ป.ปลา ตากลม
เขียนเรื่อง “ตัวรอง”…ลองยังไงไม่ให้เป็น รอง!!! นี้บางคนจะหาว่าผมไม่เคยเล่นหรือเปล่า? บอกเลยว่าเล่นมาระดับหนึ่งครับ ตั้งแต่ทิปโทบ้านหม้อ ร้านโมดิฟาย ตัวละ 50 บาท ไปจนของนอกเซ็ทละหมื่นต้น (3 ชิ้น) เกินราคานี้ผมว่าน่าจะอัพไปเล่นแท่นวาง น่าจะได้ผลชัดเจนกว่าครับ
ทำไมต้องรอง ผมจะเริ่มเกริ่นให้ทราบ สำหรับการเล่นเครื่องเสียงนั้น ประกอบด้วยอุปกรณ์หลัก คือ เครื่องเล่นต้นทาง / ภาคขยาย / ลำโพง หลัก ๆ จะมี 3 ส่วนด้วยกัน ขณะที่อุปกรณ์เสริมนั้น ชื่อก็บอกชัดเจนแล้วว่า “เสริม” ไม่ใช่ “หลัก”
![](https://i1.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/0229b1e2-7a94-4dde-84ac-1bb7dcf82e1e.jpg?ssl=1)
![](https://i2.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/918b28012b000ef4b2ca74c38b25915a.jpg?ssl=1)
![](https://i1.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/6630d6c0e70f6f74677d34e680eab21d-1.jpg?ssl=1)
เมื่อตัดสินใจเล่นเครื่องเสียง ย่อมจะต้องเลือกอุปกรณ์หลักให้ได้เสียก่อน ไม่ใช่เลือกอุปกรณ์เสริมมารอไว้ ซึ่งมีความสุ่มเสียง เช่น ซื้อตัวรองเครื่องแบบมีสปริงเอาไว้ กะว่าใช้รองใต้เครื่องเล่นแผ่นเสียง แต่สุดท้ายเครื่องที่เราเลือกซื้อมีสปริงในตัวแล้ว…ตัวรองดังกล่าวก็ว่างงานซิครับ ครั้นจะเอาไปใช้กับเครื่องอื่น บางทีไม่ได้ออกแบบมาเป็น Universal ก็ใช้ไม่ได้อีก สุดท้ายมีโอกาสต้องขายทิ้ง
เมื่อเลือกอุปกรณ์หลักได้แล้ว ต้องมั่นใจว่า ปรับตั้งพารามิเตอร์ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งรายละเอียดจะมากน้อยก็ขึ้นกับแต่ละเครื่อง รวมถึงเซ็ทอัพตำแหน่งวางลำโพงได้อย่างลงตัว เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด จากนั้นดูว่าเสียงไปทิศทางใด ขาดเหลือจุดใด จะเสริมแนวไหน ฯลฯ แล้วค่อยเลือกอุปกรณ์เสริมมาปรับแต่งให้เป็นแบบที่ต้องการ
โดยควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ ความเหมาะสม.. ชุดหลัก 1 แสน ใส่อุปกรณ์เสริมอีก 1 แสน รวม 2 แสน มันเหมาะสมแล้วหรือ? ก็อาจมีคนย้อนแย้งว่าเหมาะ ก็ว่ากันไปครับ ผมว่าถ้างบ 2 แสน ใช้อุปกรณ์หลัก 150,000 บาท อีก 50,000 บาท เป็นค่าอุปกรณ์เสริม น่าจะได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่านะครับ แต่ทุกคนมีสิทธิ์คิดได้จะเลือกแบบแรกก็ไม่ว่ากัน แต่การทำหน้าที่สื่อในครั้งนี้อยากนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง และมุมมองเหมาะสมด้วยเพื่อจรรโลงวงการให้ดีขึ้นไม่ใช่แย่ลงครับ
![](https://i1.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/2160590-2dafbb03-mad-scientist-audio-blackpod-tungsten-carbide-footer-set-of-3.jpg?ssl=1)
![](https://i2.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/AASMSPKBLK.jpg?ssl=1)
![](https://i2.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/AF2-suspension.jpg?ssl=1)
ถ้านึกความเหมาะสมไม่ออก ลองยกตัวอย่างเรื่องยางรถยนต์ ถ้าคุณใช้รถบ้านวิ่งได้สูงสุดไม่เร็วเกิน 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง คุณจะเปลี่ยนยางใหม่ เลือกเอายางรุ่นเดิม เส้นละ 2-3 พันก็เหมาะสมแล้ว การเอายางรถซุปเปอร์คาร์ที่วิ่งได้ทะลุ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง เส้นละเป็นหมื่นมาใส่มันเกินความจำเป็นไปเยอะ เพราะรถคุณวิ่งยังไงก็ไม่ถึง ใส่แล้วสิ้นเปลืองเปล่า ๆ เก็บส่วนต่างเส้นละ 7,000×4 = 28,000 บาทมาทำอย่างอื่นดีกว่าครับ ใครจะใส่มีแค่อยากอวด อยากโชว์ออฟมากกว่า มองยังไง มองมุมในก็ไม่เหมาะสมแม้แต่น้อย
กลับเข้าเรื่อง อุปกรณ์เสริมในที่นี้ หมายถึงทุกสิ่งอย่างที่นิยม สายสัญญาณ, สายลำโพง, สายไฟเอซี, ชั้นวาง, ตัวกรองไฟ, ปลั๊กผนัง ฯลฯ
ใครเล่นขั้น Advanced เช่น ตัวทับเครื่อง, ตัวรองเครื่อง, ตัวคั่นสาย, หม้อแปลง Isolated Transformer ฯลฯ
![](https://i1.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/magfooter2-4.jpg?ssl=1)
ซึ่งในส่วนอุปกรณ์เสริมยอดนิยมหรือขั้น Advanced ก็ยังมีแยกย่อยออกไปได้อีก ตามสูตรของผู้ผลิต เช่น ตัวกรองไฟบางตัวมีวงจรกรอง DC แปลงกระแสกลับเป็น DC ก่อนแปลงกับเป็น AC เพื่อจ่ายออกไป, หม้อแปลง Isolated Transformer แบบ Balanced ฯลฯ
การเลือกอุปกรณ์เสริมนั้น บางอย่างจำเป็นต้องมีหลายชิ้น เช่น สายไฟเอซี ถ้ามีเครื่องเยอะ 5 เครื่อง ก็สมควรแล้วที่จะใช้ 5 เส้น เพื่อให้แต่ละเครื่องได้ระบบไฟที่ดีที่สุด พวกสายสัญญาณ สายลำโพงก็มีตามจำนวนที่มี จะเป็นการเสริมอย่าง “เหมาะสม” เพราะมีไว้ใช้งานจริง ไม่ได้มีไว้โชว์หรือโอ้อวดใคร ขายของ (แอบอยู่เบื้องหลัง) หรือร้านโดนยัดของ!
ชี้ชัดให้มากขึ้น ขอยกตัวอย่าง ย้ำว่าไม่ได้พาดพิงใครนะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ผมตามติดเสมอ ด้วยว่ามันเป็นอุปกรณ์เสริมยอดนิยม ใช้กันแพร่หลาย นั่นคือ ตัวรองเครื่อง
![](https://i0.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/7rhkfy-1.jpg?ssl=1)
![](https://i1.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/rubber_speaker_foot_set.jpg?ssl=1)
![](https://i1.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/rpaudio-finiteelemente-carabase-caraball-2-1.jpg?ssl=1)
![](https://i0.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/ade0a5499ca98ab721f22da06f9abdbf_lg-2.jpg?ssl=1)
บางคนจะเรียกติดปากว่า ทิปโท (กรวยแหลม) ซึ่งมีมากมายจริง ๆ ทำจากหลายวัสดุ ยาง อลูมิเนียม พลาสติก ไม้ ฯลฯ มีหลายรูปทรง บางแบรนด์ก็ออกแบบให้มีการเคลื่อนไหวได้ (ผ่านลูกปืนทรงกลม-ซึ่งแน่นอนว่ายังจำแนกลูกปืนออกได้หลายชนิด เช่น เหล็ก-เซรามิค-ทังสเตน ฯลฯ ซึ่งจะให้เสียงต่างกัน รวมถึงราคาที่ต่างกันด้วย) บางยี่ห้อผสมกันหลายวัสดุ ทำเป็นแยกชิ้น 4-5 ชิ้นมาประกอบกันเพื่อปรุงแต่งเสียง โดยทำให้มันยุ่งยากวุ่นวายในการออกแบบเพื่อให้ดูแพง ๆ แต่ได้ผลจริงหรือเพียงแค่อัพราคา? ต้องลองเล่นดู
ผมไม่กล้าบอกว่า ลูกละ 3 พัน (ชุด 4 ชิ้น 12,000 บาท) นั้นถูกหรือแพง เพราะเม็ดเงินแต่ละคนไม่เท่ากัน ราคานี้บางคนว่าแพง ซื้อไม่ไหว หรือซื้อได้แค่ 1 เซ็ท ขณะที่บางคนว่าถูก มีเครื่อง 8 ตัว สามารถซื้อใส่ “ทุกเครื่อง” รวมแล้ว 8×12000=96,000 บาท!! (เกือบแสน!!) แล้วยังยิ้มได้ ถ้ามีเครื่องมาเพิ่มอีก 2 เครื่อง ก็ซื้อตัวรองอีก 2 เซ็ท เงินยังเหลือ บอกสบาย ๆ… เห็นไหมครับ 2 เคสนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
![](https://www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/DSC_8057__85323.1499056524.800.800-2.jpg)
ถ้าไม่นับเรื่องเงินที่ไม่อั้น การซื้อตัวรองนี้ บางทีมีทริคง่าย ๆ ใช้สัก 2 ชุดก็เหมาะสมแล้ว แต่ถ้าเกรงใจร้านหรือโดนยัด โดนบังคับซื้อเพิ่มในชุดที่ 3-8 นั้น..เสียงมันไม่ได้ทวีคูณตามเงินไปด้วยแน่นอน ใส่ 1-2 เซ็ทแรกได้ผลดีชัดเจนแน่ ส่วนชุด 3-8 ไม่ใช่ไม่ดีแต่มันจะฟังความต่างได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งชุดที่ 6-8 บางทีต้องวัดกันด้วยแผ่นเฉพาะ แทรคเฉพาะ ลงไปถึงวินาทีนั้น!!! กันเลย เช่น ฟังความกังวานที่ทอดตัวยาวขึ้นกว่าปกติ “เสี้ยววินาที” แต่จ่ายเงินรวมแสน…
ถ้าเล็งไปถึงจุดนี้คือ อยากจะบอกว่าต้องดู “อุปกรณ์หลัก” ด้วยว่าอยู่ระดับไหน ไม่ใช่ซีดีตัวละ 15,000 / DAC ตัวละ 20,000 / ปรีตัวละ 20,000 จะไปใส่ตัวรองเซ็ทละ 12,000 บาทx3= 36,000 บาท แล้ว เอาเงินนี้ไปอัพซีดี / DAC / ปรี น่าจะคุ้มกว่า? จริงอยู่ว่าอุปกรณ์เสริมนี้ซื้อแล้วใช้ได้ตลอด แต่ว่าไม่จำเป็นต้องใส่ให้ “ทุกตัว” ละครับ เพราะอะไรก็ย้อนกลับไปอ่านย่อหน้าบนแบบละเอียดครับ
![](https://i1.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/isonoe-isolation-feet-black.jpg?ssl=1)
![](https://i1.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/unnamed-1-2.jpg?ssl=1)
![](https://i2.wp.com/www.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2020/11/mgb_1.jpg?ssl=1)
ตัวรองที่เคลื่อนไหวได้ ถ้าให้ผมเลือก ผมจะใช้กับเครื่องเล่นต้นทาง เพื่อให้เครื่องลอยกลางอากาศ ลดทอนการสั่นต่าง ๆ ที่จะเข้าไปสู่เครื่อง ส่วนลำโพงผมชอบแบบตัวรองที่ไม่มีการเคลื่อนไหวครับ ลองนึกดูถ้าคุณออกแรงปาก้อนหินบนพื้นที่ยวบยาบคุณจะปาไปได้ไกลไหม?
บางทีคนก็หลงไปกับกระแส กลไกการตลาด แรงเชียร์ต่าง ๆ ทำให้ลืมตัวไปบ้าง นี่คิดแค่เซ็ทละ 12,000 บาทเท่านั้นนะครับ ผลลัพธ์เรื่องราคายัง “น่าตกใจ” ถ้าเป็นเซ็ทละ 30,000 บาทละครับ วางไว้ลูกเอาไปกลิ้งเล่น เมียเผลอเอาไปทิ้ง สะดุ้งแน่ … ถ้าสั่งซื้อมา 8 เซ็ท 2 แสนฝ่า ๆ เอื้อก ครึ่งหนึ่งของรถอีโคคาร์นั่นเทียว ดีแน่แต่ไม่น่าจะคุ้ม…ส่วนร้านค้ายิ้มพุงปริแทบจะปิดร้านฉลองยอดขายเลยละครับ
สูงสุดคืนสู่สามัญ ขอยกตัวอย่าง บล๊อกไม้ Cardas ออกแบบเรียบง่าย เป็นก้อนไม้ชิ้นเดียว ไม่ต้องมีอะไรผสม ไม่มีลูกปืน ราคาไม่แพงก้อนละไม่กี่ร้อยบาท จะใช้ 3 หรือ 4 ก้อนก็ตามสะดวก ได้ผลดีขึ้นแน่นอน แบบนี้จะดีกว่าไหมครับ
หวังว่าจะได้แง่มุมการซื้ออุปกรณ์เสริมบ้างในแง่การรองใต้เครื่องที่ลองยังไงไม่ให้เป็นรอง (พ่อค้า) ซึ่งควรจะยึดหลักความเหมาะสมเป็นสำคัญ ขอให้สนุกกับการเล่น โชคดีครับ