เรา-ท่าน อาจจะคุ้นเคยกับคำว่า SPL ในฐานะคำย่อของ Sound Pressure Level ซึ่งหมายถึง ค่าแรงดันของเสียง ที่มีหน่วยวัดค่าเป็น เดซิเบล (dB) หากแต่เรื่องราวที่ผมกำลังจะนำพาท่านทั้งหลายมารู้จักในบทความต่อไปนี้ เป็นแง่มุมของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงบ้านระดับไฮ-เอ็นด์ขนานแท้ ที่มีความเชี่ยวกรำมาเนิ่นนานในด้านของ Studio Equipment แห่งประเทศเยอรมันถึงกว่า 39 ปี นั่นคือ SPL electronics GmbH ภายใต้แบรนด์เนม SPL Audio โดยที่ SPL นั้นก็ย่อมาจาก Sound Performance Lab
จุดเริ่มต้นธุรกิจของ SPL electronics GmbH เกิดขึ้นในปี 1984 โดย 2 ผู้ก่อตั้ง Hermann Gier และ Wolfgang Neumann สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Niederkrüchten (D) ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ “Sound Performance Lab” ถือกำเนิดขึ้นจากโรงงานในประเทศเยอรมนีโดยเฉพาะ และมีผลิตภัณฑ์จำนวนกว่า 52 รายการในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด โดยที่ SPL Goldmike Model 9844 ‘Dual Tube Mic Preamp Class-A Tube’ นับเป็นสินค้าขายดีอย่างแท้จริงของ SPL โดยมียอดจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 5.000 เครื่อง
ผลิตภัณฑ์ของ SPL ได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าจำนวนมาก โดยมีนักดนตรีชื่อดังหลายคนที่เลือกผลิตภัณฑ์ SPL ไปใช้งาน ได้แก่ Peter Walsh, Adam Ayan, Andy Ebert, Axel Kroell, Thommy Dietrich, Tom Hapke, Tommy Newton, Wolfgang Stach, Stephan Zeh และ Simon Philips
SPL electronics GmbH ได้พัฒนาอุปกรณ์เสียงสำหรับแวดวงเสียงเพลง, ภาพยนตร์, มัลติมีเดีย, ไฮ-ไฟ และการออกอากาศ (broadcasting) ขั้นตอนในความเป็นผลิตภัณฑ์ของ SPL electronics GmbH ให้ความสำคัญกับการค้นคว้า-ทดลอง (experimenting) และการรับฟัง (listening) มากกว่าการออกแบบตามตำรา
SPL electronics GmbH สรรค์สร้างผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงที่นับเป็นนวัตกรรม (innovative audio products) โดยการผลักดันทั้งเทคโนโลยี และการออกแบบเพื่อค้นหาประสิทธิภาพอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนั่นทำให้ผลิตภัณฑ์ SPL แตกต่างจากผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงอื่นใดในท้องตลาด
SPL พัฒนาเทคโนโลยีเครื่องเสียงระดับมืออาชีพมานานกว่า 35 ปี สตูดิโอเสียงทั่วโลกต่างไว้วางใจในคุณภาพเสียงที่โดดเด่น
สตูดิโอมาสเตอร์ริ่งต้องการมาตรฐานสูงสุดในแง่ของประสิทธิภาพเสียง เพราะเป็นงานที่จำเป็นต้องได้รับความใส่ใจในขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตเพลง (music productions) ด้วยเทคโนโลยี “SPL 120V” ที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะ
เหตุการณ์สำคัญของพัฒนาการ (Milestones of the development)
– การประดิษฐ์การปรับเสียงให้เหมาะสม Vitalizer® (Vitalizer® sound optimization) ที่ได้รับสิทธิบัตร
– การประดิษฐ์ level-independent envelope processing ซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์ Transient Designer
– การพัฒนา auto-dynamic de-esser พร้อมการลดเสียง S โดยใช้หลักการ phase cancellation
– ระบบไมโครโฟนเซอร์ราวด์ 5.1 แบบ discrete ตัวแรกสำหรับ Atmos 5.1
– การพัฒนาแอพ Car Vitalizer® สำหรับอุปกรณ์ iOS
– การพัฒนา 120V operational amplifier
– การประดิษฐ์ Phonitor Matrix สำหรับ loudspeaker-equivalent listening และการมิกซ์เสียงผ่านหูฟัง
ปัจจุบัน (2023) SPL electronics GmbH ได้จัดแบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ProAudio กับ HiFi โดยที่ “ProAudio” หรือ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงระดับสตูดิโอ ก็จัดแบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ MASTERING และ STUDIO ในขณะที่ “HiFi” หรือ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงบ้าน จัดแบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ PROFESSIONAL FIDELITY ซึ่งในซีรีส์ PROFESSIONAL FIDELITY ของ SPL เรียกเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเทียบได้นี้ว่า VOLTAiR technology ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์ทางดนตรีในระดับเดียวกับวิศวกรเสียงผู้เชี่ยวชาญ รับรู้ถึงช่วงไดนามิคของเสียง (dynamic range) ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ความรู้สึกสัมผัสในมวลอากาศพื้นที่ปริมณฑลเสียง (spatiality) พร้อมทั้งรายละเอียดอันพรั่งพรู เต็มไปด้วยความสดใส โปร่งกระจ่าง สวยงามเรียบง่ายและตรงไปตรงมา
‘VOLTAiR’ เป็นองค์ประกอบของคำว่า โวลต์ (VOLT)และ อากาศ (AiR) “VOLT” เป็น หน่วยวัดแรงดันไฟฟ้า และ “Air” ย่อมาจาก พื้นที่ไม่จำกัดที่เสียงเพลงสามารถสร้างความมีชีวิตชีวา-มีลมหายใจ “VOLTAiR” เปรียบเป็นสัญลักษณ์ของไดนามิกที่ไร้ขีดจำกัดซึ่งเป็นผลมาจากแรงดันไฟฟ้าเสียงสูง (the perceived limitless dynamics resulting from high audio voltage)
“120V technology” เป็นเทคโนโลยีอ้างอิงของ SPL ทั้งนี้ “120V technology” มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในโลก โดยหลักการทำงานที่แรงดันไฟฟ้ากระแสตรง 120 โวลต์ ซึ่งนี่สูงเป็น 4 เท่าของออปแอมป์ (op-amps) ที่ใช้พื้นฐาน IC semiconductor นั่นเป็นเพราะในทางหลักการคุณภาพเสียงสูงสุดที่เป็นไปได้ ก็ต้องใช้แรงดันไฟฟ้าในการทำงานของเสียงสูงสุดที่เป็นไปได้เช่นกัน (The highest possible audio quality requires the highest possible audio operating voltage.) “120V technology” จึงเป็นหัวใจสำคัญของ SPL “VOLTAiR technology”
“120V technology” มีลักษณะใช้งานในแบบ +/-60 V เพื่อให้เกิดค่าแรงดันไฟฟ้าในลักษณะสมดุล (DC +/-60 V) ซึ่ง SPL ได้พัฒนาเครื่องขยายสัญญาณแรงดันไฟฟ้าแรงสูงที่มีรูปแบบการทำงานที่เป็นกรรมสิทธิ์พิเศษเฉพาะซึ่งก็คือ SPL 120V SUPRA operational amplifiers ซึ่งในความเป็นจริงนั้น แรงดันไฟฟ้าแรงสูงระดับนี้จะทำลายส่วนประกอบทั่วไป และ operational amplifiers (OP Amp) ทั่วไปได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น “120V” ที่ระบุในชื่อของเทคโนโลยี “120V technology” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแรงดันไฟฟ้าหลัก (mains voltage) ซึ่งใช้งานในแต่ละพื้นที่จากปลั๊กเต้าเสียบไฟหลัก (mains power socket) ของแต่ละประเทศ …นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับแรงดันไฟฟ้าในการทำงานของภายในอุปกรณ์ที่ใช้ประมวลผลสัญญาณเสียง
โดยที่แรงดันไฟฟ้าหลัก (mains voltage) จากปลั๊กไฟหลัก (mains power socket) จะถูกแปลงเป็นแรงดันไฟฟ้าชุดที่สอง (secondary voltage) ที่ต้องการใช้งานจริงในแหล่งจ่ายไฟเชิงเส้น (linear power supply) ภายในตัวของอุปกรณ์เครื่องเสียง ด้วยหม้อแปลงแบบทอรอยด์ (toroidal transformer) วงจรเรียงกระแส (rectifiers) จะแปลงแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) นี้ให้เป็นแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่จำเป็นต่อการใช้งานสำหรับอุปกรณ์เสียง
หากเปรียบเทียบกับอุปกรณ์เครื่องเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งกำหนดค่าการทำงานกับแรงดันไฟฟ้าภายใน +/-15 โวลต์ จึงสามารถประมวลผลระดับสัญญาณอินพุตสูงสุดที่ +21.5 dBu ตัวอย่างเช่น หาก DAC มีระดับเอาต์พุต +22 dBu ที่ 0 dBFS ระดับสูงสุดของสัญญาณเสียงเพลงจะทำให้เกิดการโอเวอร์โหลดในขั้นตอนภาคอินพุต (input stage) ของอุปกรณ์นั้นๆ อยู่แล้ว
ส่วนประกอบทั้งหมดในอุปกรณ์เครื่องเสียงมักจะทำงานได้ถึงระดับขีดพิกัด (limits) ผลที่ได้คือ เสียงที่ไม่มั่นคงทำให้เกิดความเครียด และความเมื่อยล้าของหูเร็วขึ้น
อุปกรณ์ SPL ที่มี VOLTaiR technology สามารถรองรับระดับอินพุตได้ที่ +32.5 dBu ด้วยแรงดันไฟฟ้าการทำงานภายในที่สูงยิ่งขึ้น อยู่ที่ +/- 60 โวลต์ ซึ่งทำให้มีเฮดรูม (headroom) ที่เพิ่มขึ้นถึง 12dB ส่วนประกอบทั้งหมดจึงทำงานอย่างต่อเนื่องในช่วงการทำงานที่เหมาะสมที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้คือ ประสบการณ์เสียงที่น่าพึงพอใจ ให้ความเป็นธรรมชาติ และผ่อนคลาย คุณจึงสามารถดื่มด่ำรื่นรมย์กับเสียงเพลงของคุณได้ในทุกรายละเอียดอย่างต่อเนื่องด้วยความเพลิดเพลิน
แผนภาพเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเหนือกว่าของ VOLTAiR technology เมื่อเปรียบเทียบกับวงจรอื่นๆ ที่มีแรงดันไฟฟ้าในการทำงานต่ำกว่า “120V technology”
“””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””