What HI-FI? Thailand

รีวิว : Clef Audio Puresine-1200

..มิต้องเท้าความอะไรให้มาก สำหรับ Clef Audio ที่ชูธงความเป็นสินค้าจากประเทศไทยเต็มขั้นสู่สากลอย่างน่าภาคภูมิใจ ด้วยประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 12 ปี โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ของ Clef Audio จะมุ่งไปทางด้านระบบไฟฟ้า หรือว่า Power Product อย่างเช่น เครื่องกรองไฟ (CleanSOURCE-1se และ PureSINE-1200), เครื่องคุมไฟ (Linear Power) รวมทั้ง ปลั้กลอย (PowerBRIDGE และ PowerBAR) กระนั้น Clef Audio ก็มีผลิตภัณฑ์ทางด้านอุปกรณ์ขยายสัญญาณ หรือ Audio Product อย่างเช่น สเตอริโอ อินติเกรตแอมป์ (Soloist-50), เครื่องขยายสัญญาณหัวเข็มเล่นแผ่นเสียง (Conductor-LP) รวมถึง 1250A ซึ่งเป็น Stereo Integrated Amplifier ที่มี Bluetooth ผนวกอยู่ในตัว โดยมีราคาจำหน่ายที่ย่อมเยา 

เรา-ท่านอาจจะคุ้นเคยกับ Clef Audio กันมานาน ทว่าโดยแท้นั้น Clef Audio นับเป็นหนึ่งใน 5 แบรนด์ที่อยู่ในชายคาของบริษัท Clef Audio จำกัด โดยยังมี DSpeaker, Torus Power, Furutech และ Pangea Audio อยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน …อย่างที่บอกไป Clef Audio นั้นมีผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องกรองไฟเป็นดาวเด่นอยู่ 2 ลักษณะอุปกรณ์ด้วยกัน นั่นคือ CleanSOURCE และ PureSINE ซึ่งจริงๆ แล้วก็จะทำงานคล้ายๆ กัน แต่เป้าประสงค์การใช้งานจะแตกต่างกันอยู่บ้าง  

CleanSOURCE ได้รับการออกแบบมาเพื่อเน้นการกรองระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ทำการป้องกันไฟกระชากและไฟกรรโชก รวมถึงป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกิน/ต่ำ เอาต์พุตของ CleanSOURCE จะให้พลังงานไฟฟ้ากระแสสลับที่สะอาดมาก ดังนั้นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ CleanSOURCE จะทำงานในสภาวะที่เหมาะสม ส่งผลให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุด 

ในขณะที่ PureSINEได้รับการออกแบบมาเพื่อเน้นการแก้ไขสายไฟฟ้ากระแสสลับทั้งในรูปแบบคลื่นและระดับแรงดันไฟฟ้า เอาต์พุตที่ออกจาก PureSINE จะเป็น Sine Wave ที่มีความผิดเพี้ยนต่ำมาก โดยมีความผิดเพี้ยนน้อยกว่า 0.8% ซึ่งใกล้เคียงกับรูปคลื่นเส้น AC ในอุดมคติมาก อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ ”PureSINE”  จะทำงานในสภาวะที่เหมาะสม ส่งผลให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากการแก้ไขรูปคลื่นของเส้น AC แล้ว เอาต์พุตของ ”PureSINE” ยังให้ความเสถียรของกระแสไฟฟ้ากระแสสลับอยู่ที่ 230V± 0.8% ไม่ว่ากระแสไฟฟ้ากระแสสลับขาเข้าจะมีความผันผวนของ AC ระหว่าง 210V – 245V  

“เอาต์พุตที่ออกจาก PureSINE จะเป็น Sine Wave ที่มีความผิดเพี้ยนต่ำมาก” นี่แหละครับคือ “ความต่าง” ที่ทำให้ PureSINE “เหนือชั้นกว่า” CleanSOURCE จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่ PureSINE จะมีน้ำหนักที่มากกว่า CleanSOURCE อยู่ร่วมเท่าตัว 

เทคโนโลยีสำคัญ 

PureSINE-1200 เป็นรุ่นล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ PureSINE ซึ่งแน่นอนว่า จะสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าขาออกที่บริสุทธิ์ และจ่ายกำลังไฟฟ้าขาออกได้มากกว่าเดิม ซึ่งหลังจากที่ Clef Audio ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับอย่างดีกับ PureSine-1000 และ PureSine-1000se ก็ได้ทำการพัฒนารุ่นใหม่ตามออกมา โดยที่ “PureSINE-1200” มาพร้อมกับการปรับปรุงวงจรแต่ละส่วนให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าเทคโนโลยีสำคัญของ “PureSINE-1200” ก็คือ Venus Engine  

“Venus Engine” เป็นวงจรออกแบบขั้นสูง ที่จะทำการตรวจสอบ วิเคราะห์ และแก้ไขรูปคลื่นเอาต์พุตของกระแสไฟฟ้า AC และระดับแรงดันไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องในโหมดเรียลไทม์แบบอะนาล็อก ทำให้ได้เอาต์พุต AC ที่คงที่มากตลอดเวลา ซึ่ง Clef Audio กล้าระบุว่า ไม่สามารถพบได้ในสเตบิไลเซอร์ทั่วไปในท้องตลาด นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี “Polaris IV” ที่เป็นเทคโนโลยีตัวกรอง (filter) ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ Clef ที่มีความแตกต่างจากการออกแบบตัวกรองโดยทั่วไป ทั้งนี้การออกแบบตัวกรองทั่วไปมักจะกรองเฉพาะความถี่สูงและสูงมากเท่านั้น  

ในขณะที่ตัวกรอง Polaris ใน PureSINE-1200 ได้รับการออกแบบให้ทำงานตั้งแต่ 10KHz ขึ้นไป ซึ่งเป็นย่านความถี่ที่ส่งผลต่อคุณภาพเสียงและวิดีโอ ตัวกรอง Polaris สามารถลดสัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้ากระแสสลับได้มากกว่า 95% ของสัญญาณรบกวนทั้งหมด จึงสามารถตรวจพบการปรับปรุงคุณภาพเสียงและภาพได้อย่างชัดเจน ทั้งยังเสริมด้วย Polaris Plus Technology โดยที่วงจรนี้จะลบแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงใดๆ ที่มีอยู่บนสายไฟฟ้ากระแสสลับ อุปกรณ์ระบบภาพและระบบเสียงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  

PureSINE-1200 ยังได้รับการผนวก Vega Filter Technology เข้าไว้ในตัวอีกด้วย โดยที่เทคโนโลยีตัวกรอง Vega จะทำหน้าที่ปรับปรุงในส่วนของเอาต์พุตช่องวิดีโอ ด้วยการลดสัญญาณรบกวนความถี่สูงในแถบวิดีโอ ที่สำคัญ PureSINE-1200 ยังได้รับการใช้เทคนิคการเดินสายวงจรภายในแบบ สตาร์ (Star Wiring Technic) เทคนิคพิเศษที่แยกการเดินสายไปยังแต่ละเพล็กซ์โดยสิ้นเชิง สิ่งนี้จะลดครอสทอล์คระหว่างดูเพล็กซ์ (duplex) และเพิ่มกระแสสูงสุดที่ส่งไปยังแต่ละอุปกรณ์ทั้งระบบภาพและเสียง  

PureSINE-1200 ได้รับการออกแบบให้ทำหน้าที่เสมือนรีเจนเนอเรเตอร์ (regenerator) โดยมีหน้าที่หลักในการสร้างกระแสไฟฟ้าขึ้นมาใหม่ โดยจะแปลงกระแสไฟจากกระแสไฟ AC มาเป็น DC และกลับไปเป็น AC อีกครั้ง จะเห็นได้ว่า ไฟฟ้าที่นำมาใช้เป็นไฟฟ้าที่เกิดจากกระแสตรง (DC) จึงมีความสะอาดและคงที่มากกว่าสเตบิไลเซอร์ จึงไม่แนะนำให้ใช้กับ Power Amp ในขณะที่การเปลี่ยนกระแสไฟ AC เป็น DC และกลับมาเป็น AC อีกครั้งของ PureSINE-1200 จึงแทบจะไม่มีอาการอั้นเมื่อใช้กับ Power Amp 
 
PureSINE-1200 จะสร้างกระแสไฟฟ้าให้คงที่ อยู่ที่ 230V ค่าความถี่ 50 Hz ด้วยความเร็ว 1 NanoSec Rated output voltage 220 V AC < 0.8 % และรักษาแรงดัน 5.2 A ฉะนั้น PureSINE-1200 จะทำการรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าไว้ที่ 220V คลื่นต่อคลื่นแบบ Real Time ขณะเดียวกันจะแก้ไขรูปร่าง Sine Wave ให้สมบูรณ์แบบด้วยวงจร “Venus Reform Wave” ลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัท Clef Audio และยังเป็นตัวกรอง Noise ในระบบไฟฟ้าไปด้วยในตัว (คุณภาพจึงเหนือกว่า CleanSOURCE) 

PureSINE-1200 ติดตั้งช่องเสียบจ่ายกระแสไฟฟ้าขาออก (AC Outlet) ไว้ 6 ช่องเสียบด้วยกัน โดยจัดแบ่งไว้เป็นสำหรับใช้งาน Audio; Video และ Hi-Power สำหรับเสียบต่อกับอินติเกรต แอมป์ หรือ เพาเวอร์ แอมป์ โดยรองรับการจ่ายไฟฟ้าสูงสุดได้ 1200 วัตต์ พร้อมวงจรกรองขนาดใหญ่แบบ Polaris VI Filter วงจรป้องกันการรบกวนข้ามช่อง สามารถขจัดสัญญาณรบกวนในกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า 95% ทั้งนี้บนแผงหลังเครื่องของ PureSINE-1200 จะมีพัดลมระบายความร้อนติดตั้งมาด้วย เผื่อว่าเวลาที่เครื่องทำงานหนัก มีความร้อนสะสมสูงๆ พัดลมนี้จะทำงานเพื่อลดความร้อน ทำให้เครื่องคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลาใช้งาน 

PureSINE-1200 ได้รับการติดตั้งเบรกเกอร์สวิตช์มาให้ ในส่วนของการดูแลความปลอดภัย เผื่อไว้ในกรณีที่กระแสไฟฟ้าที่เข้ามาเกิดอาการผิดปกติใดๆ เครื่องจะตัดการทำงานในทันที ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์อื่นๆ โดยที่แผงด้านหน้าเครื่องมีจอแสดงระดับแรงดันไฟฟ้า ทั้งขาเข้าและขาออก เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่า แรงดันไฟฟ้าเข้ามาเท่าไหร่ และจ่ายออกเท่าไหร่ ทั้งยังมีดวงไฟ LED สองดวงที่จะบอกว่า ที่บ้านของคุณนั้นต่อสายไฟฟ้ามาถูกขั้วหรือไม่ และมีการต่อกราวด์ลงดินเรียบร้อยหรือไม่ 

ผลการรับฟัง 

PureSINE-1200 จัดแยกช่องเสียบเอ๊าต์เลตสำหรับเสียบต่ออุปกรณ์ใช้งานไว้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน :- Audio; Video และ Hi-Power โดยกลุ่มของอุปกรณ์ดิจิทัล ก็สามารถนำมาเสียบกับทางด้านภาพ (Video) นี่แหละครับ ส่วนอุปกรณ์ปรีแอมป์ หรืออุปกรณ์แอนาล็อกทั้งหลาย ก็สามารถนำมาเสียบกับทางด้าน Audio สำหรับอุปกรณ์เพาเวอร์ แอมป์ หรือ อินติเกรต แอมป์กำลังขับสูง ซึ่งต้องใช้อัตราบริโภคพลังงานมากที่สุด จึงสมควรที่จะนำไปเสียบต่อเข้ากับช่องเสียบจ่ายไฟฟ้าขาออกของ PureSINE-1200 ที่ช่อง High Power ครับ สำหรับผู้ที่กริ่งเกรงเรื่องการอัดอั้นทางพลังเสียง 

ทั้งนี้ช่องเสียบจ่ายไฟฟ้าขาออกชุด High Power จะผ่านการกรองทิ้งของขยะและมลพิษทางไฟฟ้า แต่จะไม่ผ่านกระบวนการสร้างกระแสไฟฟ้า Sine Wave เพื่อหลีกเลี่ยง “ความรู้สึก” ของการอัดอั้นทางพลังเสียง ซึ่งเมื่อเสียบต่อใช้งานก็รับรู้ได้ว่า ได้มาซึ่งความฉับพลัน แม่นยำในจังหวะจะโคน-ดีขึ้น-อย่างชนิดฟังได้ถนัดหู หยิบจับแนวเพลงอะไรก็ให้ความชื่นมื่นรื่นรมย์ในอารมณ์เพลง – ลื่นหูว่างั้นเถอะครับ เรี่ยวแรงกระทบ-ปะทะก็เด็ดขาด สะใจขึ้นความสดสว่าง-กระจ่างในรายละเอียดก็ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ในแง่ของสภาพเวทีเสียงและอิมเมจก็เพิ่มการรับรู้ด้านความลึกได้จะแจ้งขึ้นด้วยนะครับ – นี่เป็นเรื่องจริง มิได้มโนนึกเอา…หรือว่าพูดเข้าข้างใคร 

นอกจากจะไม่เกิด อาการ “เสียงตื้อ” แล้ว ที่สำคัญ ยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของแต่ละอุปกรณ์ให้ยืนยาวขึ้น เนื่องเพราะไม่ต้องผจญกับสภาวะแปรปรวนของกระแสไฟบ้าน (สูงเกินไป – ต่ำเกินไป) อีกด้วยนะครับ สำหรับอุปกรณ์ที่นำมาเสียบต่อกับเอ๊าต์พุตทางด้าน Audio ก็จะรับฟังได้ถึงเสียงที่สะอาด นวลเนียน แบ็กกราวด์นิ่ง สงัด ให้ความเป็นตัวเป็นตน และมีการบ่งบอกสภาพอิมเมจ-ซาวด์ สเตจที่แจ่มชัดขึ้น โดยที่ “ไดนามิก” ไม่รู้สึกว่า มีอาการอั้นแม้แต่น้อยครับ สิ่งที่ผมยอมรับว่า ชอบมากๆ จนเสียบแล้วถอดไม่ออก ก็คือ การรับรู้ถึง ห้วงอารมณ์ หรือ ลีลาในการนำเสนอของศิลปิน ไม่ว่านักร้อง-นักดนตรี นับว่า ยอดเยี่ยมมาก การแยกแยะ จำแนกท่วงท่า ผ่อนหนัก ผ่อนเบา อ่อน-แก่ในแต่ละท่วงท่า บ่งบอกออกมาเป็นเสียงเพลงอันไพเราะเพราะพริ้ง มีท่วงท่า-ลีลาอันสมจริง ให้ความเป็นดนตรีสูงอย่างน่าฟัง 

สรุปส่งท้าย 

ขอยืนยันว่า การมี PureSINE-1200 ใช้งานอยู่ในซิสเต็ม จะช่วยให้ท่านอุ่นใจได้ว่า อุปกรณ์ในชุดเครื่องเสียง และโฮม เธียเตอร์ที่เสียบต่อผ่าน PureSINE-1200 จะได้รับการปกป้องอย่างดีต่อทั้งสภาวะไฟตก-ไฟเกิน (รวมถึงไฟฟ้ากรรโชก) ด้วยการช่วยรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ได้ตลอดเวลาขณะใช้งาน จึงส่งผลให้อุปกรณ์ต่างๆที่เสียบผ่านอยู่นั้น สามารถสำแดงศักยภาพการทำงานออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็น โดยไม่ถูกสภาพความแปรปรวนของกระแสไฟฟ้า และการถูกรบกวนแทรกซ้อนของขยะและมลพิษทางไฟฟ้ามาครอบงำ  

PureSINE-1200 จะทำให้บุคลิกเสียงที่รับฟังมีความสดใส แจ่มชัด “เพิ่มขึ้น” โดยที่ไม่ไปปรับเปลี่ยนดุลน้ำเสียงเดิมของซิสเต็ม รายละเอียดต่างๆ จะปรากฏผุดโผล่อย่างพรั่งพรู ช่องว่างช่องไฟระหว่างชิ้นดนตรีมีระยะห่างที่รับรู้ว่า มากขึ้น “PureSINE-1200” จึงทำหน้าที่เป็นทั้งสเตบิไลเซอร์ + เครื่องกรองระบบไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ระดับราคาที่คุ้มค่าน่าใช้มาก 

คุณลักษณะเฉพาะ 

Rated input voltage: 196-240 V AC 

Spike Protection Modes: L-N, N-G, L-G 

Spike Clamping Voltage: 800 V peak @ 3,000 amps, 275 VAC RMS 

Response time: 1 nanosecond 

Maximum surge current: 13,000 amps (8 x 20 ms pulse) 

Maximum spike energy: 1,440 Joules total 

Noise attenuation: >10 dB @ 10 kHz, >46 dB @ 100 kHz, >100 dB @ 1-10 MHz 

Rated output capacity: 1,200 W 

Rated output voltage: 230 V AC ±0.5 % 

Rated output current: 5.2 A 

Output frequency: 50 Hz 

Instantaneous peak current capacity: 15 A 

Output waveform THD: 0.2% or less @INPUT THD 3% 

Input frequency: 50 Hz 

No-load power consumption: 45 W 

Efficiency: 70 % 1200 W Load @ 230 v AC Input 

Meter: Dual Digital True RMS Meter 

Dimensions: Width 432 mm (17.0″), Height 104 mm (4.0″), Depth 344 mm (13.5”) 

ขอขอบคุณ Clef Audio ที่ได้เอื้อเฟือ PureSINE-1200  มาเพื่อการรับฟังครั้งนี้ 

Exit mobile version