DAWN NATHONG
ทุกวันนี้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า หลายคนเลือกที่อยู่กับบ้านเพื่อชมซีรียส์หรือชมภาพยนต์ผ่านทางผู้ให้บริการสตรีมมิ่งอย่างเช่น Netflix, VIU, iFlix, HBO Go หรือ Disney+ กันมากกว่าการออกไปโรงภาพยนต์เรื่องโปรดนอกบ้าน
และไอเท็มที่จะทำให้การชมภาพยนตร์ในบ้านนั้นได้บรรยากาศแบบการชมภาพยนต์ในโรงก็คือชุดโฮมเธียเตอร์ซึ่งมีให้เราเลือกซื้อหากันตามงบประมาณ สำหรับนักเล่นที่จริงจังก็เลือกที่จะเล่นแบบแยกชิ้นมีเอวีรีซีฟเวอร์ มีลำโพงคู่หน้า เซ็นเตอร์ เซอร์ราวด์ ซับวูฟเฟอร์ ลำโพง Atmos ก็ว่ากันไป
แต่สำหรับใครที่ไม่อยากจะยุ่งยากกับการจัดชุด ไม่ต้องการเซ็ตอัพให้วุ่นวาย ไม่ต้องมีสายต่อรุงรัง อยากซื้อแบบชุดเดียวจบ เซ็ตอัพง่าย ได้เสียงน้อง ๆ ชุดแยกชิ้น ก็การเลือกใช้ซาวด์บาร์ระบบเสียงมัลติแชนแนล อย่างเช่น JBL Bar 9.1 ตัวนี้ก็ดูจะมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
รายละเอียดที่น่าสนใจ
ลำโพง JBL BAR 9.1 เป็นลำโพง Soundbar ที่ได้รับรางวัลขนะเลิศ Reddot Design Award ปี 2020 รองรับระบบ Dolby Atmos และ DTS:X™ แบบ True Surround แท้ ๆ 5.1.4 แชนแนล ในส่วนของ ATMOS ก็จะมีลำโพงยิงเสียงสะท้อนขึ้นเพดานจำนวน 4 ตัวเลย ไม่ต้องจำลองเสียง
ลำโพงเซอราวด์แบบทรูไวร์เลสที่ถอดออกได้เพื่อจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม มีแบตเตอรี่ในตัวทำงานได้ 10 ชั่วโมง พร้อมซับวูฟเฟอร์ดอก 10 นิ้วแบบไร้สาย กำลังขับรวม 820 วัตต์ ที่สำคัญรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Chromecast และ AirPlay 2 รวมทั้งบลูทูธเวอร์ชั่น 4.2
ภายในของ JBL BAR 9.1 ประกอบไปด้วยไดร์เวอร์ Racetrack Driver จำนวน 4 ตัว กับทวีตเตอร์ ขนาด 0.75 นิ้วอีก 3 ตัว ทำหน้าที่แชนแนลซ้าย-ขวาและเซ็นเตอร์ ยิงเสียงมาทางด้านหน้า ส่วนตัวลำโพง Surround นั้นภายในจะประกอบไปด้วยทวีตเตอร์ขนาด 0.75 นิ้ว อย่างละ 1 ตัว
ส่วนของลำโพง ATMOS ก็จะใช้ไดร์เวอร์แบบฟูลเรนจ์ที่ตัวซาวด์บาร์หลักจำนวน 2 ตัว และที่ลำโพงเซอรราวด์อีก 2 ตัว รวมเป็น 4 แชนแนล ยิงเสียงขึ้นด้านบนให้สะท้อนเพดานลงมาเพื่อสร้างสนามเสียง ตัวแชนแนล LFE รับหน้าที่โดยแอคทีฟซับวูฟเฟอร์ไร้สาย ขนาด 10 นิ้วแบบยิงลงพื้น โดยออกแบบให้มีระยะทำการใกล้ ๆ กับลำโพงหลักในระยะประมาณ 1 เมตร
ที่ด้านหลังตัวลำโพงนั้นจะมีช่อง USB ซึ่งจะเป็นช่อง Service เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถใช้เสียบเพื่อเล่นไฟล์เพลงได้ ช่องออพติคอลอินพุต ช่องต่อ Ethernet และช่อง HDMI eARC กับ HDMI อินพุตอย่างละชุด ตัวลำโพงเซอราว์ดจะทำงานแบบทรูไวร์เลส มีแบตเตอรี่ในตัว สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง และใช้การชาร์จแบตเตอรี่โดยการเสียบกลับเข้าไปที่ตัวลำโพงหลัก โดยจะใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 3 ชั่วโมง
การเซ็ตอัพและการใช้งาน
ลำโพง JBL BAR 9.1 จะออกแบบให้เชื่อมต่อเข้ากับทีวีผ่านทางช่อง HDMI eARC เป็นหลัก รองรับความละเอียดภาพสูงสุด 4K พร้อม Dolby Vision ส่วนระบบเสียงหากต้องการใช้งาน Dolby Atmos ทีวีของท่านต้องรองรับ HDMI eARC ด้วย ซึ่งหากเป็นการเล่นแผ่นจากเครื่องเล่นบลูเรย์นั้นไม่มีปัญหา แต่หากเป็นการเล่นสตรีมมิ่งจากผู้ให้บริการ เช่น Netflix แหล่งโปรแกรมต้นทางก็จำเป็นต้องสามารถปล่อยสัญญาณ Dolby Atmos ได้ด้วยเช่นกัน อย่าง Apple TV 4K เป็นต้น
ขั้นตอนการเซ็ตอัพคาริเบรทระบบเซอราว์ด ผู้ใช้งานสามารถนำตัวลำโพงเซอราว์ดออกจากทั้งสองข้างของลำโพงหลัก และนำมาวางบริเวณด้านหลังของเรา จากนั้นทำการคาริเบรตเสียงแบบง่าย ๆ ด้วยการกดปุ่ม HDMI บนรีโมทค้างไว้ประมาณ 5 วินาที ตัวซาวด์บาร์จะทำการวัดเสียงผ่านไมโครโฟนที่ซ่อนอยู่ในตัวลำโพงแต่ละแชนแนลและคาริเบรตเสียงให้โดยอัตโนมัติ โดยเราต้องทำการคาริเบรต 2 ครั้ง ครั้งแรกวางลำโพงเซอราวด์ไว้ข้างตัว และครั้งที่สองวางลำโพงเซอรราวในตำแหน่งติดตั้งจริง เท่านี้ก็จะได้สนามเสียงโอมล้อมและการแพนทิศทางที่มีความถูกต้อง
ตัวรีโมทมีปุ่มฟังก์ชั่นสำคัญคือปุ่มปรับระดับความเข้มของสนามเสียง ATMOS โดยสามารถเลือกปรับได้ 3 ระดับ Low / Mid / high รวมถึงปุ่มปรับระดับความดังของซับวูฟเฟอร์และเซอร์ราวด์
เสียง
ในด้านการชมภาพยนตร์ JBL BAR 9.1 สร้างสนามเสียงโอบล้อมได้น่าประทับใจ บรรยากาศส่วนของ ATMOS แม้จะใช้การยิงเสียงสะท้อนเพดาน แต่ถ้าทำการคาริเบรตเสียงอย่างถูกต้องเหมาะสมก็จะให้บรรยากาศด้านสูงที่ดีเลยทีเดียว การแพนทิศทางของเสียงมีความชัดเจนดี เวทีเสียงแผ่กว้างเกินขนาดตัว เสียงสนทนาหรือเสียงพูดของตัวละครนั้น ชัดเจนดีมาก เสียงพูดเคลียร์ สะอาด เป็นตัวตน แม้จะไม่มีฟังก์ชั่นในการปรับแต่งเสียงสนทนาใด ๆ มาช่วย ตำแหน่งของเสียงและการแพนเสียงมีความชัดเจนสามารถระบุตำแหน่งได้ง่าย
ส่วนของซับวูฟเฟอร์นั้น สำหรับชุดลำโพงแบบสำเร็จรูปส่วนใหญ่มักจะมีคุณภาพไม่ดีนักเหมือนกับทำมาเป็นของแถม แต่ซับวูฟเฟอร์ไร้สายขนาด 10 นิ้วของ JBL Bar 9.1 ถือว่าออกแบบมาได้ดีไม่แพ้ซับวูฟเฟอร์แบบแยกชิ้นสักเท่าไร หัวโน้ตติดไปทางนุ่มนิด ๆ แต่เสียงเบสนี่กระหึ่มเหลือกินเหลือใช้ มีทั้งความหนักแน่น มวลเสียงเข้มข้นและสะอาดเพียงพอสำหรับการใช้งานในห้องรับแขกทั่วไปได้อย่างสบาย
ในด้านการฟังเพลง ถือว่าเป็นลำโพงซาวด์บาร์ที่ทำคะแนนด้านการฟังเพลงได้ดีตัวหนึ่งในท้องตลาด ฟังแล้วไม่มีเสียงอู้ก้องจากตัวตู้เหมือนพวกซาวด์บาร์ราคาถูก เวลาฟังเพลงแนะนำให้ติดลำโพงเซอร์ราวด์เอาไว้กับตัวซาวด์บาร์ จะให้เสียงที่มีการแยกแยะมิติได้น้อง ๆ ชุดแยกชิ้นแบบสเตริโอ ให้เสียงที่กว้าง โทนบาลานซ์ดีฟังเพลงได้หลากหลาย อยู่ที่การปรับตำแหน่งและความดังซับของวูฟเฟอร์เป็นสำคัญ เสียงเบสนุ่มลึก จะฟังแบบออดิโอไฟล์ก็ปรับ Bass ไว้สัก 1-2 หรือจะฟังมันส์แบบปาร์ตี้ก็ปรับเพิ่มได้ตามชอบ เรียกว่าซาวด์บาร์ตัวนี้ตอบสนองได้ทุกอารมณ์
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- JBL BAR 9.1
- ชุดลำโพง surround 2 ตัว
- Subwoofer ไร้สาย
- รีโมท พร้อมแบตเตอรี่
- ชุดสายไฟ
- สาย HDMI
- ชุดติดตั้งลำโพงเข้ากับกำแพง
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
จุดเด่น
- ลำโพง Soundbar ไร้สายถอดชิ้นส่วนได้
- ระบบเสียง 5.1.4 แบบ True Surround ไม่ต้องจำลอง
- ลำโพง Surround ทรูไวร์เลส แบตเตอรี่ใช้ได้ 10 ชั่วโมง
- เบสกระหึ่มด้วย Subwoofer ไร้สายขนาด 10 นิ้ว
- Google Chromecast และ AirPlay 2 ภายในตัว
- เชื่อมต่อได้ทั้ง Ethernet / WiFi / Bluetooth
สรุป
ราคาของ JBL BAR 9.1 อยู่ที่ 29,900 บาท ถือว่าทำคะแนนได้น่าประทับใจมาก สำหรับซาวด์บาร์ในพิกัดราคานี้ ใครที่สนใจ ก็ติดต่อสอบถามกันได้ที่บริษัทมหาจักร ดีเวลอปเมนท์ โทร. 02 256 0020
