DAWN NATHONG
วิวัฒนาการใหม่จากคิมเบอร์ เคเบิล
ผู้เขียนออกจะตื่นเต้นไม่น้อย เมื่อกล่องสายสัญญาณและสายลำโพงคิมเบอร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากทางบริษัทตัวแทนจำหน่ายถูกส่งมาวางอยู่ตรงหน้า เหตุเพราะสายรุ่นใหม่ของคิมเบอร์คราวนี้นั้น ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในสายแบรนด์นี้ รวมถึงในสายแบรนด์อื่นเท่าที่ผู้เขียนรู้จักก็ไม่เคยมีเช่นกัน นั่นคือเทคโนโลยีการเพิ่มชั้นของคาร์บอนโพลีเมอร์เข้าไปหุ้มวัสดุตัวนำ เรียกว่าเป็นการ “ก้าวกระโดด” อีกขั้นนึงเลยก็ว่าได้ เพราะโดยส่วนตัวนั้นผู้เขียนคิดว่าแบรนด์เก่าแก่อย่างคิมเบอร์ที่มีองค์ความรู้ในการทำสายของตัวเองแบบตกผลึกแล้ว คงยากที่จะทำอะไรให้เหนือชั้นขึ้นไปได้อีก
เป็นที่รู้กันดีว่าโครงสร้างสายมาตรฐานของคิมเบอร์ดั้งเดิม คือการใช้ตัวนำแกนเดี่ยวต่างขนาด โดยจะเป็นทองแดงหรือเงินตามแต่ระดับราคา หุ้มด้วยฉนวนเทฟล่อนเกรดดีและถักไขว้สายตัวนำตามสูตรเฉพาะ มีโครงสร้างแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นไม่ว่าจะเป็นสายสัญญาณหรือสายลำโพง บุคลิคที่เป็นเอกลักษณ์ของสายคิบเบอร์ คือเสียงที่เปิด สว่าง กลางแหลมสดใส ทุ้มหนักแน่น และการแยกชิ้นดนตรีที่ชัดเจน ในสายรุ่นสูง เช่น Select ซีรียส์ ก็จะให้ความเนียนละเอียดของเกรนเสียง รวมถึงมีความต่อเนื่องลื่นไหล รวมถึงความงัดของพื้นเสียงที่เพิ่มพูนขึ้นไปตามลำดับ
ส่วนสาย Carbon ซีรียส์ใหม่ของคิมเบอร์ จะเข้ามาแทรกตรงกลางระหว่างสายรุ่นกลางตระกูล Sumit ซีรียส์อย่าง สายสัญญาณ Silver Streak, สายลำโพง Monocle-XL กับสายตระกูลสูงอย่าง Select กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว เพราะสายรุ่น Carbon เหมือนเลือกเอาจุดเด่นบางอย่างของสายรุ่นกลางและรุ่นสูงมารวมกัน
รายละเอียดที่น่าสนใจ
ผู้เขียนขอยืมสายจากทางร้าน Inventive AV มาสองรุ่นคือสายสัญญาณ Carbon Interconnect และสายลำโพงรุ่น Carbon 8 เพราะมีขนาดและโครงสร้างใกล้เคียงกับสายพิมพ์นิยมของคิมเบอร์ที่ผู้เขียนเคยใช้อยู่และนักเล่นรุ่นเก๋าหลายคนต้องเคยผ่านมือ นั่นคือสายสัญญาณรุ่น Hero และสายลำโพงรุ่น 8TC
หากพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอกของสาย Carbon ซีรียส์ทั้งสายสัญญาณและสายลำโพง จะสังเกตเห็นความแตกต่างที่เปลี่ยนไปอยู่หลายประการ อันดับแรกคือสีของฉนวนชั้นนอกสุดจะเป็นสีดำสลับใส เมื่อมองเข้าไปในสายที่เป็นฉนวนใสจะเห็นชั่นของคสรืบอนโพลิเมอร์เคลือบทับตัวนำอยู่ด้านใน ข้อดีของการเพิ่มชั้นตัวนำคาร์บอนโพลิเมอร์ จะช่วยให้สายคงรูปของโครงสร้างได้ดีขึ้นไม่ว่าจะดัดหรืองอสายในทิศทางใด มีทั้งความแข็งและความยืดหยุ่นที่ได้สมดุล นอกจากนี้ยังช่วยลดการรบกวนทางไฟฟ้าที่เกิดจากแมคคานิกส์ (การสั่นของสาย) และช่วยปรับปรุงความสม่ำเสมอของแรงดันไฟฟ้าภายในฉนวนเทฟล่อน นอกจากนี้โดยธรรมชาติของคาร์บอนจะให้โทนเสียงที่เป็นธรรมชาติเปิดสว่างหรือทึบมากจนเกินไป
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือในส่วนของสายสัญญาณ สายรุ่นนี้จะไม่แยกเส้นออกเป็นซ้าย-ขวาทั้งเส้นเหมือนสายทั่วไปรวมถึงสายรุ่นอื่นของคิมเบอร์ แต่จะถักทอเข้าด้วยกันด้วยเครื่องจักรและแยกเฉพาะปลายส่วนหัวท้ายยาวประมาณ 20 เซ็นติเมตรออกเป็นซ้าย-ขวา ในลักษณะเดียวกันกับสายลำโพงแทน ทางคิมเบอร์ได้เทคนิคนี้มาจากตอนผลิตสายหูฟังรุ่น Axios คาดว่าทางผู้ผลิตคงจะทดสอบมาแล้วว่าการถักสายรวมกันในลักษณะนี้จะส่งผลดีต่อคุณภาพเสียงมากกว่า จากการทดสอบผู้เขียนสังเกตว่าสายรุ่นมีมีความอ่อนไหวต่อการจัดวางตำแหน่งและสัญญาณรบกวนน้อยมากทีเดียว
สายตัวนำใช้ทองแดงแกนเดี่ยว OFE ความบริสุทธิ์สูง (102% IACS grade) ต่างขนาดตีเกลียวหุ้มด้วยชั้นคาร์บอนโพลิเมอร์และหุ้มทับด้วยฉนวนเทฟล่อนอีกที ทั้งสายสัญญาณและสายลำโพงจะใช้สายตัวนำขนาด 19.5 AWG ทั้งหมด 8 เส้นถักรวมกันแล้วแยกปลายหัว-ท้ายออกเป็นข้างละ 4 เส้น (สายลำโพงและสายสัญญาณจะมีขนาดหน้าตัดตัวนำเท่ากัน) สายสัญญาณ Carbon Interconnect รุ่นที่ผู้เขียนได้รับมาทดสอบจะเข้าหัวซิงเกิ้ลเอ็นด์ของ WBT รุ่น 0114 Cu ส่วนสายลำโพง Carbon 8 เข้าหัวหางปลา Post Master ของคิมเบอร์รุ่น PM33
ผลการลองฟัง
ผู้เขียนเคยพิมพ์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า สำหรับใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของสายคิมเบอร์ หากได้ฟัง Carbon ซีรียส์รับรองกรี๊ดแน่นอน เพราะคุณสมบัติบัติอันโดดเด่นของคิมเบอร์ ไม่ว่าในแง่ความชัดเจนขึ้นรูปเป็นตัวของเสียง ความใสกระจ่างระหว่างชิ้นดนตรีแบบหาตัวจับยาก รวมถึงทุ้มที่หนักหน่วง หนักแน่น กระชับ ที่ไม่เพียงมีอยู่อย่างครบถ้วนกระบวนความ แต่เพิ่มพูนให้โดดเด่นขึ้นไปอีกเท่าตัว แต่กลับมีสมดุลเสียงโดยรวมที่เป็นกลางหรือเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าที่เคย
ความเป็นกลางที่ว่านี้ ไม่ได้หมายความว่าทำให้เสียงนุ่มขึ้น หรือเพิ่มความอิ่มหนาของเนื้อเสียงเหมือนการเพิ่มหน้าตัดนำสาย ด้วยการการเอาตัวนำมาถักเพิ่ม (สมัยก่อนจะมีสายลำโพงรุ่นถักพิเศษ เช่น 16TC) แต่เป็นการเพิ่มปริมาณเสียงย่านทุ้มเข้ามาให้สมดุลกับย่านกลางแหลมที่ดีอยู่แล้วมากกว่า เรียกว่าการเพิ่มชั้นของคาร์บอนโพลิเมอร์แทรกเข้าไปถมช่องว่างระหว่างตัวนำกับฉนวนเทฟลอน ให้ผลลัพท์ที่น่าประทับใจอย่างมาก ใครที่บอกคิมเบอร์กลางแหลมติดสว่าง หรือค่อนไปทางตึงไม่ผ่อนคลาย ต้องมาลองฟัง Carbon ซีรียส์ใหม่นี้
เมื่อสมดุลเสียงทั้งสามย่านสมานเสมอกัน รายละเอียดของเสียงก็จะถูกปลดปล่อยออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น คุณสมบัตินี้โดดเด่นกว่าสายรุ่น 8TC อย่างชัดเจนมาก ๆ เรียกว่าขยับขึ้นไปชนกับสายรุ่น Select ได้เลย เพียงแต่รุ่นใหญ่นั้นยังคงให้ความละเมียดละมัยในการนำเสนอรายละเอียดออกมาได้ดีกว่า ตรงนี้ผู้เขียนไม่มองเป็นข้อด้อยของสายรุ่น Carbon เพราะหลาย ๆ คนรวมถึงผู้เขียนรู้สึกว่ายังติดใจกับสีสันของไดนามิกที่จะแจ้ง ฟังแล้วเลือดสูบฉีดจากสายรุ่นกลางอยู่ และรู้สึกว่าสายรุ่น Select มีความสุภาพราบเรียบ ละเมียดละมัยมากกว่า ซึ่งเหมาะกับการนำไปใช้กับซิสเต็มระดับไฮเอ็นด์จึงจะช่วยบาล้านซ์เสียงออกมาได้ลงตัว
สายคิมเบอร์ Carbon เข้ามาแทรกตรงช่องว่างนี้ได้อย่างสวยงาม เหมาะอย่างยิ่งกับใครที่ชื่นชอบสายเงินรุ่น KCAG แต่จ่ายน้อยลง คิมเบอร์ Carbon ถือว่าแทบจะหายใจรดต้นคอได้เลย สายรุ่น Carbon เป็นรองเรื่องรายละเอียดปลายเสียงและความนุ่มแน่นอยู่เล็กน้อย แต่ได้สมดุลของปริมาณย่านทุ้มกลางแหลมที่ดีกว่า เหมาะกับการฟังแนวดนตรีที่หลากหลายครอบคลุมกว่า รวมถึงจับคู่กับอุปกรณ์ได้ง่ายกว่าด้วย ก็ถือว่าแลกคนละหมัดได้สมน้ำสมเนื้อ ถ้าเป็นมวยก็ต้องนับคะแนนกันสถานเดียว
ในเรื่องความสงัดของพื้นเสียงทั้งสายสัญญาณและสายลำโพงก็ทำคะแนนได้อย่างโดดเด่น ผู้เขียนรับรู้ถึงแบ็คกราวด์ของพื้นเสียงในช่วงที่เงียบนั้นสงัดมากขึ้นกว่าที่คุ้นเคย เอาง่าย ๆ ลองเปิดกับเพลงไทยหรือเพลงสากลทั่ว ๆ ไป ที่บันทึกมาเกนเสียงดัง หรือปลายเสียงฟุ้ง ๆ เก็บตัวไม่ค่อยดีเราจะสามารถฟังเก็บรายละเอียดของเสียงได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ความเจี๊ยวจ้าวน่ารำคาญกลับลดลงแบบรู้สึกได้ นี่คือคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของสาย Carbon ซีรียส์ ชั้นคาร์บอนโพลิเมอร์ช่วยทั้งลดแรงสั่นสะเทือนที่กระทำต่อสาย ยึดโยงโครงสร้างของสายไม่ให้เกิดการบิดตัว ช่วยให้ค่าการนำไฟฟ้าของตัวนำมีประสิทธิภาพสมบูรณ์มากขึ้นไปอีก เหมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว
ทุ้มของสายรุ่นนี้ได้ความชัดคมเป็นตัวตนแบบหาตัวจับยากทีเดียว เพราะได้ทั้งสปีดความฉับไวและเนื้อเสียงที่ดีไปพร้อมกัน เอาเป็นว่าดีกว่าสายรุ่น TC หรือ HERO แบบชัดเจนไม่ต้องเสียเวลาฟังซ้ำ แม้กระทั่งสายรุ่นเก่า KC-1 ที่ได้ชื่อว่าทุ้มหนักหน่วงก็ยังเป็นรอง และเป็นทุ้มที่ไม่แข็งหรือตึงมากเกินไป เฉลี่ยความนุ่มนวลและคมชัดออกมาได้พอดี ๆ มีน้ำหนักการย้ำเน้นที่เด็ดขาด กระชับเป็นลูก ใส่สายรุ่นนี้เข้าไปไม่มีคำว่าทุ้มขาดแคลนหรือพร่าเบลอแน่นอน ถ้ามีคงต้องไล่หาสาเหตุกันที่จุดอื่นแทน ฟังเสียงเดินเบสและกลองทอมจาก THEME from LUPIN III อัลบั้มซาวด์แทร็ค Lupin the Third: Seven Days Rhapsody ของ Yuji Ohno & Lupintic Five ที่ลอยออกจากเสียงดนตรีอื่น ๆ แบบติดตามจังหวะจะโคนได้ตลอดก็เพลินแล้ว ต่อด้วยฟังก์จังหวะสนุก ๆ อย่าง Cut The Cake เพลงออริจินอลของ Average White Band ที่เอามาเรียบเรียงใหม่ให้มีกลิ่นอายแจ๊สนิด ๆ โดย Jeff Golub ก็ถ่ายทอดจังหวะได้ฟังสนุก เร้าใจ
หากใครอยากฝึกภาษาต้องมาฟังสายคิมเบอร์รุ่นนี้ เพราะเสียงกลางที่ควบแน่นกลมกลึง หลุดลอยเป็นสามมิตินั้นทำให้ได้ยินทุกอักขระที่นักร้องเปล่งออกมา ทั้งเทคนิคการร้อง อารมณ์ ลอยออกมาให้ได้ยินแบบหมดเปลือก ไม่เรียกว่าหวานแบบจงใจ แต่เป็นเสียงกลางที่เที่ยงตรงและปรับเปลี่ยนไปตามเทคนิคและน้ำเสียงของผู้ร้องที่ถูกบันทึกมาในแต่อัลบั้มได้เป็นอย่างดี ใครมีอัลบั้มเพลงร้องเพลงโปรดในดวงใจลองเอามาฟังกับสายรุ่นนี้ได้เลย แล้วจะรู้ว่าผู้เขียนไม่ได้พูดเกินจริง ปลายแหลมสะอาดควบแน่น ทอดหางเสียงเป็นประกายแต่เก็บเงาเสียงฟุ้ง ๆ ได้เด็ดขาดดีมาก และเป็นแบบนี้ตั้งแต่ชั่วโมงแรก ๆ ของการลองฟัง ซึ่งต่างกับสายรุ่นอื่นของคิมเบอร์โดยเฉพาะรุ่นเล็กถึงกลางที่ต้องการชั่วโมงเบิร์นอินมากพอสมควร (200 ชั่วโมงขึ้นไป) ถึงจะลดความแข็งกระด้างของปลายเสียงลงไปในระดับที่เหมาะสม
สำหรับใครที่อยากสัมผัสมิติมายาของเสียง นี่คือสายที่ต้องมาลองฟังสักครั้ง มันสามารถแยกแยะมิติชิ้นดนตรีได้หลุดลอยขาดจากพื้นหลังออกมาได้อย่างสวยงาม ให้ความรู้สึกถึงการตรึงตำแหน่งของชิ้นดนตรีภายในเวทีเสียงที่เป็นสามมิติเต็มที่ทั่วทั้งเวทีเสียงได้ชัดเจนอย่างถึงที่สุด ไม่มีความคลุมเครือแม้แต่น้อย ยิ่งได้จับคู่กับลำโพงที่ให้มิติเสียงดี ๆ ฟังกับสายรุ่นนี้แล้ว คำว่าเวทีเสียงสามมิติแบบ 360 องศาก็ไม่ใช่เรื่องยาก หรือหากเป็นนักเล่นหูฟังตัวยงที่เล่นแด็คกับแอมป์หูฟังแบบตั้งโต๊ะ ลองหาโอกาสเพิ่มสายสัญญาณ Carbon Interconnect เข้าไปในระบบดูให้ได้สักครั้งแล้วจะรู้ว่าสวรรค์มีจริง
อุปกรณ์ร่วมทดสอบ
- แหล่งโปรแกรม – PC เน็ตเวิร์คเพลเยอร์ + Roon, แด็ค Chord: Mojo, DAP iBasso DX80, Micromega Stage 2
- ภาคขยาย – Bryston: B-60, Arcam SA10, NAD: 216THX, Cambridge Audio EDGE A
- ลำโพง – Totem Signature One, NHT 1.5, KEF Q Compact
- หูฟัง Empire Ear Vantage, Shure SRH-240A
- สายเชื่อมต่อ – สายดิจิทัล USB Furutech: Formula 2, สายดิจิทัลโคแอ็คเชี่ยล QED: Qunex SR75, สายสัญญาณอนาล็อก Tchernov Special XS, สายสัญญาณอนาล็อก Taralabs: TL-101, สายไฟเอซี Shunyata: Python VX, Voodoo Infinity Digital, Kimber: Powerkord สายลำโพง PAD: Aqueous Aureus
- อุปกรณ์เสริม – ปลั๊กผนัง PS Audio: Power Port Premiere (Audiophile Grade), ปลั๊กกรองไฟ Clef: Power Bridge 8 (เปลี่ยนปลั๊กเป็น Wattgate 381), ตัวกรองไฟ X-filter, ตัวกรองน้อยส์ Audio Prism: Quite Line mkIII, ตัวกรองน้อยส์ Audio Quest: Jitter Bug, iFi Audio: iDefender 3.0, ผลึกควอตซ์ Acoustic Revive: QR-8, ตัวอุดปลั๊ก Isoclean, บานาน่าปลั๊ก Monster X-Terminator, ขาตั้งลำโพง Atacama: HMS 1, ชั้นวางเครื่องเสียง Audio Art
สรุป
ไม่บ่อยนักที่จะได้เจอสายที่มีความโดดเด่นในการถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงแบบชัดคม เป็นธรรมชาติ มีสมดุลเสียงที่ดีเข้ากับซิสเต็มได้หลากหลาย ให้พละกำลังอัดฉีดเหมือนกับติดขุมพลังเทอร์โบ ชาร์จให้กับซิสเต็มได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ได้ทำลายความอ่อนช้อย ลื่นไหลของดนตรีไป หายากครับ เรียกว่าเรย์ คิมเบอร์ทำสายรุ่นนี้มาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของสายรุ่นเล็กถึงกลางทั้งหมดได้อย่างสิ้นเชิงและตรงประเด็น ชวนให้อยากรู้ว่าสายลำโพงรุ่นใหญ่กว่าอย่าง Carbon 16 หรือ Carbon 18 XL จะมีดีกว่านี้อย่างไรอีก แต่ตอนนี้ ผู้เขียนขอยกให้สายสัญญาณ Carbon Interconnect และสายลำโพง Carbon 8 เป็นสายรุ่นทองแดงล้วนที่ดีที่สุดเท่าที่คิมเบอร์เคยผลิตมาไปก่อนก็แล้วกัน
รายละเอียดด้านเทคนิค
Kimber Carbon Interconnect
- Eight, 19.5AWG braided conductors
- VariStrand pure copper conductors locked in place with carbon polymer and insulated with Teflon
- OFE copper 102% IACS grade
- Seamless braided transition to the right and left channels
- WBT copper and silver phono options
- Balanced XLR option
- Hand built at the Kimber factory
- Cables available in lengths from 0.5m – 5m
Kimber Carbon 8
- Eight, 19.5AWG braided conductors per channel
- VariStrand pure copper conductors locked in place with carbon polymer and insulated with Teflon
- OFE copper 102% IACS grade
- Seamless braided transition to positive and negative
- Kimber Banana and Postmaster spade and WBT plug options
- Hand built at the Kimber factory
- Cables available in lengths from 1m – 10m