What HI-FI? Thailand

รีวิว Tone Winner : HD-3100

Garoonchart  Bukkavesa

การเล่นโฮมเธียเตอร์อุปกรณ์ยอดนิยมคือ เอ / วี รีซีฟเวอร์ ซึ่งบอกเลยว่าในอดีตนั้น แบรนด์ “ญี่ปุ่น” ครองเมืองอยู่อย่างมั่นคง แบรนด์จากประเทศอื่นมีบ้าง เช่น อังกฤษ แต่ยังไม่สามารถบุก “ตีป้อม” ค่ายญี่ปุ่นให้สะเทือนได้เสียที

ขณะที่ในยุค 2-3 ปีให้หลังมานี้ เหล่าผลิตภัณฑ์แบรนด์แปลก ๆ ไม่คุ้นหูจากแผ่นดินใหญ่ได้พาเหรดยกพลขึ้นบกบุกเข้ามาทุกทิศทางทุกตลาด ซึ่งเมื่อก่อนได้ยินคำว่าจีน หลายคนอาจส่ายหน้า พร้อมมีคำถามว่า

“รวนไหม?”

“ทนทานเพียงใด?”

“เสียงดีหรือ?”

“ราคาถูกมากไหม?”

ฯลฯ

แน่นอนว่าในที่สุด เมื่อผ่านไป 2-3 ปี เริ่มได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้น บางตัวนี่ถือว่าน่าจับตา ฟีเจอร์เพียบ แต่ราคาดีงาม ความทนทานใช้ได้เลย ทำให้ “คำถามข้างต้น” ลดน้อยลงไป

วันนี้พวกเขาเปิดตลาดเอ / วี รีซีฟเวอร์ กันแล้วพร้อมท้าชนแบรนด์ญี่ปุ่น นำร่องโดย Tone Winner ซึ่งมีหลายผลิตภัณฑ์ เช่น โปรเซสเซอร์, เอ / วี รีซีฟเวอร์ ฯลฯ

โรงงาน Tone Winner เอง มีประสบการณ์กว่า 28 ปีในการประกอบเครื่องเสียง หาใช่มือใหม่แต่ประการใด มั่นใจได้ว่าเขาน่าจะเรียนรู้จุดอ่อนจุดแข็งมาไม่น้อย เพราะคงไม่มีผู้นำเข้ารายใดนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาแล้วอยู่ได้ 3-4 เดือนก็เสียกว่าครึ่ง ต้องทำเรื่องเคลมคืนให้วุ่นวาย เสียเครดิตเปล่า ๆ พวกเขาต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจว่าดี ทนทาน เผื่อสร้างฐานลูกค้าหน้าใหม่เข้ามา จะได้บอกกันปากต่อปาก เพื่อความมั่นคงในระยะยาวมากกว่าครับ

ในครั้งนี้เอ / วี รีซีฟเวอร์ ได้ถูกส่งมาให้ลองเล่น ใช้รหัสรุ่น HD-3100 เดี๋ยวไปดูกันครับว่า Tone Winner : HD-3100 จะทำหน้าที่ได้ดีเพียงพอจะต่อกรกับแบรนด์ญี่ปุ่นหรือไม่?

คุณสมบัติพิเศษ Tone Winner : HD-3100

ลักษณะทั่วไป Tone Winner : HD-3100

หน้าตาของ Tone Winner : HD-3100 พ่นสีดำ แพคเกจออกแบบมาค่อนข้างดี ตัวเครื่องออกแบบให้มีความสมมาตร

มุมซ้ายเป็นปุ่มหมุน ทำหน้าที่เร่งลดระดับเสียงของไมโครโฟน กึ่งกลางเป็นจอแสดงผล มีโลโก้ยี่ห้อเหนือขึ้นไป ใต้จอเป็นปุ่มกดทรงกลมทำหน้าที่ต่าง ๆ เรียงเป็นตับ (ซ้ายสุดช่องเสียบชุดไมโครโฟน 2 ตัว / ตัดเสียง / กรอเดินหน้า / กรอถอยหลัง / เปิด-ปิดเครื่อง ฯลฯ)  ขวาสุดเป็นปุ่มหมุนเร่งลดระดับเสียง

ด้านหลังไล่จากซ้ายไปขวา เป็นกลุ่มปรีเอ้าท์ 7.1.4, ช่อง Analog In, Karaoke In, Digital In (Coaxial 2 ช่อง), ช่องเสียบไมโครโฟน, ช่องเสียบตัววัดระดับเสียง, เสาบูลทูธ ถัดมา Digital In (Optical 2 ช่อง), กลุ่ม HDMI In / Out ล่างสุดทางซ้ายเป็นกลุ่มขั้วต่อสายลำโพง ซึ่งออกแบบมาแบบเยื้องกัน ทำให้ต่อใช้งานง่ายขึ้น ลดการแตะของสายได้ดีอีกนิด ขวาสุดเบ้ารับสายไฟเอซีแบบ IEC พร้อมเมนสวิตช์

ให้รีโมทคอนโทรลไร้สายใช้งานง่ายมาด้วย

สเปค Tone Winner : HD-3100

อุปกรณ์ที่ใช้ทดลอง Tone Winner : HD-3100

ลองฟัง Tone Winner : HD-3100

Tone Winner : HD-3100 ถูกติดตั้งและเซ็ทอัพในห้องผม การติดตั้งสาย HDMI, สายซับ, สายลำโพง ฯลฯ ไม่ยุ่งยากใด ๆ เหมือนเครื่องญี่ปุ่นนั่นเลย หลังจากต่อเข้าระบบเรียบร้อย วางตำแหน่งเดิม เนื่องจากมีหม้อแปลงขนาดใหญ่ และกินไฟสูงสุดถึง 1,000 วัตต์ ดังนั้นสายไฟเอซีผมแนะนำให้ใช้ตัวนำขนาดใหญ่ 10 AWG ขึ้นไปเพื่อจ่ายไฟได้เต็มที่ เสียงจะได้ไม่ป้อแป้เวลาช่วงโหม

ตัวเครื่องมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ควรวางบนชั้นที่แข็งแรงมั่นคง เพื่อความปลอดภัย

ปกติผมจะปรับพารามิเตอร์ด้วย “หู” ของผมเอง แต่เมนูการสั่งงานดูใช้งานยากไปบ้าง เลยขอใช้ไมโครโฟนเซ็ทอัพแทน เสียบสายต่อ นำตัวไมโครโฟนรับเสียงไปอยู่บริเวณจุดนั่งฟัง กดให้เครื่อง calibrated เอง ไม่นานก็เสร็จ

เริ่มต้นผมหักดิบด้วยจัดของโหดใส่แผ่น Unstoppable (Bluray แผ่นไทย, dts MSTR 7.1) ตัวเครื่อง Tone Winner : HD-3100 ยังไม่เบิร์นอะไรดีเลย เพื่อดูลู่ทาง ผมบอกเลยว่า ว้าว…เสียงพูดดี สะอาด เคลียร์ แยกแยะดี ไดนามิคดีสวิงรุนแรงทีเดียว..แววมาดีเลยครับ

ต้องบอกว่าการ calibrated ด้วยไมโครโฟนถือว่าเซ็ทอัพอัตโนมัติได้ดีมาก ๆ การแพนฯ / มิติ /  ตำแหน่ง ฯลฯ ทำได้น่าพอใจ จุดนี้ทำให้มือใหม่ซื้อไปแล้วไม่ต้องกังวลว่าเซ็ทไม่เป็น เสียงจะไม่ดี จะไปจ้างจูนเนอร์มาก็แพงเอาเรื่อง…ปัญหานี้จะหมดไปเลยครับ

จากนั้นเวลาจำกัดผมเบิร์นอินไปจน 30 ชั่วโมง ต้องเริ่มฟังแล้วเพื่อทำการถ่ายพรีวิว หยิบหนัง Kungfu Panda Kungfu Panda (Bluray แผ่นอเมริกา, Dolby True HD 5.1) พบว่าสนามเสียงด้านหลังชัดเจน โอบล้อมดีราวกับอยู่ในเหตุการณ์ มิติชิ้นดนตรีมีความแม่นยำ เสียงต่าง ๆ มีโทนัลบาลานซ์ดี ไม่เน้นให้ดุดัน เบสสมดุลย์ เสียงกลางสะอาด ลื่นไหล โฟกัสชัดเจน ปลายแหลมเปิดโปร่ง มีความกังวานดี

Cars (Blu-ray แผ่นญี่ปุ่น, Dolby True HD 6.1) ปลายแหลมเปิดโปร่ง รายละเอียดแผ่วเบาถ่ายทอดได้ดี รับรู้โดยง่าย มีความกังวานดี เสียงกลางสะอาด ไม่อู้ก้องหรือพุ่งโด่งราบรื่น ย้ำหนักเบาดี เสียงทุ้มไล่โน๊ตเบสได้ดี ย้ำหนักเบาชัดเจน เนื้อเสียงมีน้ำหนัก ไม่บาง เด้งตัวดี จำลองการแพนทิศทางดีมากถูกต้อง บรรยากาศโอบล้อมดีราวกับอยู่ในเหตุการณ์

Need For Speed (Bluray แผ่นไทย, dts MSTR 7.1) ปลายแหลมเปิดโปร่ง ไม่ทึบ หางเสียงทอดตัวได้ดี เสียงกลางชัดเจนแต่เป็นธรรมชาติ รายละเอียดมาเต็ม เสียงทุ้มหนักแน่น มวลเสียงมีบอดี้เข้มข้น ไดนามิครุนแรง สะใจ บรรยากาศโอบล้อมดี แพนทิศทางถูกต้อง

Aquaman (4K Bluray แผ่นฮ่องกง, Dolby Atmos) ปลายแหลมเปิดโปร่ง รายละเอียดดี ไม่ละเลยแม้ระดับเสียงที่แผ่วเบา หางเสียงทอดตัวกังวานดี เสียงกลางสะอาด ราบรื่น เป็นธรรมชาติ  ย้ำหนักเบาดี เสียงทุ้มมีน้ำหนัก เด้งตัวดี แพนทิศทางถูกต้อง บรรยากาศโอบล้อมดีมาก 

เอ / วี รีซีฟเวอร์หลายตัวเก่งแต่แนวบู๊ล้างผลาญอย่างหนัง 3-4 เรื่องที่ฟังไป แต่พอแนวบุ๋นตกม้าตายกันมากมาย ฟังแล้วมีแต่แข็งกระด้าง ขาดความไพเราะ ยกเว้น Tone Winner : HD-3100 เมื่อลองฟัง Hitman : David Foster (Bluray แผ่นอเมริกา, dts MSTR 7.1)  ถ่ายทอดเสียงนักร้องหลายคนที่มาร้อง มีความลื่นไหล น่าฟัง ออดอ้อนดี ไม่จัดจ้าน สอบผ่านแบบง่าย ๆ

เสียดายผมไม่ใช่คนชอบร้องเพลง (ถนัดฟังมากกว่าครับ) เลยไม่ได้ลองฟังก์ชั่นคาราโอเกะที่ Tone Winner : HD-3100 มีมาให้ด้วย

สรุปผลการฟัง Tone Winner : HD-3100

ผมเชื่อว่าถึงวันนี้การถามว่า รวนไหม, เสียงดีหรือ? คงแทบไม่จำเป็นอีกแล้ว อย่างตัว Tone Winner : HD-3100 ต้องเรียกว่า ถ่ายทอดคุณภาพเสียงได้น่าประทับใจมาก หลายสิ่งอย่างแสดงถึงการอ่านเกมส์ที่ดี โดยเฉพาะไมโครโฟนระบบ Auto Calibrated เพียงแค่เสียบเครื่องจะคำนวนให้เอง เหมาะมากกับคนที่เซ็ทอัพไม่เป็น, มือใหม่ทั้งหลาย คราวนี้ไม่ต้องง้อช่างปรับจูนกันอีกเลย… 

Tone Winner : HD-3100 ท้าชนแบรนด์ญี่ปุ่นตัวท๊อปเต็ม ๆ แต่คุณจ่าย “ถูกกว่า” เสมอ ผมอยากให้เปิดโลกใบใหม่ อย่าไปยึดติดว่าต้องแบรนด์ญี่ปุ่นเท่านั้น ผมเชื่อว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ใหม่อย่างแน่นอนครับ


ขอขอบคุณ ร้าน Home Entertainment Expert โทร. 080 987 9999 ที่เอื้อเฝื้อเครื่องยืมทดสอบ

Exit mobile version