รีวิว TCHERNOV Reference mkII IC Interconnect Cable

0

มงคล อ่วมเรืองศรี

Tchernov Cable REFERENCE

Tchernov Cable เริ่มก้าวเข้าสู่ตลาดเครื่องเสียงระดับไฮ-เอ็นด์ตั้งแต่ปีค.ศ. 2002 เป็นต้นมา โดยกระบวนการผลิตทั้งหมด รวมทั้งนับตั้งแต่การออกแบบล้วนกระทำในประเทศรัสเซีย ทว่าอาจจะแตกต่างกันอยู่บ้างสำหรับแหล่งผลิตของแต่ละซีรี่ส์ที่มีความยาก-ง่ายของกรรมวิธีการผลิตเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยที่สายรุ่นต่างๆ ของซีรี่ส์ Junior, Original, Special รวมทั้ง Classic จะได้รับการผลิตในโรงงาน Chuvashcable ใน Cheboksary

ส่วนซี่รี่ส์ที่มีความพิเศษอย่าง Ultimate, Reference และ Classic XS SC จะได้รับการผลิตที่ design engineering bureau ใน Mytishi (เขตปริมณฑลของ Moscow) หากแต่กระบวนการ “เข้าหัว” หรือ termination process จะกระทำกันในโรงงานของ Tchernov เองในกรุงมอสโคว์ ซึ่งตามปกติจะผลิตสินค้าทางด้านอากาศยาน, ยานอวกาศ รวมถึงอุปกรณ์ทางทหารของรัสเซีย ทั้งนี้หัวเสียบต่อต่างๆ รวมทั้งตะกั่วบัดกรีจะเป็นชนิดที่สั่งผลิตพิเศษเฉพาะ Tchernov เท่านั้นส่งตรงจากไต้หวัน

Tchernov Cable มีผลิตภัณฑ์ทางด้านสายเชื่อมต่อต่างๆ (cables) สารพัดอย่างสำหรับอุปกรณ์เครื่องเสียงโดยเฉพาะ ครอบคลุมตั้งแต่สายนำสัญญาณ (interconnect cable), สายลำโพง (speaker cable), สายดิจิตอล (digital cable) และสายไฟฟ้าเข้าเครื่อง (power cable) จัดแบ่งลำดับชั้นผลิตภัณฑ์ไว้เป็น 6 ซีรี่ส์ด้วยกัน เริ่มต้นจาก Standard (ระดับ entry-level), Original (ซีรี่ส์ที่ให้ความคุ้มค่าต่อราคา), Special (ซีรี่ส์ตรงกลางระหว่าง Original กับ Classic), Classic (นับเป็นซีรี่ส์ยอดฮิต), Reference (อันเป็นซีรี่ส์ในระดับ เรือธง) และปิดท้ายด้วย Ultimate ที่เป็นซีรี่ส์สุดพิเศษอันเหนือชั้น ชนิดที่ว่าปัจจัยราคามิใช่ปัญหา ขอให้ได้มาซึ่งเสียงที่ดีสุดๆ ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง

คุณลักษณ์

Tchernov Cable ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในซีรี่ส์ Reference เป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 2005 ซึ่งก็ปรากฎว่า ได้รับการกล่าวขานในวงกว้าง ทั้งยังได้ทำการจดทะเบียนสิทธิบัตรทางนวัตกรรม (patented innovation) ใหม่ล่าสุดเอาไว้ 2 รายการด้วยกัน นั่นก็คือ FTDA® (Fiber Torsion Damping) technology (Patent RU No.124834U) และ SATI® (Patent RU No.124832U) conductor insulation ซึ่งเมื่อเสริมเข้าไปกับ X-Shield® SE (Patent RU No.124835U) และ SDB (Standard Dielectric Binding) ที่มีอยู่เดิม ทำให้ซีรี่ส์ Reference ของ Tchernov Cable มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก

FTDA® (Fiber Torsion Damping)
SATI® (Semi-Air Tape Insulation)

หากสังเกตุดูจะเห็นว่า Tchernov Cable นั้นมุ่งเน้นไปให้ความสำคัญกับเรื่องของ Dielectric และ Insulation รวมถึงเทคนิกการชีลด์สาย (Shielding) ที่ให้ผลลัพธ์ทางด้านของการป้องกัน และลดทอนสัญญาณรบกวนแทรกซ้อน นอกเหนือจากการมีทคโนโลยีในการผลิตเนื้อสายทองแดงความบริสุทธิ์สูง หรือ BRC (Balanced Refinement Copper) ที่เป็นของตัวเอง

BRC เพื่อการส่งมอบคุณภาพของเสียงอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง

แวดวงสายต่างๆ (cables) แม้จะมีพัฒนาการแรกเริ่มจากทางตะวันตกอย่างยุโรปและอเมริกา ทว่าในด้านการถลุงและหลอมสินแร่ให้ได้มาซึ่งแร่ธาตุหลักที่มีค่าความบริสุทธิ์สูงมากๆอย่างยิ่งยวดนั้น เรา-ท่านน่าจะพอทราบกันดีว่า ถ้าพูดถึงในเรื่องของเนื้อสายทองแดงค่าความบริสุทธิ์สูง หรือ OFC (Oxygen Free Copper) แล้วไซร้ ญี่ปุ่นนั่นแหละที่เป็นแหล่งกำเนิดซึ่งยังคงดำรง “เคล็ดลับ” นี้ไว้ กระทั่งกลายเป็นแหล่งผลิตสำคัญ-แหล่งเดียวในโลกก็ว่าได้ ถ้าคุณอยากจะได้ “6N Cu” ระดับ 99.99999% ขึ้นไปมาใช้งาน…

แต่ด้วยกระบวนการถลุงสินแร่ทองแดงในแบบฉบับของ Tchernov Cable ก็ทำให้ได้มาซึ่ง “เนื้อสายทองแดงค่าความบริสุทธิ์สูง” ด้วยเช่นกัน ทว่า Tchernov Cable เลือกที่จะใช้คำว่า Balanced Refinement Copper (BRC) เพื่อสื่อถึงความโดดเด่นของเนื้อสายทองแดงค่าความบริสุทธิ์สูงในแนวทางของตนเองโดยเฉพาะ

…ทว่าดูเหมือน Tchernov Cable เลือกที่จะไม่คุยโวโอ้อวดในเรื่องของ “เนื้อสายทองแดงค่าความบริสุทธิ์สูง” หรือ BRC นี้สักเท่าไหร่ ไม่ได้มีการอวดอ้างถึงการใช้วัสดุสุดพิสดารอะไร แต่กลับยืนหยัดบนพื้นฐานหรือปัจจัยที่เกี่ยวข้องของความเป็นจริง ซึ่งหากวิเคราะห์ดูถึงเบื้องลึก Tchernov Cable นั้นเน้นหนักไปที่เรื่องโครงสร้างของสายตัวนำ ควบคู่ไปกับเนื้อตัวนำที่มีคุณภาพสูง โดยที่ยังคงเน้นในกรรมวิธีถลุงสินแร่แบบเก่า ซึ่งใช้กระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป เนื้อทองแดงค่าบริสุทธิ์สูงจะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นทำให้ได้มาซึ่งโครงสร้างภายในโมเลกุลที่ดีกว่า หรืออาจจะคุยได้ถึงขั้น ดีที่สุดก็ว่าได้ และสินแร่ทองแดงที่เลือกใช้ยังเป็นสินแร่ทองแดงชั้นเยี่ยมที่ขุดขึ้นมาจากบริเวณเทือกเขาอูรัล (Ural region) ในรัสเซีย …นี่คือจุดเด่นของความเป็น Tchernov Cable

อะไร ? คือความโดดเด่นของ BRC

การทำให้เนื้อตัวนำที่เป็นทองแดงมีค่าความบริสุทธิ์ที่สูงมากๆ นั้น ส่งผลดีต่อการนำ-พาสัญญาณโดยตรง เนื่องเพราะว่าหากมีสิ่งเจือปนแทรกตัวอยู่ในเนื้อตัวนำ เจ้าวัสดุเจือปนนั้นก็จะแทรกตัวขวาง-คั่นอยู่ระหว่างช่วงต่อของผลึกสสารที่เป็นเนื้อตัวนำนั้นๆ ทำให้อิเล็กตรอน-ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณไฟฟ้า (signal) หรือว่า กระแสไฟฟ้า (electric power) เคลื่อนที่ (ไหล) ผ่านในเนื้อตัวนำนั้นๆได้ลำบาก ก่อให้เกิดมีอาการ “กระโดดข้าม” (jump) ตรงช่วงรอยต่อของเนื้อตัวนำกับสิ่งเจือปนที่คั่น-ขวางอยู่

หากสามารถทำให้เนื้อตัวนำนั้นๆ มีค่าความบริสุทธิ์ที่สูงมากๆ ได้ การ “กระโดดข้าม” ของอิเล็กตรอนก็จะเกิดขึ้นน้อยลงมาก เพราะสามารถเคลื่อนที่ หรือ ไหลผ่านในเนื้อตัวนำนั้นๆได้อย่างสะดวกและต่อเนื่อง ไม่สะดุด-หยุดเป็นช่วงๆตรงรอยต่อของเนื้อตัวนำกับความเป็นมลทิน อิเล็กตรอนจึงสามารถเคลื่อนที่ หรือ ไหลผ่านเนื้อตัวนำได้อย่างปรู้ดปร้าด…และต่อเนื่อง-ไม่สะดุด นำ-พามาซึ่งสัญญาณที่ราบเรียบมากๆ รายละเอียดต่างๆก็ไม่สูญหาย หรือ ถูกลดทอนลงไปในเนื้อสายตัวนำ ค่าเฟสสัญญาณก็ไม่แปรผัน-ผิดเพี้ยน-เปลี่ยนค่าองศาไป สัญญาณเสียงประเภทฉับพลันทันใด (transient) ก็จะสามารถ “ตอบสนอง” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงเรื่องของ “ไดนามิกเสียง” และ “รายละเอียด” อันสมจริงอีกด้วย

ยิ่งเมื่อ Tchernov Cable ใช้กระบวนการถลุงสินแร่อย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป โครงสร้าง “ผลึกบริสุทธิ์” ก็จะค่อยๆ ก่อตัวขึ้น โดยปราศจากซึ่ง “ความเครียดเค้น” ในเนื้อตัวนำ วิธีนี้นอกจากจะได้เนื้อตัวนำที่มีค่าบริสุทธิ์สูงมากๆแล้ว โครงสร้างผลึกที่เกิดขึ้นยังมีขนาดใหญ่ สภาพการจัดเรียงอะตอม หรือ โมเลกุลของเนื้อตัวนำก็ยิ่งเรียงชิดติดกัน และเกาะตัวกันแน่นขึ้น-มั่นคงขึ้น ส่งผลดีต่อคุณภาพการรับฟังจึงบังเกิดขึ้นเต็มๆ ด้วยประการฉะนี้

แต่กระนั้นการที่จะทำให้ “ไร้ซึ่ง” วัตถุธาตุใดๆ ไปอย่างสิ้นเชิงนั้น ก็อาจส่งผลกระทบต่อคุณลักษณ์ทางเสียงที่ได้รับจากการรับฟัง ทำนองคล้ายๆ กับน้ำแร่ที่จะมีแร่ธาตุอะไรบางอย่างมาก-น้อยต่างกันเจือแฝงอยู่ในน้ำทำให้รสชาติของการดื่มน้ำแร่แตกต่างไปจากการดื่มน้ำกลั่นที่แม้จะบริสุทิ์แต่ก็จืดชืดไร้รสชาติ ดังนั้น Tchernov Cable จึงเลือกที่จะ “ควบคุม” ปริมาณของวัตถุธาตุต่างๆ ให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะพอเจาะสำหรับการเป็นตัวนำสัญญาณสำหรับเครื่องเสียงและระบบภาพที่มี “สูตรลับ” โดยเฉพาะ

Balanced Refinement Copper (BRC) ของ Tchernov Cable จะมีค่ามลทินของวัสดุต่างๆ น้อยมากๆ ในระดับเพียงแค่ 0.001 ถึง 0.003% เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น sulphur (S), germanium (Ge), arsenic (As) selenium (Se), tin (Sn) รวมถึง antimony (Sb) ยิ่งกว่านั้น Balanced Refinement Copper (BRC) ยังมีโลหะแฝง (iron subgroup) อย่างเช่น chrome (Cr), manganese (Mn), iron (Fe) และ cobalt (Co) ในระดับที่ต่ำมากๆ ไม่เกินไปกว่า 0.001 ถึง 0.005% แต่ที่สำคัญ Balanced Refinement Copper (BRC) ยังมีค่าของวัตถุธาตุในรูปของ platinum subgroup (Rh, Pd, Pt, Ir) รวมทั้งวัตถุธาตุที่เป็น non-metals อาทิเช่น carbon (C), nitrogen (N) และ oxygen (O) ในระดับเพียงแค่ 0.01 ถึง 0.03% เท่านั้น จึงยังผลให้ BRC มีค่าความเป็นตัวนำไฟฟ้า (electrical conductivity) ที่ดีมากๆ

ที่สำคัญ-ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ส์ หรือสายรุ่นใดๆ ของ Tchernov Cable ก็ล้วนใช้เนื้อตัวนำทองแดงแบบ BRC นี้ทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า ในสายที่เป็นซีรี่ส์สูงขึ้น “ปริมาณ” หรือ “จำนวนเส้น” ของ BRC ที่ใช้ก็จะมากขึ้น รวมถึงกรรมวิธีในขั้นตอนการชีลด์ (shielded) ก็จะซับซ้อนมาก-น้อยแตกต่างกันไป

อาทิ Reference series และ Ultimate series  ที่เป็นซีรี่ส์ในระดับเรือธงของ Tchernov Cable ซึ่งต้องใช้ความพิถีพิถันในขั้นตอนการผลิตเป็นอย่างมาก ถึงขนาดต้องแยกโรงงานการผลิตเลยทีเดียว อีกทั้งในซีรี่ส์ Ultimate และ Reference ยังจะใช้เทคโนโลยีพิเศษที่เรียกว่า “XS” ที่หมายถึง X-Shielded ซึ่งให้ผลต่อเสียงที่รับฟังในระดับที่เยี่ยมยอด …นี่คือสายเชื่อมต่อต่างๆ (cables) ที่ระบุว่า Made in Russia อย่างเต็มภาคภูมิ

Tchernov Cable ได้ระบุว่า “Reference mkII IC” เป็นสายสัญญาณ Analog symmetric multi shielded interconnect แบบ Twisted BRC multistranded 2 x 1.00 mm2 conductors ห่อหุ้มตัวนำแต่ละเส้นด้วยวัสดุฉนวน PTFE (Teflon®) ที่มีรูพรุน พร้อมด้วยการชีลด์โดยรอบถึง 3 ชั้น (inner layer – solid copper foil, mid layer – solid copper foil, outer layer – BRC tinsel braid >60%) ส่วนเปลือกนอกเป็นวัสดุ solid Elastollan® (คลุมทับด้วย nylon protective sleeve) โดยมีค่าความต้านทานในตัวนำอยู่ที่ 110 โอห์ม

ซึ่งสายนำสัญญาณ Reference mkII IC นี้มีให้เลือกใช้ทั้งแบบ RCA (Unbalanced) และ XLR (Balanced) ขนาดความยาวตั้งแต่ 0.62 m, 1.00 m, 1.65 m, 2.65 m, 4.35 m และ 5.00 m ทั้งนี้ Tchernov Cable เพิ่งจะออกจำหน่าย Reference mkII series เมื่อช่วงต้นปีนี้เองละครับ (2017) เว้นช่วงห่างจาก Reference series ‘ตัวต้นตำรับ’ ถึง 12 ปีทีเดียวละครับ

ผลการรับฟัง

ขอชี้แจงสักนิดครับว่า สถานที่รับฟังของผมนั้น ได้รับความอนุเคราะห์อย่างมากจากทางคุณหนุ่ม แห่ง Theater House ให้ใช้ “ห้องเทา” ในการรับฟัง ทั้งยังอนุญาตให้ใช้ชุดเครื่องเสียงที่ setup อยู่ในห้องนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยการรับฟังครั้งนี้ “Reference mkII IC” บ่งบอกความโดดเด่นออกมาชัดแจ้งเลยครับ ให้สัมผัสได้ถึงสภาพสรรพเสียงที่มีทั้ง “ความกระจ่างชัด” และ “ลมหายใจ” – เป็นเสียงที่มีชีวิตชีวา ให้ความมีตัวตน ควบคู่ความเปิดโปร่งเป็นอย่างมาก จนสามารถรับฟังได้ถึงรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ที่แม้เป็นเสียงสอดแทรกอันแผ่วเบาก็สามารถปรากฏ “ลอยเด่น” ออกมาอย่างถนัดชัดเจน ทั้งยังอบอวลด้วย “สภาพบรรยากาศเสียง” อันน่าจะเป็นผลมาจากระดับค่า capacitance ที่ต่ำมากๆ ทำการกักเก็บสัญญาณในช่วงย่านความถี่ใดๆ นั้นในสายตัวนำนั้นไม่เกิดขึ้น ความครบถ้วนตามต้นฉบับสัญญาณจึงถูกส่งมอบออกมา

สุ้มเสียงโดยรวมให้ความอิ่มฉ่ำ เข้มข้น และฉับไว ไม่อ้อยสร้อย แช่มช้า ให้ความชัดเจนของทรานเชี้ยน พร้อมด้วยความกังวาน ทอดยาวไกลของปลายหางเสียง รวมถึงความฉับพลันทันใดที่เยี่ยมยอด เสียงแต่ละเสียงมีน้ำหนัก ไม่เบาโหวงเหวง ลอยเวิ้งว้าง ฟังแล้วให้ความลอยตัว กลมมน มีความเป็นตัวเป็นตนของเสียงที่เข้มข้น ระบุทิศทางที่มาหรือตำแหน่งแห่งที่ของเสียงแต่ละเสียงได้แน่นอน-ชัดเจน แม้ในเสียงที่เกิดขึ้นซ้อน-แทรกพร้อมๆกัน ก็ยังสามารถจับตำแหน่งของแต่ละเสียงนั้นได้ ไม่ถูกเบียดบัง หรือ ถูกกลบกลืน จนเลือนลางไป แม้จะรับฟังจากแผ่นซีดีธรรมดาๆ ก็สามารถรับฟังรายละเอียดเสียงต่างๆ ในสัญญาณต้นฉบับไว้ได้อย่างดี

“Reference mkII IC” สามารถสำแดงสมรรถนะออกมาได้น่าทึ่งมากๆ โดยให้ความโดดเด่นอย่างมากในการ “นำเสนอ” ช่วงความถี่เสียงต่ำที่ทั้งรุกเร้า-ดุดัน และแผ่ใหญ่-กระชับฉับไว ไม่อวบอ้วน อุ้ยอ้าย พร้อมด้วยจังหวะจะโคนที่ควบคุมตัวได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังให้ความอิ่มเอิบใน “น้ำหนักเสียง” บ่งบอกสภาพความมีทรวดมีทรงของทุกสรรพเสียง ควบคู่กับ “เนื้อเสียง” ที่ให้ความนวลเนียน ละเมียดละไม ไร้ซึ่งความกระด้าง ระคายหู

“Reference mkII IC” ยังถ่ายทอดความฉับไวในการส่งมอบรายละเอียดเสียงเล็กๆน้อยๆได้ถึงขั้น “แจ่มกระจ่าง” และในสรรพสำเนียงเสียงต่างๆที่รับฟังนั้นก็ล้วน “เด่นลอย” ออกมาอย่างมีตัวมีตนมีมวลอากาศ (airy) พร้อมด้วยอาณาบริเวณเสียงที่เป็นอิสระไม่ซ้อนทับปนเปกัน เสียงทุกเสียงมีความสด – สว่าง รวมไปถึง “สภาพบรรยากาศเสียง” ที่ถูกถ่ายทอด-บ่งบอกออกมาในขณะรับฟัง ทำให้เสียงดนตรีที่รับฟังนั้นมีความสมจริง แม้กระทั่งการออกเสียงอักขระภาษาที่นักร้องเปล่งออกมานั้นก็ราวกับว่า มองเห็นอากัปกริยาในการห่อปาก (อย่างเช่น ตัว C, S, H) หรือว่าลักษณะเอาลิ้นขึ้นไปแตะเพดานปาก (อย่างเช่น ตัว L, W) กระนั้นครับ ไม่ต่างไปจากความเป็นธรรมชาติอย่างที่เราได้ยินได้ฟังออกมาจากการเปล่งเสียงของคนเราจริงๆ

ความผุดโผล่ของเสียงแต่ละเสียงนั้นเด่นชัด และให้ความลอยตัว กลมมน มีความเป็นตัวเป็นตนของเสียงที่เข้มข้น ระบุทิศทางที่มาหรือตำแหน่งแห่งที่ของเสียงแต่ละเสียงได้แน่นอน-ชัดเจน ช่วงย่านเสียงต่ำจะฉับไวในท่วงท่า ให้น้ำหนักเบสที่ใหญ่ ทรงพลัง กระแทกกระทั้น หนักแน่นและแผ่บานออก ไม่หุบห่อตัว สามารถตอบสนองลงไปลึกถึงก้นบึ้ง และเปี่ยมด้วยรายละเอียดในทุกช่วงจังหวะ ช่วงย่านเสียงกลางจะอุดมด้วยรายละเอียดสอดแทรก ผุดโผล่ และกระจายตัวอย่างมีอาณาบริเวณ พร้อมด้วยความอบอวลของมวลบรรยากาศ ช่วงย่านเสียงสูงจะพละพลิ้วและขยายไปไกลจนสุดกู่ โดยไม่มีอาการหดห้วน หรืออัดอั้น

“Reference mkII IC” ทำให้สัมผัสได้ถึงสรรพเสียงที่มี “ลมหายใจ” – เป็นเสียงที่มีชีวิตชีวา มีความเปิดโปร่งเป็นอย่างมาก จนสามารถรับฟังได้ถึงรายละเอียดเสียงเล็กๆน้อย ที่แม้จะแผ่วเบาแต่ก็ชัดเจน ลอยเด่นออกมา อีกทั้งยังรับรู้ได้ถึง “สภาพบรรยากาศเสียง” ที่ถูกส่งมอบออกมา ทำให้สรรพเสียงที่รับฟังนั้นมีความเป็นธรรมชาติอย่างสมจริง ในด้านอิมเมจและซาวด์สเตจนั้นขอเน้นว่า “ตราตรึงใจมาก” แม้ในเสียงที่เกิดขึ้นซ้อน-แทรกพร้อมๆกัน ก็ยังสามารถจับตำแหน่งของแต่ละเสียงนั้นๆได้ ไม่ถูกบดบัง หรือกลบเกลื่อนจนเลือนหาย (กลมกลืน) ไป ยังคงดำรงไว้ซึ่งความชัดเจน สดใส สามารถเปิดเร่งระดับความดังเสียงที่รับฟังอยู่นั้นได้มากขึ้น-มากขึ้น โดยที่มิได้รู้สึกอึดอัดรำคาญหรือหนวกหูแต่อย่างใด

“Reference mkII IC” ทำให้รับรู้ได้แจ่มชัดในเสียงที่เคยไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงอะไร พูดง่ายๆ ว่า “Reference mkII IC” ทำให้ได้ยินเสียงที่ซ่อนอยู่ ได้แจ่มชัดกว่าที่เคย ทั้งยังให้ความกลมกล่อมมีเนื้อมีหนัง พร้อมด้วยฮาร์มอนิกที่น่าประทับใจมากๆ “Reference mkII IC” ไม่ใช่เป็นสายที่ให้เสียงฉูดฉาด แต่ก็สดกระจ่าง และฉับไวอยู่ในที ยิ่งถ้าหากรับฟังจากเพลงแสดงสด “จะเหมาะมาก” เพราะจะให้เวทีเสียงทีแผ่กว้าง และแยกแถวชั้นของความลึกได้เป็นระดับ อันสืบเนื่องมาจากระดับของ noise floor ในสัญญาณเสียงนั้นต่ำลง จนไร้ซึ่งการถูกรบกวนจากสภาพคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารบกวน (EMI หรือ Electro–Magnetic Interference) ด้วยเทคนิคการสกรีนห่อหุ้ม-ปกป้องตัวสายสัญญาณโดยรอบตลอดความยาวสายสัญญาณ ทำให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า EMI ไม่สามารถก่อความรบกวนต่อสัญญาณเสียงในเนื้อสายตัวนำ

บอกกันตรงๆครับ ยิ่งได้ฟัง ก็ยิ่งนึกอยากหยิบจับแผ่นโน้นแผ่นนี้มาเปิดฟังต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ดูซิว่าแผ่นที่เคยฟังจนคุ้นชินนั้นจะได้ยินอะไรที่แตกต่างไปจากที่เคยรับรู้อยู่บ้าง ซึ่งก็พบว่า หลายแผ่นทีเดียวที่มีเสียงแทรกซ้อนเล็กๆ น้อยๆ ซ่อนตัวอยู่ แล้วก็ถูกเจ้า “Reference mkII IC” นำออกมาเปิดเผย “Reference mkII IC” ให้ได้ครบถ้วนทั้งในด้าน “ความเต็มอิ่ม”, “ความกลมกลึง”, “ความมีทรวดทรงเป็น 3 มิติ” ของสรรพเสียงให้เรา-ท่านได้สัมผัส ยิ่งได้ปล่อยใจรับความเพลิดเพลินไปเรื่อยๆ ก็จะยิ่งพบความน่าเสน่หาในน้ำเสียงที่ “Reference mkII IC” ส่งมอบออกมา เป็นลักษณะเสียงที่ให้ “ความอิ่ม-ข้น” ในตัวตน เป็นเสียงที่มีชีวิตชีวา มีลมหายใจในน้ำเสียงที่รับฟัง แบบเดียวกับที่เรา-ท่านจะรับรู้ได้เมื่อรับฟังการแสดงดนตรีจริงๆ มันมิใช่เสียงอวบอ้วน ที่เนื้อหนั่นหนา ทว่าเป็นลักษณะเสียงที่มี “วิญญาณ” เสริมแทรกอยู่ในทุกตัวตนของสรรพเสียงที่รับฟัง แต่ละเสียงนั้นผุดโผล่อย่างลอยล่องออกมาจากตรงนั้นตรงนี้อย่างมีอาณาบริเวณที่แน่ชัด แจ่มแจ้ง และแผ่กว้างอย่างเป็นปริมณฑล มีช่องว่างเป็นมวลอากาศลอยตัวอบอวล แทรกอยู่ระหว่างแต่ละตำแหน่งเสียงดนตรี

ผมขอยืนยันว่า “Reference mkII IC” จะเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่คุณ ”ต้องฟัง” แล้วจารึกไว้ในประสบการณ์ และก็ต้องยอมรับกันตรงๆครับว่า มันยากยิ่งนักที่จะบรรยายความรู้สึกทั้งหมดที่ได้รับจากการรับฟัง “Reference mkII IC” ออกมาเป็นตัวอักษร-ถ่ายทอดให้คุณ-ท่านได้รับรู้อย่างครบถ้วนแบบเดียวกับที่ผมสัมผัสได้จากการรับฟังครั้งนี้จริงๆครับ

สรุปส่งท้าย

สั้นๆ นะครับว่า “น่าทึ่ง” มาก – น่าทึ่งในทุกๆอย่างที่รับฟัง สายสัญญาณ “Reference mkII IC” นี้จะทำการ “ยกระดับ” การรับฟังให้แตกต่างไปจากเดิม ไม่ว่าจะในด้านความสดใสเปี่ยมในรายละเอียด ถ่ายทอดบรรยากาศเสียงของสถานที่ทำการแสดงได้อย่างชัดเจน รวมทั้งการส่งมอบช่วงย่านความถี่เสียงต่ำ ซึ่งให้เสียงเบสที่ใหญ่ มีน้ำหนักเสียงอันทรงพลัง และแผ่ขยาย สามารถทอดตัวลงไปได้ลึกถึงก้นบึ้ง ช่วงย่านความถี่เสียงกลางจะแผ่บาน กระจายตัวอย่างมีอาณาบริเวณ

พร้อมด้วยความอบอวลของมวลบรรยากาศ ให้ทั้งความชัดเจนและความมีตัวตนของเสียงอย่างมีชีวิตชีวา ช่วงย่านความถี่เสียงสูงจะพละพลิ้วและทอดตัวไปไกล โดยไม่มีอาการหดห้วน หรือ กักกั้น ไร้ความจัดจ้าเกินจริงสามารถเปิดเร่งระดับความดังเสียงที่รับฟังอยู่นั้นได้มากขึ้น-มากขึ้น อย่างรุกเร้าใจ โดยที่มิได้รู้สึกอึดอัดรำคาญหรือหนวกหูแต่อย่างใด และยังคงไว้ซึ่งความชัดเจน สดใส ไม่อับทึบ ขุ่นมัว หากฟังกับเพลงคลาสสิก ก็จะสัมผัสได้กับความอลังการ ยิ่งใหญ่และแผ่กว้าง แจ่มชัดทั้งในมิติด้านกว้าง ด้านลึก และความสูง …น่าประทับใจจริงๆ ครับ ขอบอก

ขอขอบคุณ บริษัท CH Home Medias จำกัด ที่เอื้อเฟือสายสัญญาณ Tchernov Reference mkII IC ในการรับฟังครั้งนี้ และขอขอบคุณ Theater House ที่กรุณาเอื้อเฟือห้องฟัง