Garoonchart Bukkavesa
เอ / วี รีซีฟเวอร์ อุปกรณ์ยอดนิยมของการเล่นโฮมเธียเตอร์ แต่พอเล่นหนัก เปิดดัง หรือใช้ลำโพงโหด ๆ มักเกินอาการเสียงเพี้ยน เครียด จัดจ้าน มิติหุบ ฯลฯ
ทางออกคือการเพิ่ม “เพาเวอร์แอมป์” เข้าไป อย่างน้อย 2 แชนแนล ให้คู่หน้าถือว่าจะช่วยให้เอ / วี รีซีฟเวอร์ทำงานได้ดีขึ้นเยอะแล้ว ลดความเพี้ยนลง ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ดำเนินการเป็นลำดับแรกของการอัพเกรดครับ
ส่วนจะเล่นเป็นเพาเวอร์แอมป์มัลติแชนแนล ถ้าทำได้จะดี เลือกจำนวนแชนแนลที่ต้องการ ใช้เพียงตัวเดียวก็จบ ง่าย ไม่ต้องวุ่นวายเมื่อเทียบกับการเพิ่มแอมป์ 2 แชนแนลให้ครบ 5 แชนแนล ต้องใช้ถึง 3 ตัว
แต่ไม่ว่าจะแบบไหน…กลับพบว่ามีปัญหาใหม่ บางคนไม่ได้ดูหนังแอคชั่นอย่างเดียว การเพิ่มเพาเวอร์แอมป์เข้าไป ผลคือเสียงดุดัน แข็ง สด “เกินไป” เสียอีก จึงต้องการหาเพาเวอร์แอมป์ที่เสียงเป็นธรรมชาติ ซึ่งหาได้ไม่ง่ายนัก
วันนี้ผมมีผลิตภัณฑ์ของคนไทย ที่ใช้เวลาออกแบบมา 3-4 ปีเนื่องจากไม่ได้ซื้อบอร์ดสำเร็จมาใส่แล้วประกอบขายนะครับ นั่นคือ Clef Audio ชื่อรุ่นคือ Amp 200 มีให้เลือกแบบ 2 แชนแนล และ 3 แชนแนล โดยเน้นเสียงที่เป็นธรรมชาติ ใช้ได้ทั้งดูหนังหรือฟังคอนเสิร์ต หรือแม้แต่ฟังเพลง 2 แชนแนลก็ตาม
จุดเด่นคือ มี “โมดูล” แยกอิสระของแต่ละแชนแนล จึงสามารถเลือกได้ตามต้องการ (มี 2 แบบ) ในบอร์ดจะมีหม้อแปลงขนาด 500 Va ตัวเก็บประจุ 44,000 UF ทรานซิสเตอร์เป็นไบโพล่าร์ใช้ 8 ตัว เพื่อจ่ายกำลัง ซึ่งน่าจะดีกว่าการใช้หม้อแปลงใหญ่เพียงตัวเดียวแล้วจ่ายไฟให้ทุกแชนแนล
ในครั้งนี้ Clef Audio : Amp 200 ได้ถูกส่งมาให้ลองเล่น ตามมาดูกันครับว่าท่ามกลางเพาเวอร์แอมป์แบรนด์นอก ตัว Clef Audio : Amp 200 จะทำหน้าที่ดีหรือไม่?
คุณสมบัติพิเศษ Clef Audio : Amp 200
- ออกแบบเป็นโมดูล
- เริ่มต้น 2 แชนแนล สูงสุด 3 แชนแนล
- ภาคขยายใหม่ล่าสุด Class-AB (ค่อนไปทาง A)
- กำลังขับแชนแนละ 200 วัตต์ ที่ 8 โอห์ม
- หม้อแปลงเทอร์รอยด์ขนาด 500 วัตต์
- อุปกรณ์ภายในระดับออดิโอเกรด
ลักษณะทั่วไป Clef Audio : Amp 200
หน้าตาของ Clef Audio : Amp 200 พ่นสีบรอนซ์เงิน ดีไซน์เรียบหรู ทรงโค้ง ใช้วิธีนำแต่ละชิ้นมาประกอบขึ้นรูป โดยที่ชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นอลูมิเนียมหนา ทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักค่อนข้างมาก
มุมซ้ายเป็นปุ่มเปิด / ปิด ด้านบนเป็นโลโก้ กึ่งกลางเซาะร่องติดตั้งแถบไฟแสดงผลการทำงาน 5 แถบ (ไฟสีขาว) พร้อมดวงไฟเตือนอีก 3 ดวง มีโลโก้ยี่ห้อเหนือขึ้นไป
แผงข้างเรียบง่ายในส่วนแผงหลังดีไซน์เป็นชิ้นเดียวให้เป็น “หูจับ” ทั้งด้านซ้าย และด้านขวา เพื่อยก (เนื่องจากมีน้ำหนักค่อนข้างมาก)
ด้านหลังไล่จากซ้ายไปขวา ล่างสุดเบ้ารับสายไฟเอซีแบบ IEC พร้อมเมนสวิตช์ เหนือขึ้นไปบนสวิตช์โยกกราวด์ลิฟท์ และช่องเสียบ 12V Trigger สำหรับสั่งการลิ้งค์ต่าง ๆ, ปุ่มหมุนปรับความไว ถัดมาจะเป็นแผงโมดูลของแต่ละแชนแนล ตัวโมดูลบนสุดเป็นขั้ว XLR / สวิตช์เลือก / ขั้ว RCA ล่างสุดเป็นขั้วเสียบไบน์ดิ้งโพสต์ 1 คู่ โดยที่สูงสุดคือ 3 แชนแนล (เครื่องที่เป็น 2 แชนแนล จะปิดว่างไว้ 1 แถบ ซึ่งอนาคตต้องการสามารถสั่งโมดูลชุดใหม่มาติดตั้งได้)
ด้านบนในส่วนขยาย มีการเจาะรูเพื่อระบายความร้อน ด้านล่างเมื่อพลิกขึ้นมาจะพบการ “ดาม” ด้วยแผ่นเหล็กหนาคาดกลาง เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นไปอีก และมีขาทรงสวย 4 จุด
สเปค Clef Audio : Amp 200
- ความเพี้ยน ≤0.1% (ขับเต็มกำลัง)
- การตอบสนองความถี่ 20Hz-70KHz (+0/-3dB)
- กินไฟสูงสุด 700 และ 1,050 วัตต์
- ตัวเครื่อง กว้าง-สูง-ลึก 432x195x460 มิลลิเมตร
อุปกรณ์ที่ใช้ทดลอง Clef Audio : Amp 200
- แหล่งโปรแกรม ; Panasonic : DMP-BDT330 (โมดิฟาย)
- เอ/วี รีซีฟเวอร์ ; Pioneer VSX : LX70 (โมดิฟาย)
- เพาเวอร์แอมป์ : Clef Audio : Amp 200 (3 แชนแนล), Clef Audio : Amp 200 (2 แชนแนล)
- ลำโพง ; Aerial Acoustic : Model 7T / Sonus Faber : Concerto Home / Solo Home / Concertino Home
- โปรเจคเตอร์ ; JVC : DLA-RS10
- จอรับภาพ ; Stewart : Grayhawk RS (Reference Screen) 92 นิ้ว
- แอคทีฟซับวูฟเฟอร์ ; Definitive Technology : SuperCube 6000
- สายสัญญาณ ; Mit : Shotgun S1 (XLR), RS (อังกฤษ) RCA
- สายลำโพง ; Kimber Kable : 8TC ทั้งซิสเต็ม (เฉพาะคู่หน้าใช้ขั้วต่อบานาน่า Monster : Power Connect 2)
- สาย HDMI (เสียง) ; BetterCable
- สาย HDMI (ภาพ) ; Monster Cable : MC1000
- สายสัญญาณซับวูฟเฟอร์ ; Monster Cable : M1000SW
- สายไฟเอซี ; Shunyata Research : Anaconda Zitron / Python CX, Coral 10 AWG (Pass & Semour / Shurter 4781), Halu Cable (Pass & Semour / Shurter 4781), PS Audio : Statement SC, Hovland : Main Line (Wattgate Economy), Life Audio : Pro Cinema, Transparent : Reference (Viborg Rhodium)
- ระบบไฟ ; ปลั๊ก Acoustic Revive : RTP-6, Monitor Acoustic, Wattgate : 381, ฝาครอบเต้ารับ FIM : 308-1, Silicon : VR-100ie
- อุปกรณ์เสริม ; ตัวดูดคลื่น Perfect Power : RFITrap RT-1 (4 ตัว) ชั้นวาง Audio Arts : Classic II, Auralex : SubDude HD, ชั้นหินแกรนิตสังเคราะห์, Hi-Fi Block ขาตั้ง Target Audio : ST50, JM Labs : Utopia ที่รองสาย Acoustic Revive : RCI-3, Cable Elevator, Shunyata : Dark Field, Cardas : Multi Blocks, Cardas : Notched Myrtlewood Blocks ที่ทับเครื่อง ก้อนอิทธิเจ (8 ก้อน), VPI : HW dB-5 (4 ก้อน), XAV : EMX-9 (2 อัน) อื่น ๆ Cardas : RCA Cap / S-Video Cap, Omni Mount : PMD2, อแดปเตอร์ IEC 15A>C7 Voo Doo Cable
- อุปกรณ์ควบคุมสภาพอคูสติก ; ASC : Tubetrap 9”x4’, แผ่นซับเสียงสูตร RPG, XAV : G-Sap เบอร์ 1, เบอร์ 2, XAV : Trap + XAV : Base Trap, จิ๊กซอว์ PRS, Room Tune : Michael Green Audio + Echo Tune
ลองฟัง Clef Audio : Amp 200
Clef Audio : Amp 200 ถูกติดตั้งและเซ็ทในห้องของผม ครั้งนี้ผมได้รับมา 2 เครื่อง เป็น 2 แชนแนล จำนวน 1 เครื่อง และ 3 แชนแนล จำนวน 1 เครื่อง การต่อก็แล้วแต่สะดวกว่าจะใช้ 3 แชนแนลเป็นชุดหน้า หรือจะเป็นเซอร์ราวด์+เซ็นเตอร์ เพราะกำลังแต่ละตัวเหมือนกันเนื่องจากเป็นโมดูล เอาที่สะดวก ไม่ต้องคิดเยอะ
หลังจากต่อเข้าระบบเรียบร้อย เนื่องจากตำแหน่งการวางถูกไว้ด้านข้างทั้ง 2 ตัว ทำให้สายบางเส้นต้องย้ายใหม่ ทิ้งไว้ให้นิ่งสนิทก่อนฟังทดสอบ
การติดตั้งของแต่ละห้องก็แล้วแต่ สิ่งที่พึงระวังคือ เมนสวิตช์อยู่ด้านหลังเครื่อง อาจต้องเผื่อระยะรวมถึงการต่อสายลำโพง สายไฟ สายสัญญาณ กรณีใส่ไว้ในแร๊คหรือชั้นที่ปิดทึบ ตัวเครื่องมีน้ำหนักมากจะย้ายได้ลำบาก
เครื่อง Clef Audio : Amp 200 ตัว 2 แชนแนล กินไฟ 700 วัตต์ ส่วนตัว 3 แชนแนล กินไฟ 1,050 วัตต์ ขอแนะนำให้ใช้สายไฟเอซีตัวนำขนาดใหญ่ 10 AWG ขึ้นไป เพื่อจ่ายไฟได้เต็มที่ ไม่ป้อแป้กลางคันให้เสียอารมณ์ครับ
ด้านหน้าเมื่อเปิดมีไฟสีขึ้นติดเป็นแถบยาว สว่างไสว ตรงนี้แล้วแต่ชอบส่วนตัวผมไม่ชอบเพราะแสงแยงตาเกินไปครับ (ห้องผมมืดสนิท)
เริ่มดู Kungfu Panda (Bluray แผ่นอเมริกา, Dolby True HD 5.1) สิ่งแรกรับรู้ได้เลยถึงสนามเสียงด้านหลังที่ชัดเจน มีความกว้างของเวทีเสียงมากขึ้น (น่าจะมาจากการมีหม้อแปลงแยกอิสระในแต่ละแชนแนล) มิติแม่นยำ รายละเอียดต่าง ๆ ชัดเจน
โดยรวมเสียงนั้น ธรรมชาติ ไม่บูส ไม่เน้นให้ดุดัน ฟังแต่แรกอาจไม่เร้าใจ แต่ฟังนาน ๆ จะชื่นชอบ มีความกังวานดี ลื่นไหล เบสสมดุลย์ดี โฟกัสชัดเจน ฟังต่อเนื่อง 5-6 ชั่วโมงยังสนุก ไม่เพลีย ไม่ล้าหูแน่นอน สำหรับผมถือว่าเป็นข้อดี ผมจะไม่เลือกแอมป์ที่เสียงสด เด็ดขาดแต่ฟังได้เพียง 2 ชั่วโมงต้องหยุดพัก เพราะเพลีย ล้าหูไปหมดนะครับ
Spiderman Far From Home (Bluray แผ่นไทย, dts MSTR 7.1) ถ่ายทอดการแพนทิศทางได้ถูกต้อง แม่นยำ มีโฟกัสที่ดี บรรยากาศโอบล้อมพรั่งพรู รายละเอียดมาเต็ม ราวกับอยู่ในเหตุการณ์ ทั้งหมดทำให้ติดตามได้สนุก สมจริงมาก ๆ
Cars (Blu-ray แผ่นญี่ปุ่น, Dolby True HD 6.1) ปลายแหลมเปิดโปร่ง หางเสียงทอดตัวได้ดี มีรายละเอียดแผ่วเบาที่ดี รับรู้โดยง่าย ไม่ต้องเพ่ง เสียงกลางชัดเจน เป็นธรรมชาติ น่าฟัง เบสอิ่มแน่นเด้งตัวดี มีการแพนทิศทางดีมาก ถึงพร้อมโฟกัสที่ชัดเจน เด็ดขาด มีบรรยากาศโอบล้อมที่ยอดเยี่ยมราวกับอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ
Need For Speed (Bluray แผ่นไทย, dts MSTR 7.1) นำเสนอไดนามิคที่รุนแรง สะใจ ทรงพลัง ไม่มีการตื้ออั้นหรือพร่ามัว ไม่มีการวูบวาบ ปลายแหลมลงตัว หางเสียงทอดตัวได้ดี ไม่บาดหูเสียงกลางลื่นไหล เป็นธรรมชาติ เสียงทุ้มหนักแน่น มวลเสียงมีบอดี้เข้มข้น ท้าทายให้เราเร่งโวลุ่มขึ้นไปอีก!!
สรุปผลการฟัง Clef Audio : Amp 200
ถ้าคุณเป็น FC ของ Clef Audio ไม่ผิดหวัง
Clef Audio : Amp 200 รูปทรงสวย โมเดิร์น เป็นโมดูลแยกอิสระ ถอดได้ง่าย อัพเกรดง่าย มีภาคจ่ายไฟแต่ละโมดูลซึ่งเป็นจุดที่ผมชอบมาก สนนราคาขายราคารวม 2 ตัวประมาณแสนกว่า ๆ ซื้อจริงน่าจะมีส่วนลดได้อีก ลองสอบถามกันดูครับ
สิ่งสำคัญคือ เสียงดี หลุดลอยเป็นอิสระดีมาก มีกำลังมากพอที่จะขับลำโพงทั้งหลายที่เล่นกัน สามารถช่วยอัพเกรดระบบโฮมเธียเตอร์ของคุณได้แน่นอน และมาพร้อมบริการหลังการขายที่ดีเป็นอีกหนึ่งจุดแข็ง ใช้แล้วสบายใจไร้กังวลครับ