What HI-FI? Thailand

รีวิวสายลำโพง Life Audio : Gold MK II

Garoonchart  Bukkavesa

เมื่อพูดถึง “สายลำโพง” นั้น  หลัก ๆ มี 2 แบบ แบบแรกผลิตแบบสำเร็จรูปจากโรงงาน คุณจะต้องเลือกความยาวที่ต้องการ (อาจสั่งผลิตได้กรณีใช้ยาวมากเป็นพิเศษ) เลือกขั้วต่อด้านต้นทาง และปลายทางว่าจะใช้ก้ามปูหรือบานาน่า เลือกชุบเงิน ชุบทอง เลือกว่าจะเป็นซิงเกิ้ลไวร์หรือไบไวร์

แบบที่สองคือ แบบตัดแบ่งเป็นเมตร / ฟุต แบบนี้จะเลือกความยาวได้เองไม่ต้องเป็นความยาวจากโรงงาน นำไปใส่ขั้วต่อเองหรืออาจไม่ใส่ คือ ต่อเปลือย ๆ เข้าขั้วลำโพงไปเลย (แต่นานวันจะเกิดออกไซด์) หรือแบบยอดนิยมคือต้องการเซฟราคา ใช้ขั้วต่อเกรดปกติไปนั่นเอง (ผมเชื่อว่า 90% เลือกด้วยเหตุผลนี้) หรืออีกแบบแต่ผมเชื่อว่ามีน้อยมาก ๆ นั่นคือ มั่นใจว่ามีขั้วต่อที่มีคุณภาพสูงกว่าของที่ผู้ผลิตให้มา จึงจะนำมาเข้าหัวเอง

ขั้วต่อสายลำโพงมีผลลึกล้ำกว่าที่คุณคิด…อย่าคิดว่านิดเดียวหากยังไม่ได้ลองตัวที่ดีจริง

ในส่วนตัวนำเองจะพบว่ามีมากมายหลากหลายเทคนิค แล้วแต่สูตรของแต่ละแบรนด์ ตัวนำเป็น ทองแดง ทองแดงชุบดีบุก / ชุบเงิน ทองแดงแกนเดี่ยว ทองแดงฝอย ฯลฯ บ้างก็ใช้การตีเกลียวระหว่างชุดบวก / ลบ บางทีเป็นเส้นกลม-แบน-เหลี่ยมเพียงเส้นเดียวแต่มีชุดบวก / ลบอยู่ภายใน แต่ที่คุ้นชินจะเป็นเส้นกลม-แบน-เหลี่ยมแล้วแต่ดีไซน์ 2 เส้นเพื่อแยกชุดบวก / ลบแต่เชื่อมฉนวนติดกัน (อาจจะมีสายกราวด์มาคั้นกึ่งกลางหรือไม่มีก็ว่ากันไป)

นอกจากนี้ยังมีบางแบรนด์ที่สายสำเร็จรูปทำมามี “กระเปาะ” ตั้งแต่ 1-3 กระเปาะ ภายในบรรจุคอยล์ / ตัวเก็บประจุ ฯลฯ นัยว่าเป็นสูตรลับตามฟอร์ม เพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุด ขณะที่สายตัดแบ่งจะไม่มีกระเปาะมาให้ คงต้องเลือก

สำหรับครั้งนี้พบกับการพรีวิวผลิตภัณฑ์ Life Audio กันอีกครั้ง โดยเป็นซีรีส์ยอดนิยม คือ Gold โดยพยายามใช้ชื่อซีรีส์เดิมเพื่อให้ง่ายในการจดจำ จนถึงวันนี้ได้เวลาปรับปรุงใหม่เป็น Gold MK II มีหลายผลิตภัณฑ์ให้เลือก ซึ่งคราวนี้ตัวที่ส่งมาให้ฟังนั้นเป็นสายลำโพง

ติดตามอ่านกันได้ครับว่า สายลำโพง Life Audio : Gold MK II จะให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร

คุณสมบัติพิเศษ สายลำโพง Life Audio : Gold MK II

ลักษณะทั่วไป สายลำโพง Life Audio : Gold MK II

สายลำโพง Life Audio : Gold MK II ประกอบจากโรงงาน กล่องใส่เป็นกระดาษแข็งสีดำที่คุ้นตา เมื่อเปิดออกมาจะพบตัวสายอัดแน่น 4 เส้น และที่ขาดไม่ได้คือ ” ถุงมือ” ครับ

สายลำโพงที่คุณคุ้นเคย ส่วนมากจะรวมสัญญาณ + / – ในเส้นเดียวกัน ในกล่องจึงมีเพียง 2 เส้น ซึ่งทำให้ภายในโครงสร้างของสายจะต้องมีการชีลด์ที่ดีมาก มิฉะนั้นย่อมจะเกิดรบกวนกันนั่นเอง ทำให้สัญญาณไม่บริสุทธิ์

ทาง Life Audio ได้รังสรรค์ดีไซน์ให้รุ่น Gold MK II นี้พิเศษกว่าที่เป็นมา ด้วยการแยกสัญญาณ + / – ออกเป็น 2 เส้นอิสระจากกัน ไม่ติดกันเหมือนรุ่นอื่น ๆ จึงมีสายทั้งหมด 4 เส้น (ซ้าย 2 เส้น (+=1 / -=1) ขวาอีก 2 เส้น (+=1 / -=1)) นัยว่าสัญญาณจะไม่รบกวนกันเลย วิธีนี้ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดี แม้จะทำให้ต้นทุนแพงกว่าปกติเท่าตัว แต่เชื่อว่าเป็นหนทางที่น่าสนใจอีกวิธี

เมื่อลงทุนแยกโครงสร้างของชุดสัญญาณ + / – แล้ว ถ้าภายในยังใช้ตัวนำพื้น ๆ คงเสียเวลาเปล่า Life Audio จึงได้ลงทุนใช้ตัวนำทองแดง ofc ขนาดตัวนำรวม = 8 sq.mm. ใหญ่โตเอาเรื่อง มั่นใจว่าสัญญาณจะมาเต็ม ๆ ไม่ตกหล่น โดยเป็นแบบแกนเดี่ยว 50% ทองแดง ofc แกนฝอย 30% และทองแดง ofc แกนฝอยเคลือบเงิน 20%  เรียกว่าจัดเต็มทีเดียว โดยที่การใช้วัสดุแต่ละอย่างกันนั้น ช่วยผสมข้อดีของตัวนำแต่ละแบบเพื่อจูนให้ได้เสียงที่ต้องการ 

นอกจากนี้ แม้ตัวนำจะดีแต่ถ้าการป้องกันสัญญาณรบกวนไม่ดีก็เสร็จ เสียท่าอีกเช่นกัน และสัญญาณรบกวนทุกวันนี้จะมากขึ้นเป็นลำดับ ดังนั้น จึงใส่ฉนวน 5 ชั้น ช่วยป้องกันคลื่นรบกวนต่าง ๆ  ได้ดีมาก (ปกติสายแบรนด์เนมดัง ๆ ยังมีแค่ 2-3 ชั้น)   

ตัวสายหุ้มหนังงูทั้งเส้น มีน้ำหนักกำลังดี ไม่มากจนดึงรั้งลำโพงเบา ๆ แน่นอน มีความอ่อนนุ่มใช้ได้ สามารถดัดโค้งลัดเลาะได้ง่าย

หัวเป็น Banana plug หน้าสัมผัสเคลือบทองคำ 24K ช่วยเติมเนื้อเสียง บอดี้ของขั้วต่อเป็นก้อน Aluminum มากลึงขึ้นรูปพิเศษตามต้องการ  ที่ผมชอบมากคือ มีการยิงเลเซอร์เป็นสีขาว ระบุทิศทางสาย ด้านต้นทางจะเป็นข้อความ Amp L, Amp R ส่วนปลายทางจะเป็นข้อความ Speaker L, Speaker R และบอดี้ของขั้วต่อใช้อโนไดซ์เป็นสีดำ และสีแดงเพื่อบ่งบอกว่าเป็นข้าง L / R อย่างชัดเจนครับ (มั่นใจว่าใช้เกิน 5 ปียังแยกได้ถูกข้าง บางยี่ห้อใช้สติ๊กเกอร์ ใช้วงแหวนยาง ฯลฯ พอเปื่อยหรือลอกหลุดไปตามกาลเวลา บางทีแยกไม่ออกว่าอันไหนซ้ายอันไหนขวา ต่อผิดเอาง่าย ๆ 

นอกจากนี้ประมาณ 1 คืบก่อนถึงขั้วต่อจะมีปลอกอลูมิเนียมพร้อมอโนไดซ์สีแดง และดำ (แล้วแต่เส้น) ติดตั้งไว้ ยิงเลเซอร์เป็นสีขาว ระบุยี่ห้อ Life Audio และชื่อรุ่น Gold MK II

เรื่องการดีไซน์ทั้งหมดบอกได้เลยว่าสวยงามจริง ๆ ครับ

อุปกรณ์ร่วมพรีวิว สายลำโพง Life Audio : Gold MK II

ผลการฟัง สายลำโพง Life Audio : Gold MK II

การต่อสายลำโพง Life Audio : Gold MK II ถือว่าไม่ยาก ข้อความที่สกรีนบอกทิศทางอ่านได้ง่าย ชัดเจน ไม่มีการสับสนแม้แต่น้อย 

สายลำโพง Life Audio : Gold MK II ได้มาใหม่แกะกล่องเลย เบิร์นอินไปพอสมควร ลองฟังเสียงโน๊ตตัวแรกพบว่า มีความลื่นไหลที่ดี มีความเป็นอนาลอกมาก ไม่รู้สึกเครียดแข็งใด ๆ แม้จะมีแววดีแต่คงต้องให้เวลาไม่ต่ำกว่า 50 ชั่วโมงเพื่อให้โมเลกุลภายในเรียงตัวได้ดียิ่งขึ้น

ปลายแหลม สดใส กังวานพอเหมาะ ไม่ทึม และไม่บาดหู มีหางเสียงทอดตัวได้กำลังดี ไม่สั้นห้วนหรือเจตนาลากยาวกว่าปกติ แทรค Three To Get Ready อัลบั้ม Time Out : The Dave Brubeck Quartet (Columbia/Legacy CK 65122)

ย่านเสียงกลาง มีความชัดเจนกำลังดี ไม่ชัดจนแข็งกระด้างขาดลีลา ออดอ้อนดีทีเดียว รายละเอียดแผ่วดี ย้ำหนักเบาดี แม้จะเล่นด้วยแผ่นเพลงไทยธรรมดา Be My Guest Again (Talala)

เสียงร้อง Clair Marlo น่าฟัง ไพเราะ มีลีลา มีชั้นเชิง เต็มเปี่ยมด้วยความเป็นดนตรี อัลบั้ม Let It Go (Sheffields Labs CD-29)

เสียงตีกลอง ทั้งแน่น ทั้งลึก มีน้ำหนักที่สมส่วน ไล่โน๊ตเบสที่ดี มีมวลเข้มข้น ไม่บาง อัดฉีดพลังได้อย่างดี ถ้าแอมป์คุณแรงสุด ๆ จะยิ่งดี Time Out : The Dave Brubeck Quartet (Columbia/Legacy CK 65122)

เสียงทุ้มเน้นราบเรียบ ไม่บูสท์ ขึ้นกับแผ่น ถ้าแผ่นมีมากก็ถ่ายทอดมากตามลำดับ ไล่โน๊ตเบสดี มีมวลเข้มข้น มีเนื้อเสียงที่ดีจากตัวนำที่ใหญ่นั่นเอง อัลบั้ม Let It Go (Sheffields Labs CD-29)

โทนัลบาลานซ์ลงตัว ทำให้ทุ้ม-กลาง-แหลม มาพร้อมกัน ต้องขอบคุณการผสมของทองแดงหลายรูปแบบอย่างลงตัว ไม่รู้สึกย่านใดย่านหนึ่งเป็นพระเอก ทำให้ไม่เลือกซิสเต็ม ไม่เลือกเพลง มุ่งสนองความเป็นดนตรีเท่านั้น Aaron Neville : Warm Your Heart (A&M Records 7502153542)

ไดนามิครุนแรง ไม่มีการตื้ออั้น ชิ้นดนตรีต่าง ๆ หลุดลอยเป็นอิสระอย่างแท้จริง ไม่มีคลุมเคลือ Mokave (AudioQuestMusic AQ-CD1024)

ถ่ายทอดโฟกัสที่ชัดเจน สามารถแสดงมิติตื้นลึกได้ดี และถูกต้อง รวมถึงตรึงตำแหน่งของเสียงได้อย่างนิ่งสนิทไม่วูบวาบแม้ดนตรีขณะนั้นจะโหมกระหน่ำเพียงใดก็ตาม The Famous Sound of Three Blind Mice Vol.1 (Cisco CCD2026)

สรุปผลการฟัง สายลำโพง Life Audio : Gold MK II

สายลำโพง Life Audio : Gold MK II รังสรรค์งานคุณภาพ ใช้เทคนิคต่าง ๆ ที่หาได้ยากในสายลำโพงอื่น นั่นคือ การแยกสัญญาณ + / – ออกจากกันแล้วก็ตาม แต่การวางของคนทั่วไปอาจทำให้บางช่วงสายพาดผ่านกันบ้าง แต่ก็ยังเป็นบางช่วงไม่ใช่ทั้งหมด สัญญาณจึงเป็นอิสระอยู่ ผมแนะนำทริคในการใช้สายลำโพง Life Audio : Gold MK II ให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั่นคือ ควรหาตัวแยกสายมาใช้ เพื่อไม่ให้สาย + / – แตะกันเลย สัญญาณจะเป็น “อิสระ” ที่สุดครับ

ถ้าสายเส้นเดิมของคุณจัดจ้าน มีสีสันเกินจริง ฟังแล้วชัดเกิน รุกเร้าจนเหนื่อย ฟังนาน ๆ แล้วล้าหู ฟังแล้วไม่รู้สึกผ่อนคลาย  ลองหาโอกาสลองฟัง Life Audio : Gold MK II ดู ผมเชื่อว่าจะนำเสนอความเป็นดนตรีได้ดี มีความน่าฟังยิ่งขึ้นละครับ


ขอขอบคุณ Life Audio โทร.084 596 6262 ที่เอื้อเฟื้อสายลำโพงในการทดลองฟัง

Exit mobile version