What HI-FI? Thailand

ฮาวทู “ฟัง” มิวสิคสตรีมมิ่ง #2 Spotify

DAWN NATHONG

คราวนี้จะขอนำเสนอ บริการมิวสิคสตรีมมิ่งที่ครองส่วนแบ่งตลาดจากผู้ใช้งานทั่วโลกสูงที่สุดนั่นคือ Spotify ซึ่งช่วงไตรมาสที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานกว่า 320 ล้านบัญชีแล้ว เป็นบริการมิวสิคสตรีมมิ่งที่มีความสามารถในการ “เข้าถึง” รสนิยมการฟังเพลงของคนส่วนใหญ่และคนไทยได้ดีที่สุดเจ้าหนึ่งในขณะนี้ รวมถึงมีแพลตฟอร์มการใช้งาน ที่สามารถฟังบนลำโพง ทีวีและอุปกรณ์อื่นโดยใช้แอปเป็นรีโมทได้อีกด้วย

Spotify คืออะไร

Spotify คือแพลตฟอร์ม มิวสิคสตรีมมิ่ง สัญชาติสวีเดนที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ซึ่งเปิดให้คุณเข้าถึงบทเพลงกว่า 30 ล้านเพลง รวมถึง Original Contents และเนื้อหาอื่น ๆ จากศิลปินทั่วทุกมุมโลก โดยผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปมาใช้งานได้บนอุปกรณ์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บเล็ต ลำโพง โทรทัศน์ และรถยนต์

มีแพ็คเกจให้เลือกทั้งแบบฟรีและแบบ Premium (เสียค่าสามาชิกรายเดือน) ที่จะปลดล็อคคุณสมบัติต่าง ๆ นั่นคือ ดาวน์โหลดเพลงไว้ฟังแบบออฟไลน์ได้, ไม่มีโฆษณาคั่น, เลือกเล่นเพลงได้ทุกเพลงรวมถึงบนมือถือ, ข้ามเพลงได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง รวมถึงเสียงแบบคุณภาพสูงสุด

ฟอร์แม็ตเสียงของ Spotify

แอป Spotify ให้บริการ มิวสิคสตรีมมิ่ง ในฟอร์แมต Ogg Vorbis ซึ่งเป็นการบีบอัดข้อมูลเสียงที่มีการตัดข้อมูลบางส่วนออกเพื่อให้ไฟล์มีขนาดเล็กลง โดยให้มีผลกระทบต่อคุณภาพเสียงน้อยที่สุด (Lossy) ใช้แซมปลิ้งเรต 16 bit / 44.1 kHz และบิตเรตสูงสุดในแพ็คเกจแบบ Premium จะอยู่ที่ 320 kbps (Very high) ส่วนถ้าเป็นแพ็กเกจฟรีนั้นบิตเรตสูงสุดจะจำกัดอยู่ที่ 160 kbps (High)

ในกรณีการเล่น Spotfy บนเวปไซต์หรือที่เรียกว่า Web Player นั้นจะเป็นไฟล์ฟอร์แมต AAC แทน และมีบิตเรตสูงสุดอยู่ที่ 256 kbps

อัตราค่าบริการแพ็คเกจ Spotify Premium

แพ็คเกจแบบ Premium ที่นิยมในบ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นแพ็คเกจ Family ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกันได้ถึง 6 บัญชี โดยเมื่อนำมาหารเฉลี่ยกันแล้ว จะเหลือเพียงคนละประมาณ 33 บาท / เดือนเท่านั้น

จุดเด่น vs จุดด้อยของ Spotify

จุดเด่นของ Spotify หลัก ๆ เลยคือ ใช้งานง่าย มีอุปกรณ์รองรับที่ครอบคลุมหลากหลายกว่า 2,000 ชิ้นจากกว่า 200 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นบนอุปกรณ์สมาร์ท เช่น ลำโพง, จอแสดงผล, ทีวี, นาฬิกา, ระบบเสียงในรถยนต์ หรือกลุ่มของเครื่องเสียงไฮไฟ, เอวีรีซีฟเวอร์ และสตรีมเมอร์ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงไฮเอ็นด์ รวมถึงการทำงานร่วมกับแอปอื่น (App Integrations) ซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดของอุปกรณ์ที่รองรับ Spotify ทั้งหมดได้ที่  Spotify Everywhere

มีการใช้เทคโนโลยี AI : Artificial Intelligence วิเคราะห์การฟังเพลงของเรา เพื่อสร้างเพลย์ลิสต์ต่าง ๆ เช่น Discovery Weekly, Release Radar หรือ Your daily mix และอีกมากมาย ให้ตรงกับรสนิยมในการฟังเพลงของเราในช่วงนั้น ๆ ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่า Spotify มีระบบประมวลผล Streaming Intelligence ที่ฉลาดเอามาก ๆ การเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานนั้นทำได้ละเอียดและเลือกเพลงได้สอดคล้องกับรสนิยมของผู้ใช้ได้ดีเกินหน้าเกินตาคู่แข่ง นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่แม้แต่นักเล่นเครื่องเสียงแบบออดิโอไฟล์ก็ยังติดใจ

ส่วนจุดด้อยของ Spotify ที่เห็นได้ชัดคือ ยังไม่มีบริการสตรีมเพลงคุณภาพสูงแบบ Lossless ออกมาให้ใช้เสียที ปล่อยให้คู่แข่งหลายเจ้าแซงหน้าในเรื่องนี้ไปก่อน ไม่ว่าจะเป็น TIDAL, Deezer หรือ JOOX แม้ว่าจะมีข่าวเรื่องการทดสอบแพ็คเกจ Spotify Hi-Fi บริการ มิวสิคสตรีมมิ่ง แบบ Lossless, CD-quality (1411kbps) ให้สมาชิกบางส่วนในสหรัฐอเมริกาไปแล้วตั้งแต่ปี 2017 ก็ตาม

การใช้งาน Spotify Connect

ฟังก์ชั่นเด็ดที่ทำให้การใช้งาน Spotify สะดวกสบายยิ่งขึ้น สามารถทำให้เราฟังเพลงบนลำโพง ทีวีและอุปกรณ์อื่น ๆ โดยใช้แอป Spotify เป็นรีโมท ซึ่งสามารถรีโมทได้ทั้งจาก มือถือ แทปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์

  1. เชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดกับ Wi-Fi บนเครือข่ายเดียวกัน
  2. เปิดใช้งานแอป Spotify แล้วเล่นเพลง
  3. คลิกที่ไอค่อนรูปลำโพง
  4. เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการเล่น

วิธีดาวน์โหลดเพลงไว้ฟังแบบออฟไลน์

ในกรณีอยากนำเพลงจาก Spotify ไปฟังนอกบ้านโดยไม่จำเป็นต้องมีอินเตอร์เน็ต สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ดาวน์โหลดในมือถือ

  1. สมัครใช้งานแพ็คเกจแบบ Premium
  2. เปิดใช้งานแอป Spotify คลิกไอค่อน “Your Library” ด้านล่าง
  3. เลือก Playlist หรือ Albums ที่เราเคยเพิ่มไว้ใน Library
  4. หัวข้อ Download เลือก “เปิด”
  5. ตัวแอพจะทำการดาวน์โหลดเพลงทั้งหมดเก็บไว้ รอจนเสร็จ
  6. คลิกไอค่อน “Home” คลิกไอค่อนรูปฟันเฟืองด้านบนขวา
  7. หัวข้อ Offline เลือก “เปิด”

วิธีการตั้งค่า Spotify ให้ได้คุณภาพเสียงดีที่สุด

  1. สมัครใช้งานแพ็คเกจแบบ Premium
  2. เปิดใช้งานแอป Spotify
  3. เข้าไปที่เมนู Settings เลือกหัวข้อ Music quality เป็น “Very High”
  4. หัวข้อ Normalize volume เลือก “ปิด”
  5. คลิกปุ่ม Show Advance Settings
  6. หัวข้อ Enable hardware acceleration เลือก “เปิด”

อ่านบทความ: มาเพิ่มคุณภาพเสียงให้ Spotify แบบ Bit-Perfect กัน


Exit mobile version