เรื่องของห้องฟัง กับ ลำโพง …เรื่องง่ายๆ ของการเซตอัพ แต่มักจะถูกทำให้ยากส์ (เข้าไว้)

0

ตอนที่ 1: ใช้เสียงของตัวคุณเอง ในการประเมินหาตำแหน่งตั้งวางลำโพงในห้องฟัง

ห้องทุกห้อง ไม่เฉพาะห้องฟังเพลง ล้วนมีปัจจัยจำเพาะเป็นของมันเอง การออกแบบต่างๆ แม้จะกำหนดค่าให้เหมือนกันทุกอย่าง สุดท้ายแล้วก็ไม่มีทางเหมือนกันเป๊ะๆ

…ฝาแฝดแทบจะเกิดตามกันในชั่วเสี้ยววินาที ยังมีนิสัยใจคอต่างกัน แม้ว่า รูปร่างหน้าตาจะละม้ายคล้ายกัน แทบจะแยกความต่างกันไม่ออก ยกเว้นพ่อ-แม่ที่เลี้ยงดูมา ฉันใดก็ฉันนั้น

ก็แล้วในเมื่อ ห้องทุกห้อง ไม่เฉพาะห้องฟังเพลง ล้วนมีปัจจัยจำเพาะเป็นของมันเอง แล้วจะมาใช้กฎเกณฑ์อะไรตายตัวในการกำหนดแนวทางตั้งวางลำโพงสำหรับทุกๆ ห้องฟัง เว้นแต่ว่า จะวางเป็นแผนผังการจัดวาง (configuration) อย่างคร่าวๆ ซึ่งโดยความเห็นส่วนตนของผมนั้นนั้นมองว่า การจะมาตีเส้นโน่นนี่นั่น สำหรับกำหนดค่าโน่นนี่นั่น มันเป็นการสร้างความขลัง ข่มขวัญผู้อื่น (โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้มากกว่า) เพื่อให้ตนเองดูดี มีวิทยาการ สร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งๆ ที่ก็รู้ดีว่า มันไม่มีหลักการอะไรที่ตายตัว

พูดมากไป ก็จะหาว่า ไปแขวะใคร ที่ตั้งตนเป็นอาจานอาชามด้านการเซตอัพลำโพง และกระทั่งเทรนนิ่งการฟังเพลง …แต่ผลลัพธ์การรับฟัง “ของจริงๆ” นั้น ก็เป็นที่รับรู้กัน แม้จะเป็นวงแคบๆ ณ เวลานี้ ทว่าความที่มิใช่ทองแท้ อีกไม่นานก็คงถึงวาระไปตามครรลอง …เอาเป็นว่า เราไม่ว่ากัน ปล่อยให้เวรกรรมตามธรรมชาติเป็นตัวจัดการไป ของพรรค์นี้ มันปิดไม่มิดครับ แม้จะใส่ชุดหนังวิชาการอำพรางให้ดูดี

…เดี๋ยวจะหาว่า ไปตำหนิติติงเขา ดังนั้นมาพูดถึง แนวทางของผมสำหรับการจัดการเซตอัพลำโพงกันดีกว่า ซึ่งสำหรับผม มันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนก็ทำได้ ไม่ต้องลงทุนจ้างใครมาเซตอัพลำโพงให้ เว้นแต่ว่า คุณจะไม่เชื่อมั่นในความเจ๋งของตัวคุณเอง หรืออยากจะลองของก็ว่าไป

ห้องทุกห้องนั้น แตกต่างกันที่มิติขนาด หรือ dimension จึงมีทั้งด้านกว้าง ด้านยาว และด้านสูง ดังนั้น volume หรือว่า ความจุของมวลอากาศในแต่ละห้องก็จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับด้านยาว x ด้านสูง x ด้านกว้างออกมาเป็นค่า “ปริมาตร” (volume) ของห้องนั้นๆ โดยยังไม่ต้องไปว่ากันถึงเรื่องของความหนาแน่นของมวลอากาศในสภาวะที่อุณหภูมิแตกต่างกัน ซึ่งเมื่อ “ปริมาตร” นั้นต่างกัน มันจึงเป็นเหตุผลสำคัญของการได้มาซึ่งเสียงที่ต่างกัน

ถ้าคุณเคยสังเกตห้องในบ้านของคุณเอง ห้องว่างเปล่า กับ ห้องที่มีของตั้งวางอยู่ ก็จะให้ความก้องกังวานของเสียงที่ต่างกัน เพราะมันเป็นเรื่องของฮาร์มอนิกเสียง (harmonic) มิใช่ค่าความถี่เสียงหลัก (fundamental) ที่เรากำหนดค่าขึ้นมา ทว่าในความเป็นจริงตามธรรมชาตินั้น ทั้งค่าความถี่เสียงหลัก (fundamental) และฮาร์มอนิกเสียง (harmonic) นั้นมันเป็นของควบคู่กันอย่างชนิดแยกไม่ออกเลยทีเดียว

เมื่อทั้งค่าความถี่เสียงหลัก (fundamental) และฮาร์มอนิกเสียง (harmonic) นั้นมันเป็นของควบคู่กันอย่างชนิดแยกไม่ออกเลยทีเดียว ดังนั้นการเซตอัพหาตำแหน่งตั้งวางลำโพงในแต่ละห้องนั้น มันจึงต้องเป็นเรื่องของ “ปัจเจก” หรือ individual มิใช่เหมาเข่งแบบว่าสูตรเดียวแล้วหากินได้กับทุกห้อง ขอแค่ตีเส้นตีตารางอ้างอิงวิชาการกันไป – มันมิใช่นะครับ ฯพณฯท่าน

สำหรับผมเองนั้น ยึดหลักของการฟัง – ฟังเสียงแท้จริงที่ห้องนั้นๆ ผลิต หรือ สร้างเสียงของตัวเองขึ้นมา เพราะเรารู้อยู่แล้วว่า ห้องแต่ละห้องนั้นจะมีเสียงของตัวมันเอง เจือแทรกมากับเสียงดนตรีที่รับฟัง …ห้องนั้นแม้จะมีเสียงของตัวมันเองก็จริง แต่อยู่ดีๆ จะให้ห้องปลดปล่อย หรือ สร้างเสียงขึ้นมาเองไม่ได้ ต้องอาศัยเสียงเพลงและดนตรีที่เราฟังนั้นเป็นตัวกระตุ้นให้ห้องนั้นๆ ปลดปล่อยเสียงของตัวมันเองออกมา

ดังนั้นเสียงของห้องจึงปะปน แทรกซ้อนมากับเสียงเพลงและดนตรี่ที่รับฟัง ตรงจุดนี้เองที่เรา-ท่านอาจจะพูดได้ว่า ฟังเพลงห้องนี้แล้วเสียงดีจัง นั่นเพราะเสียงแท้จริงที่ห้องนั้นๆ ผลิตขึ้นมา มันไปผสมผสาน คล้องจ้อง หรือ ลงตัวกับเสียงเพลงและดนตรีที่เรารับฟัง ก่อให้เกิดเป็นความกลมกลืน และกลมกล่อมจนเราฟังแล้วรู้สึกดี มีความน่าฟัง

ดังนั้นแนวทางสำคัญของผมต่อการเซตอัพตำแหน่งลำโพงในห้องฟัง จึงอยู่ที่ว่า เราต้องรับรู้ให้ได้ก่อนว่า ห้องนั้นปลดปล่อยเสียงเฉพาะตัวของมันให้เราฟังในลักษณะไหน ซึ่งสภาพทางอะคูสติกของห้องนั้น บวกกับเฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในห้องนั้น จะเป็นตัวกำหนดลักษณะเสียงเฉพาะตัวของห้องนั้นๆ ออกมา

ดังนั้นเราจึงต้องฟังและรับรู้ถึงลักษณะเสียงเฉพาะตัวของห้องนั้นๆ ให้ได้เสียก่อนในชั้นแรกสุด และเนื่องจากเรา-ท่านนั้นจะคุ้นชินกับเสียงของตัวเองอย่างที่สุด หลักการเริ่มแรกของผมก็คือ การใช้เสียงพูดของตัวเรานั่นเอง เป็นเครื่องมือที่เหมาะมากๆ ในการประเมินให้ได้ทราบถึงลักษณะเสียงเฉพาะตัวของห้องนั้นๆ …ใช่ครับ เราจะใช้เสียงพูด เสียงร้องเพลงของตัวเราเองนี่แหละ แล้วก็ค่อยๆ เดินไปตามตำแหน่งต่างๆ ของห้อง …พูดไปเรื่อย หรือ ร้องเพลงไปเรื่อยแล้วพยายามใช้หูของตัวคุณเอง ฟังแล้วจับลักษณะเสียงเฉพาะตัวของห้องนั้นๆ

ลักษณะเสียงที่รับรู้ได้ บอกอะไรเราได้บ้าง – เสียงของเราอิ่มฉ่ำฟังแล้วเป็นธรรมชาติไหม หรือว่า เสียงของเราอาจจะฟังดูแห้งแล้งซะเหลือเกิน หรือว่าเสียงของเราฟังแล้ว อวบใหญ่ หนานุ่ม …ลองฟังเสียงของตัวคุณเองที่เดินไปรอบห้อง แล้วทำการจำแนกแยกแยะว่า ตำแหน่งประมาณไหน ให้ผลลัพธ์ทางเสียงเป็นอย่างไร พยายามฝึกทำเยี่ยงนี้บ่อยๆ สมองจะสามารถรับรู้ได้ว่า ตำแหน่งคร่าวๆ ประมาณไหน จะปลดปล่อยเสียงออกมาเสริมกับน้ำเสียงจริงๆ ของแต่ละท่านเป็นอย่างไร

…เอาละนะครับ ผมบอกถึงปัจจัยเริ่มแรกของการเซตอัพตำแหน่งลำโพงในห้องฟังของคุณนั้นได้ด้วยตัวเอง – ในตอนถัดไป ผมก็จะมีเขียนถึงแนวทางของการจัดเซตอัพตำแหน่งลำโพงมีหลักการอะไรกันต่อไป รับรองไม่ได้ยากเย็นจนกระทั่งต้องมีการเก็บค่าวิชาในการเซตอัพลำโพงเลยแม้แต่น้อย โปรดติดตามครับ หลักการเซตอัพตำแหน่งลำโพงในห้องฟังด้วยเสียงธรรมชาติจากเสียงของคุณเอง มิใช่ต้องเสียงตังค์ให้เซียน หรือ อาจานอาชามมาเป็นตัวกำหนด จนกระทั่งว่า เวลาฟังต้องนั่งตัวตรงแหน๊ว มิอาจขยับตัวได้เลย แล้วมันจะฟังเพลงเพราะได้อย่างใด ก็โดนบังคับซะขนาดนั้น เราจะยอมเขาเหรอครับ หรือจะเซตอัพด้วยตัวเอง แล้วค่อยๆ เป็นปลื้มกับตัวเองไม่ดีกว่าเหรอครับ สตังค์ก็ไม่ต้องเสียให้เขา จ่ายให้เขาแล้วยังมาบังคับโน่นนี่นั่นอะไรกับเราอีกอะ