รีวิว Opera Prima Loudspeakers

0

Mongkol Oumroengsri

Opera Loudspeakers ก่อตั้งขึ้นในปี 1989 โดย Gianni Maria Sacchetti, “Caruso” คือลำโพงรุ่นแรกสุดที่ผลิตออกจำหน่ายของ Opera ทั้งนี้ Gianni Maria Sacchetti ได้บอกว่า การใช้ชื่อ “Opera Loudspeakers” ก็เพื่อต้องการบ่งบอกถึงแนวเสียงที่ผู้ฟังจะได้รับจากลำโพง Opera นั่นคือ ความโอ่อ่า แจ่มชัด มีชีวิตชีวา และให้ความสมจริง …ลำโพง Opera ทุกรุ่นได้รับประโยชน์จากการผสมผสานระหว่างงานฝีมือแบบอิตาลีดั้งเดิมในการผลิตตู้ และเทคโนโลยีเสียงที่ล้ำหน้าที่สุดที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน ทั้งหมดสร้างขึ้นด้วยวัสดุคุณภาพสูงและมีสมรรถนะเสียงเป็นแกนหลัก แต่นอกจากจะน่าฟังแล้ว ลำโพง Opera ทุกตัวยังมีการออกแบบภาพที่ล้ำสมัยซึ่งเข้ากับบ้านสมัยใหม่ได้อย่างง่ายดาย

Opera Loudspeakers เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัว ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Treviso ประเทศอิตาลี ออกแบบผลิตภัณฑ์ทั้งหมดภายในบริษัทและจัดหาวัสดุที่สำคัญในท้องถิ่นให้มากที่สุด แนวคิดเบื้องหลังลำโพง Opera ทุกๆ รุ่น คือขับง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้เข้ากันได้ดีกับทั้งระบบหลอดสุญญากาศและโซลิด-สเตท ทั้งนี้ Opera Loudspeakers นั้นอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Unison Research แต่แยกแบรนด์ออกมาทำตลาดเอง ซึ่งทุกรุ่นทุกคู่ทำด้วยมือล้วนๆ ในอิตาลี ภายใต้ข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดของ Unison Research ทั้งในด้านกำลังขับต่ำสุดที่รองรับ, อิมพีแดนซ์ และค่าความไวเสียง

Opera Loudspeakers แยกไลน์การผลิตลำโพงออกเป็น 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ – Classica Line (These speakers are handcrafted with luxury materials and offer excellent build quality and incredible performance.) กับ Callas Line (The excitement of the pleasure of listening to music at home. New models, elegant and well finished they engage with discretion in every space.) โดย Classica Line จะให้ความคุ้มค่าในสมรรถนะการใช้งานที่เหมาะสมทั้งการดูหนังและฟังเพลง ในขณะที่ Callas Line จะมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพของการรับฟังเพลงโดยเฉพาะเหมาะกับนักฟังที่มีประสบการณ์ ซึ่งในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์นั้นก็มีจำนวนรุ่นไม่มากนัก ทำให้การเลือกใช้งานนั้นไม่ยุ่งยาก ซึ่ง OPERA : Prima ที่จะได้ทำการรีวิวนี้ก็เป็นรุ่นน้องรองของ Classica Line

คุณลักษณ์

OPERA : PRIMA จัดว่าเป็นลำโพงรุ่นเล็กวางขาตั้ง (BOOKSHELF) ในกลุ่ม Classica Line ที่ได้รับการออกแบบให้รองรับการใช้งานได้หลายหลาก นับตั้งแต่การใช้งานที่เหมาะสมทั้งการดูหนังและฟังเพลง, การส่งมอบลักษณะเสียงก็ใหญ่เกินตัว และให้ความลงตัวกับห้องขนาดเล็กขึ้นไปจนถึงขนาดกลาง ด้วยการออกแบบไว้อย่างชาญฉลาดในหลายประการ

OPERA : PRIMA มาในรูปลักษณ์ระบบลำโพงตู้เปิดแบบ 2-ทาง ซึ่งได้รับการติดตั้งวูฟเฟอร์/มิดเรนจ์แบบกรวยอลูมิเนียม (aluminum diaphragm) ขนาด 6.5 นิ้วของ ScanSpeak จำนวน 1 ตัว ซึ่งแม้จะมองว่า ตัวกรวยเป็นสีดำ ทว่าทาง ScanSpeak ผลิตขึ้นมาจำเพาะเจาะจง (custom model) ให้กับลำโพง OPERA ทุกรุ่นที่อยู่ในกลุ่ม Classica Line โดยเฉพาะ ตัววอยซ์คอยล์มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 38 มม. พันทับ 2 ชั้น (two-layer, CCWA wire) ไดรเวอร์ตัวนี้ยังถูกนำไปใช้งานเป็นตัวขับมิดเรนจ์ระดับเลิศสำหรับรุ่น Quinta อีกด้วย

วูฟเฟอร์/มิดเรนจ์ขนาด 6.5 นิ้วนี้ ทำงานร่วมกับทวีตเตอร์โดมผ้า (textile dome) ขนาด 1 นิ้วของ ScanSpeak ที่สามารถตอบสนองความถี่ได้ถึงระดับ 30kHz ซึ่งเป็นทวีตเตอร์แบบ high quality treated soft dome ในอนุกรม “D26 series” ของ ScanSpeak จุดเด่นสำคัญของทวีตเตอร์นี้อยู่ตรงที่ double magnet, decompression chamber, ferrofluid, หน้าแปลนเป็นวัสดุอลูมิเนียม พร้อมด้วยระยะเคลื่อนตัวสูงสุดได้ถึง 1 มม. (one mm. peak to peak linear excursion) และยังมีค่าเรสโซแนนซ์อยู่ที่ 860Hz

OPERA : PRIMA ได้รับการกำหนดจุดตัดแบ่งช่วงความถี่การทำงาน (Crossover frequencies) เอาไว้ที่ 2,000 Hz อัตราความชันในการตัดกรอง/แบ่งช่วงความถี่ 12 dB/oct ทั้งช่วง low pass และ high pass โดยจะมีช่วงย่านของการตอบสนองความถี่เสียงครอบคลุมตั้งแต่ 40 Hz ขึ้นไปได้จนถึง 20,000 Hz ด้วยอัตราค่าความไวเสียง (Sensitivity) ประมาณ 91 dB และมีค่าความต้านทานปกติ (Nominal Impedance) อยู่ที่ 4 โอห์ม (ต่ำสุด 3.5 โอห์ม) อัตรารองรับกำลังขับ 10-70 วัตต์ ภายใต้สัดส่วนตัวตู้ สูง 33 x กว้าง 20 x ลึก 28 ซม. และพิกัดน้ำหนัก 19 กก.

ระบบการทำงานของ OPERA : PRIMA เป็นระบบตู้เปิด หรือ เบสรีเฟล๊กซ์ แบบ 2-ทาง โดยมีท่อเปิด (port) ติดตั้งอยู่ทางด้านหน้า ทำให้สามารถวางใกล้ผนังได้มากขึ้น และเหมาะสมที่จะเล่นทั้งด้านการฟังเพลง 2 แชนเนล และโฮมเธียเตอร์ ซึ่งได้รับการออกแบบให้สามารถใช้งานได้อย่างลงตัวในห้องขนาดเล็ก ถึงขนาดกลาง ทั้งยังสามารถตั้งวางได้แบบปกติในลักษณะ Vertical positioning หรือวางตะแคงในลักษณะ Horizontal positioning เพื่อให้ได้รับคุณประโยชน์ที่เหมาะสม หรือ เข้าได้กับอคูสติกของห้องที่ใช้รับฟัง ซึ่งคุณสามารถลองใช้งานได้ด้วยตัวคุณเอง อนึ่งค่าอิมพีแดนซ์ปกติ 4 โอห์ม ต่ำสุด 3.5 โอห์มของ “OPERA : Prima” จึงเป็นลำโพงที่ไม่ยุ่งยากในการเล่นเลย…

โครงสร้างตัวตู้ของ OPERA : PRIMA เป็นไม้ MDF หนาถึง 30 มม. และด้านข้างของตัวตู้ลำโพงเป็นไม้จริงนะครับ ผสมผสานกับงานหนังสุดหรูตามสไตล์อิตาลี ดูสวยงามคลาสสิคมาก ภายในตู้มีวัสดุโพลียูรีเทน รูปทรงพีระมิด (pyramidal shaped) หนา 10 ซม. ดูดซับคลื่นเสียงด้านหลังของวูฟเฟอร์ เพื่อการทำงานของท่อเปิดด้านหน้าที่ให้เสียงทุ้มสะท้อน (BASS REFLEX) อันสะอาดแจ่มชัด

Specification:

  • Weight : 19Kg (pair)
  • System : Stand or bookshelf , reflex
  • Loudspeakers : 1 woofer 6.5” aluminum diaphragm
  • Number of ways : 2
  • Frequency response : 40-20,000 Hz
  • Cross-over : 12 dB/oct low pass 12 dB/oct high pass Frequency 2,000Hz
  • Amplifier : from 10 watt without clipping
  • Sensibility 91 db 2.83 Vrms at 1 m.
  • Power 70 watt RMS
  • Nominal Impedance 4 ohm (Z min > 3.5 ohm)

ผลการรับฟัง

บอกได้เลยว่า ตั้งแต่แรกฟัง สุ้มเสียงของ “OPERA : PRIMA” ฟังดูเอิบอิ่ม อบอุ่น น่าฟัง มวลเสียงอิ่มหนา เข้มข้น รวมถึงสเกลเสียงที่ค่อนข้างใหญ่โตโอฬาร เวทีเสียงกว้างขวาง และให้ความรู้สึกโอบล้อมได้ดีทีเดียว ซึ่งเมื่อได้รับการเซตอัพไว้อย่างลงตัว “OPERA : PRIMA” จักส่งมอบความสมดุล-กลมกลืน-ต่อเนื่องของเสียงโดยรวม ด้วยน้ำเสียงอันน่าพิสมัยยิ่งนัก ในความฉ่ำชุ่มมีชีวิตชีวา มีเนื้อหนังมังสา ไม่ผอมบาง ปราศจากซึ่งความแห้งแล้งใดๆ ทั้งยังเด่นชัดในการนำเสนอรายละเอียดอันใสกระจ่าง ฉับไว ไม่แช่มช้า เนิบนาบ เพียบพร้อมทั้งน้ำหนัก-แรงกระแทกกระทั้น และยังให้การตอบสนองความถี่เสียงต่ำลงไปได้อย่างลึกล้ำอีกด้วย

ช่วงย่านความถี่เสียงต่ำที่รับฟังได้จาก “OPERA : PRIMA” นั้น ทรงพลัง – หนักแน่น ไม่อวบอ้วน อุ้ยอ้าย ให้แรงปะทะของคลื่นเสียงหนังหน้ากลองใหญ่ที่กำลังสั่นกระพือเป็นระลอก “ระลอก” ที่รับรู้ได้ แยกแยะออกมาจากเสียงทุ้มที่ระรัวเป็นจังหวะของกลองไฟฟ้าออกมาได้แจ่มชัด พร้อมด้วยความหนักแน่นของเสียงที่ไม่อัดอั้น เปี่ยมในน้ำหนักของเสียง

“OPERA : PRIMA” สามารถถ่ายทอดความอลังการทางเสียงของวงออร์เคสตร้าที่กำลังแผดสนั่น ประโคมคำรนอย่างยิ่งใหญ่ ทรงพลัง ไม่ปรากฏอาการอัดอั้น เครียดเค้น เสียงเบสลึกๆ ตอบสนองออกมาได้อย่างไร้ปัญหา การรับฟังออร์เคสตร้าได้เสียงกระหึ่ม กึกก้อง อย่างไม่มีที่ติ ความกว้างใหญ่ของวงออร์เคสตร้าถูกถ่ายทอดออกมาจนเต็มห้อง แผ่เลยตำแหน่งตั้งวางลำโพงซ้าย-ขวา และถอยลึกเลยผนังหลังห้องฟังออกไปเลยเชียวละ อันน่าจะเป็นผลมาจากการใช้มิดเรนจ์/วูฟเฟอร์แบบใหม่ที่มีศักยภาพสูงมาก ควบคู่กับขนาดอันเหมาะสมของไดรเวอร์นี้ ที่สอดรับกับภาระช่วงการทำงานของทวีตเตอร์อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน จึงนำมาซึ่งช่วงย่านเสียงกลางที่ให้การจำแนก-แยกแยะรายละเอียดได้ดี มีความกระจ่างสดใสในช่วงย่านเสียงสูง พร้อมด้วยหางเสียงที่มีประกายทอดตัวยาวไกลอย่างสมจริง

“OPERA : PRIMA” ให้คุณลักษณ์ในน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความฉับไว สดใส โปร่งกระจ่าง และยังให้การบ่งบอกสภาพบรรยากาศการแสดงในสถานที่ที่บันทึกเสียงนั้น (atmosphere) ที่นับว่าอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจเลยทีเดียว เฉกเช่นเดียวกับการส่งมอบสภาพอิมเมจและซาวด์สเตจที่สามารถสำแดงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่ง “OPERA : PRIMA” จะถ่ายทอด-ส่งมอบสรรพเสียงชิ้นดนตรีที่เสมือนผุดโผล่ออกมาจากตรงโน่นตรงนี้ มีตำแหน่งแห่งที่ชี้ชัดได้ในเวทีเสียงอันแผ่กว้าง ไม่ว่าจะเป็นเสียงกีต้าร์-เสียงเปียโน-เสียงไวโอลิน-เสียงเครื่องสายทั้งหลายเรียกได้ว่า แทบจะมองเห็นเป็นเส้นสายที่สั่นไหวกันเลยทีเดียว แม้ในยามที่คุณมันส์ในอารมณ์ไปปรับเร่งระดับความดังเสียงให้มากขึ้น…มากขึ้น…มากขึ้น “OPERA : PRIMA” ก็จะยังสามารถสนองความสะใจในขณะรับฟังได้อย่างน่าทึ่ง และตื่นเต้น …ไร้ความมั่ว/ตีรวนกันของเสียง เสียงทุกเสียงจะยังคงปรากฏเป็นแถวเป็นชั้นถอยลึกเข้าไปหลังแนวตั้งวางระบบลำโพง ไม่มีเสียงใดที่โผล่เลยล้ำหน้าตำแหน่งตั้งวางลำโพงออกมา

ซึ่งไม่ว่าคุณจะรับฟัง “OPERA : PRIMA” ในระดับความดังปกติ หรือดังกว่าปกติมากๆ เพราะความมันส์ในอารรมณ์พาไป คุณก็จะยังคงรับรู้ได้ถึงสภาพความแผ่กว้างของเสียงเต็มพื้นที่ห้อง ถอยลึกเข้าไปเลยตำแหน่งตั้งวางลำโพงไปไกล แยกเป็นแถว/ชั้นของเสียง บ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่เกิดขึ้นได้แน่นอน พร้อมด้วยละอองอณูของมวลเสียง ควบคู่กับความสดใส ฉับไว ในการให้รายละเอียดของเสียง – ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นในช่วงย่านความถี่เสียงต่ำ ,ช่วงย่านความถี่เสียงกลาง หรือว่าช่วงย่านความถี่เสียงสูง 

ทั้งนี้ทั้งนั้น “OPERA : PRIMA” ได้รับการออกแบบให้ขับง่ายมาอย่างจงใจ ลำโพงนี้จึงไม่เลือก-ไม่เกี่ยงงอนใดๆ ในการเลือกแอมป์ที่มาใช้งานร่วมกัน ซึ่งนี่นับเป็นข้อดี ที่ช่วยให้คุณใช้แอมป์อะไรขับมาขับ เสียงก็ออกมาดี มีความน่าฟัง ให้ความอิ่มในเนื้อเสียง รวมทั้งความกลมกล่อมเป็นธรรมชาติของเสียง ไม่ได้ดูแข็งกร้าว ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย เพลิดเพลินใจไปกับเสียงดนตรีที่รับฟัง

สรุปส่งท้าย

…แม้จะได้ชื่อว่าลำโพงรุ่นเล็ก แต่ก็ต้องยอมรับว่า “OPERA : PRIMA” มีอยู่หลายสิ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่ผม นับเป็นระบบลำโพงที่สามารถสร้างความประทับใจได้อย่างง่ายๆ เมื่อได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นในด้านน้ำหนัก – ความฉับไว – พลังกระแทกกระทั้น และการตอบสนองความถี่เสียงต่ำที่ทำได้อย่างลึกล้ำ รวมไปถึงความยิ่งใหญ่-อลังการของสุุ้มเสียงที่ส่งมอบออกมา ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยความเอิบอิ่มของน้ำเสียงโดยรวม และรายละเอียดเสียงสอดแทรกต่างๆ ทั้งในช่วงย่านเสียงต่ำ, กลางและสูง ที่ถูกถ่ายทอดอย่างน่าพึงพอใจ บวกกับสมรรถนะอันน่าทึ่ง ในการบ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของสรรพเสียงอันแจ่มชัด รวมถึงการมีตัวตนของเสียงนั้นๆ ในสภาพอิมเมจและซาวด์สเตจอย่างสมจริง

บรรยากาศและฮาร์โมนิกส์ของเสียงนั้น “OPERA : PRIMA” ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีจริงๆ ครับ แต่ละเสียงแต่ละจังหวะ ถ่ายทอดออกมาให้จับต้องและรู้สึกได้ โดยเฉพาะด้านเสียงร้อง (vocal) นี่คือเสน่ห์อย่างมากของ “OPERA : PRIMA” เลยทีเดียว …เสียงร้องที่ให้สเกลเสียงใหญ่นี่แหละครับ นับเป็นความโดดเด่นอย่างมากของ “OPERA : PRIMA” มิติเสียงร้องของ จะส่งมอบเสียงร้องให้ออกมาด้านหน้า ทำให้เสียงร้องกับเสียงดนตรีด้านหลังนั้น มีระยะที่ค่อนข้างชัดเจน “OPERA : PRIMA” ไปได้ดีกับเสียงร้องแทบทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นยุคเก่าหรือยุคใหม่ ล้วนให้ความไพเราะน่าฟังทุกแนว

นี่คือลำโพงวางขาตั้ง ขนาดไม่ใหญ่นักที่สามารถทำให้ทุกคนประหลาดใจด้วยคลื่นเสียงที่แผ่กว้างและลึก พร้อมด้วยช่วงความถี่เสียงทุ้มที่ลึกเกินกว่าขนาดของลำโพง ด้วยความเป็น “Made in Italy” รูปแบบที่เรียบง่าย ดูสวยงามไม่มีเบื่อ ตัวตู้ลายไม้สุดสวย สไตล์คลาสสิค ผสมผสานกับงานหนังสุดหรูตามสไตล์อิตาลี นี่มิใช่ลำโพงที่ให้เสียงดีเท่านั้น แต่ยังให้ความ luxury แก่คุณด้วยนะ


ขอขอบคุณ Wanpat 59 โทร. 02 175 2933 ในการรับฟัง OPERA : PRIMA ในครั้งนี้