Dawn Nathong
ในการพิจารณาเลือกซื้อสายไฟเอซีสำหรับชุดเครื่องเสียงสักเส้น ปัจจุบันนี้มีตัวเลือกมากมาย หลัก ๆ ที่ต้องให้ความสำคัญ คือวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ควรเลือกสเปกสายไฟเอซีให้เหมาะสมก่อน ตามมาด้วยบุคลิกเสียงที่จะไปส่งเสริมกับซิสเต็มหรืออุปกรณ์นั้น ๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับนักเล่นมือใหม่อยู่ไม่น้อย ยิ่งการเลือกประกอบสายไฟเอซีด้วยตัวเอง ตัวแปรของการเลือกเข้าหัว-ท้ายปลั๊ก ก็ส่งผลต่อการถ่ายทอดบุคลิกเสียงของสายไฟเอซีด้วย ซึ่งทั้งสองอย่างควรเลือกให้เหมาะสมกัน
สายไฟเอซีจาก Furutech รุ่น FP-Alpha-3 นี้เป็นรุ่นที่นักเล่นหลายคนคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นรุ่นที่ดีที่สุดของสายไฟเอซีแบบตัดแบ่งของแบรนด์นี้ สำหรับให้นักเล่นซื้อหานำไปเข้าหัวประกอบสาย หรือจะสั่งประกอบกับทางร้านค้าเลยก็ย่อมได้ ซึ่งทาง Clef Audio ก็มีบริการประกอบให้เสร็จสรรพ สามารถเลือกเข้าหัวของ Furutech ได้ตามงบประมาณ ข้อดีก็คือทั้งหัว-ท้ายปลั๊กและตัวสายไฟเอซี ถูกออกแบบและจูนเสียงมาให้ส่งเสริมกันและกัน ท่านก็จะได้สายไฟเอซีคุณภาพสูงสำหรับใช้งานในซิสเต็มได้หลากหลาย ไม่ว่าจะนำไปใช้เป็นสายไฟเอซีเมนจากผนังเข้าปลั๊กลอย, เครื่องกรองไฟ หรืออินทิเกรตแอมป์, ปรีแอมป์, เพาเวอร์แอมป์ หรือแม้แต่แหล่งโปรแกรมต้นทาง นอกจากนี้หากนำไปใช้กับระบบภาพก็จะให้คุณภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย
ราคาจำหน่าย (ราคาตั้ง)
- สายไฟเอซี FP-Alpha-3 ราคา 8,300 / เมตร
- หัวปลั๊ก FI-28M (R) ราคา 6,800 บาท / ตัว
- ท้ายปลั๊ก IEC FI-28 (R) ราคา 6,800 บาท / ตัว
ซึ่งสายไฟเอซีที่ทาง Clef Audio ส่งมาให้มีความยาว 1.5 เมตร พร้อมเข้าหัว-ท้าย เบ็ดเสร็จอยู่ที่ 26,050 บาท
คุณสมบัติเด่น
FP-Alpha-3 เป็นสายไฟเอซีแบบสามแกน ตีเกลียวเข้าด้วยกัน ขนาดหน้าตัดรวม 3.94 sq.mm (11 AWG) แต่ละแกนใช้วัสดุตัวนำทองแดง α (Alpha)-OCC ฝอยตีเกลียวจำนวน 49 เส้นหุ้มทับด้วยฉนวน PE กำหนดโค้ดสีแดง = Line, สีเหลือง = Neutral, สีขาว = Ground ไม่มีการหุ้มชิลด์ตาข่ายหรือวัสดุใด ๆ ทำให้สายให้ตัวได้ดีแม้จะมีขนาดใหญ่ แจ็กเก็ตชั้นนอกสุดเป็น Flexible PVC สีเขียวเข้มออกตุ่น ๆ
ตัวนำ α (Alpha)-OCC นั้นเป็นกระบวนการผลิตแบบเฉพาะตัวของ Furutech โดยการใช้ทองแดง PCOCC (Pure Copper Ohno Continuous Casting) ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดของ Furutech ที่นำ Pure copper ไปผ่านกระบวนการรีดแบบ OCC ค่อยๆ ควบแน่นผลึกทองแดงอย่างช้าๆ ทำให้มีผลึกทองแดงที่ยาวกว่าปกติแทบไร้รอยต่อของผลึก (เส้นฝอยทองแดงหนึ่งเส้นของ FP-Alpha-3 มีหน้าตัด 0.32 มิลลิเมตร นั่นแปลว่าหนึ่งผลึกจะยาวได้ถึง 125 เมตร) มาผ่านกระบวนการ Alpha Procress สองขั้นตอน ได้แก่ Super Cryogenic (แช่แข็ง) ที่อุณหภูมิระหว่าง -196 ถึง –250 เซลเซียส ทำให้โมเลกุลของตัวนำเกาะติดกันแน่นขึ้นและมีโครงสร้างที่เสถียร จากนั้นจึงทำ Demagnetizing (ลบล้างสภาพแม่เหล็ก) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำไฟฟ้า
วัสดุตัวนำที่ผ่านกรรมวิธี Alpha Process ทั้งหมด จะอยู่ในสภาพที่ปราศจากความเครียด (stress-free) มีความเสถียร และมีประสิทธิภาพในการนำไฟฟ้าที่สูง มีค่าความต้านของตัวนำสูงสุดที่ 0.0052 โอห์ม / เมตร
หัว-ท้ายปลั๊กรุ่น FI-28 (R) ที่ทางร้านเลือกประกอบมาให้เป็นรุ่นกลาง ๆ ของค่ายนี้ ใช้ตัวนำทองแดง α (Alpha) pure-copper เคลือบ Rhodium ผ่านกระบวนการ Alpha Process สองขั้นตอนเช่นเดียวกัน ซึ่งต้องบอกว่างานเพลตติ้งของ Furutech มีคุณภาพสูงมาก เวลาถอด-เสียบใช้งานกับปลั๊กผนังที่มีความแน่น ไม่ปรากฎรอยขูดขีดเหมือนหัวปลั๊กราคาถูก บอดี้เป็นวัสดุไนลอน / ไฟเบอร์กลาสผสมอนุภาคคาร์บอน มีคุณสมบัติช่วยซึมซับแรงสั่นสะเทือนและเรโซแนนท์
ไฮไลท์เด็ดคือ ตรงสกรูทุกตัวของปลั๊กจะมีบริดจ์เชื่อมลงกราวด์ด้วย Furutech เรียกเทคนิคนี้ว่าระบบ “Floating Field Damper” เมื่อกระแสไหลผ่านตัวนำ จะเกิดสนามแม่เหล็กลอยตัวอยู่โดยรอบแล้วไปเหนี่ยวนำชิ้นส่วนโลหะอื่น ๆ (สกรู) ในปลั๊กที่อยู่ในบริเวณใกล้กัน ให้เกิดกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ และสร้างสนามแม่เหล็กเช่นกัน สนามแม่เหล็กจากสกรูตามตำแหน่งพวกนี้ จะไปกวนกับสนามแม่เหล็กของตัวนำ เกิดเป็นสัญญาณรบกวนทำให้รูปคลื่นแรงดันไฟฟ้าเกิดความผิดเพี้ยนมากขึ้น บริดจ์ในตัวปลั๊กก็จะทำหน้าที่ ถ่ายเทกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ จากสกรูและชิ้นส่วนที่เป็นโลหะอื่น ๆ ทิ้งลงกราวด์ไป
First Impression
สายไฟเอซีเส้นนี้ต้องการการเบิร์นอินอย่างต่ำ ๆ 150 ชั่วโมงขึ้นไป จะให้ดีควรถึง 200 ชั่วโมงจึงจะเปิดเผยศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้อย่างเต็มที่ ชั่วโมงแรก ๆ ของการใช้งานปลายเสียงยังไม่ทอดตัวออกไปจนสุด และตัวเสียงยังมีความตึง ๆ อยู่บ้าง นักเล่นที่ใจร้อนหรือใช้ซิสเต็มที่มีดุลเสียงค่อนไปทางกลางแหลม อาจด่วนตัดสินและทำให้พลาดที่จะได้สัมผัสเนื้อแท้ของสายรุ่นนี้ไป ผู้เขียนนำสายไฟเอซี FP-Alpha-3 เข้ามาเปลี่ยนแทนสายไฟเอซีเส้นเดิมซึ่งเป็นสายเมนหลักของระบบจากปลั๊กผนังมายังปลั๊กลอย และเปิดใช้งานทั้งการฟังเพลงและชมภาพยนตร์ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ใช้แผ่นเบิร์นอินเพื่อเร่งเวลาจนเกิน 150 ชั่วโมง
ในระหว่างช่วงของการเบิร์นอินนอกจากเรื่องของเสียงที่เข้าสู่จุดสมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว พบว่าเมื่อเปิดทีวีชมภาพยนตร์จาก Netflix ปรากฏว่าภาพนั้นดูสว่างมีพลังขึ้น (โดยเฉพาะวัตถุที่มีการสะท้อนแสง) ความใสของภาพดีขึ้นเหมือนลอกเอาม่านหมอกบาง ๆ ออกไป สังเกตเห็นดีเทลเล็ก ๆ ของภาพได้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย ซึ่งถือว่าเห็นผลด้านภาพได้ค่อนข้างชัดเจน แตกต่างจากการเปลี่ยนสายไฟเอซีออดิโอเกรดอื่น ๆ ที่มักจะเห็นผลเฉพาะด้านเสียงชัดเจนมากกว่า แบบนี้หากนำไปใช้ในระบบโฮมเธียเตอร์ ก็จะได้ผลลัพท์ที่คุ้มค่า ปรับปรุงคุณภาพได้ทั้งภาพและเสียงเลยทีเดียว
หัวปลั๊ก FI-28 (R) ที่เลือกมานั้นถือว่าเหมาะสมทั้งคุณภาพและระดับราคา ผู้เขียนเคยฟังสายไฟเอซี FP-Alpha-3 ที่เข้าหัวรุ่นเล็กกว่าอย่าง FI-11 หรือ FI-15 แล้วเร้นจ์ของเสียงจะออกมาแคบกว่านี้ รวมถึงมีเกรนเสียงที่ไม่เนียนละเอียดเท่า เรียกว่าอั้นคุณภาพของตัวสายไปสักหน่อย ส่วนหากเป็นหัวปลั๊กรุ่นสูง เช่น FI-50 แม้ว่าคุณภาพเสียงโดยรวมจะดีขึ้นกว่าใช้ FI-28 ก็ตาม แต่ราคาค่าตัวก็ขยับไปราวสามเท่า (ต่อตัว) กันเลยทีเดียว ส่วนการจะพิจารณาเลือกวัสดุเคลือบผิวเป็นโรเดียม (R) หรือทอง (G) อยู่ที่รสนิยมความชอบ หากชอบคัลเลอร์ในย่านเสียงกลางที่มีความอิ่มหนาขึ้นมาเล็กน้อย ลดปลายแหลมลงมาหน่อยก็เลือกรุ่นเคลือบทอง หากเลือกรุ่นเคลือบโรเดียมก็จะได้ความกระชับแน่น มีแรงปะทะความฉับพลันขึ้น
เสียง
บุคลิกเสียงโดยรวมของสายไฟเอซีเส้นนี้ ให้ความสะอาดเกลี้ยงเกลาของเนื้อเสียงได้อย่างโดดเด่น เนื้อเสียงมีความควบแน่นเป็นตัวตนสูง พื้นเสียงมีความสงัด นั่นทำให้โฟกัสของตัวเสียงขึ้นรูปอย่างชัดเจนไม่ฟุ้งในทุกย่านความถี่ และแยกขาดจากพื้นหลังออกมาอย่างชัดเจน วางตำแหน่งชิ้นดนตรีมีช่องว่างช่องไฟสวยงาม มีตื้นลึกที่เป็นโถงอย่างชัดเจน ให้เวทีเสียงที่แผ่กว้างออกไปทั้งกว้างลึก
ด้วยความชัดคมของอิมเมจตัวเสียง บางคนอาจกลัวว่าสุ้มเสียงนั้นอาจพุ่งหรือรุกเร้าเข้าหาตัวหรือไม่ จากการทดลองฟังกับแนวเพลงหลากหลาย สายไฟเอซีเส้นนี้แสดงให้เห็นถึงรูปวงที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามการบันทึกเสียง เสียงคนร้อง เสียงเครื่องดนตรี จะวางตำแหน่งลึกเข้าไปในเวทีเสียง หรืออยู่ในแนวระนาบของลำโพงแทบทั้งสิ้น
ให้มวลเสียงที่อิ่มแน่นแต่ไม่อวบหนา เกรนเสียงมีความละเอียดอ่อนไปในทางเดียวกับสายไฟเอซีระดับไฮเอ็นด์หลักแสน และมีความเปิดโล่งเป็นอิสระตลอดย่านความถี่ ไม่รู้สึกถึงอาการอั้นตื้อจากการสวิงเสียง สามารถไล่สเกลไดนามิกของเสียงได้อย่างจะแจ้งโดดเด่นที่สุดตัวหนึ่งในสายไฟเอซีระดับราคานี้ ให้ความรู้สึกถึงพละกำลังแฝงของเสียงที่ดี โดยเฉพาะย่านต่ำมีความกระชับฉับไว หนักแน่น ลงลึก มีอิมแพ็กหรือน้ำหนักแรงปะทะฉับพลันของหัวเสียงที่ดีมาก ให้ความสะอาดของย่านทุ้มต้นไปจนถึงทุ้มลึก ลองฟังเสียงกลองจากอัลบั้ม Poem Of Chinese Drum ของ Yim Hok-man เรียกว่ามาครบทั้งอิมแพ็ค มวลเสียง ความกระชับและสะอาด
ใครที่ชอบน้ำเสียงเปิดเผยไร้การอำพราง แต่ไม่สดจัดจ้าน สายไฟเอซีเส้นนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ตรงประเด็น เพราะถ่ายทอดรายะละเอียดเล็กน้อยรวมถึงบรรยากาศหรือแอมเบี้ยนต์ของเสียงออกมาได้อย่างแจ่มชัดน่าฟัง ปลายแหลมมีน้ำหนักการย้ำเน้นและทอดหางเสียงออกไปได้ไกลติดตามได้ตลอดจนสุดหางเสียง ผสานกับเนื้อเสียงที่ละเอียดเนียนแต่ควบแน่นไม่ฟุ้ง ย่านเสียงกลางนั้นโดดเด่นด้วยโพกัสที่ลอยออกมาเป็นสามมิติ รายละเอียดหยุมหยิมของเสียงคนร้องหมดจดชัดเจน [Dreamers Do by Kat Edmonson] พวกเสียงกีตาร์เก็บรายละเอียดการดีดและการสั่นของสายออกมาได้ครบถ้วน พวกเครื่องเป่าทองเหลืองสดกังวานและมีพลัง [A Lousy Day in Harlem by Ed Palermo Big Band]
ด้านความอบอุ่นนุ่มนวลในย่านเสียงกลางและต่ำอาจเป็นรองสายไฟเอซีที่โดดเด่นทางนี้สักนิด แต่ชดเชยด้วยการถ่ายทอดไดนามิกของเสียงที่ชัดเจนโดดเด่นไม่คลุมเครือโดยปราศจากอาการเครียดเค้นหรือหยาบกระด้างของเสียง เรียกว่าเป็นสายไฟเอซีที่ผสมผสานรายละเอียดแบบเจาะลึกประเภท Low level detail เข้ากับความเป็นดนตรีที่ลื่นไหลแบบมิวสิคเลิฟเวอร์ได้อย่างลงตัว [City Connection by Terumasa Hino]
อัลบั้มบางส่วนที่ใช้ทดสอบ
- Poem of Chinese Drum by Yim Hok-man
- Dreamers Do by Kat Edmonson
- Musicology by Prince
- A Lousy Day in Harlem by Ed Palermo Big Band
- Respighi: The Birds and Brazilian by LSO
- City Connection by Terumasa Hino
สรุป
จะเรียกว่า Furutech FP-Alpha-3 ใส่หัว-ท้ายปลั๊ก FI-28 (R) เป็นสายไฟเอซีที่มีโทนเสียงออกไปทาง Natural ก็ว่าได้ คือมีความเป็นกลางพอสมควร ไม่เติมคัลเลอร์เข้าไปให้กับซิสเต็มมากนัก พร้อมที่จะเปิดเผยบุคลิกของอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันอย่างตรงไปตรงมา การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง จะยิ่งเห็นความโดดเด่นของสายไฟเอซีเส้นนี้ออกมาได้อย่างชัดเจน สามารถนำไปใช้งานในซิสเต็มระดับไฮเอ็นด์ได้อย่างไม่ขัดเขิน ไม่ว่าจะเป็นชุดฟังเพลงหรือโฮมเธียเตอร์ เรียกว่าซื้อครั้งเดียวใช้งานกันได้ยาว ๆ
ขอขอบคุณ บริษัท เคลฟ ออดิโอ จำกัด โทร. 02 932 5981 ที่เอื้อเฟื้อสินค้าเพื่อการทดสอบในครั้งนี้