มหกรรมงาน CES 2023 หรือชื่อเต็มว่า Consumer Electric Show กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 5-8 มกราคม ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแฟนๆ ในวงการเครื่องเสียงหรีอโฮมเธียเตอร์ มักจะรอฟังข่าวเรื่องสินค้าใหม่ๆ ที่มีการเติมเทคโนโลยี ที่พัฒนาไปอีกขั้นอย่างใจจดใจจ่อ แน่นอนว่างานครั้งนี้ยังคงรวบรวมผู้ผลิตจากทั่วโลกกว่า 2,400 แบรนด์ ให้ขนสินค้ามาขิงกันแบบเต็มระบบ ไม่มีกั๊ก ทั้งเจ้าเล็กและเจ้าใหญ่จากหลายทวีป ยกตัวอย่างเช่น Google, Amazon, Microsoft, Qualcomm, LG, Samsung, Sony, Panasonic และ JBL สำหรับสินค้าที่แฟนๆ ให้ความสนใจเป้นพิเศษในปีนี้จะเป็น ทีวี, หูฟัง, ลำโพง และ รวมไปถึงนวัตกรรมเกี่ยวกับเครื่องเสียงรถยนต์ ที่กำลังกลับมาบูมอีกครั้ง
แม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่มีข้อมูลของสินค้าจากแบรนด์ต่างๆ หลุดออกมามากนัก มีแต่ข่าวลือที่ยังไม่มีการยืนยัจากผู้ผลิต แต่สื่อต่างๆ จะมีสิทธิ์ได้เข้าชมก่อนสองวันในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม ที่เป็นรอบพิเศษ ยังไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม ซึ่งหากรอกันไม่ไหวสามารถติดตามได้จากสกู๊ปจากสื่อต่างประเทศ ที่ได้รับเชิญกันได้ตามสะดวกส่วนการถ่ายทอดสดการแถลงข่าวและบรรยากาศภายในงาน จะมีถ่ายทอดผ่านทาง Livestream ในวันที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมกันอย่างเป็นทางการ แต่ในตอนนี้ทางโต้โผ ได้มีการประกาศรางวัลที่น่าสนใจมอบให้แบรนด์ต่างๆ ไปแล้วบางส่วน ซึ่งทีมงาน What HIFI Thailand จะคัดเลือกมาเรียกน้ำย่อยให้แฟนๆ ได้ติดตามกันในสกู๊ปนี้
เริ่มต้นกันที่ผู้ผลิตทีวีรายใหญ่จากประเทศเกาหลีอย่าง LG ที่ได้รับรางวัล CES Innovation Awards ไปมากถึง 10 รุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น OLED TV ที่มีขาดถึง 88 นิ้ว และ 97 นิ้ว มีความละเอียดถึง 8K ที่โดดเด่นทั้งเรื่องรูปลักษณ์การออกแบบและเทคโนโลยีเฉพาะตัวส่วนไลน์สินค้าทั่วไปที่น่าสนใจคาดว่าจะเป็นทีวีในซีรี่ส์ A3, B3 และ C3 อาจรวมไปถึง G3 ที่มีข้อมูลคร่าวๆ หลุดออกมาทาง National Radio Research Agency แต่ต้องรอชมตัวจริงกันต่อไปว่าจะแจ่มจริงสมคำร่ำลือหรือไม่?
ต่อกันที่แบรนด์คู่แข่งในตลาดทีวีจากประเทศเกาหลีอย่าง Samsung ที่วางคอนเซ็ปต์ในงาน CES 2023 ด้วยการใช้ธีมว่า ‘Bringing Calm to Our Connected World’ ซึ่งในรอบสื่อมวลชนจะมอบหน้าที่ให้ ฮาน จอง ฮี ที่นั่งตำแหน่งรองประธานบริษัท ทำการพรีเซนต์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ของพวกเขาต่อหน้าสื่อมวลชนคาดกันว่า ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวชูโรงของ Samsung รอบนี้จะเป็น Smart Home Ecosystem แบบเต็มระบบ ที่ใช้งานง่ายและสะดวก เหมาะกับยุคสมัยตอนนี้ ที่เน้นไปที่คำว่า ไลฟ์สไตล์ ส่วนทีวีที่เป็นตัวชูโรงจะมากันครบทั้ง Micro LED, Neo QLED และ QD-OLED ซึ่งสื่อพุ่งความสนใจไปที่ QD-OLED เป็นพิเศษ เพราะอยู่ในช่วงราคาที่พอจับต้องไหว ไม่เป็นภาระกระเป๋ามากจนเกินไป
ถัดมาที่แบรนด์ดังอย่าง Sony ที่ตอนนี้ไม่เพียงจะยังคงจับตลาดทีวีอยู่เหมือนเดิม แต่จะเพิ่มเรื่องของเครื่องเสียงพ่วงเข้ามาด้วย คาดกันว่า ทีวีรุ่นใหม่ของพวกเขาจะมีการพัฒนาเรื่องระบบเสียงให้ดีมากขึ้นแบบไม่เคยมีมาก่อน แล้วตัวเรือธงที่อาจนำมาโชว์ในงานน่าจะเป็น QD-OLED แต่ถ้าไม่ใช่ไลน์การผลิตสินค้านี้อาจเป็นปี 2024 เลย ส่วนในเรื่องของเครื่องเสียง คงหนีไม่พ้นผลิตภัณฑ์ในหมวด Soundbar ที่รองรับระบบ Dolby Atmos รวมไปถึงหูฟัง Sony Linkbuds รุ่นใหม่ ด้านเซอร์ไพรส์ที่อาจเกิดขึ้นได้คงเป็น Walkman หรือโชว์ว่าระบบ Bravia Core มีการพัฒนาเพิ่มเติมแบบไหนบ้าง? รองรับ 360 Reality Audio Technology หรือยัง?
ส่วนการจับคู่โชว์ระหว่าง Panasonic และ Technics ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะยอมแบ่งพื้นที่การโชว์สินค้า ไม่แยกบู๊ท อุบไต๋เหมือนจะไม่มีอะไรแต่มีแน่ ทางฝั่ง Panasonic ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจคงไม่พ้นทีวี ซึ่งปีก่อนมีสองรุ่นอย่าง TX-48JZ980 และ TX-55LZ980B ที่ได้รับการรีวิวว่ามีประสิทธิภาพถึง 5 ดาว จากสื่อในต่างประเทศแล้วในปี 2023 คงจะเป็นการต่อยอด OLEDs ให้มีการเติมลูกเล่นใหม่ๆ เข้าไปมากขึ้น ส่วนในรายของ Technics ที่ได้รับรางวัลระบบสตรีมมิ่งยอดเยี่ยมจาก SA-C600 และหูฟังไร้สายรุ่น EAH-A800 ที่มีประสิทธิภาพเกินราคา น่าจะมีเซอร์ไพรส์เป็นผลิตภัณฑ์หูฟังรุ่นใหม่แบบ Earbud รวมไปถึงสินค้าในกลุ่มของเครื่องเสียงที่ยังไม่มีข่าวหลุดออกมามากนัก
มาถึงแบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังอย่าง JBL ที่เป็นขวัญใจมหาชนส่วนใหญ่ แทบไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะทำตลาดมานานกว่า 75 ปี แล้วเพิ่งจะออกผลิตภัณฑ์ฉลองเป็นลำโพง L100 Classic 75 speakers รวมไปถึง SA750 ที่เป็นแอมปลิฟายเออร์ สำหรับระบบสตรีมมิ่ง แน่นอนว่าพกวเขายังคงอุบความลับ ไม่มีข่าวเล็ดลอดว่าจะเอาอะไรมาโชว์ แต่การันตีได้ว่า มีเซอร์ไพรส์แน่นอน โดยสินค้าที่น่าสนใจแล้วกำลังตีตลาดได้ดีเป็น หูฟังแบบ ทรู ไวร์เลส ซึ่งน่าจะมีไลน์อัพใหม่ๆ ออกมาให้ได้เห็นกันหลายรุ่น
ด้านแบรนด์ทีวีที่กำลังมาแรงอย่าง TCL ก็ได้รับรางวัลจาก CES 2023 ไปถึงสองรางวัลในรุ่น TCL 75C935 และ TCL 75C835 เป็นการผสมผสานระหว่าง Mini LED 4K TV ที่ใช้เทคโนโลยีจากทั้ง Mini LED และ QLED ให้ภาพสีที่กระช่างชัดเจน เก็บรายละเอียดครบถ้วน มีระดับรีเฟรชเเรทที่ระดับ 144Hz ที่เตรียมตีตลาดทีวีระดับพรีเมี่ยมได้สบาย ด้วยการเอาราคาเข้าสู้ รองรับระบบ Dolby Vision IQ สามารถควบคุมการใช้งานได้ 360 องศา มีให้เลือกระบบปฏิบัติการได้ทั้ง Google TV หรือ Roku อีกด้วย
