What HI-FI? Thailand

รีวิว Furutech LineFlux-NCF (RCA) interconnect cable & DSS-4.1 speaker cable

Mongkol Oumroengsri

ครั้งนี้เป็นการทดสอบสายสัญญาณรุ่นใหม่เอี่ยมอ่องจาก Furutech “LineFlux- NCF RCA” ซึ่งนับเป็นสายสัญญาณรุ่นแรกของ Furutech ที่รวมวัสดุป้องกันไฟฟ้าสถิต (antistatic) และต้านทานเรโซแนนซ์ (antiresonance) ของ NCF ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Furutech เข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงการใช้ตัวนำ α (อัลฟา) ที่ประกอบด้วยสายตัวนำ OCC ซึ่งผ่านกระบวนการแช่เยือกแข็งยิ่งยวด (alpha cryogenic) และกระบวนการล้างอำนาจแม่เหล็ก (demagnetization) ของ Furutech

NCF นั้นย่อมาจาก Nano Crystal² Formula รังสรรค์ขึ้นจากวัสดุผลึกพิเศษ (special crystalline material) ที่มีคุณสมบัติ ” active” ใน 2 ประการด้วยกัน – ประการแรก NCF สร้างไอออนลบที่กำจัดไฟฟ้าสถิต ประการที่สอง NCF แปลงพลังงานความร้อนเป็น far-infrared โดยที่ Furutech ผสมผสานวัสดุที่โดดเด่นนี้เข้ากับอนุภาคเซรามิกขนาดนาโน และผงคาร์บอน ซึ่งมีคุณสมบัติเสริมในการแดมปิ้ง (damping properties) ผ่านสู่ ‘piezoelectric effect’ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ Nano Crystal² Formula หรือ NCF นี่เอง ซึ่งเป็นวัสดุลดแรงสั่นสะเทือนทางไฟฟ้าและทางกลที่ดีที่สุด ซึ่ง Furutech ได้ทำการพัฒนาขึ้น

สายสัญญาณ LineFlux NCF (RCA) ที่ Furutech ได้รังสรรค์ขึ้นอย่างสวยงามนั้น เป็นผลมาจากวิศวกรรมที่รอบคอบและการทดสอบวัสดุที่เหมาะสมต่างๆ อย่างรอบคอบ ผลลัพธ์ที่ได้คือความสมดุลโดยรวมที่ยอดเยี่ยมของคุณลักษณะต่างๆ ตามข้อกำหนดของ Furutech ทั้งนี้ทั้งนั้น LineFlux NCF (RCA) มีตัวนำ OCC แบบแข็ง α (alpha) ทำการชีลด์ถึงสองชั้น และวัสดุฉนวน polyethylene คุณภาพสูง รวมถึงเปลือกหุ้มด้านนอกที่มีวัสดุ nano-ceramic ทำหน้าที่หน่วงเรโซแนนซ์ (resonance damping material) และผงคาร์บอนเพื่อยกระดับการส่งผ่านสัญญาณ

ผลลัพธ์ที่ได้คือ รายละเอียดที่ให้การแยกแยะอันลึกล้ำของเรสโซลูชั่น และพื้นเสียงรบกวน (noise floor) ที่ต่ำมาก เน้นสภาพเวทีเสียงที่เด่นชัด ขึ้น รวมไปถึงความแจ่มชัดของจินตภาพเสียง ช่วงย่านความถี่เสียงกลางที่ “กลมกล่อม” ที่น่าดึงดูดใจ เสียงเบสที่หนักแน่นและควบคุมจังหวะจะโคนได้แม่นยำ ตลอดจนความเต็มเปี่ยมในพลัง และไดนามิกอันฉับไว

ทั้งนี้ Furutech ได้ให้ความสำคัญกับตัวเชื่อมต่อเป็นอย่างมาก “LineFlux- NCF RCA” จึงใช้ขั้วเสียบต่อ CF -102 NCF(R) RCA ที่มี α (Alpha) OCC ชุบเคลือบผิวด้วยโรเดียม ตัวนำโครงสร้างชิ้นเดียวที่ฉีดขึ้นรูปด้วย NCF ซึ่งเป็นวัสดุป้องกันไฟฟ้าสถิต และเรสโซแนนซ์ขั้นสูงสุดของ Furutech โดยที่ NCF นั้นสามารถให้ความลึกและโฟกัสของเวทีเสียงที่ดีขึ้น รวมไปถึงฮาร์โมนิก และความสมดุลของโทนเสียง ความถี่เสียงต่ำที่สะอาดยิ่งขึ้น และมีความคมชัดที่ดีกว่า เนื่องจากพื้นเสียงที่ให้ความสงัดมากยิ่งขึ้น

ตัวขั้วเสียบต่อนี้มีตัวเรือนเป็น α (Alpha) โลหะผสมทองแดง ชุบเคลือบด้วยโรเดียม (Copper Alloy Rhodium-plated) ใช้โครงสร้าง Hybrid NCF carbon แบบหลายชั้น ซึ่งประกอบด้วยชั้นเคลือบแข็งด้านนอก และอีกชั้นหนึ่งเป็น Hybrid NCF silver-plated 3k carbon fiber บนตัวเรือน stainless steel ที่ไม่เหนี่ยวนำสภาพแม่เหล็ก ทั้งยังมีวัสดุ damping & isolation materials ที่ดีที่สุด ช่วยปรับปรุงการยืดขยายช่วงย่านความถี่ และความสมดุลของโทนเสียง โดยที่ตัวนำได้รับยึดติดแน่นด้วยชุดสกรู

Highlights

DSS-4.1 speaker cable

DSS-4.1 นับเป็นสายลำโพงในระดับสูงของ Furutech ที่มีความซับซ้อนทางเทคนิค และผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถัน “DSS-4.1” เป็นสายลำโพงที่มีรูปลักษณ์ค่อนข้างหนา แต่ก็ยืดหยุ่นตัวได้พอสมควร นอกจากนี้เปลือกหุ้มด้านนอกเป็นแบบไนลอนถักสีดำสลับสีเงิน ซึ่งดูดีและให้ความรู้สึกถึงความมีระดับ รวมไปถึงขั้วเสียบต่อที่บ่งบอกความหรูหรา

โครงสร้างสายลำโพง DSS-4.1 มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 1 นิ้ว สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดอย่างเข้มงวดของ Furutech ตัวฉนวนของสายลำโพงเริ่มต้นด้วยวัสดุด้านในของ Audio Grade Fluoropolymer ที่บิดเป็นเกลียวร่วมกับ Audio Grade Polyethylene ส่วนปลอกด้านใน (inner sheath) สร้างจากสารประกอบอนุภาคนาโนเซรามิก/คาร์บอน (Nano-Ceramic/Carbon particle compound) ในขณะที่ปลอกด้านนอก (outer sheath) ทำจาก audio grade PVC ที่ยืดหยุ่นตัวได้ เปลือกหุ้มด้านนอก (outer sleeve) ทำจากเส้นด้ายไนลอนแบบถักเกลียว

Furutech เฟ้นหาวัสดุที่ดีที่สุด ซึ่ง Furutech ได้ค้นพบตัวนำไฟฟ้าที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ให้ผลลัพธ์ด้านเสียงที่ดีมากๆ ซึ่งเรียกว่า DUCC Ultra Crystallized High Purity Copper โดยที่ Mitsubishi Materials Industries (MMI) เป็นผู้จัดหาทองแดงบริสุทธิ์สูงพิเศษที่ปราศจากออกซิเจน (oxygen-free copper) ซึ่งได้รับการออกแบบให้ตกผลึก (crystallize) ในลักษณะที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และรวมเข้ากับ Alpha-OCC ของ Furutech สำหรับการนำสัญญาณซึ่งไหลไปในทิศทางที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้สัญญาณเสียงดนตรีไหลลื่นอย่างครบถ้วน โดยปราศจากสิ่งกีดขวางหรือเสียงผิดเพี้ยน

ตัวนำหลักของ DSS-4.1 ประกอบขึ้นจากโครงสร้างถึงสี่ชั้นที่แตกต่างกัน ตัวแกนกลางประกอบด้วยแกน NCF PE ถัดขึ้นมาในชั้นที่สอง เป็นเส้นตัวนำทองแดง Alpha-OCC ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.18 มม.จำนวน 89 เส้นมัดเป็นเกลียวหมุนตามเข็มนาฬิกาไปทางขวา  ชั้นที่สามเป็นทองแดง Alpha-OCC ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.18 มม.จำนวน 39 เส้นมัดเป็นเกลียวซึ่งหมุนทวนเข็มนาฬิกาไปทางซ้าย และตัวนำชั้นที่สี่ (ด้านนอก) เป็นทองแดง Alpha OCC-DUCC เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.13 มม.จำนวน 62 เส้นมัดเป็นเกลียว แต่หมุนตามเข็มนาฬิกาย้อนไปทางขวา จากนั้น Furutech ได้เพิ่มชั้นของการชีลด์ (shielding) อีกมากถึง 10 ชั้น รวมทั้งฉนวนป้องกันที่ส่วนนอกสุดของตัวนำทองแดง OCC ทำให้ DSS-4.1 มีเส้นผ่านศูนย์กลางโดยรวมประมาณ 1 นิ้ว เปลือกหุ้มด้านนอกเป็นเส้นใยไนลอนถักลายหนังงูสีดำ-ขาว ซึ่งค่อนข้างยืดหยุ่น และติดตั้งได้ง่าย

Furutech และ MMI ได้ลงทุนร่วมกันด้านการวิจัยและพัฒนาในสายลำโพงพิเศษเยี่ยงนี้เป็นจำนวนเงินมหาศาล “DUCC Ultra Crystallized High Purity Copper” ของ Furutech นับเป็นหนึ่งในตัวนำที่ดีที่สุด ได้รับการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดโดย Mitsubishi Materials Industries (MMI เป็นผู้ผลิตทองแดงที่ปราศจากออกซิเจนที่มีความบริสุทธิ์สูงที่สุดในโลก) ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ปรับแนวผลึกได้อย่างเหมาะสมที่สุด ในขณะที่ลดขอบเขตจำนวนเกรนของผลึกคริสตัล(crystal-grain boundaries) ให้น้อยลง ส่งผลให้ตัวนำมีประสิทธิภาพอย่างมาก ผลึกคริสตัลดังกล่าวจะยาวตรง (Straight OCC) และก่อตัวเป็นผลึก “เส้นใย” (fibrous) ที่ใหญ่กว่า ซึ่งสร้างรอยแยกคริสตัล (crystal junctions) ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ในความเป็นนั้น ค่าความไวต่อทิศทาง (sensitivity to directionality) ของ OCC นั้น นับว่า น้อยมากอยู่แล้ว ทว่า DUCC ยิ่งมีค่าความไวต่อทิศทางน้อยกว่า OCC ขึ้นไปอีกระดับ อันเนื่องมาจากค่าความบริสุทธิ์ที่สูงขึ้นอย่างมาก ทำให้การส่งผ่านสัญญาณดียิ่งกว่า Pure Transmission Alpha-OCC  ที่ Furutech เคยประสบความสำเร็จจนโด่งดัง ทั้งยังผ่านกระบวนการบำบัดด้วย Alpha Super Cryogenic และ Demagnetizing (กระบวนการล้างอำนาจแม่เหล็ก) อีกด้วย

สำหรับสายลำโพง DSS-4.1 นี้ ปลายสายด้านเสียบต่อกับเครื่องขยายเสียงจะเป็นขั้วต่อแบบ หางปลา (spade connectors) รุ่น FT-211R [‘R’ หมายถึง โรเดียม] ที่ Furutech ประดิษฐ์ขึ้นเอง ส่วนปลายสายด้านเสียบต่อกับลำโพงจะเป็นขั้วต่อแบบ บานาน่าหมุนล็อกได้ (locking banana plugs) รุ่น FT-212R ซึ่งทั้ง FT-211R และ FT-212R จะมีตัวเรือนที่ปราศจากสารตะกั่ว ทั้งยังไร้ซึ่งเรสโซแนนซ์ (non-resonant housings) และชุดตัวน็อตขันสกรูเพื่อยึดสายตัวนำได้อย่างแข็งแรง (ไม่ใช้การบัดกรี) ที่ไร้ซึ่งสภาพแม่เหล็ก (non-magnetic setscrews)

ผลการรับฟัง

สายสัญญาณ “LineFlux NCF (RCA)” + สายลำโพง “DSS-4.1” สามารถสำแดงสมรรถนะออกมาได้น่าทึ่งทีเดียว โดยให้ความโดดเด่นมากในการ “นำเสนอ” ช่วงความถี่เสียงต่ำที่ทั้งรุกเร้า-ดุดัน และแผ่ใหญ่-กระชับฉับไว ไม่อวบอ้วน อุ้ยอ้าย พร้อมด้วยจังหวะจะโคนที่ควบคุมตัวได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังให้ความอิ่มเอิบใน “น้ำหนักเสียง” บ่งบอกสภาพความมีทรวดมีทรงของทุกสรรพเสียงควบคู่กับ “เนื้อเสียง” ที่ให้ความนวลเนียน ละเมียดละไมทั้งยังถ่ายทอดความฉับไวในการส่งมอบรายละเอียดเสียงเล็กๆน้อยๆได้ถึงขั้น “แจ่มกระจ่าง” และในสรรพสำเนียงเสียงต่างๆที่รับฟังนั้นก็ล้วน “เด่นลอย” ออกมาอย่างมีตัวมีตนมีมวลอากาศ (airy) พร้อมด้วยอาณาบริเวณเสียงที่เป็นอิสระไม่ซ้อนทับปนเปกัน เสียงทุกเสียงมีความสด – สว่าง

รวมไปถึง “สภาพบรรยากาศเสียง” ที่ถูกถ่ายทอด-บ่งบอกออกมาในขณะรับฟัง ทำให้เสียงดนตรีที่รับฟังนั้นมีความสมจริง แม้กระทั่งการออกเสียงอักขระภาษาที่นักร้องเปล่งออกมานั้นก็ราวกับว่า มองเห็นอากัปกริยาในการห่อปาก (อย่างเช่น ตัว C, S, H) หรือว่าลักษณะเอาลิ้นขึ้นไปแตะเพดานปาก (อย่างเช่น ตัว L, W) กระนั้นครับ ไม่ต่างไปจากความเป็นธรรมชาติอย่างที่เราได้ยินได้ฟังออกมาจากการเปล่งเสียงของคนเราจริงๆ “LineFlux NCF (RCA) + DSS-4.1” ทำให้สัมผัสได้ถึงสรรพเสียงที่มี “ลมหายใจ”– เป็นเสียงที่มีชีวิตชีวา มีความเปิดโปร่งเป็นอย่างมาก จนสามารถรับฟังได้ถึงรายละเอียดเสียงเล็กๆน้อย ที่แม้จะแผ่วเบาแต่ก็ชัดเจน ลอยเด่นออกมาอีกทั้งยังรับรู้ได้ถึง “สภาพบรรยากาศเสียง” ที่ถูกส่งมอบออกมา ทำให้สรรพเสียงที่รับฟังนั้นมีความเป็นธรรมชาติอย่างสมจริง

“LineFlux NCF (RCA) + DSS-4.1” ให้ความ-แตกต่าง-ที่รับรู้ได้ว่า ความสดใส โปร่งกระจ่าง ควบคู่กับเนื้อเสียงเนียนนุ่มละมุนละไมดีขึ้นกว่าที่ผมคุ้นชินอยู่ประจำขึ้นมาพอตัวเลยละครับ …แบบไม่ต้องเงี่ยหูฟัง-จับผิดแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นในแง่น้ำหนัก-พลังเสียง รวมทั้งรายละเอียดที่เปิดเผยออกมามากขึ้น รวมไปถึงการเปิดโปร่ง-ฉับไวในด้านของไดนามิกเสียงอย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

ทั้งนี้ทั้งนั้น Furutech ดูจะเน้นความเอิบอิ่ม นวลเนียน ละมุนละไม กลมกลึง กลมกล่อม มีเนื้อหนัง ให้ความรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวา มากกว่าจะมุ่งไปที่ความฉูดฉาดของเสียง โดยยังคงโดดเด่นในด้านความฉับไว เปี่ยมในไดนามิก ให้การจำแนก-แยกแยะ รวมทั้งความทรงพลัง-เข้มข้นในเสียงเบส ทั้งนี้ความฉับไวก็ถูก “LineFlux NCF (RCA) + DSS-4.1” นำเสนอออกมาให้ได้รับฟัง รวมทั้งรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ระยิบระยับครบถ้วน นับเป็นจุดเด่นที่บ่งบอกออกมาทันทีเมื่อได้ฟัง

ทั้งยังสัมผัสได้ถึง “ความเต็มอิ่ม” ในน้ำหนักเสียง บ่งบอกสภาพความมีทรวดมีทรงของทุกสรรพเสียง ให้ความนวลเนียนละเมียดละไมยิ่งกว่าที่เคยคุ้น และในทุกสรรพเสียงนั้นก็ล้วน “เด่นลอย” ออกมาอย่างมีตัวตนและมีอาณาบริเวณเสียงที่เป็นอิสระไม่ซ้อนทับปนเปกัน เสียงทุกเสียงที่รับฟังมีความสว่าง “กระจ่าง” ขึ้นกว่าธรรมดา สำแดงถึงความฉับพลันทันใดของเสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก “LineFlux NCF (RCA) + DSS-4.1” ให้ “ความเด่นลอย” ของเสียงหลักที่ถูกจำแนกแยกออกมาจากพื้นเสียง ทั้งๆ ที่ “พื้นเสียง” นั้นก็ดูจะชัดเจนขึ้นกว่าธรรมดา จนสามารถรับฟังได้ถึงรายละเอียดเสียงเล็กน้อยที่แม้จะแผ่วเบาแต่ก็ชัดเจน โดยให้ความเด่นลอยตัวหลุดออกมา

เสียงแต่ละเสียงที่รับฟังมีน้ำหนักไม่เบาโหวงเหวง ลอยเวิ้งว้าง ความผุดโผล่ของเสียงแต่ละเสียง อุบัติขึ้นอย่างมีตัวตนตำแหน่งแห่งที่ชัดเจน ในขณะที่ช่วงย่านเสียงต่ำก็รับรู้ถึงน้ำหนักเบสที่ใหญ่ ทรงพลัง ให้เรี่ยวแรงปะทะ และแผ่บาน-กระจายตัว มีจังหวะจะโคนที่ชัดเจน กระนั้น “LineFlux NCF (RCA) + DSS-4.1” ก็มิได้ส่งมอบลักษณะเสียงออกมาในแนวเข้มข้น-ขึงขัง (dark) จัดว่า “อิ่มเอิบ” ฟังสบาย ให้เนื้อเสียงที่เป็นตัวเป็นตน – ซะละมากกว่า

ในด้านอิมเมจและซาวด์สเตจนั้น ขอเน้นว่า “ตราตรึงใจมาก” แม้ในเสียงที่เกิดขึ้นซ้อน-แทรกพร้อมๆ กัน ก็ยังสามารถจับตำแหน่งของแต่ละเสียงนั้นๆ ได้ถนัด ไม่ถูกบดบัง หรือกลบเกลื่อนจนเลือนหาย (กลมกลืน) ไป ยังคงดำรงไว้ซึ่งความชัดเจน สดใส สามารถเปิดเร่งระดับความดังเสียงที่รับฟังอยู่นั้นได้มากขึ้น-มากขึ้น โดยที่มิได้รู้สึกอึดอัดรำคาญหรือหนวกหูแต่อย่างใด ในด้านความลึกของเวทีเสียงนี่ต้องยอมรับเลยละครับ ซึ่งหมายรวมไปถึง “สภาพบรรยากาศเสียง” ที่ถูกส่งมอบออกมาในขณะรับฟังทำให้เสียงดนตรีที่รับฟังนั้นมีความสมจริง แม้กระทั่งการออกเสียงอักขระภาษาที่นักร้องเปล่งออกมานั้นก็ “สมจริงมาก” ในความเป็นธรรมชาติอย่างที่เราได้ยินได้ฟังการเปล่งเสียงนั้นออกมาจากปากมนุษย์จริงๆ กระนั้น

สรุปส่งท้าย

ต้องขอบอกว่า “LineFlux NCF (RCA) + DSS-4.1” มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ทำให้เรารับรู้ได้ถึง “ความเปิดโปร่ง” ขึ้นอีกระดับจนสามารถ “จับ” ได้ถึงรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ที่แม้จะแผ่วเบาแต่ก็แจ่มชัด แยกแยะเสียงนั้นเสียงนี้ได้ชัดเจน ไม่มีคลุมเครือ รวมไปถึงความสดสะอาด ใสกระจ่าง และเปิดโปร่งมากจริงๆ เฉพาะอย่างยิ่งรายละเอียดช่วงปลายเสียงสูงๆ รับรู้ได้ถนัดหูในละอองอณูเสียงของแอมเบี้ยนซ์อันพละพลิ้ว กระจายตัว และทอดตัวยาวไกล ก่อนจะค่อยๆจางหายไปอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมด้วยความกระชับ กระฉับกระเฉงในจังหวะจะโคนอันแม่นยำ ยิ่งฟังยิ่งเพลิน

“LineFlux NCF (RCA) + DSS-4.1” ไม่ได้ให้เสียงที่สดใส สว่างไสว จนฉูดฉาด (bright) หรือว่า หนาจนเข้มข้น ทึมทึบ(dark) แต่มันเป็นเสียงที่มีความกลมกล่อม ด้วย ‘tonal balance’ ที่สมส่วนดีมากๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังฟังเสียงนั้นเสียงนี้จริงๆ เป็นเสียงจากชิ้นดนตรีของจริงที่เรากำลังฟังอยู่ตรงหน้า ทำให้เรา “อิน” เข้าไปในเพลงที่กำลังฟังพร้อมทั้งนำเสนอบรรยากาศเสียง (atmosphere) ที่เหมือนเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับฟังจากแผ่นแสดงสดจะสมจริงมากๆ สามารถจำแนกระยะห่างจากกันของชิ้นดนตรีที่มีความเหลื่อม ไม่ซ้อน-ปนเปกัน ท่ามกลางระยะถอยลึกเข้าไปในเวทีเสียงเป็นชั้นๆ ทั้งยังให้รายละเอียดเสียงที่ซ่อนอยู่ในเพลงที่เราฟังได้ชนิด-น่าขนลุกเลยก็ละกัน

“LineFlux NCF (RCA) + DSS-4.1” ยังให้สเกลเสียงที่มีขนาดสมจริง รับรู้เป็นตัวเป็นตน ไม่เข้มจนใหญ่เกินจริง หรือบางจนผิดธรรมชาติ ฟังเพลงจากแนวแอคูสติกนี่ยิ่งประทับใจ เพราะทั้งกังวานและเอิบอิ่มในฮาร์มอนิกเสียง ช่วงปลายเสียงสูงๆ พละพริ้วดีจริงๆ และไปได้ไกลสุดกู่ ไม่มีอาการห้วน หรือโรยตัวจางลงห้วนๆ ทางด้านไดนามิกก็กริ๊บกรั๊บ ฉับไว แต่ไม่เกรียวกราดจนเข็ดฟัน ท่ามกลางความอบอุ่น ฉ่ำชุ่มของเนื้อเสียง

ขอขอบคุณ Clef Audio ที่เอื้อเฟื้อ สายสัญญาณ LineFlux NCF (RCA) และสายลำโพง DSS-4.1ในการรับฟังครั้งนี้


Exit mobile version