นิตพินัย สุบรรณเสณี
เวลาเห็น TV Line Up รุ่นใหม่ ๆ ของแต่ละยี่ห้อที่ออกมามันช่างเย้ายวน ให้น่าเสียสตางค์ซื้อไปแทนตัวเก่ากันเสียจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงการดีไซน์ที่ดูล้ำสมัยมากขึ้น ระบบการเชื่อมต่อที่อัพเดตขึ้นระบบปฏิบัติการที่ดูจะฉลาดล้ำกว่ารุ่นเดิมๆ รวมถึงมีการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เข้ามาทำงานร่วมด้วยในรุ่นสูงๆ แทบทุกยี่ห้อไม่ว่าจะนำมาใช้ในเรื่องการควบคุมปรับแต่งภาพเสียงอัจฉริยะหรือการเชื่อมโยงกับผู้ใช้งานให้สะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ระบบ eARC ที่มาพร้อมกับ HDMI 2.1 ก็ดูเหมือนว่าจะมาพร้อมกับทีวีแทบทุกรุ่นที่เปิดตัววางจำหน่ายในปี 2019 นี้ที่สามารถทำเสียง Immersive Audio อย่าง Dolby Atmos ที่ Streaming จากทีวีรุ่นใหม่ๆ เหล่านี้ส่งไปยัง A/V Receiver ที่รองรับระบบ eARC ได้โดยตรง
ทางด้านภาพมีการปรับปรุงในเรื่องของระบบประมวลผลภาพให้มีความเร็วสูงขึ้นภาพเคลื่อนไหวดู Smooth ดูต่อเนื่องมากขึ้น ลด Latency ลงอย่าง HDMI 2.1 Chip set มักจะมีโหมด ALLM (Auto Low Latency Mode) ให้ทีวีเลือกไปยัง Game Mode อัตโนมัติเวลาเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องเล่นเกมอย่าง Xbox เพื่อลด Input log ให้เหลือน้อยที่สุดเป็นต้น
เก่าแค่ไหนถึงควรเปลี่ยน?
เรื่องของความสว่างสูงสุด, Contrast Ratio, ความกว้างลึกของสีสัน มักจะไม่ค่อยนำมาเป็นประเด็นหลักในการทำการตลาดกันสักเท่าไหร่ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาความสามารถในด้านดังกล่าวจะได้ถูกพัฒนาไปจนเกือบจะถึงจุดสูงสุดแล้วในแต่ละเทคโนโลยีของจอภาพ (OLED, QLED, LCD)
ดังนั้นถ้าอายุของทีวีคุณอยู่ในระดับ 2-3 ปี และเป็นรุ่นที่ค่อนข้างสูงอยู่และเน้นในด้านคุณภาพของภาพจากจอเป็น ปัจจัยสำคัญผู้เขียนคิดว่าอาจจะชะลอเวลาเปลี่ยนจอใหม่ออกไปได้อีกสักระยะหนึ่งโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก
แต่ถ้าอายุอานามของทีวีเกินกว่า 4-5 ปีแล้วรวมถึงอยากจะอัปเกรดขนาดของจอให้ใหญ่ขึ้นพ่วงกับความสามารถด้าน Smart ที่โดดเด่นน่าสนใจทีวีรุ่นใหม่ๆ เช่นสามารถที่จะนั่งคุยกับทีวีผ่าน Google Assistance หรือ Alera ได้ทั้งวันมี Streaming Apps ติดมากับเครื่องมากมายไม่ต้องไปหาซื้อกล่องมาพ่วงให้วุ่นวายพร้อมทั้งระบบการเชื่อมต่อที่ทันสมัยขึ้นคุณภาพของภาพที่ดีขึ้นโดยรวม (ยกเว้นรุ่นกลางต่ำหรือรุ่นเริ่มต้นที่คุณภาพของรุ่นใหม่กับรุ่นก่อนหน้าอาจจะไม่ฉีกกันเท่าที่ควรแต่ไปเน้นความสามารถ/ความทันสมัยให้มากกว่า)
ซื้อจอขนาดเท่าไรดี?
ทีวีรุ่นใหม่ ๆ ราคาของเครื่องต่อขนาดของจอภาพได้ต่ำลงอย่างน่าใจหาย ท่านใดที่ใช้โปรเจคเตอร์อยู่ อย่าลืมหันมาดูจอภาพรุ่นใหม่ๆ เพราะบางทีขนาดจอระดับ 80 นิ้ว ขึ้นราคาไม่หนีจาก ชุดเครื่องฉายภาพ+จอสักเท่าไหร่เลยและแนวโน้มจะลดลงมาทุกขณะ
ส่วนจอภาพขนาดที่กำลังน่าเล่นและค่อนข้าง Work กับห้องทั่วๆ ไปรวมถึงราคาค่าตัวที่พอยอมรับได้คงอยู่ที่ระดับ 65 นิ้ว ให้พิจารณาจัดสรรงบให้ได้รุ่นที่ค่อนข้างสูงสักเล็กน้อยคือให้ข้ามจากรุ่น Standard Smart ไปเป็น Premium Model ถึงแม้จะเป็นรุ่น Entry
เพราะเท่าที่เคยสัมผัสมามันจะให้คุณภาพของภาพที่ฉีกขึ้นไปอีกพอสมควร เช่น ได้ Panel 10 บิต แทนที่จะเป็น 8 บิตในรุ่นกลางๆ ระบบไฟ Backlight ที่มีพลังสูงเพียงพอที่จะรองรับระบบ HDR ได้อย่างเหมาะสมกว่าเป็นต้น
