Dawn Nathong
เทคโนโลยีด้านเสียงขั้นสูงที่พกพาได้
เราควรลงทุนกับหูฟังแบบทรูไวร์เลส (TWS) ระดับพรีเมียมเมื่อไร คำตอบที่ง่ายที่สุดคือเมื่อเราต้องการ “คุณภาพที่ดีกว่าเดิม” นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพเสียง หรือคุณภาพของฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่จะส่งเสริมประสพการณ์ใช้งานที่ดีให้กับผู้ใช้ ซึ่งสองสิ่งนี้ควรมาพร้อมกัน ทุกวันนี้แม้จะมีหูฟัง TWS ให้เลือกกันมากมาย แต่หากตีกรอบให้แคบลง ว่ากันเฉพาะในเรื่องของคุณภาพเสียง ในระดับที่จะไปท้าชนกับกลุ่มหูฟังระดับออดิโอไฟล์ประเภทอื่น ผู้เขียนเชื่อว่ามีไม่มากนัก
Devialet เป็นชื่อที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดี โดยเฉพาะนักเล่นที่อยู่ในวงการเครื่องเสียงหรือหูฟัง นี่คือแบรนด์ผู้ผลิตลำโพงและเครื่องเสียงไฮเอ็นด์จากฝรั่งเศส ผู้สร้างลำโพงไร้สายสุดล้ำและมีดีไซน์สุดหรูอย่าง Phantom ให้เข้ามายืนหนึ่งในตลาดระดับไฮเอ็นด์ได้สำเร็จ เรียกว่าหลายคนต่างก็ยกให้ Devialet Phantom เป็นหนึ่งในลำโพงไร้สายที่อยากจะเป็นเจ้าของกันมากที่สุด
เมื่อ Devialet มาจับตลาดหูฟัง TWS กันทั้งที งานนี้ต้องบอกว่าไม่ได้มาเล่น ๆ แน่นอน เพราะตัวบริษัทเองเกิดจากการรวมตัวของบุคลากรระดับโลก ทั้งด้านงานวิศวกรรมและงานดีไซน์ ที่คอยพลักดันให้เกิดนวัตกรรมด้านเสียงใหม่ ๆ ออกมาตลอดระยะเวลา 14 ปี มีการจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีอยู่ในผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็น แอมปลิฟายเออร์อนุกรม Expert Pro, ลำโพงไร้สาย Phantom และแน่นอน หูฟังไร้สาย Gemini ก็เช่นเดียวกัน
คุณสมบัติเด่น
- ระบบ ANC | Transparency mode ประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบโดย Devialet
- ใช้ไดร์เวอร์ไดนามิก high-excursion คัสต้อมเมด ขนาด 10 มม. ข้างละ 1 ตัว
- ตอบสนองความถี่เสียง 5Hz – 20kHz
- ใช้งานต่อเนื่องได้ 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (เคสชาร์จได้ 4 รอบ)
- ตัวเคสรองรับเทคโนโลยีชาร์จแบบไร้สาย Qi
- บลูทูธ 5.0, รองรับ codec aptX, AAC, SBC
- มาตรฐานกันน้ำ / ฝุ่น IPX4
- รองรับการสั่งงานด้วยเสียง
รายละเอียดที่น่าสนใจ
ไฮไลท์ที่ทำให้ Gemini เป็นหูฟัง TWS ที่แตกต่าง นั้นก็คือเทคโนโลยีสิทธิบัตรทั้งสามอย่าง หนึ่งก็คือ Ear Active Matching (EAM®) ที่จะช่วยปรับจูนสัญญาณเสียงดนตรีให้เหมาะกับสภาพภายในช่องหูของผู้ส่วมใส่โดยอัตโนมัติ ด้วยอัลกอริทึมพิเศษ ทำงานด้วยความเร็วสูงสุด 10,000 ครั้งต่อวินาที ไม่ว่าช่องหูของคุณจะมีลักษณะแบบไหนก็มั่นใจได้ว่าจะได้รับฟังคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดตลอดเวลา
หมายเหตุ ระบบ EAM® นั้นทำงานแบบอัตโนมัติ สิ่งสำคัญคือ เรื่องของการฟิตติ้งจุกหูฟัง ต้องเลือกไซส์จุกหูฟังที่เหมาะสมให้ได้ก่อน ใส่แล้วกระชับรูหูแต่ละข้างพอดี ไม่หลวมเกินไป (สองข้างอาจจะเลือกไซส์จุกขนาดแตกต่างกันก็ได้) ซึ่งในกล่องก็จะให้มาทั้งไซส์ XS/S/L และไซส์ M ที่ติดมากับตัวหูฟัง
อย่างที่สอง Pressure Balance Architecture (PBA®) เรื่องของโครงสร้างภายในตัวหูฟังก็สำคัญ ทาง Devialet ได้คิดค้นอคูสติกเชมเบอร์ภายในตัวหูฟังโดยแบ่งออกเป็น 3 เชมเบอร์ เพื่อควบคุมแรงดันภายในให้คงที่ตลอดเวลา แต่ละเชมเบอร์จะโค้ทติ้งด้วย Acoustic mesh ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามากวนการทำงานของระบบ และสุดท้ายคือ Internal Delay Compensation (IDC®) เทคโนโลยีที่จะช่วยทลายข้อจำกัด ของระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ด้วยอัลกอริทึมที่ออกแบบมาให้ชดเชยดีเลย์ของลูปการทำงานระบบ ANC ในย่านความถี่สูง เพื่อแก้ปัญหาเรื่องของการเลื่อนเฟส (phase shift)
เทคโนโลยีทั้งสามอย่างนี้จะทำงานร่วมกัน ทำให้หูฟัง Gemini มีน้ำเสียงคงที่อยู่ตลอดเวลา โทนเสียงไม่แปร่งหรือเพี้ยนระหว่างการ “ใช้” และ “ไม่ใช้” ระบบ ANC และไม่ปวดช่องหูเมื่อสวมใส่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ
งานดีไซน์ / รูปลักษณ์
Gemini มาในเคสชาร์จทรงกลมรี มีการออกแบบเส้นเคิร์ฟตรงฝาที่ชวนให้นึกถึงลำโพง Devialet Phantom งานเคสสวยเนี้ยบวัสดุเป็นอลูมิเนียม หุ้มผิวชั้นนอกด้วย TPU กันรอยขูดขีดสีดำกึ่งด้าน มีสกรีนอักษร Devialet ตรงฝาปิด เมื่อสไลด์เปิดออกมาจะเห็นหูฟังบรรจุอยู่ภายใน พลิกเคสดูใต้ฝาจะเห็นแบตเตอรี่ขนาด 3.7V ความจุ 650mAh ติดตั้งอยู่ ด้านข้างส่วนหน้าจะมีปุ่มกด พร้อมไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ของเคสด้วยโค้ดสี (เขียว: > 50% | ส้ม: < 50% | แดง: ต่ำมาก) หมุนมาอีกฝั่งจะเจอช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB Type-C
ตัวหูฟังสีดำกึ่งด้านตัดกับจุกซิลิโคนสีขาว มีอักษรระบุข้างซ้าย-ขวาตรงสันด้านบน รูปทรงแบบ ergonomic มีความกระชับกับสรีระใบหู ทำให้เวลาใส่แล้วไม่รู้สึกว่าเทอะทะ จุกซิลิโคนมีความนุ่มและยืดหยุ่นกำลังดี บวกกับตัวหูฟังมีน้ำหนักเพียงข้างละ 8 กรัมเวลาใส่เดินจึงไม่ถ่วงหูจนรู้สึกรำคาญ (อันนี้เยี่ยมมาก) กันน้ำ / ฝุ่นในระดับ IPX4 ซึ่งเป็นระดับมาตรฐานเริ่มต้นที่จะนำไปใช้งานกลางแจ้งได้ คือกันละอองของน้ำและฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็อย่าถึงขั้นไปใส่ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือทำกิจกรรมที่ต้องมีการเคลื่อนไหวเยอะ เพราะตัวหูฟังไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการนั้นซะทีเดียว เน้นใช้งานแบบลำลองทั่ว ๆ ไปมากกว่า
บริเวณ Face Plate ที่สกรีนโลโก้ Devialet ทั้งสองข้างคือปุ่ม Touch Control สั่งงาน
- แตะ 1 ครั้ง เพื่อเล่นหรือหยุดเพลง
- แตะ 2 ครั้ง ที่หูฟังข้างซ้ายเพื่อเล่นเพลงก่อนหน้า ที่หูฟังข้างขวาเพื่อเล่นเพลงถัดไป
- แตะค้าง สลับโหมดการทำงานระหว่าง Cancellation และ Transparency
- เมื่อรับสาย แตะ 2 ครั้ง เพื่อคุยหรือแตะค้างเพื่อตัดสาย
- เมื่อโทรออก แตะ 2 ครั้ง เพื่อวางสาย
หมายเหตุ เปลี่ยนการ แตะ 2 ครั้ง เป็นเรียก Google Assistant หรือ Siri แทนได้ โดยเข้าไปตั้งค่าในแอป
เริ่มต้นใช้งานด้วยแอป Devialet Gemini
การใช้งานหลังจากแกะกล่องครั้งแรก ควรที่จะต้องลงทะเบียนซีเรียลนัมเบอร์ตัวหูฟังและเคสบนแอปให้เรียบร้อยเสียก่อน เพื่อเข้าถึงการปรับแต่งและสั่งงานทั้งหมด ซึ่งก็ใช้เวลาไม่กี่นาที เริ่มต้นด้วยการ pairing หูฟังเข้ากับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ด้วยการเปิดฝาเคส (ยังไม่ต้องดึงหูฟังออกมา) กดปุ่มที่ตัวเคสค้างไว้ 2 วินาทีจนไฟกระพริบสีน้ำเงิน จากนั้นเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธเข้ากับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต แล้วดาวน์โหลดแอปที่ชื่อว่า ‘Devialet Gemini’ จาก Google Play (สำหรับ Android) หรือ App Store (สำหรับ iOS) ทำตามขั้นตอนที่กำหนดไปเรื่อย ๆ เมื่อเสร็จแล้วจะสามารถเข้าใช้งานการปรับแต่งค่าต่าง ๆ บนแอปได้ ซึ่งจะมีฟีเจอร์หลักที่น่าสนใจ คือการเลือกโหมดการทำงานได้สามรูปแบบ
CANCELLATION โหมดตัดเสียงรบกวน (ANC)
- LOW – สำหรับสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนเล็กน้อย
- HIGH – สำหรับสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมาก
- PLANE – สำหรับตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารเครื่องบิน
TRANSPARENCY โหมดเปิดรับเสียงจากภายนอก โดยไม่ขยายหรือลดทอนสัญญาณต้นฉบับ
- LOW – สำหรับสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนเล็กน้อย
- HIGH – สำหรับสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมาก
NEUTRAL โหมดนี้จะปิดการทำงานของระบบ DSP ออกทั้งหมด เหมาะสำหรับกรณีใส่วิ่ง หรือสภาพแวดล้อมที่มีลมแรง ซึ่งคุณภาพเสียงจะด้อยกว่าการเปิดใช้งานโหมด Cancellation หรือ Transparency
หมายเหตุ การสลับโหมดระหว่าง Cancellation หรือ Transparency สามารถทำได้ทันที โดยการแตะที่ทัชคอนโทรลค้างไว้ 2 วินาที ส่วนโหมด Neutral ต้องเปิดใช้งานด้วยแอปเท่านั้น
อัลบั้มบางส่วนที่ใช้ทดสอบ
- Flying Cowboys – Rickie Lee Jones
- Conatus – Joep Beving
- James Blake – James Blake
- Honeysuckle & Lightning Bugs – Blanco Brown
- Jacky Terrasson – A Paris…
- Wandering – Yosi Horikawa
เสียง
Devialet เป็นหูฟัง TWS ที่จูนเสียงทุกย่านให้มีความสมูทดีมาก แทบไม่รู้สึกเลยว่าเน้นไปที่ย่านเสียงใดเป็นพิเศษ ตรงนี้จะค่อนข้างแตกต่างจากหูฟัง TWS ทั่วไปที่ผู้เขียนเคยทดสอบมา ซึ่งมักจะเน้นย่านเบสต้น ๆ ถึงกลางให้อิ่มหนา แต่ตัวเสียงติดขุ่นไม่ใส เบสของ Gemini จะให้อารมณ์แบบการฟังลำโพงบ้านดี ๆ มากกว่า คือมีเนื้อเสียงแบบพอดีไม่หนาหรือบาง แต่ให้รายละเอียดของโน๊ตเบสตลอดย่านได้ชัดไม่กลบย่านเสียงอื่น ดีฟเบสก็ลากได้ลงลึกแบบไม่สะดุดอารมณ์ [Joep Beving – Conatus] หรือเพลงที่มีเบสค่อนข้างโหดกับลำโพงเล็ก ๆ ก็ยังคุมได้ดี ไม่อู้ก้องหรือแตกพร่า [James Blake – Limit To Your Love] ไม่เสียชื่อผู้ผลิตลำโพง Devialet Phantom
ส่งผลให้เสียงกลางแหลมมีความเปิดโปร่ง กระจ่าง สะอาด มีรายละเอียดของเสียงที่ดีตามไปด้วย หรือพูดง่ายๆ ว่าจูนเสียงมาแบบออดิโอไฟล์เต็มตัว นอกจากนี่ยังให้การแยกแยะมิติเสียงที่มีความชัดเจน เสียงคนร้องวางตำแหน่งระนาบแถวกลางไม่ถอยหลังหรือพุ่งมาด้านหน้ามากไป อิมเมจชิ้นดนตรีของเสียงคมชัดเป็นตัวไม่ฟุ้งหรือเบลอ เวทีเสียงโปร่งกว้างเอาเรื่องทีเดียว บางเพลงเลยทะลุข้างหูออกไปไกลกว่าพวก IEM หลายตัว (เปิดโหมด Transpareny – HIGH) ลองหาเพลงที่บันทึกมิติเสียงดี ๆ มาลองแล้วคุณจะทึ่ง เพราะมันจำลองมิติสเตอริโอได้น้องๆ การฟังจากหูฟังประเภท Open back [Yosi Horikawa – Bubbles]
จุดนี้ทำให้ Gemini สามารถบอกความแตกต่างระหว่าง source หรือแหล่งโปรแกรมต้นทางที่ใช้เล่นได้ดีเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องของคุณภาพไฟล์หรือคุณภาพของตัวอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ ทั้ง ๆ ที่ตัวมันเองก็เชื่อมต่อด้วยสัญญาณบลูทูธเหมือนชาวบ้านเขา อันนี้ต้องยกเครดิตให้ประสิทธิภาพของภาค DSP ในตัว Gemini ไปเต็ม ๆ ผู้เขียนทดลองเชื่อมต่อ Gemini เข้ากับสมาร์ทโฟน, แท็ปแล็ต, โน๊ตบุ๊ค รวมถึงเน็ตเวิร์กเพลเยอร์ที่สามารถ pairing กับหูฟังได้ พบว่าคุณภาพเสียงจะยิ่งดีขึ้นตามคุณภาพของอุปกรณ์ที่ใช้แบบรู้สึกได้
เซ็ตอัพที่ผู้เขียนพอใจมากคือการสตรีมเพลงด้วยแอป TIDAL บนโน๊ตบุ๊ค Windows 10 จากนั้นเข้าไปตั้งค่า Sound output บน TIDAL แล้วเปิด Exclusive Mode ให้ Devialet Gemini น้ำเสียงออกมาสะอาดน่าฟัง
สำหรับคนที่อยากให้ Gemini ฟังสนุก มีสีสันเอาใจหูมากขึ้นสักหน่อย ขอบอกว่าภาคอีควอไลเซอร์ 6 แบนด์ในแอป Devialet Gemini คือของดีที่ใช้งานได้จริง เพราะสามารถปรับแต่งเสียงแต่ละย่านโดยแทบไม่ส่งผลกระทบให้ย่านเสียงอื่นผิดเพี้ยนเลย (แปลกใจที่ไม่ค่อยถูกกล่าวถึง) ตรงนี้ทำให้สามารถปรับแต่งโทนของเสียงได้ตรงรสนิยมของผู้ใช้งานมากที่สุด (ปรับได้ทีละ 0.5dB) สามารถปรับให้โทนเสียงออกไปทางดาร์ก อบอุ่น ฟังสบายก็ทำได้ หรือเน้นโทนเสียงสว่าง กลางเด่นชัดพุ่งมาด้านหน้าอีกนิดก็ทำได้ หลายคนที่อาจไม่เคยสนใจการปรับ EQ มาลองแล้วอาจติดใจ ผู้เขียนลองปรับ EQ ให้โทนเสียงออกมากลมกล่อม ฟังสบายขึ้นอีกนิด ปรากฏว่าฟังสตรีมมิ่ง TIDAL ได้ลื่นหูขึ้นอีกเยอะ โดยเฉพาะกับซาวด์ดนตรีแถว ๆ ยุค 70s – 90s
หมายเหตุ ขณะใช้งานบน PC สามารถเปิดแอปบนสมาร์ทโฟนที่ pairing หูฟังไว้แล้ว เพื่อปรับโหมดการทำงานได้ นอกจากนี้การปิดแอป Devialet Gemini แล้วค่อยเล่นแอปฟังเพลง (ไม่เปิดพร้อมกัน) เสียงจะมีความนิ่งกว่าเล็กน้อย
โหมด CANCELLATION VS TRANSPARENCY
มีข้อสังเกตในการใช้งานระหว่างสองโหมดนี้ ให้ความแตกต่างในเรื่องของคุณภาพเสียงอยู่ ถ้าอยากได้ยินเสียงที่มีความชัดเจน สงัด ไม่มีเสียงจากภายนอกเข้ามารบกวน การเลือกใช้โหมด CANCELLATION จะเหมาะสม แต่การสวิงของไดนามิกจะเหมือนถูก compress นิด ๆ เมื่อเทียบกับการใช้งานโหมด TRANSPARENCY ที่ให้การสวิงไดนามิกของเสียงเปิดโล่ง ผ่อนคลาย ย่านปลายเสียงสูงและหางย่านต่ำทอดตัวออกไปได้เป็นธรรมชาติ รู้สึกถึงบรรยากาศของเสียงได้ดีกว่า แต่ก็แลกกับเสียงรบกวนภายนอกที่จะเล็ดรอดเข้ามาได้เช่นกัน สรุปว่าถ้าฟังเพลงอยู่ในห้องหรือที่เงียบ ๆ แนะนำให้เปิดโหมด TRANSPARENCY – HIGH เอาไว้จะให้ผลลัพท์ทางเสียงดีที่สุด เมื่อเปิดโหมดนี้จะได้ยินระดับเสียงจากภายนอกเหมือนกับการถอดหูฟังออก ไม่มีการบูสเสียงภายนอกให้ดังกว่าปกติแต่อย่างใด
สำหรับการนำไป Gemini ไปชม YouTube หรือดู Netflix ยังมีดีเลย์อยู่บ้างเนื่องจากตัวหูฟังไม่มี Game Mode หรือรองรับ codec อย่าง aptx-Low latency ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้เพื่อฟังเพลงมากกว่า ส่วนคุณภาพเสียงในการคุยโทรศัพท์ถือว่าทำได้ชัดเจนดีมาก ไมค์เก็บเสียงพูดมีคุณภาพดี
สรุป
นี่เป็นหูฟัง TWS ที่ผู้เขียนอยู่กับมันได้อย่างสนิทใจ จนเผลอลืมไปว่ากำลังฟังเสียงจากหูฟังระบบบลูทูธอยู่ นี่ทำให้มองเห็นอนาคตได้อย่างนึงว่า ใครที่จะขึ้นมายืนอยู่ในลำดับต้น ๆ ของตลาดหูฟัง TWS ยุคนี้ อย่างหนึ่งที่ต้องมีและสำคัญ ก็คือเทคโนโลยีของภาคประมวลผลที่รวดเร็ว และฉลาดพอที่จะชดเชยจุดอ่อนของระบบหูฟังแบบไร้สายในปัจจุบันได้เกือบหมด รวมถึงไม่ลดทอนคุณภาพเสียง เมื่อเปิดใช้งานโหมด ANC หรือมีก็ต้องน้อยที่สุด นอกเหนือจากเรื่องของความใส่สบายหรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งพิจารณาแล้วหูฟัง Devialet Gemini ได้ ‘สามผ่าน’ สำหรับโจทย์นี้
ข้อเด่น
- ระบบ ANC | Transparency ใช้งานได้ดีมาก เสียงไม่เพี้ยน
- คุณภาพเสียงระดับออดิโอไฟล์ โทน Natural
- EQ คุณภาพสูง ทำให้จูนเสียงได้ตามรสนิยม
- น้ำหนักเบา ใส่นาน ๆ ไม่ล้าหู
ข้อสังเกตุ
- เพิ่มลดเสียงจากตัวหูฟังไม่ได้
- Smart Pause Control จะทำงานเมื่อเอาหูฟังเข้า-ออกข้างขวาเท่านั้น
- ไม่รองรับ aptX HD / LL codec
ราคาจำหน่าย
Devialet Gemini True Wireless Earbuds
ราคา 10,990 บาท (มีรับประกันให้ 2 ปี กรุณาสอบถามตัวแทนจำหน่าย)