารงานของคุณ สิรวุฒิ วิรัชศิลป์ หรือที่ชาวเน็ตรู้จักมักคุ้นกับเขาด้วยชื่อว่า ลุงแซนต้า มาช้านาน วันนี้ทีมงาน What Hi-Fi ? ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยกับเขาผู้นี้อย่างเป็นกันเอง ซึ่งมีหลายประเด็นที่น่าสนใจยิ่งนักจากการบอกเล่าของตัวเขาเอง…
What Hi-Fi ? – จะรบกวนขอให้คุณ สิรวุฒิ ช่วยเล่าความเป็นมาส่วนตัว ก่อนที่จะได้มาเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ LINN ในประเทศไทยให้พวกเราได้ทราบคร่าวๆ สักหน่อยครับ?
คุณ สิรวุฒิ – จริงๆ เลยถ้าพูดถึงธุรกิจที่ทำอยู่เดิมก่อนจะก้าวเข้ามาทำ LINN นี้ไม่เกี่ยวข้องกับแวดวงเครื่องเสียงเลยนะครับ (หัวเราะ) เพราะเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจในครอบครัว ซึ่งทำทางด้านโรงพยาบาลวิรัชศิลป์ที่จ.ชุมพรอยู่เดิมน่ะครับ ก็เป็นโรงพยาบาลขนาด 100 เตียงที่ก่อตั้งมาได้ 30 ปีแล้วละ ก่อตั้งมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ คุณปู่ท่านเป็นแพทย์ที่ร่ำเรียนมากับมิชชันนารี คือเราเป็นครอบครัวคริสเตียนน่ะครับ เรียกว่าเปิดโรงพยาบาลมาพร้อมๆ กับ LINN เลยล่ะ โรงพยาบาลของเรานี่มีอายุเท่ากับ LINN พอดี (หัวเราะ)
ตัวผมเองแรกๆ เลยก็เรียนมาทางแพทย์โดยตรงนี่แหละ แต่พออยู่ปี 4 ก็รู้สึกตัวเองว่า ไม่ใช่แนวทางที่ตัวเราเองถนัดกับความเป็นหมอสักเท่าไหร่ ก็เลยได้พูดคุยกันในครอบครัวว่า ขอไม่เรียนต่อในแนวทางนี้ได้ไหม ขอเปลี่ยนไปเรียนด้านการบริหารธุรกิจแล้วต่อยอดไปในทางการบริหารโรงพยาบาล พอจบออกมาก็ได้เข้ามาทำงานด้านบริหารให้กับโรงพยาบาลมาได้พักหนึ่ง โดยในครอบครัวของเราก็แบ่งงานด้านการแพทย์ไปให้พี่ชายผมที่เป็นหมออยู่ช่วยดูแล ส่วนตัวผมก็รับหน้าที่ด้านการบริหาร
ทีนี้ทำไมถึงได้เข้ามาทำ LINN นี่ ก็คงต้องขอย้อนไปถึงเรื่องแรงบันดาลใจที่ทุกคนก็มีอยู่ในใจของแต่ละคน บางคนก็สนใจในดนตรีบางคนก็สนใจในตำรับตำราชอบค้นคว้า ผมเองตั้งแต่วัยเด็กก็ชอบเรื่องเครื่องเสียง สนใจในเรื่องไฟฟ้าชอบต่อลำโพงเล่นเอง ก็เลยมีแรงบันดาลใจในด้านนี้เป็นทุนเดิมอยู่ พอตัวเองมีโอกาสที่จะทำธุรกิจของตัวเองก็เลยคิดที่จะเอาดีทางด้านที่ตัวเองชอบนี่แหละ สืบเนื่องจากว่าผมเองต้องขึ้น-ล่องกรุงเทพ-ชุมพรอยู่ประจำ เพราะภรรยาอยู่ที่กรุงเทพทำให้คิดว่า น่าจะมีธุรกิจอะไรของตัวเองที่กรุงเทพบ้างนะ ก็เลยเป็นที่มาของการเริ่มมองไปสู่ธุรกิจที่อยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบและถนัดมาตั้งแต่วัยเด็กนี่แหละครับ
What Hi-Fi ? – แล้วทำไมถึงได้ให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ LINN กระทั่งตัดสินใจเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย?
คุณ สิรวุฒิ – …แล้วทำไมถึงได้เป็น LINN อันนี้ต้องขอขอบคุณมากๆ ไปยังพี่วินัยและพี่วิชัยแห่งร้าน DECO ที่ได้ให้โอกาสตรงนี้แก่ผม เพราะก่อนหน้าที่ผมจะเข้ามาทำ ซึ่งจริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่า รับช่วงต่อจากพี่ๆ เขานั้น ทาง DECO ก็เป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ LINN ในประเทศไทยอยู่ ทีนี้โดยส่วนตัวก็เป็นลูกค้าของ DECO เพราะใช้ผลิตภัณฑ์ของ LINN อยู่เป็นรุ่น AKURATE DS แล้วก็ถูกใจมากในคุณภาพเสียง และมีความสะดวกในการคอนโทรลเสียบต่อใช้งานง่าย สามารถทำมัลติรูมได้
เราเองก็เป็นคนรุ่นใหม่คุ้นเคยกับความเป็นดิจิตอลก็เลยสนใจที่จะหาเครื่องดิจิตอลดีๆ มาใช้ พอได้ใช้แล้วก็ประทับใจจึงได้เข้าไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ LINN ทำให้เรารู้ลึกซึ้งในความเป็น LINN ซึ่งก็มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตั้งแต่แหล่งโปรแกรมจนกระทั่งลำโพงครบทุกไลน์ จึงสนใจเป็นพิเศษเพราะถือเป็นสินค้าที่ดี ทำยอดขายได้มากทั้งที่อเมริกาและญี่ปุ่น LINN นั้นมีความเป็นผู้นำตลาดในหลายๆ ด้าน นับตั้งแต่เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ทำกันมาตั้งแต่ปีค.ศ.1973 ปัจจุบัน LINN ได้ก้าวไปสู่ DSD Technology ซึ่งเริ่มทำมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2007 ซึ่งในช่วงนั้นยังมีการปรามาสกันด้วยซ้ำว่า ไฟล์เพลงนั้นจะไปรอดไหมด้วยซ้ำ ผู้คนทั่วไปยังให้ความนิยมในซีดีอยู่ แต่ทุกวันนี้แผ่นซีดีแทบจะหยุดขายไปเลย เพราะถูกไฟล์เพลงเข้ามาแทนที่
ทีนี้ในความเป็นผู้นำของ LINN นั้น LINN เองกลับไม่หยุดนิ่ง ทุกครั้งที่ LINN ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เราจะเห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยล้ำหน้ากว่าใครปรากฏออกมาอยู่เสมอมา LINN มักจะเว้นระยะห่างจาก ผู้ก้าวเข้ามาใหม่ อยู่ตลอดเวลา อย่าง Exakt System นับเป็นเทคโนโลยีใหม่ของ Streamer ที่รวมเอาจุดเด่นของความเป็น LINN ในอดีต 3 อย่างมารวมเข้าไว้ด้วยกัน ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน LINN จึงเป็น ผู้นำ ทางด้านนี้อีกแล้วในปัจจุบัน และโดยส่วนตัวคิดว่า ในไม่ช้าก็จะมี ผู้ตาม เข้ามาในเส้นทางนี้
Exakt System นี่หลายๆ คนอาจจะมองว่าคล้ายๆ กับสิ่งที่ Meridian ได้เคยทำไว้ในอดีต ซึ่งก็อาจจะดูละม้ายแต่จริงๆ แล้วโดยหลักการนั้น คนละรูปแบบกันเลย Exakt System นำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาใช้ตั้งแต่ต้นทางไปจดจรดปลายทาง ลดการสูญเสียรายละเอียดข้อมูล ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งมาถึงปลายทางก็จะมีการแปลงกลับมาเป็นอะนาลอก ตรงออกสู่ลำโพงโดยผ่านกระบวนการหลายๆ อย่างรวมทั้ง Optimize ด้วยภายในตัวเลย เพื่อช่วยแก้ไขและปรับปรุงสภาพห้องได้อย่างที่ยังไม่เคยทำกันได้มาก่อน เพราะสามารถ ปรับตัวเอง ให้เข้าหาสภาพแวดล้อมของห้องที่ใช้งานอยู่ได้ โดยการป้อนค่าต่างๆ เกี่ยวกับสภาพห้องที่ใช้ฟัง รวมทั้งตำแหน่งที่คิดจะตั้งวางลำโพงเข้าไปในลักษณะของ Config ซึ่งเป็น Preset จะไม่มีส่วนของไมโครโฟนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการรับข้อมูล
เพราะ LINN นั้นมองว่า ไมโครโฟนที่ใช้วัดค่านั้น ทำได้ หยาบ เกินไป ไม่สามารถตรวจวัดค่าความถี่เสียงได้อย่างถูกต้อง-เที่ยงตรงตามความเป็นจริง ทำให้ค่าตรวจวัดจากไมโครโฟนนั้นมีความผิดเพี้ยนสูง เทียบเคียงกับระบบป้อนค่าแบบ Preset อย่างของ LINN ไม่ได้ เพราะผ่านการวิเคราะห์รูปแบบของห้องอย่างละเอียดมามากมายนับไม่ถ้วนก่อนจะนำมาทำเป็น Preset ให้ผู้ใช้ได้ทำการปรับตั้งค่า ทั้งยังสามารถ Adjust และ Fine Tune ได้อย่างที่ผู้ใช้ต้องการ ระบบนี้ของ LINN จึงมีความแม่นยำสูงมาก
จากนั้น Exakt System จะทำการประมวลผลออกมา และหากว่าเราไม่สามารถจะตั้งลำโพงได้ในตำแหน่งที่ให้ผลดีที่สุดในห้องนั้น ระบบก็จะปรับตัวเองให้ยังคงสามารถส่งมอบเสียงอย่างที่ควรจะเป็น ณ ตำแหน่งตั้งวางที่ดีที่สุดนั้นออกมาได้ โดยไม่เกี่ยงตำแหน่งตั้งวางอีกต่อไป แม้ว่าจะตั้งวางลำโพงชิดติดผนังก็ตามที คุณจะตั้งลำโพงอย่างไงก็ได้ อยากจะตั้งวาง ณ ตำแหน่งที่ทำให้ห้องดูสวยงาม ไม่เกะกะ แต่อาจจะทำให้คุณภาพเสียงได้ออกมาไม่เต็มที่ Exakt System ก็จะเข้าไปจัดการให้ อย่างที่ระบบลำโพงธรรมดาทำไม่ได้ นั่นหมายความว่า Exakt System ของ LINN จะสามารถทำทุกอย่างให้ดีขึ้น และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เป็นไปได้จริง แล้วยังคงได้รับคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดออกมา
จากแต่เดิมที่ LINN มี Exakt Engine แต่เฉพาะในผลิตภัณฑ์รุ่นใหญ่ๆ ปัจจุบัน LINN ก็ได้ขยายมาสู่ผลิตภัณฑ์ระดับกลางๆ และตอนนี้ช่วงเดือนตุลาคมก็จะได้มีการออกรุ่นใหม่สำหรับระบบลำโพงแบบวางหิ้ง หรือ วางขาตั้งนั่นแหละครับ โดยได้บรรจุ Exakt Engine เข้าไว้ในขาตั้ง ซึ่งตรงนี้นับว่า เขาฉลาดมาก เพราะจะทำให้ผู้ที่มิได้ใช้ลำโพงของ LINN อยู่ แต่ทว่าชื่นชอบในความเป็น Exakt System ของ LINN ก็จะสามารถซื้อ ขาตั้ง นี้ไปใช้งานร่วมกับระบบลำโพงนั้นๆ ได้ จะเห็นได้ว่า LINN นั้นมิได้จำกัดวงอยู่แต่จำเพาะความเป็น LINN เท่านั้นแล้วนะครับ ณ ปัจจุบัน หากแต่ได้ขยายวงออกไปสู่การใช้งานร่วมกับระบบอื่นได้ด้วยอย่างลงตัว
LINN นั้นทำ Exakt System ออกมาเป็น 2 ระบบ อย่างในระบบลำโพงรุ่นเก่า ก็จะไม่มีโมดูล Exakt Engine บรรจุไว้ อย่างนี้เรียกว่า Exakt External แต่ถ้าเป็นลำโพงรุ่นใหม่ๆ ก็จะมีโมดูล Exakt Engine บรรจุมาเลยในตัว อย่างนี้ก็จะเรียกว่า Exakt Internal ทีนี้ถ้าเป็น Exakt External ก็จะต้องมี Controller เป็นตัวกลาง ทำหน้าที่เป็น DSM ส่งข้อมูลดิจิตอลออกมา เข้าสู่ Exakt Box (Exakt Link) แล้วก็จะทำหน้าที่ประมวลผลออกมา พร้อมกับทำการถอดรหัสข้อมูลดิจิตอลด้วย คือจะมีเป็น DAC อยู่ในตัวเลย จากนั้นก็จ่ายเอาท์พุทไปยังแอมปลิไฟเออร์ แล้วก็ส่งต่อเข้าระบบลำโพงตามปกติ เพราะฉะนั้น LINN จะสามารถขยายระบบอย่างนี้ออกไปในวงกว้างได้ไม่ยาก ให้สามารถใช้งานได้กับระบบลำโพงอะไรก็ได้ไม่จำกัด
ข่าววงในล่าสุดระบุว่า LINN กำลังจับมือกับ B&W เพื่อทำการออกแบบ Exakt Box สำหรับลำโพง Nautilus ของ B&W Fโดยส่วนตัวผมเองจินตนาการไปถึงว่า ในไม่ช้านับจากนี้ LINN จะทำ Exakt Box ที่มีซอฟต์แวร์สำหรับลำโพงรุ่นต่างๆ อยู่ในตัว แล้วให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานได้เลยว่าจะใช้ Exakt Box กับลำโพงรุ่นใด-แบรนด์อะไร เรียกว่าเป็นแบบสำเร็จรูปกันไปเลย สะดวกขึ้น ง่ายดายขึ้น ใครๆ ก็จะสามารถประยุกต์ใช้ Exakt System ของ LINN กับลำโพงอะไรก็ได้ที่ใช้งานอยู่ มิได้จำกัดแต่จำเพาะต้องเป็นของ LINN เท่านั้น
นี่แหละครับ คือข้อสรุปตรงประเด็นที่ว่า ทำไมผมจึงประทับใจใน LINN …อีกอย่างหนึ่ง LINN นั้นเป็นบริษัทเก่าแก่มาตั้งแต่ปีค.ศ.1973 สืบสานยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยขาดช่วงขาดตอน หรือ หลุดวงโคจรออกไปนอกสารบบ LINN จึงมีความมั่นคงมาก LINN มีผลิตภัณฑ์หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง LINN จึงมีความแข็งแกร่งในแบรนด์เนมของตัวเอง ใครที่รักที่ชอบก็จะสามารถเล่น LINN ได้ทั้งชุด ไม่ต้องมีอะไรจากแบรนด์อื่นใดเข้ามาร่วมแจม
แต่สิ่งที่สำคัญ ซึ่ง LINN นั้นเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เริ่มแรก ก็คือเรื่องของ บุคลิกเสียง เป็นอย่างไงก็ยังคงเป็นเช่นนั้นตราบจนทุกวันนี้ไม่มีเปลี่ยน สุ้มเสียงของ LINN ไม่หวือหวา ไม่สะดุดหูตอนแรกฟัง คนที่ฟัง LINN จะไม่รู้สึกสะดุดใจอะไร แต่นั่งฟังไปนานๆ จะพบว่า สุ้มเสียงของ LINN นั้นให้ความไพเราะ ยิ่งฟังก็จะยิ่งไพเราะ ต่างจากแบรนด์อื่นที่แรกฟังนั้นอาจจะรู้สึกว่า ‘โดน’ หรือว่า ‘ใช่เลย’ แต่พอฟังๆ ไปจะรู้สึกล้าหู หรือว่า รำคาญ ไม่รู้สึกอยากจะฟัง
คนที่ใช้ LINN จึงมักจะรักในความเป็น LINN ชื่นชอบในบุคลิกเสียงของ LINN ประทับใจอยู่อย่างนั้น เหนียวแน่นอยู่กับ LINN ไม่เปลี่ยนแปลง เราจึงต้องมีหน้าร้านเน้นให้ลุกค้า หรือผู้ที่สนใจได้นั่งฟัง LINN นานๆ สบายๆ ฟังเพลงที่ชื่นชอบหรือคุ้นเคย จะได้รู้ถึงความเป็น LINN ที่ให้ความไพเราะอย่างแท้จริง
อีกอย่างนะครับ LINN นั้นใช่ว่าจะไฮเอนด์จ๋าจนสุดโต่ง …การนำลำโพง LINN ไปใช้ฟังในห้องนั่งเล่นจะกระทำไม่ได้เลย มันก็ไม่ใช่ คุณสามารถฟังลำโพง LINN ในห้องนั่งเล่นได้อย่างมีความสุข คุณยังสามารถใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวได้ตามปกติ ไม่ต้องตัดขาดตัวเองโดยการเข้าไปนั่งฟังเพลงในห้องฟังเพียงลำพัง ผลิตภัณฑ์ LINN ได้รับการออกแบบให้ไม่เกี่ยงในเรื่องของอะคูสติก สามารถใช้งานได้ดีกับห้องโดยทั่วไป ไม่จำเป็นต้องมีห้องฟังอย่างเป็นการเฉพาะ
ยิ่งเป็น Exakt System ก็จะยิ่งเอื้อประโยชน์ต่อการใช้งานได้หลายหลากมากยิ่งขึ้นไปอีก ในความเป็น LINN นั้นใช่ว่าจะเป็นประเภท Old Style แต่อย่างใด LINN นั้นเป็นเหมือนกับ New Technology สำหรับ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ ไม่ต่างจากคนใช้ iPhone iPad อะไรทำนองนั้น LINN ทำการค้นคว้าเพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงที่ดีที่สุด เหมาะสม หรือ เข้าได้กับคนรุ่นใหม่ LINN จึงมิได้มองว่า ผลิตภัณฑ์ของ LINN จำเพาะจะต้องเข้าไปอยู่ในห้องฟังเพลงเท่านั้น LINN สามารถเข้าไปอยู่ในทุกๆ ห้องของบ้าน LINN นั้นสามารถตอบโจทย์ให้กับผู้คนส่วนใหญ่ เพียงแต่คนอาจจะไม่รู้-ไม่ทราบ อาจจะยังไม่สนใจ ทว่า LINN นั้นมีความน่าสนใจอยู่ในตัวของมันอย่างมากทีเดียว
What Hi-Fi ? – ทำไมจึงใช้ชื่อร้านว่า LINNK IT UP ครับ?
คุณ สิรวุฒิ – …ทำไมจึงใช้ชื่อร้านว่า LINNK IT UP ก็เนื่องเพราะถ้าเราดูที่คำว่า LINNK ก็จะมีคำที่เชื่อมโยงถึง LINN และการเชื่อมโยงนั้นก็คือ LINK ไปสู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ LINN ที่มีอยู่หลากหลาย LINNK IT UP จึงเสมือนเป็นการบอกนัยยะตรงนี้ไงครับ บวกกับว่า เราสามารถดัดแปลงนำเอาโลโก้ของ LINN มาใช้กับ LINK IT UP ได้ โดยยังคงเชื่อมโยงถึงกัน หรือว่า สื่อถึงกันได้ด้วยน่ะครับ
What Hi-Fi ? – แล้วทำตลาดผลิตภัณฑ์ LINN ทั้งในส่วนของ Music System, Movie System และ Multi-Room System เลยหรือเปล่าครับ แล้วแบ่งสัดส่วนในการมุ่งทำตลาดในแต่ละส่วนไหนอย่างไรครับ?
คุณ สิรวุฒิ – ปัจจุบันทาง LINN จัดวางประเภทของผลิตภัณฑ์ไว้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ LINN Systems กับ LINN Products ซึ่งในส่วนของ LINN Systems ก็จะแบ่งย่อยออกมาเป็น 4 กลุ่มได้แก่ Music System, Movie System, Multi-Room System และ Marine System สำหรับในส่วนของ LINN Products ก็จะแบ่งย่อยออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ใน 3 ระดับได้แก่ Klimax, Akurate และ Majik ซอยย่อยออกไปเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม :- Digital Stream Players, Turntables, Preamplifiers, Power Amplifiers และ Loudspeakers
โดยที่ Klimax จะเป็นเกรดท็อปสุด รองลงมาก็จะเป็น Akurate ส่วน Majik ก็จะเป็น Entry-Level ที่ให้ความคุ้มค่า ซึ่งทางเราก็จะทำตลาดครอบคลุมในทุกส่วนข้างต้นครับ ทาง LINN นั้นได้ระบุไว้ในเว็บไซต์ของเขาเลยว่า เราเป็น Specialists ทั้ง Klimax, Akurate และ Majik เรียกได้ว่า เราเป็นที่แรกในเอเชียที่ทำตลาดอย่างนี้ โดยที่เขามิได้กำหนดรูปแบบของร้านมาให้เราว่าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้นะ เราก็เลยมาคิดว่า LINN นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในความเป็น Lifestyle เราก็เลยมาตั้งเป็นโจทย์เพื่อที่จะหารูปแบบของการจัดร้านให้เหมาะสมกับความเป็น Lifestyle
เราจึงสรุปมาเป็นว่า รูปแบบของร้านน่าจะเป็นในลักษณะที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ของ LINN ไว้ให้เหมือนตั้งวางและใช้งานอยู่ในห้องต่างๆ ของบ้าน ห้องนั่งเล่น-ห้องทานข้าว-ห้องนอน เพื่อให้เสมือนว่าลูกค้ากำลังเดินชมและลองฟังในสภาพห้องที่ต้องการจะนำไปใช้งานจริงๆ เราจึงไม่มีห้องฟังเพราะต้องการให้ลูกค้าได้ลองฟังถึงลักษณะเสียงที่พึงจะได้รับเมื่อได้ฟังจากสภาพห้องที่มิใช่เจาะจงการเป็นห้องฟัง คืออย่างน้อยลูกค้าจะมั่นใจได้ว่าเสียงที่รับฟังจะเป็นอย่างนี้นะ แต่หากนำไปใช้ในห้องฟังก็ย่อมจะได้สุ้มเสียงที่ดีขึ้น
What Hi-Fi ? – ผลิตภัณฑ์ LINN ในส่วนที่เป็นระบบดิจิตอล นั้นล้วนใช้เทคโนโลยีระดับสูง ทางคุณสิรวุฒิ ได้มีการวางแผนให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้กับลูกค้าอย่างไร?
คุณสิรวุฒิ – ในช่วงแรกๆ นี่ เราคงใช้วิธีสาธิตการฟังในร้าน คือเราอยากให้ผู้สนใจได้ฟังคุณภาพเสียงไปพร้อมๆ กับการมอบความรู้ให้แก่เขาด้วย การติดตั้งใช้งานรวมทั้งการปรับตั้ง (Set up) ที่ถูกต้อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับสมรรถนะและประสิทธิภาพจากเครื่องที่เล่นที่ฟังอย่างเต็มที่ ระยะต่อไปเราจะใช้สื่อโฆษณาในนิตยสารต่างๆ เป็นการนำความรู้ที่ถูกต้องไปสู่ผู้อ่านผ่านทางรูปภาพ มิใช่เพียงแค่การขายสินค้า แต่ทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์และได้เข้าใจอย่างถูกต้องในผลิตภัณฑ์ของ LINN รวมถึงความรู้ระดับสากลเรื่องต่างๆ ด้วยเช่นกัน
What Hi-Fi ? – ในอดีตนั้นใครๆ ก็ทราบว่า LINN SONDEK LP12 นั้น นับเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงระดับท็อปเกรดของโลก ทว่าในปัจจุบัน LINN กลับหันมาสู่แนวทางความเป็นเจ้าแห่งเครื่องเล่นดิจิตอล ในความคิดคุณสิริวุฒิ มองว่า Contrast กันไหมครับ หรือมองว่า เป็นความชำนาญอันพิเศษของทาง LINN เพราะบริษัทผู้ผลิตอื่นๆ โดยส่วนใหญ่หากให้ความสำคัญในผลิตภัณฑ์ส่วนไหน (ความเป็นอะนาลอก หรือ ดิจิตอล) ก็มักจะทุ่มเทไปในแนวทางนั้นอย่างจริงจังโดดๆ จนสุดๆ ไปเลย?
คุณ สิรวุฒิ – อันนี้คงต้องมองว่า LINN เองทำ LP12 จนโด่งดังเป็นที่ยอมรับทั่วโลก พอต่อมาเขาก็ออกผลิตภัณฑ์ CD12 ออกมาจนถือว่าเป็นเครื่องเล่นซีดีที่ดีที่สุดเครื่องหนึ่งในโลก ณ ขณะนั้น เพื่อแสดงว่า LINN เองก็สามารถที่จะทำเครื่องเล่นดิจิตอลระดับคุณภาพดีๆ ได้ไม่แพ้เครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่แม้ในปัจจุบันก็ยังมีผู้คนจำนวนมากที่ใช้ CD12 อยู่ นั่นแสดงว่า LINN นั้นทำได้ดีทั้ง 2 ฟากฝั่ง มิได้เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกัน แต่นั่นกลับทำให้เขามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากขึ้นทั้งฟากฝั่งดิจิตอลและฟากฝั่งอะนาลอก อย่างในฟอรัมของ LINN เองก็มีการพูดคุยถึงเรื่องคุณภาพเสียงของ Akurate DS เวอร์ชั่นหลังๆ ที่ดูท่าว่าจะเปลี่ยนไป เข้าใกล้ Klimax DS มากขึ้น โดยยังคงความห่างของระดับราคาไว้เป็นเท่าตัว ส่วนทางฟากฝั่ง LP12 เองก็มีการอัพเกรดขึ้นไปได้เรื่อยๆ อยู่ตลอดเวลา ใครที่เล่น LP12 อยู่ก็จะทราบดี นี่จึงเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของทาง LINN ได้เป็นอย่างดี
What Hi-Fi ? – โดยส่วนตัวจริงๆ นั้น คุณสิริวุฒิ ชื่นชอบการเล่นไฟล์เพลงดิจิตอล หรือว่า การเล่นแผ่นเสียงครับ เพราะทั้ง 2 แนวทางก็ดูท่าว่าจะมีสาวกเพิ่มมากขึ้นด้วยกันทั้งนั้น และแต่ละฟากฝั่งก็ดูจะมีเหตุผลที่สวนทางกัน?
คุณ สิรวุฒิ – ก็ต้องบอกว่า ผมเองคุ้นเคยกับความเป็นดิจิตอลมานานตั้งแต่เด็กๆ แล้ว อะนาลอกนี่เพิ่งจะได้เริ่มเล่นได้ไม่นาน จากความที่คุณพ่อชื่นชอบในการสะสมแผ่นเสียง ผมจึงได้มรดกกองโตอันนี้มา (หัวเราะ) ทำให้เราอยากจะรู้ว่า เสียงมันจะเป็นอย่างไร แตกต่างจากดิจิตอลขนาดไหน ทำไมคนรุ่นก่อนๆ จึงยังคงหลงใหล ในขณะเดียวกันก็มีคนรุ่นใหม่ให้ความชื่นชอบ ตอนเด็กๆ เราก็ยังไม่กล้าที่จะหยิบจับแผ่นเสียงของคุณพ่อมาเล่น จนเราได้เข้ามาทำ LINN ก็เลยประจวบเหมาะพอดี จึงได้มีโอกาสได้ลองเล่นลองฟังแผ่นเสียง
ผมเองถึงขนาดว่าประกอบ LP12 ด้วยตนเองเลยทีเดียว เพื่อที่จะได้รู้และเข้าใจในความเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงว่าส่วนใดเป็นอย่างไร อะไรเป็นสิ่งสำคัญในการปรับตั้ง ซึ่งพอได้ฟังก็ต้องยอมรับครับว่า น่าทึ่ง บางแผ่น บางเพลงนี่เสียงดีมากๆ ขนาดว่าไฟล์เพลงดิจิตอลที่เราเล่นอยู่สู้ไม่ได้ และในทางกลับกันแผ่นเสียงบางแผ่นก็ให้รายละเอียดสู้ไฟล์เพลงดิจิตอลในปัจจุบันไม่ได้ นี่คือเรื่องจริง เราก็เลยเข้าใจได้ว่า ทำไมแผ่นเสียงซึ่งมีเทคโนโลยีล้าสมัยมากๆ นับย้อนไปเป็นกว่าครึ่งศตวรรษ
แต่ปัจจุบันแผ่นเสียงก็ยังยืนยงคงอยู่ได้ ทั้งๆ ที่เคยถูกซีดีล้มมาแล้วจนแทบจะหายสูญไป แต่แล้วก็กลับคืนมาได้ กลับมาอย่างมีศักดิ์ศรีที่เหนือกว่าซะด้วย ที่สำคัญกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เราเองจึงโชคดีที่อยู่ในฐานะผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีทั้ง 2 ด้าน ก็เลยชื่นชอบการฟังจากทั้งไฟล์เพลงดิจิตอลและแผ่นเสียงครับ โดยส่วนตัวคิดว่า แผ่นเสียงจะยังคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เพราะคนรุ่นใหม่บางกลุ่มชื่นชอบในการฟังแผ่นเสียง ซึ่งก็เท่ากับว่าได้เข้ามารับช่วงต่อจากคนรุ่นก่อนๆ ส่วนการเล่นไฟล์เพลงดิจิตอลก็จะยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน เพราะเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ๆ คุ้นเคยกันอยู่ และมีพัฒนาการอยู่ตลอดเวลาครับ
What Hi-Fi ? – ขอย้อนมาที่แนวนโยบายในการบริหารและจัดการของคุณสิริวุฒิ ว่าได้วางไว้อย่างไร และมีการให้บริการอะไรบ้าง?
คุณ สิรวุฒิ – ก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับว่า เราเองเคยเป็นลูกค้ามาก่อน เราจึงรู้ว่าร้านที่ดีอย่างที่ลูกค้าต้องการนั้นเป็นอย่างไร เราจึงไม่ได้เน้นว่า ทุกคนที่เดินเข้ามาจะต้องปิดการขายให้ได้ แต่เราจะให้การต้อนรับ มอบความเป็นกันเองให้แก่ทุกๆ คนที่เดินเข้ามาในร้าน ลูกค้าอยากจะฟังอะไร หรือว่ามีปัญหาที่ต้องการสอบถาม เราจะยินดีให้บริการ ไม่ว่าลูกค้าจะแต่งตัวหรูหราหรือว่าขาสั้นรองเท้าแตะก็จะได้รับบริการที่เทียมเท่ากัน ผมเน้นอย่างมากกับทีมงานว่า เราจะต้องไม่ดูถูกลูกค้า เรามีหน้าที่ให้การบริการ ทำอย่างไรให้ลูกค้าหรือผู้ที่เดินเข้าร้านประทับใจ วันนี้เขาอาจจะยังไม่ใช่ลูกค้า แต่หากว่าเขาประทับใจในไม่ช้าเขาก็จะมาเป็นลูกค้าของเราเอง เหมือนอย่างที่เราประทับในการบริการของทาง DECO จนหลายครั้งเข้าเราเองกลับเกรงใจ และเป็นลูกค้าเขาโดยปริยาย
ตรงนี้เราการันตีได้ครับว่า ยินดีให้การบริการอย่างจริงใจ เดินเข้าร้านมาขอฟังรุ่นที่สนใจเราก็ดีใจแล้วครับ เพราะนั่นเท่ากับว่า คุณเป็นบุคคลที่มี Lifestyle ในแบบที่ LINN เป็น คุณกับเราจึงเสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ที่เดินเข้ามาเยี่ยมเราที่บ้าน ด้วยความจริงใจต่อกัน อยากให้ผู้ที่สนใจหรือลูกค้ามองร้านของเราเป็นเสมือนบ้านหลังที่สองของเขาครับ ตัวผมเองไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหน ใกล้-ไกลไปต่างจังหวัดก็จะเดินทางไปด้วยตนเองทุกๆ รายครับ รวมทั้งเราจะเน้นการให้บริการหลังการขายด้วยครับ
What Hi-Fi ? – แล้วข่าวเรื่องการย้ายร้านใหม่นี่ละครับ?
คุณ สิรวุฒิ – ตรงนี้ต้องขอบอกว่า ตั้งแต่เริ่มแรกของการทำร้าน LINNK IT UP เลยนะครับ ที่ผมเองบอกกับทุกคนว่า ผมไม่สามารถรันธุรกิจนี้ด้วยตัวเองเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ได้ ผมต้องอาศัยคนอื่น คนที่ผมไว้วางใจ และที่สำคัญต้องมีใจรักในความเป็น LINN ไม่ต่างไปจากผม ทั้งนี้ก็เนื่องเพราะความจำเป็นในธุรกิจครอบครัว ผมเองนั้นเคยคิด fade ตัวเองออกมา แล้วทำตัวเป็นแค่ importer สั่งของ LINN เข้ามา แล้วหาพันธมิตรมาเป็น dealer หลายๆ รายเข้ามาร่วมงานกัน แต่ครั้นเรามีหน้าร้านที่พารากอน เราจึงรู้ว่า บุคลากรของเรานั้นค่อนข้างแข็งอย่างมีคุณภาพ แม้จะไม่ถึงขั้นดีเลิศประเสริฐศรี แต่พวกเขาก็ทำกันได้ดี ดังนั้นผมจึงคิดวางแผนไว้สำหรับพวกเขาว่า ผมจะให้พวกเขาช่วยกันดูแลร้าน ส่วนผมก็จะค่อยๆ Fade ตัวเองออกมา เหมือนกับว่า ยกร้าน ให้พวกเขาทำกันไปเลย แต่ถ้าพวกเขาไม่อยากรับข้อเสนอนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องย้ายร้าน ออกไปสู่ทำเลใหม่ที่ผมสามารถดูแลอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นได้สะดวก
ซึ่งตอนนี้พวกเราก็กำลังพูดคุยเรื่องนี้กันอยู่ ทว่าตอนนี้มาประจวบเหมาะกับการที่ทางเราเล็งเห็นความจำเป็นของการมีห้องฟังอย่างเป็นกิจจะลักษณะ เพื่อรองรับกับลูกค้าที่มีห้องฟัง แม้ว่าเราจะบอกว่า LINN นั้นออกไปทางไลฟ์สไตล์มากกว่า แต่ลูกค้าส่วนนึงก็ยังคงยึดมั่นอยู่กับการลงทุนทำห้องฟังเพลง และก็รักชอบความเป็น LINN ด้วยในขณะเดียวกัน ดังนั้นเพื่อการนี้ ผมจึงจำเป็นต้องทำการ Renovate ร้านนี้ใหม่ด้วยการจัดทำห้องฟังอย่างเป็นการเป็นงานขึ้นมา ซึ่งก็คงต้องลงทุนอีกเป็นล้าน ฉะนั้นผมจึงว่า ถ้าลงทุนตรงนี้ แล้วตัวผมเองก็ยังคงมาทำหน้าที่ดูแลร้านได้อย่างไม่เต็มที่เช่นเดิมนั้น มันก็จะสูญเปล่าไป สู้การลงทุนทำที่ร้านใหม่ใช้เงินเท่าๆ กัน หรือ อาจจะมากกว่านิดหน่อย แต่ทว่าอยู่ใกล้บ้าน ซึ่งผมสามารถเข้ามาดูแลร้านใหม่ได้อย่างใกล้ชิด หรือว่า สะดวกขึ้นน่าจะเป็นการดีกว่า โครงการ ย้ายร้าน จึงบังเกิดขึ้นมา ซึ่งพี่ชายของผมที่เป็นสถาปนิกชื่อดังมีส่วนช่วยผมในส่วนนี้มากทีเดียว
What Hi-Fi ? – พอจะบอกได้ไหมครับว่า จะย้ายร้านใหม่ไปอยู่ที่ใดครับ?
คุณ สิรวุฒิ – ตรงนี้ทีแรกเลยผมเองใช้ผลิตภัณฑ์ LINN อยู่ จึงได้ลงทุนทำบ้านทั้งหลังให้เป็นศูนย์รวมของ LINN ห้องนั้นห้องนี้ในบ้านติดตั้งระบบของ LINN เพื่อพร้อมที่จะโชว์สมรรถนะและคุณภาพเสียงของ LINN โดยใช้สภาพแวดล้อมที่เป็นจริง คือ บ้านของผมเอง แต่ทีนี้พอทำเสร็จกลายเป็นว่า จะเปิดบ้านให้ใครต่อใครเข้ามาฟัง LINN ในห้องนั้นห้องนี้ แล้วทีนี้ความเป็นส่วนตัวละ ก็นี่มันบ้านที่เราและครอบครัวอยู่อาศัย มันเลยเป็นไปไม่ได้
ผมเลยวางแผนใหม่ เตรียมจะใช้คอนเซ็ปต์เดิมนี่แหละ แต่ปรับเปลี่ยนมาสร้างเป็นอาคาร 2 ชั้นอยู่ใกล้ๆ บ้านมีที่จอดรถ สะดวกที่ผมจะเดินเข้ามาดูแลร้าน แล้วก็เปิดให้คนได้เข้ามาฟัง LINN ได้อย่างเต็มที่ ทำเป็นห้องนั้น-ห้องนี้ ติดตั้งระบบนั้น-ระบบนี้ไว้พร้อมสรรพ ให้ผู้ที่สนใจได้ฟังผลิตภัณฑ์ได้อย่างเป็นกิจจะลักษณะ ซึ่งพื้นที่ร้านใหม่นี้ก็จะยังคงมีพื้นที่กว้างขวางใกล้เคียงกับร้านที่พารากอนครับ คือประมาณ 80 ตารางเมตร หรืออาจจะปรับขยับขยายมากขึ้นเป็นถึง 100 ตารางเมตรก็ได้ เพราะจริงๆ แล้วสถานที่ที่สร้างร้านใหม่นั้นหน้าแคบแต่ว่าลึก จึงปรับเปลี่ยนได้แต่ก็จะทำอย่างถาวรกันไปเลย ที่สำคัญเราจะมีห้องฟังที่ดีพร้อมไว้รองรับลูกค้าด้วย โดยกำลังคิดกันว่าจะไม่ให้มีรูปแบบ Old Style เช่นที่ทำกันทั่วไป
What Hi-Fi ? – แล้วจะมีอะไรแปลกใหม่ไปกว่าเดิมที่ร้านใหม่ไหมครับ?
คุณ สิรวุฒิ – บอกได้เลยว่า พอเราย้ายร้านออกมาจากพารากอน ก็จะมีค่าใช้จ่ายอะไรต่างๆ หายไป เป็นผลให้ต้นทุนลดลง เราก็เลยเกิดความคิดที่จะนำเงินส่วนที่ลดลงไปนั้น มาใช้ทำเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของมาร์เก็ตติ้งให้มากขึ้น ซึ่งอาจรวมไปถึงเรื่องของส่วนลดติดตามมา โดนในช่วงแรกเราจะใช้ทำโปรโมทร้านใหม่ ให้ใครต่อใครได้ทราบว่า มาที่ใหม่แล้วได้อะไรที่มากขึ้น ยิ่งกว่าการเดินเข้าที่ห้าง ซึ่งแน่นอนว่า ผมต้องมีการวางแผนเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่มากขึ้น รวมไปถึงเรื่องของการจัดการร้านใหม่ด้วยเช่นกัน
LINN นั้นยังคงเป็น Scotland Made เต็มขั้น ในขณะที่สินค้าของอังกฤษบางตัวได้ย้ายการผลิตออกไปนอกสหราชอาณาจักร แต่สำหรับ LINN ยังคงดำรงความเป็นอังกฤษขนานแท้อยู่ ซึ่งแม้ว่าความที่ Made in Scotland เต็มขั้นจะเป็นจุดแข็งของ LINN แต่จุดนี้ก็ทำให้ราคาจำหน่าย LINN ค่อนข้างสูง การย้ายร้านใหม่ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายที่ลดลง เราจึงคิดที่จะนำมาใช้เป็นการปรับลดราคาจำหน่ายของ LINN เสียใหม่ด้วยซะเลย อาจถึงขั้นสามารถนำเอา MSRP (Manufacturer’s Suggested Retail Price) มาคูณกับอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท ณ ขณะนั้นกันเลยก็เป็นได้นะครับ ผมคิดไว้อย่างนั้นจริงๆ ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้บอกได้เลยว่า ราคาจำหน่ายของ LINN ในบ้านเราที่ผมทำอยู่เวลานี้ แตกต่างจากที่อังกฤษประมาณแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเองครับ คืออยากให้ถึงขั้นพูดกันได้ว่า ราคาเท่าที่อังกฤษ คนจะได้ไม่ต้องคิดอะไรมากกันอีกต่อไป
What Hi-Fi ? – ในอนาคตจะมองหาผลิตภัณฑ์อะไรไว้เป็นพิเศษ นอกเหนือจาก LINN PRODUCTS หรือเปล่าเอ่ย?
คุณ สิรวุฒิ – ต้องบอกว่า ตอนนี้ขอทำ LINN ให้เต็มที่ก่อน เพราะเมื่อได้เข้ามาแล้วเราไม่ได้คิดทำเล่นๆ ครับ ต้องเดินหน้าต่อไปให้สุด ตั้งใจว่าจะให้ตัวเองเสมือนเป็น Brand Ambassador ของ LINN เลย เห็นเราก็เสมือนเห็น LINN รวมทั้งตั้งใจจะให้ที่นี่เป็นศูนย์ของ LINN เรียกว่าทำให้ดีที่สุดครับ
What Hi-Fi ? – ทาง LINN จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาจำหน่ายในช่วงปลายปี่นี้ ต่อต้นปีหน้าบ้างไหมครับ?
คุณ สิรวุฒิ – อยากที่บอกครับ LINN กำลังเน้นไปที่ Exakt System ซึ่งก็จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ทางด้านลำโพงออกมา เป็นแบบวางขาตั้ง โดยเป็นรุ่นที่บรรจุ Exakt Box ไว้ในขาตั้ง ใช้ชื่อรุ่นว่า Akudorik โดยที่ก่อนหน้านี้ได้มีเป็นรุ่นใหญ่ออกมา โดยชื่อรุ่นว่า Akubariks ที่เป็นแบบตั้งวางพื้น ทางเราได้สั่งของไปแล้ว น่าจะเข้ามาถึงเมืองไทยในช่วงปลายปีนี้ครับ
What Hi-Fi ? – มีอะไรอยากจะฝากบอกไปถึงทางลูกค้า หรือผู้สนใจใน LINN บ้างไหมครับ?
คุณ สิรวุฒิ – ขอทิ้งท้ายไว้ว่า ปัจจุบันลำโพงทุกรุ่นของ LINN สามารถอัพเกรดขึ้นมาเป็น Exakt System ได้หมด โดยการใช้ Exakt Box เข้าไปใช้งานในระบบ ไม่ว่าจะเป็นลำโพงรุ่นเก่าๆ ของ LINN ก็ตามทีครับ อีกทั้งทาง LINN ยังได้กำหนดโปรแกรมพิเศษขึ้นมา โดยถ้าหากทางลูกค้าซื้อ Exakt System ไปใช้งาน ก็สามารถนำผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าที่ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Exakt System ได้มาขายคืน หรือ Trade In ให้กับทางเราด้วยราคาที่พูดคุยกัน จากนั้นทาง LINN มองว่า เพื่อเป็นโอกาสให้กับผู้ที่จะมาซื้อสินค้าที่ Trade In นี้ไปใช้งาน จึงขยายเวลาการการันตีสินค้านี้ออกไปอีก 5 ปีเต็ม ทำให้ลูกค้าของ LINN รู้สึกแฮปปี้ในระยะยาว
อีกอย่างทาง LINN เองก็แจ้งมาว่า อยากให้เรามี Dealer เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหลังการย้ายร้าน เราคงต้องมีการร่วมมือกับร้านค้าปลีกมากขึ้น อย่างตอนนี้ก็วางแผนจะจับมือร่วมกับทาง NEO เชียงใหม่ จะจัดเป็น Event เล็กๆ ที่นำ Exakt System ขึ้นไปโชว์ มีการเชิญวิทยากรมาอธิบาย พร้อมทั้งให้ผู้ที่สนใจได้รับฟัง Exakt System กัน
- “เราเองเคยเป็นลูกค้ามาก่อน เราจึงรู้ว่าร้านที่ดีอย่างที่ลูกค้าต้องการนั้นเป็นอย่างไร”
- “ไม่ว่าลูกค้าจะแต่งตัวหรูหรา หรือว่าขาสั้นรองเท้าแตะ ก็จะได้รับการบริการเท่ากัน”
- “ตอนนี้ขอทำ LINN ให้เต็มที่ก่อน เพราะเมื่อได้เข้ามาแล้ว เราไม่ได้คิดทำเล่นๆ ครับ ต้องเดินหน้าต่อไปให้สุด ตั้งใจว่าจะให้ตัวเองเสมือนเป็น Brand Ambrassador” ของ Linn เลยครับ