Mongkol Oumroengsri
เอ่ยชื่อ Dynaudio คงไม่มีใครในโลกเครื่องเสียงไม่รู้จัก อาจเรียกได้ว่านี่คือ ตำนานมีชีวิตของแวดวงลำโพง …Dynaudio แห่งเดนมาร์ก โด่งดังด้วยการสร้างลำโพงแบรนด์ของตัวเองจำหน่ายสู่ตลาดโลก ทั้งยังเป็นผู้ผลิตไดรเวอร์ในแบบ OEM อันเลื่องชื่อที่หลายแบรนด์ลำโพงชั้นนำเลือกใช้ ประกอบลงตู้ของตัวเองแล้วทำชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยจุดเด่นที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของการมีวอยซ์คอยล์ขนาดใหญ่ ทำให้รองรับกับค่าแรงดันเสียงได้สูงมากเป็นพิเศษ ภายใต้ค่าผิดเพี้ยนทางเสียงที่ต่ำมากๆ
Dynaudio เริ่มต้นขึ้นในปีคศ. 1977 โดย Wilfried Ehrenholz ด้วยเป้าหมายในการสร้างลำโพง Hi-Fi ที่ไม่มีบุคลิกเสียงของตัวเอง และมุ่งเน้นการจำลอง-ถ่ายทอดเสียงอันแม่นยำ และแท้จริงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งนี้เนื่องจากไม่มีลำโพงใดในโลกที่ดีพอสำหรับโครงการนี้ของ Wilfried Ehrenholz โรงงานผลิตจึงได้ก่อตั้งขึ้นในเมือง Skanderborg ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ปรัชญาดังกล่าวก็ยังคงอยู่ในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ที่ Dynaudio ผลิตขึ้น และได้ส่งผลให้ Dynaudio เป็นหนึ่งในผู้ผลิตลำโพงที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ด้วยผลิตภัณฑ์อันทรงคุณภาพตรงตามที่ต้องการ และที่สำคัญ Dynaudio ยังคงผลิตในเดนมาร์ก
ปัจจุบัน Daniel Emonts ทำหน้าที่ Chief Acoustic Specialist ของ Dynaudio ซึ่งจริงๆ แล้ว Dynaudio มีลำโพงหลากรุ่นที่แยกเป็นหลายซีรี่ส์ โดยที่ Emit series นี้คือ ซีรี่ส์เล็กสุด ถือเป็นหน้าด่านแห่งหนทางสู่เสียงไฮ-ไฟระดับไฮ-เอนด์ของ Dynaudio แห่งเดนมาร์กอย่างแท้จริง ‘Emit series’ ได้รับการรังสรรค์เพื่อมอบความเพลิดเพลินกับเสียงเพลงและภาพยนตร์ในแบบที่คุณไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ในราคาไม่ไกลเกินคว้า ด้วยเทคโนโลยีที่นับว่าใกล้เคียงกลุ่มผลิตภัณฑ์ Confidence Confidence, Contour i และ Evoke อันน่าทึ่งของ Dynaudio
Emit series เป็นผลลัพธ์ของประสบการณ์การวิจัย การพัฒนา และการฟังที่อุตสาหะกว่า 45 ปี ตั้งแต่วัสดุกรวย MSP (Magnesium Silicate Polymer) ที่เป็นเอกสิทธิ์และเทคโนโลยีทวีตเตอร์แบบซอฟต์โดมผ้าชุบเคลือบน้ำยา (coated fabric soft-dome) ที่ Dynaudio ใช้มาตั้งแต่ปี 1977 ไปจนถึงระบบ “โดมภายใน” ที่เรียกว่า Hexis inner dome อันทันสมัย ซึ่งโดยหลักการแล้ว ‘Hexis inner dome’ นั้นใช้ทำหน้าที่กรองเสียงสะท้อนที่ไม่ต้องการออกจากตัวโดมทวีตเตอร์
คุณลักษณ์
‘Emit series’ มีอยู่ด้วยกัน 5 รุ่น :- Emit 10, Emit 20, Emit 30, Emit 50 และ Emit 25C ที่เป็น Center Speaker โดยที่ Emit 10 และ Emit 20 นั้นเป็นระบบลำโพงแบบวางขาตั้ง ส่วน Emit 30 และ Emit 50 จะเป็นลำโพงตั้งวางพื้นแบบ 2.5-ทาง และ 3-ทางตามลำดับ “Emit 10” เป็นรุ่นเล็กสุดของ Emit series ที่ออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสมกับผู้ใช้งานระดับเริ่มต้นซึ่งต้องการเข้าถึงความเป็น Dynaudio ในระดับราคาไม่ไกลเกินคว้า อย่างที่เรียกกันว่า entry-level speaker ภายใต้ระบบลำโพงแบบ 2-ทาง วางขาตั้ง (bookshelf speaker) ที่ใช้เทคโนโลยีที่ได้จากชุด Confidence, Contour i และ Evoke
คุณจะยังพบกับยูนิตเสียงเบส/มิดเรนจ์แบบ MSP (สารประกอบแมกนีเซียม ซิลิเกต โพลีเมอร์) ใน “Emit 10” เฉกเช่นเดียวกับรุ่นลำโพงระดับไฮ-เอ็นด์ของ Dynaudio โดยที่ MSP เป็นวัสดุซึ่ง Dynaudio พัฒนาขึ้นเอง และใช้มาตลอดหลายทศวรรษ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเบา ความแข็ง และการแดมปิ้งเพื่อการควบคุมที่ละเอียดมากโดยไม่สูญเสียกำลัง ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับไดรเวอร์ที่สรรค์สร้างทั้งเสียงเบสต่ำและความถี่เสียงกลาง
Emit 10 ได้รับการออกแบบให้เป็นรุ่นในอุดมคติสำหรับห้องขนาดเล็ก ไดรเวอร์เสียงเบส/มิดเรนจ์แบบ MSP ของ Emit 10 มาจาก Esotec+ ในซีรี่ส์ Evoke ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ไดรเวอร์นี้มีขนาด 14 ซม. หรือประมาณ 5.5 นิ้ว (วอยซ์คอยล์ขนาดใหญ่ถึง 38 มม.) ระบบแม่เหล็กคู่ (dual magnet) ช่วยให้ควบคุมการเคลื่อนไหวและให้ค่าความไวที่ดีมาก ช่วยให้ได้ยินการตอบสนองความถี่และไดนามิกที่ดีขึ้นในช่วงความถี่ต่ำ ขณะที่ยังคงประสิทธิภาพเสียงกลางที่แจ่มชัด สดใส
วอยซ์คอยล์นั้นทำมาจากลวดอลูมิเนียมเคลือบทองแดง อลูมิเนียมมีน้ำหนักเบา ช่วยให้มีความคล่องตัวในการเคลื่อนตัวอย่างที่อาจไม่พบในแบรนด์อื่น ในขณะที่การเคลือบทองแดงช่วยเพิ่มการนำไฟฟ้าเพื่อกำลังที่มากขึ้น เป็นการผสมผสานที่ลงตัวอย่างยิ่ง ในส่วนของระบบแม่เหล็ก เป็นแบบเฟอร์ไรท์ (ferrite) ซ้อนสองชั้น หรือ dual magnet เพื่อให้มีขนาดกะทัดรัด จึงให้ความเข้มพลังงานแม่เหล็กระดับสูง ทั้งผลักดันและหยุดยั้งการสั่น-เคลื่อนที่ของตัวกรวยลำโพงได้อย่างแม่นยำ
ทวีตเตอร์เป็นรุ่น Cerotar แบบโดมผ้าที่จะพบได้ในรุ่น Evoke โดยอิงจากทวีตเตอร์ที่เคยใช้ในทวีตเตอร์ฉลองครบรอบ 40 ปีของ Esotar ตัวยูนิตเป็นโดมผ้าขนาด 28 มม. พร้อมการเคลือบ DSR (Dynaudio Secret Recipe) สูตรพิเศษ วิศวกรของ Dynaudio กำหนดจุดตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่ของ “Emit 10” ไว้ที่ 3,700 เฮิรตซ์ แบบ 1st order สำหรับทวีตเตอร์ และ 2nd order สำหรับวูฟเฟอร์ (ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว วงจรตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่ หรือ crossover ของ ‘Emit series’ นั้นเป็นแบบที่ Dynaudio เรียกว่า hybrid designs ด้วยการผสมผสานระหว่าง using varying combinations of first-order, second-order และ fourth-order topology เข้าไว้ด้วยกัน)
ทั้งนี้ “Emit 10” ทำงานแบบตู้เปิด (bass reflex) ตำแหน่งท่อเปิดอยู่ด้านหลังของตัวตู้ และมีโฟมสำหรับอุดพอร์ท (port) ลำโพงมอบมาให้ด้วย (ตู้ละหนึ่งอัน) ผนังตัวตู้เป็นวัสดุ MDF หนา 18 มม. ซึ่งทุกด้านขนานกันทรงสี่เหลี่ยมปกติมีความสวยงามดูเรียบหรูแบบคลาสสิก ผนังด้านหลังตัวตู้วางตำแหน่งติดตั้งขั้วลำโพงแบบซิงเกิลไวร์ ไว้ด้านล่างของตัวตู้ ช่วงด้านบนติดตั้งท่อเปิดขนาดใหญ่ทำจากวัสดุประเภท HD PE สวมเข้าไปในตัวตู้ลำโพงลึกเข้าไปจนเกือบถึงแม่เหล็กของทวีตเตอร์
Emit 10 มีค่าอิมพีแดนซ์ปกติที่ 6 โอห์ม ค่าความไวของลำโพง 85 เดซิเบล ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 64 เฮิรตช์ จนถึง 25 กิโลเฮิรตช์ (+/- 3 dB) รับกำลังขับของแอมป์ได้สูงสุด 150 วัตต์ ขนาดตัวตู้:- กว้าง 170 สูง 290 ลึก 271.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 6.43 กิโลกรัมต่อตู้
Technical specifications
Specification sheet for Emit part 1 | |
Sensitivity: | 85dB (2.83V/1m) |
IEC power handling: | 150 watt |
Impedance: | 6 Ω |
Frequency response (± 3 dB): | 64Hz – 25kHz (-6 dB 52 Hz – 35 Khz) |
Box principle: | Bass reflex rear double flared port |
Crossover: | 2-way |
Crossover frequency: | 3700 Hz |
Crossover topology: | 1ST order tweeter / 2nd order woofer |
Specification sheet for Emit part 2 | |
Midrange / Woofer: | 14cm MSP cone |
Tweeter: | Cerotar soft dome with Hexis |
Weight: | 6.43kg / 14.2 lb |
Dimensions (W x H x D): | 170 X 290 X 271,5 mm |
6.7 X 11.4 X 10.7 in | |
Dimensions with feet/grille (W x H x D): | 170 X 290 X 284,5 mm |
6.7 X 11.4 X 11.2 in |
ผลการรับฟัง
สำหรับผมนั้น หลายครั้งหลายคราที่ผ่านการรับฟังลำโพงของ Dynaudio แต่นี่เป็นครั้งแรกของผมครับที่ได้สัมผัสกับสมรรถนะและลักษณะน้ำเสียงจากลำโพงรุ่นเล็กสุดระดับ entry-level ของ Dynaudio แบบจริงๆ จังๆ ซึ่งบอกกันตรงๆ ว่า “Emit 10” ได้สร้างประสพการณ์อันน่าประทับไว้ในความทรงจำ …ไม่น่าเชื่อครับว่า ลำโพงไซส์เล็กขนาดกะทัดรัด ใหญ่กว่ากล่องรองเท้าไม่มากนักอย่าง “Emit 10” จะทำให้การรับฟังเพลงและดนตรีมีความเพลิดเพลินใจนับตั้งแต่เริ่มแรกเลยทีเดียวเชียวละครับ
อย่าได้ดูถูกดูแคลนความเป็น entry-level ของเจ้า Emit 10 เชียวเลยละครับ ทั้งในแง่ของความกระชับ ฉับไวในท่วงท่า-จังหวะจะโคนของดนตรี เสียงเบสก็ให้พลกำลัง และควบคุมความลึกล้ำได้ดีพอตัว (ทั้งๆ ที่ค่าสเปคฯระบุไว้ที่ 64 เฮิรตซ์) นับว่า “Emit 10” ทำได้น่าทึ่งมากในการรับฟังจริง ซึ่งต้องยอมรับครับว่า ความถี่ต่ำที่ออกมาจาก “Emit 10” นั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเสียงที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวขับเสียงเบส/มิดเรนจ์ขนาดแค่ 14 ซม. โดยยังคงไว้ซึ่งความสดสะอาด-กระจ่างชัด รวมทั้งการจำแนกแยกแยะจังหวะจะโคนเสียงเบสอันแม่นยำ คุณสามารถจับจังหวะท่วงทีของท่วงทำนอง ควบคู่กับไดนามิกเสียงอันน่าทึ่ง ไม่รู้สึกถึงการหน่วงรั้งโสตประสาท ทั้งยังให้ความสะอาด สดใสแจ่มชัดในเสียงร้อง และช่วงย่านเสียงสูงที่เปิดโปร่ง ราบเรียบระรื่นอย่างน่าตราตรึงใจ
เสียงร้องก็ฟังดูอิ่มเอิบมีชีวิตชีวา ในขณะที่ช่วงความถี่เสียงสูงนั้นก็ไม่ขึ้นขอบแข็งกร้าว แต่ให้ความแจ่มชัด และสดสว่าง ความสะอาดสะอ้านของเสียงเป็นสิ่งที่เรารู้สึกทึ่งมาก มันทำให้เราสามารถจับเสียงดนตรีชิ้นนั้นชิ้นนี้ได้ถนัดหูราวกับมองเห็นเป็นตัวเป็นตนเลยทีเดียว เพียงแต่ต้องขอว่า ตำแหน่งตั้งวางนั้นจำเป็นต้องมีพื้นที่โล่งๆ รอบๆ ตัว อย่าได้เอา “Emit 10” เข้าไปวางซุกในที่ใดเป็นอันขาด เพราะจะทำให้มันไม่สามารถสำแดงความเป็นพิเศษที่แตกต่างออกมาให้คุณรับรู้ได้ …นี่คือ ลำโพงตัวกระจ้อย ทว่าสมรรถนะสูงที่คุณมีเอาไว้ใช้ฟังได้อย่างจริงๆ จังๆ ด้วยคุณภาพเสียงที่จะทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินใจ “ไม่มีอะไร ดียิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว เมื่อเทียบกับความเป็น entry-level”
เมื่อคุณตั้งวางอย่างถูกต้อง “Emit 10” จะสร้างความน่าประทับใจในด้านการส่งมอบลักษะเสียงที่ปลดปล่อย และเปิดโปร่งได้อย่างสมจริงมาก -ให้ทั้งความฉับพลัน สดสว่าง กระจ่างชัด รวมทั้งน้ำหนักเสียง -ให้ทั้งความอิ่มฉ่ำ ละมุนละไม -ให้ทั้งความหนักแน่น ฉับไว รวมทั้งไดนามิกเสียงอันฉับพลัน ไหลลื่น ได้ฟังแล้วรู้สึกคึกคัก กระฉับกระเฉง ในขณะเดียวกันก็ให้ความลึกของเสียงต่ำได้อย่างเรียกว่าเกินตัว พร้อมด้วยจังหวะจะโคนอันแม่นยำ “Emit 10” สามารถให้ช่วงย่านความถี่เสียงสูงอันพละพลิ้ว ลอยตัว เต็มเปี่ยมในความมีชีวิตชีวา และทิ้งทอดตัวได้ยาวไกล ไม่มีการอัดอั้น หรือ โรยตัว (roll-off) อย่างรวดเร็วจนหดห้วน หางเสียงสูงๆอย่างฉิ่ง-ฉาบ-เหล็กสามเหลี่ยมให้ความกังวาน-ยาวไกลไปสุดตัว บ่งบอกเสียงลมพ่น-กัดหูน้อยๆของเครื่องดนตรีประเภท brass และเสียงลมเป่า-เป็นละอองของเครื่องดนตรีประเภท woodwind ได้เป็นธรรมชาติ – น่าทึ่งมาก !!
สรุปส่งท้าย
อยากบอกว่า Emit 10 ของ Dynaudio เป็นลำโพงที่ราคาไม่เกินคว้า ทว่าสมรรถนะและคุณภาพเสียงนั้นไกลเกินคาดมากๆ Dynaudio ไม่เพียงถนัดทำลำโพงไซส์ยักษ์ราคาสุดโหดที่ให้เสียงโอฬารเต็มห้องฟังขนาดใหญ่ แต่ได้พิสูจน์ให้ประจักษ์ว่า แม้กับลำโพงตัวน้อยก็แซ่บได้แบบเล็กพริกขี้หนู ซึ่งนั่นเป็นเพราะการเลือกสรรใช้ไดรเวอร์ที่ทรงประสิทธิภาพให้ทำงานร่วมกัน จนสามารถส่งมอบเสียงร้อง และช่วงย่านเสียงกลางที่แจ่มแจ้ง สดกระจ่าง ในขณะเดียวกันก็ให้ความดื่มด่ำในช่วงย่านเสียงต่ำ และอิ่มอุดม เข้มข้นในเนื้อเสียง คุณจะตราตรึงใจในความแผ่กว้างของอาณาบริเวณเสียงโดยไม่ต้องเครียดเคร่งกับตำแหน่งนั่งฟังตรงกลางระหว่างลำโพงอีกต่อไป เข้าถึงประสพการณ์ความเป็น 3 มิติของตำแหน่งแห่งที่เสียงดนตรีในสภาพเวทีเสียง อิ่มเอมใจในรายละเอียดต่างๆ ราวกับกำลังรับฟังดนตรีแสดงสดอยู่ตรงหน้ากระนั้น – Highly recommended ครับสำหรับ Emit 10 จาก Dynaudio
อนึ่ง Dynaudio ระบุว่า Emit 10 เหมาะเจาะกับขนาดห้องสัก 15 ตารางเมตร (สูงสุดไม่ควรเกิน 20-25 ตารางเมตร) แต่หากคุณจะเซตอัพการฟังแบบ near-field ก็จะได้อรรถรสการรับรู้ที่ราวกับ Emit 10 พาคุณไปเกาะขอบเวทีฟังเพลงก็ละกันนะ)
ขอขอบคุณ Bulldog Audio โทร. 081-454-0078 ที่เอื้อเฟื้อลำโพง Dynaudio : EMIT 10 สำหรับการใช้งานในครั้งนี้