รีวิว KEF: LS60 Wireless

0

Mongkol Oumroengsri

ระบบลำโพงไร้สายแบบ all-in-one สมรรถนะสูง ฉลองวาระ 60 ปีของ KEF

KEF เป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ระบบลำโพงคุณภาพเสียงระดับไฮ-เอนด์ ซึ่งรวมถึงลำโพงไฮไฟ, ซับวูฟเฟอร์, ลำโพงติดตั้ง, ลำโพงไร้สาย, และหูฟัง โดยก่อตั้งขึ้นในเมือง Maidstone รัฐเคนต์ (Kent)ในปี 1961 โดยอดีตวิศวกรของ BBC นามว่า Raymond Cooke OBE (1925–1995) ชื่อของ KEF นั้นเป็นชื่อย่อที่ตั้งขึ้นจาก Kent Engineering and Foundry นับเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวของ Raymond Cooke ผู้ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากความรักในเสียงเพลงและการปฏิเสธที่จะประนีประนอมใดๆ

60 years of acoustic innovation

KEF นับเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกด้านวิศวกรรมอะคูสติกที่มีนวัตกรรมใหม่ออกมาสู่วงการตั้งแต่ปี 1961 จึงได้เฉลิมฉลองวาระครบ 60 ปี ด้วยการออกลำโพงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่พร้อมส่งมอบประสิทธิภาพเสียงอันเหนือชั้น จากการผสมผสานเทคโนโลยีที่สำคัญทั้งหมดของ KEF นั่นคือ LS60 Wireless

ภายใต้รูปลักษณ์อันเพียวบาง นี่คือ ระบบลำโพงแบบ 3-ทาง ที่เป็นระบบตัวตู้แบบปิดผนึก หรือ sealed-box design และใช้ตัวขับเสียง Uni-Q driver ซึ่งเป็น brand-new version เจนเนอเรชั่นที่ 12 นับเป็นไดรเวอร์ Uni-Q ที่เล็กที่สุดที่ KEF ได้เคยออกแบบมา ตัวกรวยเป็นวัสดุอลูมิเนียมขนาด 10 ซม. สำหรับขับขานช่วงย่านความถี่เสียงกลาง ผนวกรวมกับทวีตเตอร์โดมอลูมิเนียมขนาด 19 มม. ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Metamaterial Absorption Technology (MAT) ของ KEF (ที่เคยเปิดตัวในลำโพงแบบพาสซีฟ KEF LS50 Meta) ทั้งยังมีการเพิ่มแดมเปอร์ช่องว่างทวีตเตอร์ รวมไปถึงเซอร์ราวด์แบบใหม่ Z-Flex เพื่อช่วยกระจายและลดการบิดเบือนของเสียง

โดยที่ “MAT” จะช่วยดูดซับคลื่นเสียงที่แผ่ออกมาจากด้านหลังของโดมทวีตเตอร์ เพื่อไม่ให้รบกวนการส่งสัญญาณไปข้างหน้าของตัวลำโพง การใช้งานนี้อยู่ในรูปของพลาสติกชิ้นกลมที่มีโครงสร้างคล้ายเขาวงกตวางอยู่ด้านหลังทวีตเตอร์ แต่ละ ‘เส้นทาง’ (path) ในโครงสร้างมีขนาดและความยาวที่แน่นอน และ ‘ปรับตั้ง’ (tuned) เพื่อดูดซับช่วงความถี่เฉพาะ ทั้งนี้ KEF อ้างว่า”เส้นทาง” ดังกล่าวจะช่วยสร้าง ‘หลุมดำอคูสติก’ (acoustic black hole) ทำการดูดซับ 99 เปอร์เซ็นต์ของเสียงที่ไม่ต้องการ

ในขณะที่ช่วงย่านความถี่เสียงต่ำจะเป็นหน้าที่ของไดรเวอร์ Uni-Core ขนาด 14 ซม. จำนวนสองคู่ ติดตั้งแบบเฉพาะอยู่ในแต่ละทาวเวอร์ และจัดตำแหน่งให้ได้แนวเสียงที่ตรงกับไดรเวอร์ Uni-Q ซึ่ง KEF เรียกว่า Single Appparent Source technology. โดยที่ตำแหน่งของไดรเวอร์ในลักษณะนี้ จะส่งผลเสมือนว่า เสียงต่ำ เสียงกลาง และเสียงสูงทั้งหมดนั้นแผ่กระจายจากจุดเดียว (Point Source) ไปยังผู้ฟัง ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้คือ สามารถส่งมอบทั้งคุณภาพเสียงและจินตภาพเสียงที่แม่นยำ รวมถึงพื้นที่การรับฟังที่กว้างขวาง

Designed for performance

LS60 Wireless เป็นระบบลำโพงไร้สายแบบ all-in-one สมรรถนะสูง พร้อมให้คุณสตรีมจากแหล่งใดก็ได้ และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องเสียงภายในบ้านใดๆ ก็ตามในระดับออดิโอไฟล์ ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, Apple AirPlay 2, Google Chromecast , DLNA, Spotify Connect และ Bluetooth โดดเด่นด้วยความเป็นลำโพงตั้งวางพื้นที่มีโครงสร้างเพรียวบาง ที่ออกแบบโดย Michael Young ร่วมกับทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ KEF ให้มีความร่วมสมัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมรองรับระบบไร้สายในปัจจุบันได้อย่างครบครัน

ซึ่งเมื่อใช้แอป KEF Connect ใน LS60 Wireless คุณสามารถสตรีมเพลงของ Amazon, Qobuz และ Deezer หรือจะเปิดวิทยุอินเทอร์เน็ต และพอดแคสต์ได้ ทั้งยังสามารถสตรีมเพลงโดยตรงจาก Spotify Connect, Tidal Connect และ QPlay รวมทั้ง Roon Ready* โดยที่ LS60 Wireless รองรับการสตรีมไฟล์ PCM สูงสุด 24 บิต/384kHz รวมถึงการถอดรหัส MQA และ DSD​​​​​​ ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังทำการตั้งค่าเสียงที่ใช้งานง่าย สำหรับปรับแต่ง (fine-tune) ลำโพง “LS60 Wireless” ให้เหมาะกับห้องของคุณได้ดีที่สุด ทั้งโหมดปกติ (normal mode) และโหมดโปรเฟสชั่นแนล (expert mode) เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ใช้ทุกคนจะได้รับประสิทธิภาพที่ดีที่สุดจาก LS60 Wireless ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่แอพและเลือกกำหนดค่าการตั้งค่า EQ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะห่างของลำโพงจากผนังของคุณ ขนาดห้อง และการดูดซับของห้อง ทั้งยังมีการปรับแต่งที่กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมถึงการทริมเสียงแหลม (treble trim) การแก้ไขเฟส (phase correction) และความสามารถในการเปลี่ยนปริมาณการขยายเสียงเบส (bass extension) ที่สำคัญ LS60 Wireless ยังมีช่องเสียบต่อ digital audio inputs ทั้ง optical และ coaxial รวมถึง analogue RCA inputs อีก 1 ชุด ไม่ว่าคุณจะชอบฟังแผ่นเสียงไวนิลบนเครื่องเล่นแผ่นเสียงของคุณ หรือต้องการรับเสียงที่ดีที่สุดจากเครื่องเล่นซีดี หรือว่าจากอุปกรณ์อื่นใดก็ตาม

ทั้งยังให้การเชื่อมต่อ HDMI (eARC) สำหรับการลิงก์คุณภาพสูงกับทีวีของคุณ และเอาต์พุตเฉพาะสำหรับลำโพงแต่ละข้าง รวมไปถึงการเพิ่มซับวูฟเฟอร์หนึ่งหรือสองตัว ซึ่งทำให้ LS60 Wireless นั้นเรียกได้ว่า Connect anything, Play anything, Hear everything. กันเลยทีเดียว ทั้งนี้ลำโพงด้านขวา จะทำหน้าที่เป็นลำโพงตัวหลัก (primary) ของระบบ ศูนย์กลางของการเชื่อมต่อต่างๆ ติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังตัวตู้ โดยจะพบปุ่มกดสำหรับจับคู่ลำโพงซ้ายและขวา เชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth รวมทั้งรีเซ็ตระบบทั้งหมดที่คุณต้องการ

นอกจากนี้ ยังมี Ethernet port สำหรับเชื่อมต่อลำโพงโดยตรงเข้ากับเราเตอร์หรือสวิตช์ รวมไปถึงพอร์ตที่สองซึ่งช่วยให้คุณใช้สายอีเทอร์เน็ตที่ให้มาเชื่อมต่อระหว่างลำโพงทั้งสองได้ สิ่งนี้ช่วยให้คุณเพิ่ม native playback ของระบบเป็น 24 บิต/192kHz (ทว่าควรจำไว้ว่าระบบยังคงสามารถจัดการดั้งเดิมได้ถึง 24 บิต/96-kHz ผ่านการเชื่อมต่อไร้สายที่มีเวลาแฝงต่ำ (low-latency) ของ KEF (ซึ่งจะลดขนาดชุดตัวอย่างทุกอย่างที่สูงกว่า และสูงสุดที่ 24 บิต/384kHz) ที่สำคัญลำโพงแต่ละตัวจะมี subwoofer output หากคุณต้องการเชื่อมต่อซับวูฟเฟอร์ภายนอกตัวหรือสองตัวได้ตามต้องการ

Perfectly controlled

Music Integrity Engine คือสมองของระบบควบคุม-สั่งการที่อยู่เบื้องหลัง LS60 Wireless ซึ่งได้รับการปรับแต่งอย่างแม่นยำ เพื่อกำหนดค่าการทำงานต่างๆ ประสานกันอย่างสมบูรณ์ ยกระดับประสิทธิภาพของแต่ละโปรแกรมที่รับฟัง รวมทั้งคุณสมบัติการแก้ไขเฟสความถี่ต่ำที่ให้จังหวะเวลาอันแม่นยำราวกับคุณกำลังฟังเสียงต้นฉบับอยู่กันเลยทีเดียว

Connectivity – Stream anything, Play anything. Hear everything.

LS60 Wireless ใช้แพลตฟอร์มไร้สายชั้นนำ “W2” ที่ได้เคยเปิดตัวใน LS50 Wireless II ซึ่งเคยได้รับรางวัลมาครอง …ไม่ว่าจะเป็นการรับฟังจาก music service, podcast, internet radio กระทั่งแหล่งสัญญาณแบบมีสาย “LS60 Wireless” ก็จักมอบประสิทธิภาพที่คุณจะต้องทึ่ง… LS60 Wireless ให้คุณเลือกการเชื่อมต่อได้ทั้งแบบไร้สายหรือการเชื่อมต่อแบบมีสายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถใช้การเชื่อมต่อระหว่างลำโพงไร้สายอัจฉริยะที่มีความหน่วงต่ำเพื่อการฟังแบบไร้สายที่ให้คุณภาพได้สูงสุด 24 บิต/96 kHz หรือการเชื่อมต่อแบบมีสายที่มีความละเอียดสูงถึง 24 บิต/192 kHz

Single Apparent SourceSingle source. Coherent sound.

หัวใจหลักของ LS60 Wireless อยู่ที่ Single Appparent Source technology ซึ่งดัดแปลงมาจากลำโพงรุ่น Blade ระดับเรือธงของ KEF ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้เสียงในอุดมคติจากแหล่งกำเนิดเสียงแบบ point source โดยที่ความถี่ต่ำ กลาง และสูง ครอบคลุมทั้งแบนด์วิดท์นั้น เสมือนแผ่ออกมาจากจุดเดียวกัน เป็นสิ่งที่ทำให้ LS60 Wireless มีความสอดคล้องกันอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยเสียงที่แม่นยำและชัดเจนยิ่งขึ้น

Blade นั้นได้รับการออกแบบให้เป็นลำโพงที่มีแนวคิดแหล่งกำเนิดเสียงเดี่ยวตัวแรกของโลก (the world’s first single apparent source loudspeaker) ที่ขยายขอบเขตของเสียงระดับไฮ-เอ็นด์ให้มีความสอดคล้องกันอย่างไม่น่าเชื่อตลอดช่วงความถี่ตอบสนอง ด้วยจินตภาพเสียงที่แม่นยำกว่าที่ได้จากลำโพงทั่วไป “LS60 Wireless” จึงเป็นระบบลำโพงสเตอริโอ รูปทรงทาวเวอร์แบบไร้สายเครื่องแรกของ KEF ที่ได้รับการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างการออกแบบ Single Appparent Source technology ของ Blade ร่วมกับตัวขับเสียง Uni-Q® เจนเนเรชั่นใหม่ล่าสุด พร้อม MAT และเทคโนโลยีล้ำหน้าต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของ KEF

Always innovating

Uni-Q driver ที่ใช้อยู่ใน “LS60 Wireless” นับเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เจนเนอเรชั่นที่ 12 ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีขนาดตัวขับเสียงที่กะทัดรัด เล็กลงกว่าทุกเจนเนอเรชั่นที่เคยมีมา เพื่อให้สอดรับกับแผงหน้าตัวตู้ที่แคบมาก โดยมีขนาดเพียงแค่ 4 นิ้วเท่านั้น ทั้งยังได้เพิ่มเทคโนโลยี Metamaterial Absorption Technology (MAT) และคุณสมบัติใหม่เพื่อลดสีสัน (coloration) และการบิดเบือน (distortion) ให้ต่ำลง รวมถึงการเสริมซี่โครง (ribs) ด้านหลังท่อนำคลื่น Tangerine Waveguide และยังได้ออกแบบแดมเปอร์ระหว่างช่องว่างทวีตเตอร์ขึ้นมาใหม่ ร่วมกับการเพิ่มเติม “Mk2 Cone Neck Control” และทำการปรับปรุงระบบมอเตอร์ช่วงความถี่เสียงกลางอีกด้วย

ตัวขับเสียง Uni-Q รุ่นที่ 12 ของ KEF ณ ปัจจุบันนี้เป็นผลลัพธ์ต่อเนื่องจากนวัตกรรมอันยาวนานกว่าสามทศวรรษโดยทีมวิศวกรของ KEF …เริ่มต้นจากแนวคิดที่ว่าเสียงทั้งหมดที่มาจากจุดกำเนิดเดียวกัน ย่อมให้เสียงที่เป็นจริงเหมือนในที่ได้รับฟังจากแหล่งเสียงนั้นๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ “LS50 Meta” นับเป็นระบบลำโพงรุ่นแรกของโลกที่มี meta material โดยผสมผสาน Uni-Q รุ่นที่ 12 เข้ากับ MAT driver array เพื่อลดการเจือสีสันให้น้อยลง ความผิดเพี้ยนน้อยลง และเสียงที่โปร่งใสให้ความสมจริงยิ่งกว่าที่เคย รวมถึงการแผ่กระจายเสียงอย่างเท่าเทียมกันทั่วทั้งห้อง

Uni-Core™ 

เทคโนโลยี Uni-Core™ นับเป็นอีกนวัตกรรมใหม่ล่าสุด และอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตรของ KEF เพื่อการส่งมอบเสียงเบสที่ลึกและแม่นยำยิ่งขึ้นจากตัวตู้ขนาดกะทัดรัด ผ่านวิศวกรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมวิศวกรของ KEF โดยที่ KEF ได้เปิดตัวการใช้ไดรเวอร์ Uni-Core ในซับวูฟเฟอร์ขนาดเล็กรุ่น KC62 เมื่อเดือนมกราคม 2021 ด้วยเป้าประสงค์การออกแบบเพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงเบสที่มีคุณภาพสูงสุดจากตัวตู้ขนาดเล็กผสานร่วมกับหลักการ force cancellation (สลาย/หักล้างแรงสั่นสะเทือน โดยการติดตั้งตัวขับเสียงให้หันหลังชนกัน และใช้มอเตอร์ร่วมกัน รวมไปถึงวอยซ์คอยล์ที่จัดเรียงแบบศูนย์กลางต่างกันสองชุด (หนึ่งอันสำหรับไดรเวอร์แต่ละตัว) ไดรเวอร์ Uni-Core™  แต่ละตัวยังใช้ระบบ surround suspensions แบบ ‘P-Flex’ ของ KEF ซึ่งช่วยต้านทานการสะสมแรงดันภายในตัวตู้

Audiophile-grade power

นอกจากนี้ LS60 Wireless ยังมีพลังเหลือเฟือ ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวกับเครื่องขยายเสียง Class AB และ Class D ที่ปรับแต่งเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถให้กำลังขับระดับออดิโอไฟล์ได้รวมถึง 1,400 วัตต์ พร้อมด้วยการแยกแอมปลิฟายเออร์สำหรับความถี่สูง กลาง และต่ำภายในลำโพงแต่ละข้าง โดยที่ส่วนช่วงความถี่ต่ำ (LF) นั้นขับเคลื่อนโดยแอมป์ Class D 500 วัตต์ ในขณะที่ช่วงความถี่เสียงกลางใช้แอมป์ 100 วัตต์ ส่วนช่วงความถี่เสียงสูง (HF) นั้นขับเคลื่อนด้วยแอมป์ Class AB 100 วัตต์ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกสบายในการปรับตั้งค่าต่างๆ ให้เป็นเรื่องง่าย โดยได้มาซึ่งคุณภาพเสียงอย่างที่คุณต้องการ หรือมีความเหมาะสมอย่างที่สุดกับห้องฟังของคุณ ซึ่งแอมปลิฟายเออร์ดังกล่าวได้รับการติดตั้งอยู่ในส่วนล่างของลำโพงที่ปิดสนิทจากส่วนบนเพื่อขจัดการรบกวนใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับชุดภาคขยาย โดยมีระบบรักษาความเย็นที่ใช้แผงระบายความร้อน และช่องเปิดระหว่างฐานของลำโพง ซึ่งให้อากาศเดินทางขึ้นไปยังโมดูลอิเล็กทรอนิกส์หลัก และไหลออกจากลำโพงใกล้กับช่องระบายอากาศ บนแผงด้านหลังของลำโพงแต่ละตัว

ทั้งนี้ “LS60 Wireless” มีตัวตู้ให้เลือก 3 แบบได้แก่ Titanium Grey, Mineral White และ Royal Blue โดยจะมีรีโมทคอนโทรลขนาดเล็กตัวเรือนเป็นพลาสติกใส่รวมอยู่ในกล่องบรรจุภัณฑ์ให้มาด้วย ทำหน้าที่ควบคุมพื้นฐานสำหรับการเล่น การหยุดชั่วคราว การข้ามแทร็ค การสลับอินพุต และการปรับระดับเสียง

KEF LS60 Wireless tech specs

  • Uni-Q driver 19mm HF vented aluminium dome; 10cm MF aluminium cone 12th Gen. Uni-Q with MAT
  • Uni–core driver 5.25in Force Cancelling Driver
  • Built-in Amplifier Output Power 1400W
  • Optimal Room Size 10-200 m2
  • Frequency range 26Hz – 36kHz
  • Streaming AirPlay 2, Google Chromecast, Roon Ready, UPnP, Bluetooth 4.2
  • Streaming services Spotify, Tidal, Amazon Music, Qobuz, Deezer, QQ Music
  • Formats MQA, DSD, FLAC, WAV, AIFF, ALAC, AAC, WMA, MP3, M4A, LPCM, Ogg Vorbis
  • Resolution support Up to 24-bit/384kHz
  • Inputs HDMI eARC, optical, coaxial, RCA, Ethernet
  • Subwoofer output x2
  • Dimensions (hwd) 109 x 21.2 x 39.4cm (with plinth)
  • Weight 62.4kg (total)

ผลการรับฟัง

บอกได้เลยครับว่า “LS60 Wireless” ให้เสียงที่สมดุล กลมกล่อม ควบคู่ความโปร่งกระจ่าง สดใสดีมากๆ ทว่าไร้ซึ่งความจัดจ้า บ่งบอกถึงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างจะแจ้ง จริงจังอย่างชนิดไม่มีความกังขาใดๆ รวมถึงเสียงเบสที่น่าประหลาดใจสำหรับขนาดของตัวลำโพง อันน่าจะมาจากบทบาทสำคัญในการออกแบบด้วยแนวคิดและเทคโนโลยีทันสมัยของ KEF

ช่วงย่านความถี่เสียงต่ำที่รับฟังได้จาก“LS60 Wireless”  นั้น ทรงพลัง – หนักแน่น ไม่อวบอ้วน อุ้ยอ้าย และยืดขยายลงไปได้ลึกล้ำ ทั้งยังให้ความฉับไวและแม่นยำในจังหวะจะโคน หนังหน้ากลองกระเดื่องตึงแน่น ให้แรงปะทะเป็นระลอกที่รับรู้ได้ บ่งบอก “ระลอก” ของคลื่นเสียงหนังหน้ากลองใหญ่ที่กำลังสั่นกระพือ แยกแยะออกมาจากเสียงทุ้มที่ระรัวเป็นจังหวะของกลองไฟฟ้าออกมาได้แจ่มชัด พร้อมด้วยความหนักแน่นของเสียงที่ไม่อัดอั้น เปี่ยมในน้ำหนักของเสียงเบสอันรุกเร้าใจ ในแง่ของความถี่ต่ำที่ “LS60 Wireless” ส่งมอบออกมานั้น ต้องขอบอกว่า -เกินตัว- โดยเป็นเสียงเบสที่ใหญ่ หนักหน่วง แน่นปึ๊ก และกระชับกระฉับกระเฉง

“LS60 Wireless” นั้นให้คุณลักษณ์ในน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความฉับไว สดใส โปร่งกระจ่าง และยังให้การบ่งบอกสภาพบรรยากาศการแสดงในสถานที่ที่บันทึกเสียงนั้น (atmosphere) ที่นับว่าอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจเลยทีเดียว  เฉกเช่นเดียวกับการส่งมอบสภาพอิมเมจและซาวด์สเตจที่สามารถสำแดงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเสียงกีต้าร์-เสียงเปียโน-เสียงไวโอลิน-เสียงเครื่องสายทั้งหลายเรียกได้ว่า แทบจะมองเห็นเป็นเส้นสายที่สั่นไหวกันเลยทีเดียว แม้ในยามที่คุณมันส์ในอารมณ์ไปปรับเร่งระดับความดังเสียงให้มากขึ้น…มากขึ้น…มากขึ้น “LS60 Wireless”  ก็จะยังสามารถสนองความสะใจในขณะรับฟังได้อย่างน่าทึ่ง และตื่นเต้น …ไร้ความมั่ว/ตีรวนกันของเสียง เสียงทุกเสียงจะยังคงปรากฏเป็นแถวเป็นชั้นถอยลึกเข้าไปหลังแนวตั้งวางระบบลำโพง ไม่มีเสียงใดที่โผล่เลยล้ำหน้าตำแหน่งตั้งวางลำโพงออกมา

ไม่ว่าคุณจะรับฟัง“LS60 Wireless”  ในระดับความดังปกติ เพื่อความผ่อนคลายสบายอารมณ์ หรือเร่งเสียงให้ดังกว่าปกติ เพราะความมันส์ในอารมณ์ คุณก็จะยังคงรับรู้ได้ถึงสภาพความแผ่กว้างของเสียงเต็มพื้นที่ห้อง ถอยลึกเข้าไปเลยตำแหน่งตั้งวางลำโพงไปไกล แยกเป็นแถว/ชั้นของเสียง บ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่เกิดขึ้นได้แน่นอน พร้อมด้วยละอองอณูของมวลเสียง ควบคู่กับความสดใส ฉับไว ในการให้รายละเอียดของเสียง – ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นในช่วงย่านความถี่เสียงต่ำ ,ช่วงย่านความถี่เสียงกลาง หรือว่าช่วงย่านความถี่เสียงสูง 

“LS60 Wireless” ส่งมอบลักษณะเสียงที่ปลดปล่อย และเปิดโปร่งได้อย่างสมจริงสมจัง ให้ความครบถ้วนทั้งพลัง  (power) ไดนามิกอันฉับพลัน และความไหลลื่น เฉียบคม (crispy) โดยไร้ซึ่งอาการขึ้นขอบแข็งกร้าว หรือว่าหยาบกร้านระคายหู แต่ให้ความแจ่มชัด และความสดสะอาดของเสียงที่ทำให้สามารถจับเสียงดนตรีชิ้นนั้นชิ้นนี้ได้ถนัดหูราวกับมองเห็นเป็นตัวเป็นตนเลยทีเดียว

จากแนวเพลงคลาสสิคโหมกระหน่ำ “LS60 Wireless” ได้ถ่ายทอดความอลังการทางเสียงของวงออร์เคสตร้าที่กำลังแผดสนั่น ประโคมคำรนอย่างยิ่งใหญ่ ทรงพลัง ไม่ปรากฏอาการอัดอั้น เครียดเค้น เสียงเบสลึกๆ ตอบสนองออกมาได้อย่างไร้ปัญหา การรับฟังออร์เคสตร้าได้เสียงกระหึ่ม กึกก้อง อย่างไม่มีที่ติ ความกว้างใหญ่ของวงออร์เคสตร้าถูกถ่ายทอดออกมาจนเต็มห้อง แผ่เลยตำแหน่งตั้งวางลำโพงซ้าย-ขวา และถอยลึกเลยผนังหลังห้องฟังออกไปเลยเชียวละ อันน่าจะเป็นผลมาจากการใช้ตัวขับเสียงแบบ Uni-Q เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดที่มีศักยภาพระดับสูงมาก ร่วมกับภาระช่วงการทำงานของทวีตเตอร์อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน จึงนำมาซึ่งช่วงย่านเสียงกลางที่ให้การจำแนก-แยกแยะรายละเอียดได้ดี มีความกระจ่างสดใสในช่วงย่านเสียงสูง พร้อมด้วยหางเสียงที่มีประกายทอดตัวยาวไกลอย่างสมจริง

“LS60 Wireless” ยังส่งมอบสภาพเสียงแวดล้อมต่างๆ ที่เป็นละอองอณูกระจายตัว (การบันทึกเสียงดีๆ นั้นจะจัดเก็บมา บ่งบอกออกมาให้เรา-ท่านได้รับรู้) ทั้งยังให้ความพละพลิ้ว อิ่มเอิบ เปล่งปลั่งของเสียงดนตรีต่างๆ ได้อย่างน่าฟัง โดยมิใช่เป็นเสียงในลักษณะเจิดจ้า หรือจัดจ้าน …ช่วงย่านปลายเสียงสูงๆ ที่รับฟังจาก “LS60 Wireless”  ให้ความรู้สึกว่า ทอดยาวไกลไปสุดกู่ เป็นเสียงช่วงความถี่สูง ที่เรา-ท่านรับฟังได้อย่างสมจริง เป็นเสียงที่เปี่ยมในความเป็นธรรมชาติ มิได้มีการปรุงแต่ง หรือ เน้นขึ้นมาให้ฟังดูใสกระจ่างอย่างผิดไปจากความเป็นจริง

ล่าสุด “LS60 Wireless” ได้รับรางวัล EISA WIRELESS FLOORSTANDING LOUDSPEAKERS 2022-2023 พร้อมทั้งยังได้รับการระบุว่า  “KEF ได้ทำให้โลกรับรู้ถึงการปฏิวัติวงการ และยังแสดงให้โลกเห็นว่า อนาคตของ hi-fi จะเป็นอย่างไร”– Aug 2022

สรุปส่งท้าย

…แม้จะมิได้ถูกออกแบบมาถึงขีดขั้นความเป็นระบบลำโพงมอนิเตอร์เต็มรูปแบบ แต่ก็ต้องยอมรับครับว่า ลำโพงระบบไร้สาย รูปลักษณ์เพรียวบาง เปี่ยมในความทันสมัย อย่าง “LS60 Wireless” มีอยู่หลายสิ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่ผมครับ “LS60 Wireless” นับเป็นระบบลำโพงที่สามารถสร้างความประทับใจได้อย่างง่ายๆ เมื่อได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นในด้านน้ำหนัก – ความฉับไว – พลังกระแทกกระทั้น และการตอบสนองความถี่เสียงต่ำที่ทำได้อย่างลึกล้ำ รวมไปถึงความยิ่งใหญ่-อลังการของสุุ้มเสียงที่ส่งมอบออกมา บวกกับสมรรถนะอันน่าทึ่ง ในการบ่งบอกรายละเอียดเสียงสอดแทรกต่างๆ ทั้งในช่วงย่านเสียงต่ำ, กลางและสูง ที่ถูกถ่ายทอดอย่างแจ่มชัด ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายใช้งานง่ายเข้ากับยุคสมัย รวมเอาไว้ในหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ “LS60 Wireless” นับเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมในวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของ KEF

ขอขอบคุณ Vgadz Corporation Co.,Ltd ที่กรุณาเอื้อเฟือลำโพง KEF: LS60 Wireless ในการรับฟังครั้งนี้


Raymond Cooke ก่อตั้ง KEF ขึ้นในปี 1961 เขาเป็นวิศวกรที่ได้รับการฝึกฝนจาก BBC และทำงานให้กับ Gilbert Briggs ที่ Wharfedale เป็นเวลาห้าปี ก่อนที่จะแยกย้ายจากกันไป ชื่อบริษัทย่อมาจาก Kent Engineering and Foundry และตั้งอยู่ในเมือง Tovil, Maidstone รัฐ Kent ตั้งแต่แรกเริ่ม ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญสำหรับ KEF ของ Cooke ก็คือ ต้องการเปลี่ยนจากวัสดุยูนิตไดรฟ์แบบเดิมที่ขึ้นรูปจากกระดาษ ซึ่ง Wharfedale ใช้อยู่ในขณะนั้นไปเป็นวัสดุพลาสติกชนิดต่างๆ ที่เพิ่งเริ่มมีผลิตจำหน่าย

ลำโพงตัวแรกของ KEF คือ K1 monitor ซึ่งเผยให้เห็นความกระหายของ Raymond Cooke สำหรับเทคโนโลยีหน่วยขับเคลื่อนที่ทันสมัย (cutting edge drive unit technology) ร่วมกับภูมิหลังทางวิศวกรรมของ BBC ที่เขาเคยทำงานด้วย นี่คือลำโพงแบบ 3-ทาง สูงเพียงเมตรกว่าๆ ตัวขับเสียงเบสใช้ไดอะแฟรมแบนเรียบทรงสี่เหลี่ยม (flat rectangular diaphragm) ซึ่งทำจากวัสดุพลาสติกพอลิสไตรีน (polystyrene) ที่มีผิวนอกเป็นอะลูมิเนียม เช่นเดียวกับเสียงกลางแบบวงรีรูปไข่ (elliptical midrange) แลลทวีตเตอร์แบบโดมที่เป็นวัสดุ Melinex (Melinex เป็นฟิล์มโพลีเอสเตอร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความต้านทานแรงดึงสูง และความเสถียรทางเคมี) “K1” มีปริมาตรตัวตู้ขนาด 110 ลิตรที่แข็งแรงมาก ซึ่งมีการค้ำยันและกันกระแทกอย่างแน่นหนา เพื่อควบคุมเสียงสะท้อน มีให้เลือกสามแบบ: American Walnut, Teak และ Sapele

ย้อนกลับไปในทศวรรษที่หกสิบ มีตลาดขนาดใหญ่ในแนวทางของผลิตภัณฑ์แบบชุดคิท (kit) สำหรับผู้ใช้นำไปประกอบเอง ดังนั้น K1 จึงมีจำหน่ายทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบคิท นอกจากนี้ยังมี K1 รุ่นที่สามในรูปแบบตัวตู้เพรียวบาง (Slimline) ซึ่งมีไดรเวอร์เหมือนกันทุกประการ ทว่าอยู่ในตู้ที่มีความลึกเพียง 12 ซม. เมื่อเทียบกับรุ่นมาตรฐาน 35 ซม.

KEF ได้ผลิตจำหน่ายอีกหลายรุ่นมากมายในช่วงเวลานั้น “Celeste” เป็นอีกรุ่นที่เป็นลำโพงแบบ ‘bookshelf’ ระบบ2-ทางที่เล็กกว่า K1 Monitor มาก และใช้ตัวขับเสียงเบสทรงรีแบบ ‘racetrack’ B139 อันโด่งดัง ในช่วงทศวรรษ 1970 ทาง KEF ได้พัฒนาขยายขอบเขตรุ่นต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเปลี่ยนจากระบบบันทึกเสียงแบบโมโนเป็นสเตอริโอทำให้ลำโพงมีขนาดเล็กลง เนื่องจากต้องมีสองตัวในห้องฟัง แม้ว่าจะไม่เคยเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ KEF แต่กระนั้นลำโพงมอนิเตอร์ BBC LS3/5A ในตำนานก็ใช้ตัวขับเสียงอันมีชื่อเสียงของ KEF ทว่าทาง KEF ยังได้สร้างผลิตภัณฑ์ของตนเองขึ้นมาในลักษณะเดียวกันกับลำโพงมอนิเตอร์ของ BBC อย่างเช่น Chorale และ Coda ทั้งนี้ KEF ยังคงผลิตรุ่นคิทออกจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรุ่น KEFKIT 1 (1974-1977) ก็เป็นนับเป็นลำโพงชุดคิทในรูปแบบของ Chorale ที่ได้รับความนิยมมาก และรุ่น 104aB เป็นลำโพง KEF ตัวแรกที่ได้ระบุถึงความเป็น Reference

เทคโนโลยีเครื่องหมายการค้าของ KEF ในปัจจุบันนี้คือ Uni-Q driver array ซึ่ง “Uni-Q” นั้น ก็คือ ตำแหน่งที่ทวีตเตอร์อยู่ในช่วงคอ (throat) ของตัวขับเสียงกลาง หรือเสียงกลาง/เบส ซึ่งจะให้การกระจายเสียงที่สม่ำเสมอ และช่วยในการผสานรวมของช่วงย่านเสียงกลาง และเสียงสูงได้เป็นอย่างดี มีเนื้อเสียงเดียวกัน โดยที่ลำโพงตั้งวางพื้นรุ่น KEF C35 ซึ่งเปิดตัวในปี 1988 เป็นตัวแรกที่ใช้ Uni-Q array และภายในเวลาไม่กี่ปีถัดมา เทคโนโลยีนี้ก็เข้าสู่ความเป็นผลิตภัณฑ์อ้างอิงของ KEF

KEF ผลักดันตลาดบนสุดระดับไฮ-เอนด์ ด้วยรุ่น Muon (ราคา 70,000 ปอนด์ในปี 2009 และราคาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปัจจุบัน) KEF ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับอ้างอิงต่อไป – ซูเปอร์ทวีตเตอร์ที่ติดตั้งบนพ็อด (pod-mounted super tweeters) อย่างที่ KEF เคยใช้ ต้องหลีกทางให้กับทวีตเตอร์ใน Uni-Q array ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทีมวิศวกรยังคงผลักดันขอบเขตระดับไฮ-เอนด์อย่างต่อเนื่องด้วยรุ่น Concept Blade ซึ่งเป็นลำโพงที่มีสไตล์อันน่าทึ่ง ซึ่งใช้ Uni-Q array ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมาก โดยทำงานร่วมกับตัวขับเสียงเบสจำนวนสี่ตัว ซึ่งทั้งหมดติดตั้งอยู่ในตัวตู้คาร์บอนไฟเบอร์ที่เรียบลื่น การออกแบบดังกล่าวพิสูจน์ให้เห็นว่า จิตวิญญาณของ KEF ดั้งเดิมต่อเทคโนโลยีล้ำสมัยและวิศวกรรมที่ได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนยังคงหลั่งไหลมาอย่างแข็งแกร่งในความเป็น KEF ณ ปัจจุบัน ซึ่งจะยังคงดำเนินต่อไป

ในปี 1988 KEF ได้ออกแบบและจดสิทธิบัตรไดรเวอร์ลำโพงในแบบ coincident source speaker driver ตัวแรกสุด นั่นคือ Uni-Q โดยที่ทวีตเตอร์ขนาด 25 มม. (1 นิ้ว) นั้นอยู่ที่ช่วงคอ (throat) ของวูฟเฟอร์ขนาด 200 มม. (8 นิ้ว) โดยจัดตำแหน่งศูนย์กลางเสียงของทั้งสองยูนิตให้ตรงกันอย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังใช้แม่เหล็กที่เป็นโลหะผสม Neodymium-Iron-Boron ซึ่งเป็นวัสดุขั้นสูงในขณะนั้น

โดยมีรุ่น C95 จากซีรีส์ C ในปี 1988 เป็นลำโพงตัวแรกที่ติดตั้ง Uni-Q ซึ่งเป็นไดรเวอร์แบบ coincident source driver แท้จริงตัวแรกของโลก ทั้งยังสืบทอดการออกแบบการโหลดเสียงเบสแบบ coupled cavity bass loading จาก KEF Reference รุ่น 104/2 อีกด้วย