Garoonchart Bukkavesa
ผมได้เขียนบทความชิ้นนี้เมื่อเดือนกรกฏาคม พ.ศ.2562 เรียกว่า 2 ปีก่อนเพื่อเตือนสติ ผ่านมาถึงวันนี้อีก 2 ปีดูเหมือนไม่มีอะไรดีขึ้น ยังโดนหลอกกันอยู่ ล่าสุดน่าจะมี 2-3 เคส เลยขอถือโอกาสนี้ลงซ้ำและอัพเดตข้อมูลให้ทราบกันอีกครั้ง ฝากแชร์ไปให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มต่าง ๆ ด้วยนะครับ วงการจะได้น่าอยู่กว่านี้
ในมุมนักเล่นเมื่อเล่นเครื่องเสียงแบบมือ 1 มาสักพักแล้วอยากจะขยับขยาย ก็ต้องปล่อยขายของเดิมในแบบเป็นเครื่องมือ 2 ซึ่งมีทั้งเทรดกับร้านค้าโดยตรงหรือลงขายเอง
ส่วนมากจะเป็นลงขายเอง ซึ่งจะได้ราคาที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่าแต่ก็วุ่นวายเรื่องการลงขาย / การติดต่อนัดหมายต่าง ๆ เหมือนกันจนบางคนรำคาญ (ผมเคยเจอกับตัว 2 ครั้ง ครั้งแรกไปซื้อแผ่นซับเสียง พอไปถึงเจ้าของบอกให้เอาไปทั้งหมดจ่ายเพิ่มอีกนิด เขาจะได้ลบโพสต์ไม่งั้นเขาต้องคอยรับโทรศัพท์ตลอดวันเพื่อตอบคำถาม!!)
เคสที่ 2 คือซื้อสายไฟเอซี หลังจากถามข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว เจ้าของถามว่าจะซื้อจริง ๆ แน่นะ เพราะราคาก็เกือบ 2 หมื่น! แถมลดไม่ได้แล้ว ไม่อยากมาดูเล่น ๆ เสียเวลา ก่อนหน้ามีคนโทรมาต่อราคามากมาย ผมตอบไปให้คนขายมั่นใจว่า ถ้า “สภาพสวย” ผมรับราคานั้นได้ทันทีครับ!!
ย้อนกลับไปสมัย 8 ปีก่อน ใครจะลงขายเครื่องเสียงมือ 2 ในเว๊บไซด์เฉพาะทางจะต้องสมัครสมาชิก ต้องเสียเงินเพื่อการันตีตัวตน ยามที่เกิดปัญหาขึ้นแอดมินเว๊บจะได้เคลียร์ถูก เพราะเขาจะรู้ว่าใครเป็นใคร หรืออยู่ที่ไหน ตามตัวยังไง? ซึ่งลดปัญหาการฉ้อโกงไปได้พอสมควร
ไม่นานเฟสบุ๊คได้เข้ามากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เริ่มมีการลงค้าขายได้ เรียกว่า Marketplace ตอนแรกอาจไม่บูม แต่เมื่อผู้คนเริ่มมากขึ้น นั่นหมายถึงโอกาสในการ “ขาย” มากขึ้นตามลำดับ ลงทีคนเห็นมากมาย ทำให้มีคนตั้งกลุ่มค้าขาย “เครื่องเสียง” มากมาย เฉพาะประเทศไทยผมไม่แน่ใจว่ามีทั้งหมดกี่กลุ่ม แต่ที่ผมเป็นสมาชิก มีอยู่ราว 5 กลุ่มด้วยกัน ไม่นับกลุ่มที่เน้นพูดคุย เช่น กลุ่มแชร์ความรู้เครื่องเสียง What Hi-Fi Thailand? เป็นต้น ผมอยู่ในกลุ่มที่เน้นพูดคุยแบบนี้อีก 8-9 กลุ่มด้วยกัน เรียกว่าจำกันไม่หวาดไหวเหมือนกันครับ
นอกจากเครื่องเสียงก็อยู่ในกลุ่ม “ของเล่น” ด้วย เฉพาะที่เป็นกลุ่ม “ซื้อ/ขาย” ผมอยู่ 4 กลุ่ม กลุ่มเน้นโชว์อีกน่าจะ 3-4 กลุ่ม รวมหมวดของเล่นนี่ก็ 7-8 กลุ่ม ยังครับยังไม่หมด…
เรียกว่า ถ้ามีเครื่องเสียงน่าสนใจลงขาย ต้องใช้เวลาหาข้อมูลของตัวนั้น ๆ อีก เพื่อประมวลผลว่าจะสอยดีหรือไม่?
ในกลุ่มซื้อขายเครื่องเสียง เมื่อมีสินค้ามาขายกันมากมาย แม้จะแยกกลุ่มชัด ๆ ระบุไฮเอนด์ แต่ก็มีการลงขายมินิคอมโปบ้าน ๆ ไม่กี่พันบาทซะงั้น!! ขณะที่บางคนก็เป็นคนเล่นจริง ร้อนเงินก็มาขาย เบื่อแล้วขาย พังแล้วซ่อมมาขาย เสียขี้เกียจซ่อมก็มาขาย อัพเกรดเป็นรุ่นใหญ่ก็เอารุ่นเล็กมาขาย ฯลฯ
นอกจากนี้ก็มี “พ่อค้า” ที่เข้ามาขายด้วยเช่นกัน ฯลฯ เรียกกว่ามีทั้งขาจร ขาประจำ ล้วนทำให้มีความคึกคักในส่วนผู้ซื้อที่รอคอย “ของถูก” !!
ซึ่งบางคนก็ว่า “ไม่มีจริง ไม่ถูกจริง” ฯลฯ
ขณะที่กลุ่มเครื่องเสียงทางเฟสบุ๊ค จะให้ผมสรุปว่ามีของดีจริง ๆ ก็คงตอบไม่ได้ถ้าไม่ได้ลองซื้อด้วยตนเองจริง ๆ (งานเขียนทุกชิ้นผมจะลองเองทั้งหมด เพื่อให้ได้ประสบการณ์จริง!! ไม่มีลอกใคร ก๊อปใครครับ) ในชีวิตจริงกลับโดนก๊อปงานเขียนเป็นหลัก ล่าสุดคือผลการฟังแผ่นเสียงชุดใหม่ที่จะขายอัลบั้มหนึ่ง)
หรือจะให้สรุปว่า “ไม่มีของดี” เลย…อย่าไปสนใจ ผมคงสรุปแบบนั้นไม่ได้ เพราะหากยังไม่ได้ลองซื้ออะไรเลย ไม่โดนเอง ฯลฯ มันอาจจะมี “เพชรในตม” รอคุณอยู่ก็เป็นได้
ผมใช้เวลา 2-3 ปี ศึกษา เล็ง แอบส่อง สังเกตการณ์ในกลุ่มเครื่องเสียงมาจนพอมีข้อมูลระดับหนึ่ง (เห็นไหมครับ สำหรับการเขียนคอนเทนต์เรื่องนี้ บางทีต้องใช้เวลาถึง 2-3 ปี และยังไม่นับเรื่องการเสียเงินที่จะลองซื้ออะไรบางอย่าง-ไม่ง่ายเลย)
สิ่งที่เป็นปัญหาคือ คนเล่นเครื่องเสียงมักจะอยู่ทุกกลุ่ม เวลาขายก็ลงพร้อมกันหมด อย่างผมอยู่ 5 กลุ่ม จะเห็นสินค้าเดียวกันลงทั้ง 5 กลุ่ม ซึ่งมันไม่ได้มีแค่คนเดียว กลายเป็นว่าทุกคนเวลาลงก็ลงหมด 5 กลุ่ม โพสต์มันจะซ้ำ ๆ เวลาไล่ดูแต่ละกลุ่ม คล้าย ๆ หว่านแหให้ครอบคลุมคนเยอะ ๆ ไว้ก่อน แต่เวลาจะซื้อเจอโพสต์แบบเดียวกันทั้ง 5 กลุ่มมันก็จะเซ็งๆ ว่าไม่มีอะไรใหม่เลย…
ปัญหาต่อมา คือ หากมีปัญหาการซื้อขาย แทนที่จะแจ้งเบาะแสให้แอดมินทราบเพื่อไกล่เกลี่ย กลับเอามาโพสต์ถามว่ารู้จักคนนี้ไหม? แต่แทนที่พบเจอเบาะแส กลับมีแต่คนมาด่าให้เอาเรื่องคนขายหนัก ๆ ซึ่งผมเห็นด้วย แต่คุณยังไม่รู้เลยว่าคนขายโกงจริงไหม? เพียงแค่เห็นที่คุยกับเป็นตัวอักษรที่แคปมาโชว์ (ซึ่งอาจมีการตัดต่อได้) บางคนกลับมาเยาะเย้ยผู้ซื้อว่าเห็นแก่ของถูก….เกิดดราม่าด่ากันไปมา 1-2xx กระทู้ซะงั้น สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ!! ไม่สามารถหาเบาะแสของคนขายได้ แถมเสียความรู้สึกกันระหว่างสมาชิกในกลุ่มอีกต่างหาก
ทำไมปัญหาถึงเกิด นั่นเพราะว่าการเป็นมนุษย์ย่อมมี “กิเลส” มีความอยากได้ ทำให้มีการซื้อ การจองเกิดขึ้นในที่สุด ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหาตามมานั่นเอง ถ้าเราดูอย่างเดียว ดูเพลิน ๆ ปัญหาคงไม่เกิดแน่นอน
ปัญหายอดนิยมที่พบเจอ มีดังนี้
1. โอนไปแล้วบล๊อคชื่อผู้โอน เพื่อเชิดเงินหนีนั่นเอง คนซื้อจะไม่สามารถติดต่อกับคนขายได้อีกแล้ว ซึ่งบอกเลยว่าถ้าเป็นแบบนี้คือ สูญเงินฟรี ๆ แต่ตัวโจรยังคงลอยนวลขายต่อไปได้
2. โอนไปแล้วปิดเฟสหนีไป พวกนี้ก็ใช้ชื่อปลอม ๆ รูปปลอม ประวัติปลอม ๆ เหมือนเจตนาจะหลอกอยู่แล้ว ยิ่งตามตัวยากกว่าแบบแรก
3. โอนไปแล้วไม่ยอมส่งของ อันนี้ไม่บล๊อคไม่ปิดไม่หนี… แต่ไม่ส่งของซะงั้น แต่มีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะปิดหนีหรือบล๊อคมากกว่า
4. โอนไปแล้วส่งอย่างอื่นให้มา เคยเห็นพวกสั่งมือถือแล้วส่งเป็นพริกหรือก้อนหินมา ยังไม่เคยเจอสั่งเครื่องเสียงหรือลำโพงแล้วได้ก้อนหินมานะครับ อันนี้แบบไม่ตรงปก คนเล่นAV รู้ดี กว่าจะรู้ก็สายไป ทักไปก็หายตัวไปแล้ว…
5. โอนแล้วส่งของคนละรุ่นมา สั่งรุ่นใหญ่แต่ส่งรุ่นเล็กมาซะงั้น ถ้าคุยรู้เรื่องต้องเสียเวลาส่งหรือนัดหมายกันอีกรอบ ดีไม่ดีทะเลาะกันอีกหรือบล๊อค / ปิดเฟสหนีอีก
6. โอนแล้วส่งของไม่ตรงสภาพมา ในรูป พยายามไม่บอกตำหนิ สภาพเยี่ยม ถ่ายมุมหลีกเลี่ยงตำหนิ แล้วลงรายละเอียดว่าสภาพสวย แต่ถ้าหลงเชื่อ ซื้อมาแกะกล่องแล้วนี่ แทบจะร้องไห้ ซึ่งดูเหมือนเป็นเคสล่าสุดที่เห็นคือ ได้ลำโพงโดนน้ำตู้บวม ๆ มาข้างนึง เพลียแทน
7. โอนแล้วได้ของปลอมมา เวลาถ่ายรูปเอาของแท้มาถ่าย หรือไปยืมจากเน๊ตมา พอมีคนสั่งซื้อก็ส่ง “ของปลอม” ไปให้ ซึ่งบางคนอาจรู้ก็เป็นเรื่องเลย หรือบางคนไม่รู้ก็ใช้ ๆ กันไป
เรียกว่าปัญหาประมาณ 7 ข้อนี้ที่มักจะเกิดขึ้นเสมอ
นอกเหนือจากนี้ที่เคยพบเจอคือ ส่งมาจริง แต่แพ็คมาไม่ดี หรือใส่กล่องขนาดเล็กเกินไป ต้องพับหรืองอแพคเกจสินค้า ซึ่งประเด็นนี้เกิดแล้วเคลียร์ลำบาก…เพราะไม่ได้โกงใด ๆ แต่สินค้าเสียหายไปแล้ว ไม่รู้จะเคลียร์กันลงอย่างไร
ได้เวลาเอาตัวเองเป็นหนูทดลองแล้ว ผมสั่งซื้อซึ่งในตอนแรกจะไม่รู้จักกันเลย ในกลุ่มของเล่น ลองดู ครับ ว่าคนนี้ผมเองก็ไม่ได้ไปสืบค้นนะบ้านอยู่ไหน ทำงานอะไร คือ เห็นลงขายบ่อย ๆ ก็ซื้อกับเขาเลย คิดว่าน่าจะไว้ใจได้ ซึ่งตลอด 3-5 ปีเคยเจอปัญหาอยู่ 2 เคส ซึ่งเคสแรกส่งมาแต่ห่อรถเหล็กแค่ตัวแผ่นกันกระแทกเฉย ๆ ไม่ติดเทปแม้แต่น้อย หยิบกล่องมานี้ดังกุกกัก ๆ ใจงี้หายวาบเลย เพราะตัวรถที่สิ่งเป็นรถเก่า ผลิตที่อังกฤษ ซึ่งปัจจุบันไม่มีผลิตแล้ว ยังดีที่เปิดมาไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าผม “โชคดี”
อีกเคส ฝากเขาซื้อรถเหล็ก ผลิตวาระพิเศษ สั่งมา 3 กล่อง ราคาเอาเรื่อง แต่คิดว่าซื้อเองไม่ได้ พอแพคส่งมาพบว่ามีกล่องนึงเขางอแพคเกจเพื่อให้ยัดลงกล่องได้!! ผมเองขี้เกียจส่งคืน เลยได้สอบถามไปได้รับกลับมาแค่คำ “ขอโทษ” จริง ๆ น่าจะเสนอเป็นส่วนลดมาเพื่อโชว์ความรับผิดชอบ
ที่เหลือน่าจะสั่งราว ๆ 50 ครั้ง ไม่มีปัญหาใด ๆ เลย ขณะที่ของคนอื่นส่วนที่เป็นเคสปัญหา ซึ่งเป็นทำนองรับโอนเงินแล้วชิ่งหนี!! ผมเองไม่เข้าใจเหมือนกัน ของเล่นชิ้นนั้นแค่หลัก 1-2xx บาท ก็ยังโดนโกง..แต่อัพเดตล่าสุดเจอกล่องนึงผมแกะมาแล้วไม่มี “รถ” อยู่ข้างใน สั่งนานแล้วคงไม่มีประโยชน์ที่จะทวงถาม โดนไปเต็ม ๆ
มาถึงการสั่งซื้อในกลุ่มเครื่องเสียง ถ้าเป็นเครื่องหรือลำโพง ผมจะสั่งกับร้านที่วางใจได้เป็นหลักครับ เราอาจไม่ได้ของถูกที่สุดแต่อย่างน้อยมั่นใจได้ว่าได้ของแท้ และส่งถึงมือ ไม่สูญเงินฟรีแน่ แนะนำควรยึดคตินี้นะครับด้วยความปรารถนาดี!!
คิดว่าพวกมิจชาชีพอาศัยจุดอ่อนดังนี้
- ความอยากได้ของเรามาล่อนั้นเอง โพสต์สิ่งที่เราอยากได้อยู่แล้ว โอนปุ๊ปโดนปั๊ป
- ความหายาก ของบางอย่างเล่นมา 2-4 ปีไม่เคยเห็นมือ 2 เห็นออกมาขาย เรากะว่าสอยได้ของดีกลับโดนเลย
- ความยอดนิยม เครื่องหาไม่ยากแต่ด้วยใคร ๆ ก็ใช้กัน คนไม่มีก็อยากลองใช้บ้าง สั่ง=โดนเล่นทันที
- ใช้การบรรยายที่เลิศหรูแต่สินค้าจริงเป็นของเกรดต่ำ ถ้าไม่เคยเล่นอ่านข้อความเข้าไปนี่เหมือนต้องมนต์ เช่น ….ของหายากนาน ๆ จะมาสักที / สภาพนางฟ้า ฯลฯ มือใหม่อ่านแล้วก็สั่งซื้อ…งานเข้าซิครับ
- ความถูก อันนี้ประเด็น “ใหญ่” ฮอตฮิต การตั้งราคาถูกกว่าของใหม่ 50-70% กะว่าได้ของถูกแน่ ๆ หรือซื้อมาใช้สักพักขายต่อก็คุ้ม…ที่ไหนได้ มีสิทธิ “โดน” ซึ่งเคสเรื่องความถูกนี้ชัดเจน ใคร ๆ ก็อยากได้ของถูก ลำพังของหมื่นนึง ลงขายสองพันก็เสียว ๆ แล้ว เคสล่าสุด กล่อง Android ปกติพันต้น อันนี้ 350 บาท…นึกไม่ถึงเลย มุมคนซื้อคือได้ของคุ้มราคา แต่อันนี้คือ 350 บาทก็โกงกันได้!!
จริง ๆ ถ้าเป็นเครื่องเสียงชิ้นใหญ่หรือราคาแพง การไปดูด้วยตนเองดีที่สุดครับ ชอบก็สอย ไม่ชอบก็ถอยมาตั้งหลัก ลดการโกงได้ดีที่สุด
ดังนั้นการซื้อของกับพ่อค้าหรือคนขายที่มีเครดิตดี ย่อมการันตีได้ดีที่สุดครับ
ส่วนถ้าเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ เช่น สายไฟ สายสัญญาณ แผ่นซีดี ถ้าเป็นการติดต่อครั้งแรก ควรคุยอินบล๊อคแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีอย่ารีบร้อนจากเหตุผลที่กล่าวมา อาจเป็นสาเหตุได้ ถ้าคุยกันได้ดีก็คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาใด ๆ ครับ
ทริคสำหรับการซื้อของออนไลน์ให้ปลอดภัย พยายามขอดูรูปเพิ่ม เพื่อให้มั่นใจว่าอย่างน้อยเขาก็มีสินค้าอยู่จริง ส่วนจะส่งหรือไม่ส่ง สภาพตรงกับที่แจ้งไว้หรือไม่ ฯลฯ ก็ค่อยว่ากันอีกที แต่อย่างว่าบางทีไม่กี่ร้อยจะไปขอรูปนู่นนั่นนี่ก็แลดูวุ่นวาย ก็โอน ๆ กันไป วัดดวงกันไป
ผมเองที่เขียนมาได้ บางทีก็ทำใจนะ แบบ 50/50 เห็นปุ๊ปทักไป เสร็จแล้วโอนไปจะได้จบ ๆ ถ้าโดนก็ไม่กี่ร้อย
นอกจากนั้น ปัญหาอื่น ๆ ที่พบเจอบ้าง คือเป็นเรื่องการตั้งราคา บางทีเครื่องเก่า 10 ปี มือ 2 ตั้งราคาเท่ากับตอนที่วางจำหน่ายใหม่ ๆ เลยก็มี (มีเยอะเสียด้วย) เข้าใจนะครับว่าเป็นกลไกการตลาด แต่ส่วนมากมักจะใช้กับลำโพงหรือเครื่องที่เป็นตำนานจริง ๆ เท่านั้น
หรือบางทีไม่ลงรายละเอียดอะไรเลย ซึ่งต้องเดือดร้อนคนซื้อต้องอินบล๊อคไปสอบถามเอง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีเจตนาไม่สู้ดี หลัง ๆ ทางกฎหมายจึงต้องให้ระบุราคาที่ชัดเจน ซึ่งดูจะยังไม่ได้ผลมากนัก
ผมคงไม่สามารถการันตีได้ว่าต้องซื้อเป็นคนนี้คนนั้นเท่านั้น…แต่ให้ถือว่า ลองใช้ข้อสังเกตของผม ศึกษาเป็นแนวทางดู แล้วสนุกกับการไล่ล่าของแปลก ๆ ที่คุณอาจไม่เคยเห็น ไม่รู้มาก่อนว่ามี หรือราคาไม่แพง ฯลฯ มาลองฟังกันครับ
แต่สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดคือ เรามีบัญชีรายชื่อ “คนโกง” แต่ทำไมยังลอยนวล มาเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนประวัติ ก็โกงต่อได้อีก ตำรวจไม่ยอมติดตาม สิ่งนี้ทำให้คนขายที่ดี ตั้งใจ มีความรับผิดชอบ ฯลฯ โดนหางเลยไปด้วย คนไม่อยากซื้อ ไม่อยากยุ่ง ค้าขายลำบาก ครั้นจะซื้อจริงก็ต้องขอหลักฐานแบบละเอียดยิบ วุ่นวายกันไปหมด วงการจะมีแต่เสื่อมลงครับแบบนี้
มีข้อเสนอแนะ / คิดเห็นอย่างไร สามารถแจ้งมาทางอินบล๊อคเฟสบุ๊ค Garoonchart Bukkavesa ได้เสมอครับ **รูปที่ใช้ประกอบนั้น เจตนาเพื่อใช้ประกอบบทความเท่านั้น ไม่ได้เจตนาว่าหมายถึงสินค้า / ผู้ขายรายนั้นปฏิบัติตัวไม่ดีนะครับ**