Dawn Nathong
“ส่วนใหญ่มาจากปัญหาข้อจำกัดในชีวิตประจำวันของนักฟังเพลง ถ้าอยากได้ลำโพงเสียงดีต้องจ่ายแพง ราคาที่สูง ต้องมีการจัดการกับ Acoustic ห้อง การหาพื้นที่สำหรับวางเครื่องเสียง สิ่งเหล่านี้ผู้คนนับพันนับหมื่นพบเจอแทบทุกคน Tombo Audio R1 Speaker จึงมาเพื่อทำลายและก้าวข้ามปัญหาเหล่านี้ไป แล้วให้ทุกคนมีชุดเครื่องเสียงที่เสียงดีฟังในบ้านจะฟังคนเดียวหรือฟังด้วยกันทั้งบ้านก็จะยิ่งดี”
ข้อความข้างต้นคือไอเดียของเฮียฉ่าง ผู้ออกแบบลำโพงรุ่น R1 ที่ต้องการสร้างลำโพงซึ่งเป็นมิตรกับห้องฟัง มีดีไซน์สวยงามเข้ากันได้กับสไตล์การแต่งห้องที่หลากหลาย และที่สำคัญคือเรื่องของคุณภาพเสียงระดับไฮเพอร์ฟอร์มานซ์ ที่สามารถตอบโจทย์การฟังเพลงได้ทุกรูปแบบ และมีราคาที่จับต้องได้ ดูจากโจทย์ที่ตั้งก็ถือว่าเป็นงานหินไม่น้อย
ส่วนตัวผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตสินค้าแบรนด์ Tombo Audio ได้เห็นขั้นตอนการผลิตของลำโพงรุ่น R1 ที่มีความละเอียดพิถีพิถันแบบงานแฮนด์เมด ซึ่งต้องบอกว่ามีการใส่ใจในทุกรายละเอียดจริง ๆ ยกตัวอย่างเช่น การใช้ตู้ไม้จริง การคัดเลือกเนื้อไม้ ที่ต้องพิจารณาลงไปถึง “ลายเสี้ยนไม้” ว่าส่งผลต่อเสียงอย่างไร การขัดผิวตู้ด้วยมือ การทำสีงานพ่นระดับทำสีตัวถังรถยนต์ ไม่ได้ใช้วิเนียร์ ทำให้มีทั้งความสวยงามและคงทน แค่บางส่วนที่หยิบยกมานี่ ก็ทำให้ R1 มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่น่าสนใจ เทียบกับค่าตัวของลำโพง แค่ค่างานตู้ระดับเฟอร์นิเจอร์เกรดก็หายากแล้ว สุดท้ายคือการฟังทดสอบจูนเสียงด้วยหูอย่างละเอียด
รายละเอียดที่น่าสนใจ
ลำโพง R1 มีดีไซน์แบบ Modern Retro คือมีความร่วมสมัยเข้ากันได้ทับทุกสไตล์การแต่งบ้าน โครงสร้างตู้นั้นใหญ่และมีน้ำหนักมากเนื่องจากเป็นตู้ไม้จริง ซึ่งดีในเรื่องความนิ่งของเสียง และปริมาตรตู้ที่มากนั้นทำให้สามารถจูนการตอบสนองย่านความถี่ต่ำได้ลึกตามต้องการ ที่แหวกแนวไม่เหมือนใครคือการเลือกใช้ไดร์เวอร์ที่เป็นลำโพง Ceiling ซึ่งสามารถปรับองศามุมกระจายเสียงได้อย่างอิสระ
ตัววูฟเฟอร์เป็นกรวย Kevlar ขอบยางขนาด 5.25 นิ้ว ตรงกลางจะมีทวีตเตอร์โดมผ้าใหมซึ่งปิดทับด้วยไดอะแฟรมอลูมิเนียมขนาด 1 นิ้ว แม่เหล็กนีโอไดเมียม ซึ่งทั้งสองมีแกนร่วมเดียวกัน แต่สามารถปรับมุมองศาแยกกันได้อย่างอิสระ นองจากนี้ยังมีสวิตช์ปรับชดเชยการตอบสนองย่านความถี่สูงและเบสได้อีก 3 ระดับ (+-3dB) ตัวไดร์เวอร์ติดตั้งบนส่วนบนของตู้ลำโพง มีแผงแบพเฟิ่ลไม้เนื้อแข็ง (ไม้ campus) ซึ่งนอกจากสีสวยแล้วยังมีผลด้านอะคูสติกส์ คือให้ฮาร์โมนิกของเสียงที่ไพเราะ ช่องลำโพงมีการทำปากฮอร์นตื้น ๆ ด้วยเครื่องตัด CNC เพื่อควบคุมมุมกระจายเสียงของตัวไดร์เวอร์ให้มีความเข้มตามต้องการ ตัวตู้และส่วนของแผงหน้านั้นสามารถสั่งทำสีคัสต้อมเมดได้ตามชอบ แต่ตู้มาตรฐานจะมีให้เลือก 3 สี เทาดำ, แดง, ขาว (ทำสีผิวไม้แผงหน้าต่างกัน) ขั้วต่อสายลำโพงไบดิ้งโพสต์แบบซิงเกิ้ลไวร์
ภายในมีเทคนิคการจูนเสียงที่น่าสนใจ คือมีการกั้นห้องแยกระหว่างส่วนบนที่ติดตั้งไดรเวอร์ จูนเสียงให้ดอกทำงานกระชับฉับไว (คล้ายตู้ปิด) และเจาะท่อพอร์ตระบายเบสคู่ลงมายังตู้ส่วนล่าง (มีท่อพอร์ตออกด้านหลัง) ตรงนี้จะเป็นการเลือกปรับจูนการตอบสนองความถี่ให้ได้สเปกที่ต้องการ ซึ่งจากตัวเลข Frequency Response ย่านเบสที่ออกมาเกินตัวทีเดียวคือ 50Hz
ต้องบอกว่าโปรดัคส์แต่ละชิ้นของ Tombo มีการทำวิจัยอย่างรอบด้าน ก่อนจะพัฒนาออกมาเป็นลำโพง R1 ตัวผลิตจริง มีการทดลองนำลำโพงต้นแบบไปจัดวางในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีทั้งสภาพอคูสติกส์และดีไซน์การตกแต่งที่แตกต่างกันกว่า 30-40 แห่ง เช่น ลอบบี้โรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงในห้องฟังเพลง ห้องรับแขก เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถเข้ากับทุกไลฟสไตล์ได้อย่างแท้จริง
Specification
Woofer Size | 5.25 inches |
Woofer | Pivoting and Rotating 5.25 inches Kevlar cone with rubber surround |
Tweeter | Pivoting 24mm aluminum diaphragm with silk,NE magnet |
Frequency Response. | 50Hz – 20kHz |
Impedance | 8 (Ohms) |
Switches | Front-Mounted Bass & Treble Equalization Switches |
Crossover | 2.8 kHZs |
Dimensions | 20.5 x 11cm |
Hole Cutout Dimensions | 17.5cm |
กว้าง * ยาว * สูง | 31.0 x 18.0 x 55.0 cm |
น้ำหนัก | 10.2 KG |
การเซ็ตอัพ
พื้นฐานของ R1 เป็นลำโพงที่จัดวางง่ายไม่เกี่ยงสภาพอคูสติกส์ แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่ว่าจะเป็นลำโพงแบบใดก็คือความมั่นคงในการจัดวาง เฮียฉ่างจึงได้ดีไซน์ขาตั้งลำโพงไม้มาเข้าคู่กัน (มีออพชั่นเสริมเป็น Magic Spike) ซึ่งเมื่อจัดวางแล้วจะช่วยยกลอยลำโพงหนีพื้นขึ้นมาราว ๆ 20 ซ.ม. และตัวลำโพงจะเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย คล้าย ๆ กับขาตั้งของลำโพง JBL Classic ซีรียส์ เมื่อนั่งฟังในระนาบปกติ เวทีเสียงจะลอยสูงในระดับที่พอดี
ลำโพงคู่นี้สามารถจัดวางได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะวางชิดผนังหรือหนีห่างผนังออกมามาก ๆ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งนั่งฟังเป็นหลัก คร่าว ๆ คือเป็นลักษณะสามเหลี่ยมหน้าจั่ว (ระยะห่างของลำโพงคูณ 1.5) ส่วนระยะห่างระหว่างลำโพงทั้งสองข้างสามารถวางได้ตั้งแต่ราว ๆ 130 – 150 ซ.ม. กำลังสวย ได้ความเข้มข้นของตัวเสียงกำลังดี ในกรณีที่จำเป็นต้องจัดวางในระยะที่แตกต่างไปจากนี้ จึงค่อยอาศัยการปรับมุมเอียงของทวีตเตอร์และวูฟเฟอร์เข้ามาช่วยอีกที ยกตัวอย่างเช่นต้องวางลำโพงห่างจากกันมาก ๆ ก็สามารถเอียงมุมทวีตเตอร์และ / หรือวูฟเฟอร์ Toe-in เข้าหาจุดนั่งฟัง เพื่อเพิ่มความชัดเจนตรงกลาง ในทางกลับกันหากต้องวางลำโพงชิดกันมาก ๆ ก็สามารถปรับมุมเอียงทวีตเตอร์และ / หรือวูฟเฟอร์ Toe-out ออกเพื่อเพิ่มความกว้างของเวทีเสียงได้เช่นกัน
ส่วนการเสริม Magic spike แม้จะต้องลงทุนเพิ่มสักหน่อยแต่ก็ช่วยปรับปรุงด้านรายละเอียดหยุมหยิมให้สะอาดขึ้นได้อีกระดับ เรียกว่าจากเดิมจะออกกลมกล่อมสไตล์มิวสิคเลิฟเวอร์ มีความวินเทจนิด ๆ พอใส่ Magic Spike ก็จะช่วยอิมพรู้ฟความสะอาด รายละเอียดปลายเสียง ให้พริ้วไหว ไดนามิกอ่อนแก่ดีขึ้นไปอีกชัดเจนทีเดียว โดยไม่เสียโทนัลบาล้านซ์เดิม ๆ ไป
อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องชื่นชมคือพอมีปุ่มปรับชดเชยทุ้ม-แหลมได้ ทำให้สามารถชดเชยการตอบสนองความถี่ของลำโพงกับสภาพอคูสติกส์ห้อง การจัดวาง รวมถึงซิสเต็มที่ใช้ร่วมกันได้อย่างยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่สามารถขยับตำแหน่งลำโพงได้มากนัก ปุ่มนี้จะมีประโยชน์มากทีเดียว แต่แนะนำว่าควรตั้งไว้ที่ 0dB ก่อนและลองปรับลำโพง แม็ตชิ่งซิสเต็มให้รียบร้อยจึงมาพิจารณาการปรับชดเชยเป็นลำดับสุดท้าย
ระยะวางลำโพงที่ใช้ทดสอบ
ผู้เขียนทดสอบลำโพง R1 ด้วยการวางสองรูปแบบหนึ่งคือการวางตามแนวยาวของห้องแบบปกติและนั่งฟังแบบ Far-field ส่วนอีกรูปแบบคือเซ็ตอัพตามแนวขวางของห้องและนั่งฟังในลักษณะ Near-field เพื่อหาข้อสรุปในท้ายสุด โดยใช้กับซิสเต็มเดียวกันตลอดการทดสอบ
เซ็ตอัพ A (ตามแนวยาวห้อง)
- ระยะระหว่างลำโพง 130 ซ.ม.
- ระยะผนังหลัง 170 ซ.ม.
- ระยะผนังข้าง 102 ซ.ม.
- ระยะจุดนั่งฟัง 270 ซ.ม.
เซ็ตอัพ B (ตามแนวขวางห้อง)
- ระยะระหว่างลำโพง 130 ซ.ม.
- ระยะผนังหลัง 30 ซ.ม.
- ระยะผนังข้าง 200 ซ.ม.
- ระยะจุดนั่งฟัง 150 ซ.ม.
ซิสเต็มที่ใช้ทดสอบ
- เน็ตเวิร์กเพลเยอร์ Soundaware A1X
- อินทิเกรตแอมป์ DA&T K422
- สายสัญญาณ Khunpol GII
- สายลำโพง Khunpol GII
- สายไฟเอซี Khunpol GII
- Tombo R1 stand / Magic spike
ผลการลองฟัง
ลำโพง Tombo R1 คู่นี้ผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณหนึ่งจึงไม่ต้องเสียเวลาเบิร์นอินกันมากนัก เรียกว่าน้ำเสียงมีความกลมกล่อมลงตัวตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของการใช้งาน ผิดคาดเมื่อประเมินจากการใช้ดอกลำโพง Ceiling ขนาด 5.25 นิ้ว เนื้อเสียงมีความอิ่มเอิบไม่บอบบาง และรักษาความกระชับแน่นของตัวเสียงได้ดี เกรนเสียงมีความละเอียดไม่หยาบ ทำให้รายละเอียดต่าง ๆ เด่นชัดแบบเป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกถึงความแข็งกระด้างของเสียง
แม้จะเป็นลำโพงแบบ 2 ทางแต่ให้ความต่อเนื่องกลมกลืนของเสียงที่ดีมาก ฟังเผิน ๆ เหมือนเสียงจากลำโพงฟูลเรนจ์ อานิสงค์จากการใช้ดอกแบบแกนร่วมด้วยประการหนึ่ง ให้การไล่ระดับไดนามิกเสียงจากย่านทุ้มไปถึงย่านแหลมที่มีความต่อเนื่องและราบรื่นฟังไม่สะดุดหู โทนเสียงโดยรวมคือมีการจูนเสียงให้ฟังง่าย มีรายละเอียดครบ เวลาเปิดดังเสียงไม่ส่ออาการสะบัดจัดจ้าน ฟังได้นานไม่ล้าหู โดยที่มีปริมาณย่านเสียงต่ำเพียงพอ ทำให้สามารถรับฟังกับแนวเพลงได้ค่อนข้างหลากหลาย จะเหมาะมากกับการฟังแนวเพลงร้อง ป็อบ, ร็อค, บลูส์, แจ๊ส หรือแผ่นออดิโอไฟล์ทั้งหลายก็เอามาฟังแบบ “เอาเรื่อง” ได้อยู่ นอกจากนี้ยังให้ตำแหน่งอิมเมจชิ้นดนตรีที่นิ่ง แยกแยะมิติเสียงได้ชัดเจนดีทีเดียว ช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรีมีความโปร่งฟังแล้วไม่อึดอัด เวทีเสียงมีความกว้างลึกที่ดีไม่เลว มีเลเยอร์ที่เป็นชั้น ๆ ให้สัมผัสได้ แม้คอนเซปต์จะถูกออกแบบมาเป็นลำโพงไลฟสไตล์ก็ตาม
ตัวทวีตเตอร์นั้นเป็นโดมผ้าไหม แต่มีการปิดทับด้วยไดอะแฟรมอลูมิเนียม ทำให้หน้าเสียงมีทั้งความนุ่มนวลและสดใสอยู่ในที รวมถึงไม่แสดงอาการจัดกร้าวเมื่อเจอเพลงที่มีไดนามิกรุนแรง หรือมีระดับความดังสูง เรียกว่าให้ค่าเฉลี่ยออกมาได้ลงตัวพอเหมาะ ให้ความกังวานของเสียงออกมาได้ไพเราะ ในขณะที่เบสมิดเรนจ์กรวยเคฟล่าร์ ก็ให้ความฉับไว สะอาด ของย่านกลางแหลมที่ดี ปากฮอร์นตื้น ๆ ของ R1 มีส่วนช่วยรีดเสียงให้เข้มและหลุดลอยพุ่งเข้าหาตัวมากขึ้นอีกนิด ฟังพวกเครื่องเป่า อย่างเช่น แซกโซโฟน จะได้อารมณ์ความใหญ่ของเสียงที่แตกต่างจากการฟังลำโพง 2 ทางปกติทั่วไป ที่มีพิกัดใกล้เคียงกัน
โทนเสียงแบบนี้เรียกว่าไม่เกี่ยงการใช้งานร่วมกับประเภทของแอมป์หรือประเภทของแหล่งโปรแกรม แม้แต่การจัดวางในตำแหน่งหลากหลายก็ยังให้น้ำเสียงที่มีความกลมกล่อมน่าฟังติดไปด้วยเสมอ ช่วงนึงของการทดสอบผู้เขียนทดลองสลับโหมดการทำงานของอินทิเกรตแอมป์ DA&T K422 ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ทั้งโหมด Class A และ Class D ก็ได้บุคลิกความน่าฟังที่แตกต่างกันไป Class A ก็จะได้ความใส ปลายเสียงติดหวานลื่นไหลมากกว่า ส่วน Class D จะออกไปทางกระชับ แน่น สะอาด ให้แรงปะทะของหัวเสียงที่ฟังสนุกขึ้นมาอีกนิด หรือหากใครที่ไปร้าน Kstudio ลองขอจับคู่ลองฟังกับ DAC Streamer Arylic A50 (ราคา 6,900 บาท) ที่มีภาคขยาย Class D กำลัง 2 x 50 วัตต์ในตัวดูแล้วท่านจะทึ่งกับน้ำเสียงที่เกินตัวของลำโพงคู่นี้ ถือเป็นการจับคู่ที่เหมาะสมลงตัวทั้งในแง่น้ำเสียงและราคา
อัลบั้มบางส่วนที่ใช้ทดสอบ
- Arne Domnérus – Arne Domnérus
- The DALI CD VOL. 1. Because we love music
- Cat Stevens – Tea for the Tillerman
- Remembering Teresa – Melissa Tham
- Same Girl – Youn Sun Nah
- Dead Can Dance: Into The Labyrinth
สรุป
ถือว่าลำโพง Tombo Audio R1 สร้างมาตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างครอบคลุม และรู้ใจนักเล่นที่เป็นออดิโอไฟล์อยู่ไม่น้อย ทั้งที่อยู่ในหมวดของลำโพงแบบไลฟ์สไตล์ มีความโมเดิร์นคลาสสิคทั้งน้ำเสียงและรูปลักษณ์ แมตชิ่งจับคู่กับอุปกรณ์ง่ายไม่เรื่องมาก ทำให้สามารถเลือกจัดชุดตามความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด รวมถึงกลมกลืนไปกับไตล์การตกแต่งบ้านหลากรูปแบบได้อย่างแนบเนียน ราวกับเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกหนึ่งชิ้น สามารถคัสต้อมเมดสีสันได้ตามรสนิยม
ขอขอบคุณ Kstudio ที่เอื้อเฟื้อสินค้าเพื่อการทดสอบในครั้งนี้
ราคา 18,000 บาท / คู่ (ปกติ 23,000 บาท)
โทร. 085 489 7606
Facebook: kstudiothai
Line Official: @kstudio