เปลี่ยนเสียงซีดีของคุณให้กลายเป็นเสียง LP ด้วยหม้อแปลงและตัวแปลง RIAA?

0

…เอาเป็นว่า แปลความตามที่เขาโพสต์กันก่อนนะครับ – ไม่มีการเรียบเรียงใหม่ใดๆ เอาเนื้อหาตามภาษาที่เขาสื่อไว้ ก็จะได้ประมาณว่า :-

เปลี่ยนเสียงซีดีของคุณให้กลายเป็นเสียงแผ่นเสียงด้วยหม้อแปลง และตัวแปลง RIAA ตัวแปลง RIAA คือ แผนผังที่แปลงสัญญาณปกติเป็นสัญญาณ RIAA แล้วทำไมเราถึงต้องเปลี่ยนสัญญาณปกติเป็นสัญญาณ RIAA แล้วต่อเข้ากับโฟโนสเตจ เพื่อให้สัญญาณกลับมาเป็นสัญญาณปกติและเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ล่ะ

ตัวแปลง RIAA จะทำให้สัญญาณลดลง -40db เพื่อให้มีระดับและเส้นโค้งเท่ากับสัญญาณ LP เมื่อสัญญาณ CD หรือสัญญาณดิจิทัลลดลง 40db สัญญาณนั้นเองจะเล็กมากและความเพี้ยนของสัญญาณดิจิทัลก็จะเล็กมากเช่นกัน หลังจากนั้น เมื่อสัญญาณที่แปลง RIAA ผ่านขั้นตอนโฟโน และการขยายภายในขั้นตอนโฟโนจะเป็นแบบอะนาลอก และทำให้เสียงจากซีดีหรือแหล่งดิจิทัลกลายเป็นแบบอะนาลอกมากขึ้น ซึ่งมีการบิดเบือนสัญญาณดิจิทัลแบบหยักต่ำ (Low Digital Jagged Distortion)

ข้อดี: เสียงที่ส่งออกมาจะใกล้เคียงกับเสียง LP มากขึ้น ไม่มีเสียงฮัมหรือเสียงรบกวนเหมือนเสียง LP หากจะเปรียบเทียบกับ DAC ที่ดีแล้ว จำเป็นต้องมีต้นทุนที่ต่ำกว่า

ข้อเสีย: คุณต้องมีเครื่องขยายเสียงโฟโนที่ดี ระบบจะซับซ้อนมากขึ้น

อ่านแล้วตีความตามท้องเรื่อง ก็น่าจะดี… แต่ทีนี้คนที่เขียนนี่ คงไม่ได้เข้าใจในการทำงานของ RIAA ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร? ทำไมถึงต้องใช้? ใช้เฉพาะเวลาที่เล่นแผ่นเสียงไหม? …เขาจึงเขียนออกมาแนวที่ว่านั้น

https://www.facebook.com/Otomon.Vintage/posts/pfbid02q5uBxyQnMqMJnF2fS1zFg3AoamrVkae5TSPruwJdad3M7rD1dLu9SKnHvLz7ZAwLl

ทีนี้ พอใครต่อใครที่เขาได้อ่านข้อความในโฟสต์ แล้วมีความรู้-ความเข้าใจใน RIAA ก็เลยทัวร์ลงกันไป …ขออธิบายสั้นๆ ก็ละกัน อันว่า ร่องแผ่นเสียงนั้น มันมีขีดจำกัดของมันอยู่ ไม่สามารถรองรับกับรอยขยักกว้างใหญ่ของคลื่นความถี่ต่ำได้ เพราะจะทำให้ร่องเสียงนั้น กว้างเกินไป จนไม่สามารถจัดร่องเสียงให้อยู่ใกล้กันได้ อย่างที่ต้องการ หรือ อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น RIAA ซึ่งถูกกำหนดเป็นบรรทัดฐานให้ต้องกระทำเหมือนกันทั้งโลก โดย Recording Industry Association of America จึงเข้ามาเป็นพระเอก ในการกำหนดมาตรฐานให้ “ตัด” (Cut) คลื่นความถี่ต่ำ-ออกไป แล้ว “ยก” (Boost) คลื่นความถี่สูง-ขึ้นมา (มากกว่าปกติ) ทำนองคล้ายๆ การอีควอไลซ์ ก่อนที่จะทำการตัดแผ่น จากนั้น RIAA ก็จะเข้ามาเป็นพระเอกอีกครั้ง ตอนเล่นกลับ (Playback) โดยจะทำหน้าที่ “คืนกลับ” (Reproduce) สัญญาณความถี่ต่ำที่ถูกเอาออกไปนั้น ใส่เข้ามาให้ถูกต้องตามบรรทัดฐาน พร้อมๆ กับการ “กด” (Depress) สัญญาณความถี่สูงที่ถูกยกระดับขึ้นนั้น ให้ลงมาอยู่ที่ระดับปกติ ตามรูปแบบสัญญาณเดียวกับก่อนที่จะทำการอีควอไลซ์

ดังนั้น การนำเอาสัญญาณใดๆ อย่างที่ต้นโพสต์ระบุไว้ ไปผ่าน RIAA จึงไม่ถูกต้อง… และจะไม่ทำให้ซีดีฟังดูเหมือนไวนิลโดยการใช้ RIAA อย่างแน่นอน เพราะ RIAA จะเปลี่ยนการตอบสนองความถี่ของซีดีที่เล่นผ่าน กลายเป็นความผิดเพี้ยน-บิดเบือนทางเสียงที่ปรากฏชัด มิใช่รูปแบบเสียงอย่างที่ควรจะเป็นเวลารับฟัง

…จึงมิใช่เรื่องน่าแปลกที่จะมีความคิดเห็นต่างๆ เข้าไปกระหน่ำทัวร์โพสต์ดังกล่าว บางคอมเมนต์ถึงขนาดบอกว่า ควรโพสต์สิ่งนี้ในวันที่ 1 เมษายน นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้มันสมเหตุสมผล หรือกระทั่งบางคนก็ว่า นี่เป็นความคิดที่โง่เขลาที่สุดที่เคยเห็นมา แต่ก็อะนะ อาจเป็นเพราะความคิดบรรเจิด แต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์

____________________________________