What HI-FI? Thailand

รีวิว T+A Caruso R Multi Source Receiver

Mongkol Oumroengsri

T+A ก่อตั้งขึ้นในเยอรมันเมื่อปี 1978 ภายใต้แนวความคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์แท้ๆ โดยปรารถนาที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ค้นพบใหม่ๆ มากกว่าที่จะแสวงหาประโยชน์จากความรู้ที่มีอยู่ และตั้งใจแน่วแน่ที่จะสลักเสลาความก้าวหน้าอย่างมีตัวตนของเราเอง ไม่ใช่แค่ติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Herford (แฮร์ฟอร์ด) เป็นศูนย์รวมทั้งการออกแบบเบื้องต้น การพัฒนาแผงวงจรทั้งหมด และการวางรหัสซอฟต์แวร์ ฯลฯ ภายใต้ทีมงานวิศวกรคนรุ่นใหม่ 15 ที่มุ่งมั่นในการขับเคลื่อน T+A ให้ก้าวไปข้างหน้าในทุกๆ วัน

T+A ยังระบุว่า เราไม่ได้สร้างผลิตภัณฑ์มวลชน, เราสร้างสมบัติทางเสียง, เราสร้างการเต้นของหัวใจ, ขนลุก และความกระตือรือร้น (We don’t build mass products, we build accoustic treasures, we build heartbeats, goosebumps and enthusiasm.) อีกทั้งยังเป็นบริษัทแบบครอบครัว (family company) ที่บริหารโดยเจ้าของ ผู้สืบทอดความรักในดนตรีและเทคโนโลยี ซึ่งเชื่อมั่นในหลักวิทยาศาสตร์และกฎทางฟิสิกส์ ทั้งยังมุ่งมั่นที่จะผลักดันขอบเขตเหล่านั้นให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อส่งต่อคนรุ่นหลัง (For Generations) โดยให้อิสระในการปฏิบัติตามความยึดมั่นของบริษัท และยังได้พุ่งความสนใจในพัฒนาการทุกอย่างไปที่ระดับทศวรรษแทนที่จะเป็นเพียงแค่ช่วงสาม-สี่เดือนหน้า (quarter) เพื่อให้ T+A สามารถบรรลุสู่เป้าหมายระยะยาวได้อย่างแม่นยำ … “เราจึงมีความพิเศษ” (so special) ตัวอย่างเช่น T+A ใช้เวลาถึง 3 ปีในการพัฒนาอุปกรณ์เครื่องแรกที่ออกจำหน่ายภายใต้ HV series และนั่นมันจึงสมบูรณ์แบบ สามารถยืนยงมาจนกระทั่งทุกวันนี้

ในขณะเดียวกัน หลักการความเป็นองค์กรแบบครอบครัวของ T+A ก็สะท้อนออกมาในรูปของการสนับสนุนต่ออองค์กรต่างๆ สำหรับอนุชนคนรุ่นต่อไป โดยได้พัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับหน่วยงานต่างๆ ของมหาวิทยาลัยในเครือข่าย TU 9 (พันธมิตรของมหาวิทยาลัยเทคนิคชั้นนำ 9 แห่งในเยอรมนี) ผ่านการเข้าร่วมใน Deutschlandstipendium (โครงการสนับสนุนของเยอรมนี) ซึ่งจากความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์อย่างใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยด้านเทคนิคดังกล่าว T+A จึงได้รับประโยชน์จากแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ล่าสุด ในขณะที่ก็ได้แสดงถึงการสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อเยอรมนีในฐานะศูนย์กลางทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย

Design

การออกแบบ ในทุกขั้นตอน อุปกรณ์ T+A นั้นดูไร้กาลเวลาเสมอ – ไม่เคยล้าสมัย ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ดีไซเนอร์ของ T+A ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยการคำนึงถึงศักยภาพในการทำงาน ควบคู่ความก้าวหน้าในผลิตภัณฑ์ ทุกๆ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจำหน่ายล้วนคงไว้ซึ่งสมรรถนะใช้งานได้ยืนนานหลายทศวรรษ ไม่ใช่แค่เครื่องประดับแฟชั่นอายุสั้น

Innovation & progress

นวัตกรรมและความก้าวหน้า ตั้งแต่การประมวลผลสัญญาณดิจิทัล และตัวขับเสียงที่ใช้งานในลำโพง ไปจนถึงเครื่องเล่นที่รองรับ DSD 1024 เครื่องแรกของโลก ทำให้ T+A ภาคภูมิใจเป็นหนึ่งในบริษัทไฮไฟชั้นนำและล้ำสมัยที่สุดของโลก พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์กับการคว้ารางวัลหลายต่อหลายครั้งจาก The Absolute Sound ไม่ว่าจะเป็น The Absolute Sound: Editor’s Choice รวมถึง The Absolute Sound: Product Of The Year ที่ Caruso สามารถคว้ามาได้ในฐานะ Product Of The Year 2021

Categories

ปัจจุบัน T+A ได้จัดแบ่งประเภทของผลิตภัณฑ์ไว้ดังนี้:- Amplifier, Turntable, SACD-Player, CD | Multi Source Player, Audio Streaming, D/A Converter, Multi Source Receiver และ Headphone Amplifier ภายใต้การจัดแยกกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักไว้ 3 กลุ่มหลักด้วยกัน อันได้แก่:-  Audiosystems (HV-Series,R-Series, Series 200, E-Series, Caruso Series และ CALA); Loudspeakers (Talis, Criterion CTL, Pulsar, Caruso Loudspeakers และ Series 8) รวมทั้ง Headphones (Solitaire P Headphones และ Solitaire T Headphones

The Caruso Series

T+A ได้เปิดตัว Caruso เป็นครั้งแรกในปี 2008 ที่ และภายในเวลาไม่นานนัก “Caruso”  ก็ได้รับรางวัลมากมายจากการทำงานที่โดดเด่น และการออกแบบที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทุกยูนิตในซีรี่ส์ Caruso ที่สืบทอดมาจนปัจจุบันล้วนมีพัฒนาการเฉพาะตัว แต่ก็ต่างก็มี DNA ที่เหมือนกัน

ปรัชญาการออกแบบของ Caruso นั้นมุ่งเน้นความเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัย ภายใต้ขนาดกะทัดรัด ทว่าโดดเด่นด้วยคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะใช้เป็นเครื่องรับ หรือว่าระบบ all-in-one “Caruso” ทุกเครื่องรองรับแหล่งเพลงสมัยใหม่ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมจากเครือข่าย อินเทอร์เน็ต หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ ตลอดจนการเล่นซีดีแบบที่คุ้นเคยกัน ยังรวมไปถึงเครื่องรับวิทยุ DAB+ และ VHF เช่นเดียวกับโมดูล Bluetooth แบบ bi-directional และอินพุตสำหรับแหล่งสัญญาณดิจิตอล และแอนาล็อก เช่น เครื่องรับทีวี

Caruso จึงสามารถมอบประสบการณ์เสียงที่ส่งผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สำหรับยูนิตที่มีขนาดเท่ากัน ทั้งนี้ Caruso นับเป็นอุปกรณ์เครื่องแรกของ T+A ที่ใช้ NavigatorOS กับหน้าจอสัมผัส HD ขนาด 7 นิ้ว ซึ่งให้การควบคุมที่ใช้งานง่ายในทุกๆ ฟังก์ชันของระบบการทำงาน นอกจากนี้ ฐานเครื่องของ Caruso ยังสามารถส่องสว่างได้ ด้วยการผนวกรวมแถบไฟ LED ไว้ในแผงด้านล่างของตัวเครื่อง เพื่อสร้างสภาพแสงแวดล้อม (ambient lighting) ในขณะใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกโหมดสีต่างๆ ระหว่างแสงสีขาว สีน้ำเงิน สีเขียว และสีแดง ทั้งยังปรับความเข้มของการส่องสว่างได้ตามความต้องการของผู้ใช้ได้อีกด้วย

The Caruso R

ย้อนไปในปี 2020, T+A ได้เปิดตัว Caruso รุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอุปกรณ์ในชุด Caruso Series โดยได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด – ทั้งภายนอก และในเชิงเทคนิค Caruso รุ่นใหม่นี้ได้แสดงให้ประจักษ์ถึงการเปลี่ยนแปลงของอุปกรณ์แบบ all-in-one ไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่แยกต่อกัน (individual products) รวมถึง Caruso R

คุณลักษณ์

“Caruso R” ยังคงไว้ซึ่งธีมหลักในความเป็น Caruso อย่างเต็มตัว ด้วยขนาดภายนอกที่ย้อนกลับไปสู่ Caruso เวอร์ชั่นแรกในปี 2008 – หน้าจอ HD ขนาด 7 นิ้วใหม่ล่าสุด ขยายขอบเขตความสะดวกสบายในการใช้งาน Caruso R ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ควบคู่กับรูปลักษณ์อันสง่างาม ดูทันสมัย

ศูนย์ควบคุม-สั่งการของ Caruso R คือ T+A NavigatorOS ซึ่งเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่รวมองค์ประกอบทั้งหมดของระบบควบคุม (control system) ซึ่งเมนูการตั้งค่าจะรวมการตั้งค่าทั้งหมดของเครื่อง ตั้งแต่ค่าความสว่างหน้าจอไปจนถึงการควบคุมโทนเสียงสำหรับเสียงทุ้ม เสียงกลาง เสียงแหลม รวมทั้งระดับความดังเสียง และยังสามารถแสดงภาพหน้าปกได้โดยตรงบนหน้าจอนี้

นอกจากการควบคุม-สั่งการผ่านทางหน้าจอสัมผัสแล้ว Caruso R ยังสามารถสั่งการได้โดยใช้แอพ T+A CarusoNavigator หรือเครื่อง FM Caruso remote control ซึ่งจัดมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทางด้านกลไกรับแผ่นซีดีเป็นแบบช่องสอดแผ่น (slot) ให้ความทันสมัย ตั้งอยู่เหนือแผงสัมผัส จากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูล TOC ของแผ่นดิสก์แล้วส่งไปยัง Gracenote Playscreen ซึ่งสามารถแสดงภาพหน้าปกและข้อมูลต่างๆ สำหรับซีดีมากมายที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาด

แผงด้านหลังเครื่องเป็นพื้นที่ติดตั้งการเชื่อมต่อต่างๆ ซึ่ง T+A ได้ตั้งใจให้ Caruso R เป็นดั่งศูนย์กลางของระบบ Hi-Fi คุณภาพสูงที่ใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงอินพุตแบบแอนาล็อกและดิจิทัลซึ่งครอบคลุมครบทุกความต้องการที่เป็นไปได้ ตั้งแต่เครื่องเล่นแผ่นเสียง (มีภาคขยายสัญญาณ phono pre-amplifier ในตัว) ไปจนถึงทีวีและกล่องรับสัญญาณ

ช่องเสียบ USB inputs รองรับแหล่งสัญญาณจากมือถือและเครือข่าย (network) ในขณะที่ซ็อกเก็ต LAN, WLAN และ Bluetooth ก็มีมาให้เช่นกัน ทั้งนี้ Caruso R เป็นผลิตภัณฑ์แรกของ T+A ที่ใช้ประโยชน์จาก SC 100 ซึ่งเป็น T+A streaming client สัญญาณที่แปลงโดย SC 100 ทำให้การเข้าถึงบริการต่างๆ อย่างเช่น Gracenote Music ID, Airable Music Services, Spotify Connect, Apple AirPlay และ Amazon Music (ผ่านทาง Alexa) ทั้งนี้ความสามารถของอินเทอร์เน็ตก็ยังได้รับการยกระดับขึ้นไปอีกระดับเช่นกัน

Caruso R ยังพร้อมรองรับ DAB และ FM ที่ได้ปรับแต่งการออกแบบอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถรับสัญญาณวิทยุที่ส่งโดยเสาอากาศสถานีให้มีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ส่วนภาคแอมปลิฟายเออร์กำลังขับ 2×100 วัตต์ต่อเนื่องที่ 4

โอห์ม (2×50 วัตต์ต่อเนื่องที่ 8 โอห์ม / 300 Watts peak) นั้นถูกควบคุมโดย DSP ในตัว ซึ่งปรับให้มีความเป็นเชิงเส้น (linear) และปรับการตอบสนองความถี่ให้เหมาะสม เลือกรับและจัดการอินพุตและเอาต์พุตทั้งหมด รวมไปถึงการควบคุมภาคเอาต์พุต (Pre Out, Sub Out, headphones, loudspeaker) ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมต่อการรองรับกับลำโพงหลากหลายประเภท โดยไร้ซึ่งการบิดเบือนทางเสียง แม้ในระดับการรับฟังที่ดังมากๆ อันเนื่องมาจากภาคจ่ายไฟหลักที่มีเสถียรภาพตลอดช่วงการทำงาน ทั้งยังมีกระแสสำรองภายในที่สูงมาก (very high current reserves) อีกด้วย

.น้ำหนักที่มากถึง 7.5 กก.ของ Caruso R บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งภายในอย่างชัดเจน ด้วยโครงสร้าง T+A Aluminium Framework ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษทำให้ Caruso R มีความแข็งแรงอย่างมาก การอัดขึ้นรูปโปรไฟล์ที่ซับซ้อนทำหน้าที่เป็นโครงรับน้ำหนักหลักสำหรับสถาปัตยกรรมภายในทั้งหมด ผลิตขึ้นเพื่อให้มีความคลาดเคลื่อนต่ำเป็นพิเศษ และขึ้นรูปด้วยกรรมวิธี CNC โครงสร้าง T+A Aluminium Framework นี้จึงถูกประกอบขึ้นอย่างสมบูรณ์ และปราศจากซึ่งเรสโซแนนซ์ใดๆ

ผลการรับฟัง

บอกได้เลยว่าตั้งแต่แรกฟัง สุ้มเสียงของ “Caruso R” ฟังดูเอิบอิ่ม อบอุ่นน่าฟัง มวลเสียงอิ่มหนา เข้มข้นรวมถึงสเกลเสียงที่ค่อนข้างใหญ่ ให้สภาพเวทีเสียงกว้างขวาง และให้ความรู้สึกโอบล้อมได้ดีพอตัว แม้ว่าจะมีขนาดกะทัดรัดเยี่ยงนี้ ซึ่งเมื่อได้รับการเซตอัพไว้อย่างลงตัวกับระบบลำโพงที่มีความเหมาะสม “Caruso R” จักส่งมอบความสมดุล-กลมกลืน-ต่อเนื่องของเสียงโดยรวมด้วยน้ำเสียงอันน่าพิสมัยจริงๆ ครับ ทั้งในแง่ความฉ่ำชุ่มมีชีวิตชีวา มีเนื้อหนังมังสา ไม่ผอมบางปราศจากซึ่งความแห้งแล้งใดๆ ทั้งยังเด่นชัดในการนำเสนอรายละเอียดอันใสกระจ่าง ฉับไว ไม่แช่มช้าเนิบนาบ เพียบพร้อมทั้งน้ำหนัก-แรงกระแทกกระทั้นและยังให้การตอบสนองความถี่เสียงต่ำลงไปได้อย่างลึกล้ำอีกด้วย

ช่วงย่านความถี่เสียงต่ำที่รับฟังได้จาก “Caruso R” นั้นทรงพลัง – หนักแน่นให้เรี่ยวแรงปะทะของคลื่นเสียงหนังหน้ากลองใหญ่ที่กำลังสั่นกระพือเป็นระลอกคลื่นปะทะที่รับรู้ได้แยกแยะออกมาจากเสียงทุ้มที่ระรัวเป็นจังหวะของกลองไฟฟ้า พร้อมด้วยความหนักแน่นของเสียงที่ไม่อัดอั้น “Caruso R” สามารถถ่ายทอดความอลังการทางเสียงของวงออร์เคสตร้าที่กำลังแผดสนั่นประโคมคำรนอย่างยิ่งใหญ่ทรงพลัง ไม่ปรากฏอาการอัดอั้น-เครียดเค้น เสียงเบสลึกๆ ตอบสนองออกมาได้อย่างไร้ปัญหา การรับฟังเพลงคลาสสิคได้เสียงกระหึ่มกึกก้องอย่างไม่มีที่ติ ความกว้างใหญ่ของวงออร์เคสตร้าถูกถ่ายทอดออกมาจนเต็มห้อง แผ่เลยตำแหน่งตั้งวางลำโพงซ้าย-ขวา และถอยลึกเลยผนังหลังห้องฟังออกไปเลยเชียวละ ช่วงย่านเสียงกลางก็ให้การจำแนก-แยกแยะรายละเอียดได้ดี มีความกระจ่างสดใสในช่วงย่านเสียงสูง พร้อมด้วยหางเสียงที่มีประกายทอดตัวยาวไกลอย่างสมจริง

“Caruso R” ให้คุณลักษณ์ในน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความฉับไว สดใส โปร่งกระจ่าง และยังให้การบ่งบอกสภาพบรรยากาศการแสดงในสถานที่ที่บันทึกเสียงนั้น (atmosphere) ที่นับว่าอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจเลยทีเดียว เฉกเช่นเดียวกับการส่งมอบสภาพอิมเมจและซาวด์สเตจที่สามารถสำแดงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งไม่ว่าคุณจะรับฟัง “Caruso R” ในระดับความดังปกติหรือดังกว่าปกติมากๆเพราะความมันส์ในอารรมณ์พาไปคุณก็จะยังคงรับรู้ได้ถึงสภาพความแผ่กว้างของเสียงเต็มพื้นที่ห้องถอยลึกเข้าไปเลยตำแหน่งตั้งวางลำโพงไปไกล แยกเป็นแถว/ชั้นของเสียงบ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่เกิดขึ้นได้แน่ชัด พร้อมด้วยละอองอณูของมวลเสียงควบคู่กับความสดใส ฉับไวในการให้รายละเอียดของเสียง – ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นในช่วงย่านความถี่เสียงต่ำ ,ช่วงย่านความถี่เสียงกลางหรือว่าช่วงย่านความถี่เสียงสูง ทั้งนี้ทั้งนั้น “Caruso R” ให้ความอิ่มเอิบในเนื้อเสียง รวมทั้งความกลมกล่อมเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ดูแข็งกร้าว ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายเพลิดเพลินใจไปกับเสียงดนตรีที่รับฟัง

สรุปส่งท้าย

ด้วยกำลังขับ 50 วัตต์ต่อข้าง (ที่ 8 โอห์ม) ของ “Caruso R” อาจสร้างความรู้สึกว่า น้อยไปนิด แต่ถ้าหากคุณเลือกจับคู่ลำโพงที่มีค่าความไวเสียง (sensitivity) ที่เหมาะสม (มิใช่ลำโพงประเภทกินวัตต์มากนัก) ความเป็นเครื่องเล่นยุคใหม่ ที่ให้เสียงเอิบอิ่ม สดใสของ “Caruso R” จะทำให้คุณได้รับฟังความกระชับ ฉับไวในช่วงจังหวะจะโคน ไม่อืดอาด เฉื่อยเนือย พร้อมด้วยความสดใส แจ่มชัด สมจริงในน้ำเสียง “Caruso R” จะทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินในการรับฟัง คุณจะรับรู้ได้ถึงเสียงต่างๆ อันแจ่มกระจ่าง สะอาดสะอ้าน มีตำแหน่งแห่งที่ชี้ชัด พร้อมทั้งอาณาบริเวณเสียงและมวลบรรยากาศอบอวล คุณจะรับฟัง“Caruso R” ไปได้เรื่อยๆ ทั้งวัน นานเท่านานอย่างเพลิดเพลินใจ ไร้ซึ่งคำว่า เบื่อหรือล้าหู

บอกกันตรงๆว่า ถือเป็น “ความพอเหมาะพอเจาะ” อย่างมากในการผสมผสานระหว่างลักษณะเสียงอันแจ่มชัด ปลอดโปร่ง สดใส ฉับไว ไร้หมอกมัวเข้ากับความอบอุ่นมีชีวิตชีวา ความมีตัวตนของเสียง และมวลบรรยากาศ รับฟังได้อย่างสมจริงเป็นธรรมชาติจนรู้สึกน่าประทับใจ …ขอปรบมือให้กับ“Caruso R” ครับ

ขอขอบคุณบริษัท CH Media จำกัดที่ได้เอื้อเฟื้อ T+A: Caruso R ให้ทดสอบกันในครั้งนี้


Exit mobile version