What HI-FI? Thailand

รีวิวอินทิเกรตแอมป์ Rega: Aethos

มงคล อ่วมเรืองศรี

Rega เป็นแบรนด์เครื่องเสียงของบริษัท Rega Research Ltd. แห่งประเทศงอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี 1973 โดยชื่อบริษัทมาจากนามสกุลย่อของผู้ร่วมก่อตั้ง 2 คนด้วยกัน Tony RElph & Roy GAndy “Rega” เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในด้านเครื่องเล่นแผ่นเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Rega Planar 3 อันเป็นสัญลักษณ์เฉพาะจนเป็นที่จดจำ ทั้งยังรวมไปถึงหัวเข็มเล่นแผ่นเสียง และโทนอาร์ม กระนั้น “Rega” ก็ได้ผลิตเครื่องขยายสัญญาณและลำโพงกระทั่งได้รับรางวัลมาแล้วกว่า 20 ปี นอกเหนือจากการผลิตผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อแบรนด์ของตนเองแล้ว “Rega” ยังทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตแบบ OEM (original equipment manufacturer) ให้กับบริษัทอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

แต่อาจเป็นเรื่องน่าแปลกที่ “Rega” นั้นไม่มีแผนกการตลาด โดยเลือกที่จะลงทุนทุกเพนนีไปกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด ภายใต้ปัจจัยราคาที่ใครๆ ก็ไม่ยากที่จะไขว่คว้าถึง ด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า ผลิตภัณฑ์ของ Rega มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไม่น้อยหน้าใครๆ ในปี 2014 “Rega” มีโรงงานที่สร้างขึ้นเอง (ขนาด 38,000 ตารางฟุต) และมีพนักงานร่วมทำงานกันอยู่มากกว่าร้อยคน โดยตั้งอยู่ที่ Southend-on-Sea, Essex, UK ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน

“Rega” พยายามรักษาซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนในสหราชอาณาจักร และยืนยันว่า ออกแบบและประกอบผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นทุกชิ้นด้วยมือในสหราชอาณาจักร (แต่อาจมีบางส่วนที่ส่งไปจากเอเชีย) และพยายามรักษาซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนในสหราชอาณาจักรเช่นกัน โดยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยัง 46 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้งานด้านวิศวกรรมเป็นหัวใจสำคัญของ Rega Research Ltd ซึ่งทุ่มเทให้กับวัสดุเฉพาะทาง ความคลาดเคลื่อน และความแม่นยำ (specialist materials, tolerances, and accuracy) ผลิตภัณฑ์ Rega ทุกชิ้นได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ได้การแสดงดนตรีที่ดีที่สุด และมอบความเพลิดเพลินใจไปตลอดชีวิตในราคาที่เหมาะสม

ปัจจุบัน Rega มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมอยู่ในไลน์การผลิต Turntable, Tonearms, Cartridge, Phono Preamp, Integrated Amp, CD Player & DAC, Loudspeaker และ Acessories ซึ่งแต่ละไลน์การผลิตล้วนโดดเด่นเป็นที่ยอมรับกันในคุณภาพ และหลายต่อหลายผลิตภัณฑ์ที่คว้ารางวัลมาครอง (บางผลิตภัณฑ์สามารถคว้ารางวัลมาครองต่อเนื่องซ้ำๆ กันหลายปี) แสดงถึงความสำเร็จที่ได้รับจากการมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิจัย และงานวิศวกรรมระดับเลิศที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ไม่ยาก

คุณลักษณ์

Aethos เป็นผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่ Integrated Amp ระดับรุ่นรองท้อป โดยมี OSIRIS เป็นรุ่นท้อประดับเรือธง และมี ELICIT-R เป็นรุ่นน้องรองถัดลงมา (ส่วน io เป็นรุ่นเล็กสุด และออกใหม่ล่าสุด) จึงมิใช่เรื่องน่าแปลกที่คุณจะพบว่า OSIRIS และ Aethos จะมี ‘REF’ กำกับต่อท้าย เมื่อเข้าไปดูในหน้าเว็บไซต์ของ Rega เพราะทั้งสองรุ่นนับเป็นสุดยอด Integrated Amp ของ Rega

ในความเป็นจริงนั้น Aethos คือการพัฒนาต่อยอดขึ้นไปอีกขั้นจากเทคโนโลยีที่เคยใช้อยู่ใน Elicit-R และ Elex-R ซึ่งพิสูจน์ให้ประจักษ์มาแล้วกับการประสบความสำเร็จอย่างสูงและคว้าหลายรางวัลมาครอง (Elicit-R ครองตำแหน่ง What Hi-Fi? Best Stereo amplifier ติดต่อกันถึง 3 ปี !) ภายใต้ตัวเครื่องที่ออกแบบขึ้นใหม่ ด้วยการใช้วัสดุอลูมิเนียมรมดำหนาปึ๊ก มีครีบระบายความร้อนขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ด้านข้าง ซึ่งนี่น่าจะบอกความนัยอะไรบางอย่างของเจ้า Aethos ให้เราได้จับสังเกต

Aethos เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการประนีประนอมโดยมีเป้าหมายเดียวในการนำเสนอเสียงเพลงอย่างเที่ยงตรงที่สุดเท่าที่จะเป็นได้สู่ผู้ฟัง ภายใน Aethos นั้นเป็นการออกแบบ dual mono design โดยใช้หม้อแปลงแบบทรงกลม (Toroidal) ที่สั่งทำตามสเปคฯกำหนด ร่วมกับการใช้ regulated supplies อันพิถีพิถัน for the and driver stages. สำหรับ sensitive amplification การขยายเสียงที่ละเอียดอ่อน และ driver stages ภาคปรีแอมพลิฟายเออร์ใช้วงจรแบบ class-A discrete circuitry โดยตลอด

Rega ระบุว่า ได้ทุ่มเทเวลา ความพยายาม และงบประมาณ ไปกับการมุ่งพัฒนาวงจร และการสรรค์สร้าง โดยใช้ชิ้นส่วน-อุปกรณ์ประกอบที่มีรายละเอียดจำเพาะสูงสุด (highest specification) อย่างทั่วทั้งเครื่อง โดยยังได้รวมคุณสมบัติใช้งานที่เอื้อประโยชน์ อย่าง preamplifier output และ direct input เพื่อให้ Aethos สามารถใช้งานได้ในระบบที่หลากหลาย รวมถึงช่องเสียบหูฟัง (headphone socket) ขนาด 6.3 มม. สำหรับใช้งานสลับกับการรับฟังจากลำโพงหลัก ซึ่งจะทำงานด้วย output mute relay เพื่อปิดเสียงเอาต์พุตโดยไม่กีดขวางเส้นทางสัญญาณ และทำให้คุณภาพเสียงลดลง

การออกแบบภายในเป็นโมโนคู่ที่วงจรขยายสัญญาณเป็นแบบ fully discrete FET เสริมด้วยการเลือกใช้ polypropylene capacitors โดยตลอดในทุกเส้นทางเดินสัญญาณ, คาปาซิเตอร์เก็บสำรองพลังงาน K-Power และ, regulated supply สำหรับ power amplifier โดยเฉพาะ ทั้งนี้ภาคปรีแอมป์ของ Aethos นั้นเป็นแบบ class-A discrete circuitry และภาค power amplifier นั้นเป็นแบบ low source impedance Class-A driver stage

ซึ่งในส่วนของ output stage นั้นเป็นแบบ จ่ายกระแสสูง (high current) ด้วยการใช้ 160w Sanken output transistors ถึง 4 ตัวต่อแชนแนลทำงานร่วมกันแบบ Darlington ก่อให้เกิดเป็นลักษณะของ complementary emitter follower emulating Class-A conditions ที่สามารถให้กำลังขับได้ 125 วัตต์ต่อแชนแนลที่ 8 โอห์ม (156 วัตต์ต่อแชนแนลที่ 6 โอห์ม) นอกจากนี้ Aethos ยังใช้การป้อนกลับแบบผสมผสาน และการควบคุมระดับความดังเสียงแบบ passive volume control (ด้วยการใช้ ALPS Blue Velvet volume potentiometer)

ฟังก์ชันการใช้งานของ Aethos นั้น ได้รับการติดตั้ง line-level inputs อย่างตรงไปตรงมาไว้ให้เลือกรับแหล่งสัญญาณที่จะรับฟัง 5 ชุดด้วยกัน (โดยไม่มีภาค digital DAC หรือ processor ใดๆ แม้กระทั่ง built-in phono stage บรรจุอยู่ภายในตัว) พร้อมกับช่องเสียบ record input – record output – record output link ซึ่งใช้ประโยชน์เป็น tape loop อำนวยความสะดวกสำหรับการบันทึกสัญญาณลงเทปเพื่อการรับฟังส่วนตัว แผงหลังเครื่องได้รับการติดตั้งขั้วเสียบสายลำโพงแบบ binding post เอาไว้หนึ่งชุด สำหรับลำโพงซ้าย-ขวา (โดยไม่มีสวิทช์ควบคุม) ส่วนการมี ‘Direct input’ นั้นก็ด้วยวัตถุประสงค์ของการส่งสัญญาณอินพุตโดยตรงไปยังภาคเพาเวอร์แอมป์ โดยไม่ผ่านปุ่มควบคุมระดับความดังเสียง จึงไม่สามารถควบคุมระดับความดังเสียงได้นะครับ เพื่อเอื้อต่อการใช้งานในระบบมัลติ-แชนแนลนั่นเอง โดยที่ Rega ระบุไว้ใน data sheet ว่า ช่วงความถี่ตอบสนองช่วงย่านปลายสุดของ Aethos นั้น ถูกจำกัดเอาไว้ที่ 50 kHz สำหรับ direct input และ 30 kHz สำหรับอินพุตอื่นๆ

KEY FEATURES:-

TECHNICAL SPECIFICATIONS:-

ผลการรับฟัง

แน่นอนครับ นี่เป็นอีกครั้งของผลการรับฟังที่ What HiFi? (Thailand) และครั้งนี้เป็นหน้าที่ของลำโพง CANTON รุ่น Reference 9K ที่มารับภาระในการสำแดงศักยภาพของ Aethos ให้ผมได้ประจักษ์… บอกตามตรงนะครับ ยิ่งรับฟัง ก็ยิ่งไม่น่าเชื่อว่า ทีมวิศวกรของ Rega จะสามารถสรรค์สร้างอินติเกรตแอมป์เพื่อการรับฟังได้ดีเยี่ยมระดับนี้ โดยมีปัจจัยราคาที่เรียกได้ว่า ไม่น่าจะไกลเกินคว้า บุคลิกเสียงโดยรวมของ Aethos นั้นให้ความเป็นกลาง (neutral) อย่างมาก บุคลิกอาจติดมาทาง warm side อยู่บ้าง แต่ก็แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่อวบอ้วนถึงขั้น “tubey” แต่ก็ไกลห่างจากลักษณะเสียงแบบผอมบาง (lean) หรือว่า สดสว่าง (bright) มากนัก พรั่งพร้อมด้วยความฉับพลันทันใดของรายละเอียดเสียง (transient) ในระดับดีมาก และ dynamic range อันกว้างขวาง จำแนกแยกแยะความละเอียดของเสียงอันแผ่วเบาไปจนแผดสนั่นได้อย่างน่าประทับใจ

สุ้มเสียงของ Aethos นั้นหนักแน่น-เข้มข้น และทรงพลัง เพียบพร้อมด้วยความไหลลื่น อิ่มฉ่ำ อบอวล จนให้ความน่าประหลาดใจสำหรับความเป็นอินติเกรตเต็ดแอมป์ ราวกับกำลังรับฟังสุ้มเสียงจากการขับขานของเพาเวอร์ แอมป์กระนั้นครับ “Aethos” ให้ความเปิดโปร่งในช่วงความถี่สูงๆ ที่ทอดยาวไปไกล ฟังสบายหู รับรู้ได้ถึงมวลอากาศ สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดต่างๆ ในช่วงย่านความถี่สูงได้ดี …ระฆังเป็นระฆัง …เหล็กสามเหลี่ยมก็เป็นเหล็กสามเหลี่ยม ปลายเสียงฉาบ (cymbals) ที่พละพลิ้ว โปร่งสบาย และมีความเป็นธรรมชาติมากๆ ในขณะที่เสียงเบสนั้นก็ควบคุมได้ดีมาก ให้ทั้งน้ำหนัก (weighty) และความหนักแน่น (tight) พร้อมด้วยโฟกัสที่แจ่มชัด

ซึ่งในครั้งนี้ “Aethos ” สามารถทำหน้าที่ขับขาน Reference 9K ได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งทางด้านการส่งมอบลักษณะเสียงที่ปลดปล่อย ความเปิดโปร่ง-โล่งกระจ่าง ควบคู่ความสดใส-สะอาด และแจ่มชัด รวมไปถึงความกระชับ-ฉับไวในท่วงท่า ให้การควบคุมจังหวะจะโคนของดนตรีได้ดี มีไดนามิกเสียงอันฉับพลัน มีความไหลลื่นต่อเนื่อง และกลมกลืนกลมกล่อมอย่างน่าฟัง ทั้งยังให้ความรู้สึกคึกคัก กระฉับกระเฉง รวมถึงน้ำหนักเสียงที่หนักแน่นทรงพลัง ให้เรี่ยวแรงกระทบปะทะ และการทิ้งทอดตัวของเสียงต่ำอันลึกล้ำ-ดื่มด่ำอย่างน่าทึ่ง … Aethos สามารถทำให้  Reference 9K ส่งมอบเสียงเพลงและดนตรีที่มีความสมจริงเป็นอย่างมาก – เป็น “ความสมจริง” ที่ให้พลังงาน (energy) ทางเสียงอย่างที่เราๆ ท่านๆ จักได้รับจากในธรรมชาติของเสียงนั้นๆ ครับ

ในประเด็นของการส่งมอบสภาพเวทีเสียง และการจำแนกแยกแยะรายละเอียดนั้น “Aethos” ทำได้ดีพอตัวทีเดียว – ทั้งในแง่ของความแผ่ใหญ่-กว้างขวางของสนามเสียง, การไล่ระดับความลึก หรือแถวชั้นในเวทีเสียง, ความอบอวลของมวลบรรยากาศ, ความกระจ่างแจ้งในการแจกแจงชิ้นดนตรีต่างๆ, ความเปิดโปร่ง-ทอดตัวของย่านเสียงความถี่สูง “Aethos” ให้การรับรู้อิมเมจว่า “อยู่ที่นั่น อยู่ตรงนั้น” ในเวทีเสียงอันสมจริง ทั้งขนาดและสัดส่วน รวมถึงการไล่ระดับความลึกที่ทำได้ดีทีเดียว

Aethos ให้สนามเสียงที่แผ่กว้าง-แยกแยะแถวชั้น-ตำแหน่งเสียงที่ไม่ซ้อนทับกัน และไม่มีเสียงใดๆที่ล้ำหน้าเกินกว่าแนวตำแหน่งตั้งวางลำโพงออกมา (laid back) แม้กระทั่งการบรรเลงออร์เคสตร้าวงใหญ่ที่ประโคม-คำรนอย่างแผดสนั่น “Aethos” จะยังคงส่งมอบเสียงที่มีมิติ มีตัวตน มีห้วงอารมณ์ความรู้สึกของดนตรี มีความเป็นธรรมชาติของเสียงแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวาสมจริงสมจัง (ขอรับรองว่า ไม่ได้โม้ครับ) ความอลังการของวงออร์เคสตร้าถูกถ่ายทอดออกมากว้างใหญ่จนจรดผนังห้องด้านข้าง ส่วนความลึกนั้นราวทะลุเลยผนังหลังห้องออกไปเลยจริงๆ ในขณะที่มิติความสูงนั้นบ่งบอกออกมาได้เยี่ยมยอดทีเดียว

Aethos ทำให้ Reference 9K บ่งบอกได้ถึงสารพัดเสียงสอดแทรกต่างๆ ออกมาอย่างจะแจ้ง สดสะอาด และแจ่มชัด ระบุตำแหน่งที่มาของเสียงนั้นๆ ได้อย่างมีตัวมีตน พร้อมด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่มีความครบชัด ระบุตำแหน่งแห่งที่ของเสียง สามารถรับรู้การแยกแยะแถว-ชั้นของเสียง พร้อมด้วยความอบอวลในมวลบรรยากาศ (airy) ซึ่งเมื่อรับฟังจากแนวเพลงการแสดงสด “Aethos” จะส่งมอบบรรยากาศของฮอลล์ หรือสถานที่แสดงสดนั้นให้ได้อึ้ง… รับรู้ถึงความโอฬารของสถานที่บันทึกเสียง พร้อมด้วยความกังวานของเสียงช่วยให้การรับฟังมีความอบอวลของมวลบรรยากาศอย่างสมจริงในเหตุการณ์ที่รับฟัง เสียงปรบมือของผู้ชมในคอนเสริ์ต ฮอลล์ให้ความรู้สึกอันปลาบปลื้มใจ

ไม่ได้เว่อร์นะครับ ลำโพง Canton : Reference 9K ที่ถูกขับขานด้วย “Aethos” ราวกับถูกแปรสภาพเป็นลำโพงที่มีขนาดใหญ่กว่าสภาพจริงขึ้นมาทันที ด้วยช่วงย่านเสียงกลาง-ต่ำที่รับฟังได้ถึงความสดใสและฉับไว ควบคุมท่วงท่า จังหวะจะโคนได้ดีมาก “Aethos” ให้การตอบสนองช่วงย่านความถี่เสียงต่ำที่ลงไปได้ลึกล้ำ อิ่มใหญ่ และเข้มข้นควบคู่กัน ทำให้เรา-ท่านสามารถจับจังหวะจะโคนของการเดินเบสได้อย่างชัดแจ้ง กระฉับกระเฉง ควบคุมวรรค-ตอนได้อย่างรวดเร็ว-แม่นยำ ทั้งยังจำแนกแยกแยะลักษณะความต่างกันของเสียงเบสได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงความทรงพลัง-หนักหน่วงในแรงกระแทกกระทั้น มีเรี่ยวแรงปะทะอันเด็ดขาด ฟังได้ซะใจมันส์ในอารมณ์มากจริงๆ 

ซึ่งเมื่อรับฟังจากเพลงร้อง (vocal) …ช่างเป็นเป็นเสียงร้องที่มีวิญญาณมีตัวมีตนของคนเราจริงๆ เสมือนเปล่งออกมาจากปากจากลำคออย่างมีลมหายใจ (breathing) เข้าได้ถึงห้วงอารมณ์ของการขับร้อง ชิ้นดนตรีต่างๆ ที่เรียงรายตำแหน่งแห่งที่ ถอยลึกไล่ลำดับเข้าไปเป็นชั้นๆ (layered)  ในขณะที่ช่วงย่านความถี่สูงนั้นก็มีความพละพลิ้ว และให้รายละเอียดได้ระยิบระยับ โดยไร้ซึ่งความกระด้าง ระคายหู ทั้งยังเป็นเสียงสูงที่เปี่ยมในพลังงาน มิใช่เป็นแค่เสียงจางๆ อันไร้ซึ่งความรู้สึกสมจริง ฟังแล้วน่าประทับใจมาก

สรุปส่งท้าย

แม้จะได้ชื่อว่าเป็น Integrated Amplifier กระนั้น “Aethos” ก็เทียบชั้นศักดิ์ศรีได้ราวกับระดับเครื่องแยกชิ้น Aethos” สามารถบ่งบอกได้ถึงทรานส์เซี้ยน และทิมเบอะ (timbre) ของเสียงดนตรีแต่ละชิ้น แต่ละประเภทให้ได้รับรู้อย่างถูกต้องแม่นยำ ทั้งยังให้สุ้มเสียงที่มีความปลอดโปร่ง ชิ้นดนตรีต่างๆ มีความเป็นอิสระรับรู้ได้ถึงปริมณฑลของเสียงนั้นๆ พร้อมทั้งความอิ่มฉ่ำ และความเนียนนุ่ม ละมุนละไมควบคู่กัน

เสียงทุกเสียงมีความลอยตัวไม่มีความอัดอั้น ช่วงย่านเสียงสูงสะอาด สดใส และทอดตัวไปยาวไกลสุดๆ รับรู้ได้ถึงมวลบรรยากาศที่อบอวลอยู่รอบๆ ชิ้นดนตรีได้ดีมาก ช่วงย่านเสียงกลางให้ความระรื่น หวานชื่นโสตประสาทเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยความกลมกล่อม มีน้ำมีนวลชวนฟัง ให้ความผ่อนคลาย สบายใจ การแยกแยะตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่อยู่ชิดติดกัน จะไม่ปรากฏอาการเบียดเสียด มั่วหรือสับสน ประดังประเด ซ้อนทับกัน

ความกระชับ ฉับไว แม่นยำในช่วงจังหวะจะโคน – ความสดใส โปร่งกระจ่างในน้ำเสียงที่ “Aethos” ส่งมอบออกมา รวมทั้งความรู้สึกดื่มด้ำ ปลาบปลื้ม อิ่มเอมใจ ล้วนเป็นตัวช่วยให้เข้าถึงซึ่งห้วงอารมณ์ของการรับฟังอย่างสมจริง รู้สึกเพลิดเพลินใจในขณะรับฟังได้นานเท่านานจนลืมเวลาไปเลย …ได้ฟังแล้วหลงเสน่ห์เสียงเอาเลยทีเดียวละครับ – ขอบอก


ขอขอบคุณ Komfort Sound โทร. 083 758 7771 ที่เอื้อเฟื้อ Rega รุ่น Aethos ในการรับฟังครั้งนี้

Exit mobile version