What HI-FI? Thailand

สัมภาษณ์พิเศษ Mr.Ole Rytz Jorgensen (MD) กับ Benno Baun Meldgaard (RD) of Gamut

สัมภาษณ์พิเศษ Mr.Ole Rytz Jorgensen (MD) กับ Benno Baun Meldgaard (RD) of Gamut               

ช่วงเดือนสุดท้ายแห่งปี 2557 ทาง GamuT แบรนด์เครื่องเสียงคุณภาพระดับไฮเอนด์แห่งเดนมาร์กได้ส่งตัวแทนมาเยี่ยมเยือน Karp Audio ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย GamuT อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ณ The Nine Neighborhood Center ย่านถนนพระราม 9 ที่มีคุณการุณต์ เปรมโอชา เป็นผู้บริหารกิจการ อันสืบเนื่องจาก ความรักและลุ่มหลง ในการฟังเพลงและดนตรีอย่างแท้จริงเป็นจุดกำเนิดขึ้นของ Karp Audio โดยที่ยังมีผลิตภัณฑ์จาก 3 แบรนด์ดัง อันได้แก่ Townshend, MS HD Power และ Partington & Co. ถืออยู่ในมืออีกด้วย

นิตยสาร What Hi-Fi ? ได้รับเกียรติสำคัญในการเข้าสัมภาษณ์กับตัวแทน 2 ท่าน ได้แก่ Ole Rytz Jorgensen (MD) กับ Benno Baun Meldgaard (RD) จาก GamuT อย่างเป็นกันเองยิ่งนัก จึงขออนุญาตนำสาระเรื่องราวที่ได้รับจากพูดคุยในวันนั้นมานำเสนอต่อท่านผู้อ่าน ณ โอกาสนี้ครับ

 

What Hi-Fi ? : รบกวนช่วยเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของ GamuT ให้ฟังสักเล็กน้อยครับว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร ?

GamuT : Gamut นั้นถือกำเนิดขึ้นในปีค.ศ. 1982 โดยบุคคลที่ชื่อว่า Oller Lund Christensen ซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับการ Mixing เสียงให้กับ Studio แห่งหนึ่ง ต่อมาวันนึงเขาเริ่มมีความคิดที่จะพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านเครื่องเสียงให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้นกว่าที่ Studio มีอยู่ ณ ตอนนั้น จึงได้ไปว่าจ้างวิศวกรกลุ่มหนึ่งเข้ามาต่อยอดความคิดของเขาให้เป็นจริงขึ้นมา สุดท้ายจึงได้ออกมาเป็นเทคโนโลยี Single MosFet ที่บรรจุอยู่ในแอมปลิไฟเออร์ตัวแรกของ GamuT ที่ยังคงใช้มาถึงปัจจุบันนี้

จากนั้นมาก็เริ่มมีการติดต่อจากทาง Studio อื่นๆ อีกหลายแห่งให้ไปช่วยปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบเสียงต่างๆ ให้ และต่อมาภายหลังก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับบริษัทครั้งสำคัญ คือการเปลี่ยนเจ้าของไปเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เริ่มความคิดในการขยายฐานการตลาดไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งประเภทสายสัญญาณ, ลำโพง รวมไปถึง Amplifier ด้วย แต่ทุกอย่างยังคงใช้แนวคิดเดิมเป็นจุดเริ่มต้นทั้งหมด เนื่องจากแนวคิดต้นแบบที่ถูกคิดค้นเอาไว้ก่อนหน้านี้นั้น นับว่ายอดเยี่ยมมากๆ

What Hi-Fi ? : จุดเด่นของ GamuT ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาดเดียวกันคืออะไรครับ ?

GamuT : อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ความจริงแล้ว จุดเด่นของ GamuT คือ ความไม่มีจุดเด่น เนื่องจากเราใส่ใจในทุกชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์ด้วยความละเอียดอ่อนและพิถีพิถัน จึงทำให้ทุกอณูที่อยู่ในตัวสินค้าแต่ละชิ้นล้วนพิเศษและสำคัญทั้งสิ้น แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่มักจะชูจุดเด่นเป็นชิ้นๆ ว่ามีอะไรที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษในรุ่นนั้นรุ่นนี้ ตามคำกล่าวที่ว่า No System Is Better Than The Weakest Part. ที่มาจากคำกล่าวของคนเดนมาร์กยุคเก่าที่ว่า No Chain Is Stronger Than The Weakest Link. ที่แปลได้ว่าในเมื่อทุกส่วนนั้นสมบูรณ์แข็งแรงเทียบเท่ากันได้หมด ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ส่วนไหนที่แข็งแกร่งไปกว่าส่วนที่เปราะบางที่สุด เมื่อเปรียบกับระบบเครื่องเสียงแล้วถ้าฟังแล้วมันเพราะมันดีก็แปลว่าทุกส่วนในระบบนั้นดีเยี่ยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

 

What Hi-Fi ? : ต่อเนื่องจากคำตอบเมื่อสักครู่ ถือว่า เรียกได้ว่านั่นคือ ปรัชญา ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของ GamuT ใช่ไหมครับ ?

GamuT : นั่นเป็นเพียงแค่หนึ่งแนวทางในการดำเนินงานของทาง GamuT เท่านั้น ซึ่งมีรายละเอียดมากมากที่ซับซ้อนกันในความใส่ใจในการสร้างสรรค์สินค้าออกมาสักหนึ่งตัว เพราะว่า เรามีเรื่องที่ต้องคำนึงถึงมากมาย อาทิเช่น แรงบันดาลใจ, แรงกระตุ้นในการสร้างสรรค์ หรือแม้แต่แนวคิดอื่นๆ ที่แยกย่อยลงไปในชิ้นส่วนแต่ละชิ้นที่นำมาประกอบกัน

 

What Hi-Fi ? : พอใจกับโชว์รูมตัวแทนจำหน่าย GamuT ที่ประเทศไทยมากน้อยแค่ไหนครับ ?

GamuT : นี่เป็นครั้งแรกของเราทั้งคู่ที่ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย พอเมื่อได้มาเห็นโชว์รูม Karp Audio ของคุณการุณต์ แล้วพิจารณาดูในรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เราแทบจะลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์เลยว่า นี่คือ หนึ่งในโชว์รูมของ GamuT ที่ดีที่สุดที่เรามี โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพเสียงที่มีการ set up ไว้อย่างยอดเยี่ยม จนแทบไม่ต้องปรับแต่งใดๆ เลยก็ว่าได้

ซึ่งถ้าหากมีผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของทาง GamuT แล้วต้องการจะทดลองฟังดู ทางเราเชื่อมั่นว่าการเดินทางมาที่ Karp Audio จะทำให้ท่านพบกับประสบการณ์ในการฟังเพลงที่จะทำให้รื่นรมย์แบบไม่รู้ลืมได้อย่างแน่นอน อย่างที่ทราบกันดีว่าทาง GamuT เอง ไม่ได้มีตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศที่มากมายนัก เมื่อเราเดินทางมาดูงานและให้คำปรึกษาถึงที่ย่อมทำให้มั่นใจได้เลยว่า GamuT มองว่าประเทศไทยเป็นตัวแทนจำหน่ายที่สำคัญมากๆ ที่เราพร้อมจะให้ความช่วยเหลือดูแลในทุกๆ ด้านอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น คุณการุณต์ ถือว่าเป็นคนที่มีความคิดในแนวทางเดียวกันกับ GamuT ยิ่งทำให้เราประทับใจอย่างยิ่งยวดเลยทีเดียว

 

What Hi-Fi ? : เคยคิดที่จะปรับราคาของสินค้าลงมาบ้างไหม เนื่องจาก GamuT ถือว่าเป็นแบรนด์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ที่มีราคาสูงพอสมควร ?

GamuT : ขอตอบตามตรงว่าคงเป็นไปได้ยากหรือยากมาก…บางทีอาจจะเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากวัสดุและอุปกรณ์แต่ละชิ้นที่เราเลือกใช้นั้น มีราคาต้นทุนที่สูงมากอยู่แล้ว ซึ่งสินค้าที่ทางเราผลิตออกมานั้นต้องยอมรับว่าทำออกมาเพื่อตอบสนองลูกค้าเฉพาะกลุ่มเท่านั้น โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบในน้ำเสียงของ GamuT และทางเราไม่มีนโยบายการตลาดที่จะเอาเปรียบลูกค้า ด้วยการแสวงหาแต่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่เราผลิตสินค้าแต่ละชิ้นออกมาด้วยความตั้งใจและพิถีพิถันเป็นพิเศษ ดังนั้นผู้ผลิตเองก็ย่อมมีความสุขกับงานที่ทำออกมา เช่นเดียวกับลูกค้าที่มีความสุขกับเงินที่จ่ายไป แลกกับการฟังเพลงที่ให้ศักยภาพที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าเราจะเพิกเฉยเกี่ยวกับประเด็นนี้ เพียงแต่เราเคยทดลองเลือกใช้วัสดุอื่นๆ ที่รองลงมาเพื่อเทียบเคียงดูแล้ว ปรากฏว่าผลที่ได้ คือ ความล้มเหลว เพราะน้ำเสียงที่ออกมามันแตกต่างจากความเป็น Gamut โดยสิ้นเชิง แนวคิดนี้เลยจำเป็นต้องพับเก็บไปโดยปริยาย

 

What Hi-Fi ? : มีสินค้าตัวไหนของทาง GamuT ที่ชื่นชอบหรือโปรดปรานเป็นพิเศษไหมครับ ?

GamuT : ความจริงแล้วทางเราเองก็ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่สร้างสรรค์ออกมา แต่ถ้าจำเป็นจะต้องให้เลือกชิ้นใดเป็นพิเศษจริงๆ คงเป็น D200i Amplifier ที่ไม่ว่าจะกลับมาฟังครั้งไหนคราวไหน หรือ จะจับคู่กับลำโพงที่แตกต่างรุ่นออกไปก็ยังคงให้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์แบบ Gamut ได้อยู่เสมอ มีความเป็นธรรมชาติ นุ่มนวล ราบเรียบ ไม่มีจุดพีค (Peak) หรือ ดร็อป (Drop) ให้เห็น บางครั้งยังมีการนำเจ้าตัวนี้ไปทำการทดสอบกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่บ่อยครั้ง

 

What Hi-Fi ? : ช่วยพูดถึงรายละเอียดแยกย่อยแบบลงลึกของตัว Cabinet ของทาง GamuT กันบ้างว่า การเลือกใช้วัสดุแต่ละชิ้นในการประกอบมีความพิถีพิถันเป็นพิเศษ อย่างไรบ้าง ?

GamuT : ในส่วนของ Cabinet นั้น เรามีการเลือกใช้วัสดุจากโรงงานไม้จาก ประเทศลัตเวีย ที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับการผลิตเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ส่งออกในแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งมั่นใจได้ว่าคุณภาพของ plywood ที่เราเลือกสั่งตรงมาจากที่นี่นั้น ย่อมมีคุณภาพที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่างมาก เพราะเราเลือกที่จะนำเยื่อไม้ที่ขนาดบางแค่ 1-มิลลิเมตรเป็นร้อยๆ ชั้นมาประกอบกันขึ้นเป็น Cabinet ในแต่ละด้าน ก่อนที่จะทำการยึดเข้าด้วยกันด้วยกาวชนิดพิเศษ โดยไม่ผ่านการอบหรือแปรรูปใดๆ เพียงแค่ลง B-Waxed เพื่อป้องกันปัญหาในเรื่องน้ำมันจากไม้เท่านั้น ส่วนกรวย Mid-Range นั้นก็ทำมาจากเยื่อกระดาษที่มีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าคุณภาพเสียงและรูปลักษณ์ความสวยงามจากภายนอกนั้นเชื่อถือได้แน่นอน นอกจากนี้ยังให้ฟีลลิ่งแบบ Closer to Nature อีกด้วย

 

What Hi-Fi ? : พอจะแง้มๆ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานที่ทำการผลิต Single MosFet ให้เราได้รู้รายละเอียดมากขึ้นได้บ้างไหมครับ?

GamuT : คำถามนี้เราคงต้องขออภัยด้วยที่ไม่สามารถให้ข้อมูลชี้ชัดเกี่ยวกับฐานการผลิตอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ได้ ซึ่งเราให้คำตอบได้แค่เพียง GamuT นั้นทำการคัดสรรค์และทดลองอุปกรณ์ชิ้นนี้จากหลากหลายโรงงานในหลากหลายประเทศ ที่ไม่ได้มีจุดเด่นแค่เฉพาะด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่เสียงที่ให้ต้องมีความเป็นแบบฉบับของ GamuT ดั้งเดิมที่เราต้องการ สุดท้ายการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันของเราก็มาจบที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งซึ่งทำอุปกรณ์เกี่ยวกับ Wheeling Machine

 

What Hi-Fi ? : ทำไมบางครั้งคุณภาพเสียงที่ได้ฟังจากผลิตภัณฑ์ของ GamuT จึงมีความแตกต่างกันทั้งที่ใช้ System เดิมทั้งหมด ?

GamuT : ที่จริงแล้วปัญหาในจุดนี้นักเล่นส่วนมากก็ประสบพบเจอกันแทบทุกคน แม้แต่ตัวพวกเราเองนั้นก็หนีไม่พ้นเช่นกัน…ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคุณภาพของตัวสินค้า แต่เป็นเพราะเครื่องเสียงทุกตัวบนโลก รวมถึง GamuT เองก็ด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มของ Amplifier นั้นต้องการใช้เวลาในการ Warm Up ที่เหมาะสม เพื่อแสดงศักยภาพที่สูงสุดออกมาประมาณ 12-24 ชม. เป็นอย่างน้อย และนี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ GamuT ไม่ทำปุ่ม Power Button ไว้ที่ตัวเครื่องสำหรับปิด-เปิด เพราะต้องการให้เสียบปลั๊กทิ้งไว้ให้วงจรภายในเครื่องเล่นมีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงที่เพียงพออยู่ตลอด ถ้าไม่เชื่อให้กลับไปลองฟังเครื่องตอนเปิดใหม่ๆ เทียบกับเปิดทิ้งไว้ 1 วันดูเอาเองก็จะเห็นความแตกต่างในจุดนี้ ได้อย่างชัดเจน

 

What Hi-Fi ? : ขอถามถึงเรื่อง Source ในการเล่นกันบ้าง…ทำไม GamuT ถึงเลือกที่จะผลิตแค่ CD Player ทั้งที่คู่แข่งหันไปทำ SACD Player กันหมดแล้ว ?

GamuT: แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรานั้น ยังคงยึดจุดยืนของทางบริษัทเป็นหลักไม่ได้เอนเอียงไปทางกระแสตลาดที่ผกผันอยู่เสมอตามกระแสนิยม ซึ่งปัจจัยหลักของเครื่องเล่น CD ที่เราให้ความสำคัญที่สุดคือในเรื่องของคุณภาพเสียง ดังนั้นเราจึงมุ่งประเด็นไปที่ระบบ Circuit หลักของเครื่องเล่นที่ต้องมีศักยภาพที่สูงสุด เนื่องจากเป็นสิ่งที่มีผลโดยตรงต่อคุณภาพเสียงกว่า 90% ในมุมมองของเรา ส่วนอีก 10% ที่เหลือเป็นเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานเสริมที่เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าแบบผิวเผินซะมากกว่า…สุดท้ายแล้วเราจึงเลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยหลักกว่าปัจจัยเสริมที่ไม่จำเป็นเท่าใดนัก

 

What Hi-Fi ? : แล้วการที่เทคโนโลยีต่างๆ ในการฟังเพลงในระบบดิจิตอลพัฒนาขึ้นมาก มุมมองของคุณเกี่ยวกับประเด็นในการถกเถียงกันระหว่างคุณภาพของ Digital กับ Analog เป็นอย่างไรบ้าง ?

GamuT: อันที่จริงแล้วทั้งสองแนวนั้นก็ให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทั้งคู่ในมุมมองส่วนตัว ต่างฝ่ายต่างก็มีข้อดีแตกต่างกันออกไป ถ้าให้พูดถึงจุดเด่นการฟังเพลงในระบบของ Digital คงจะเป็นความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะไฟล์เพลงสามารถหาได้ง่ายมีหลายบริษัทให้บริการดาวน์โหลดออนไลน์มากมายในปัจจุบัน แถมเครื่องไม้เครื่องมือก็มีให้เลือกเสริมเติมแต่งเสียงได้ตามที่ผู้ฟังต้องการ โดยเฉพาะการ Upsampling ขึ้นไปถึงระดับ 192 Kbps เพื่อให้ไฟล์นั้นๆ กลายเป็นระดับ High-Resolution แต่เมื่อลองทดสอบกันตามหลักแล้ว ยิ่งไฟล์เพลงมีความละเอียดสูง Jitter ก็มักจะเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งไม่มีทางที่จะทำให้จุดนี้เลือนหายไปอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ก็ไม่ได้ทำให้ระบบนี้มีช่องโหว่แต่อย่างใด เนื่องจาก Digital นั้นกำลังพัฒนาไปเรื่อยๆ เพื่อให้ก้าวไปถึง ความสมบูรณ์แบบ แต่อะนาลอกก็มีเสน่ห์ของมันอยู่เหมือนบริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ ในปีหน้าเรามีสินค้าอย่าง DAC Converter ออกมาเพื่อให้ลูกค้าในกลุ่มที่ต้องการสัมผัสคุณภาพเสียงในแนวทางร่วมระหว่างสองโลกเข้าด้วยกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2015 บางทีผลิตภัณฑ์ตัวนี้น่าจะถูกใจลูกค้าไม่มากก็น้อย เนื่องจากสามารถประหยัดเงินในการซื้อเครื่อง DAC ราคาแพงๆ ได้อย่างแน่นอน

 

What Hi-Fi ? : แล้วความเห็นของคุณเกี่ยวกับความนิยมในการฟังแผ่นเสียง ในมุมมองของคนชอบฟัง CD อย่างคุณเป็นอย่างไรบ้าง ?

GamuT: อันที่จริงแล้วเพลงยุค 60-80s เป็นแนวเพลงที่พวกเราชอบฟังอยู่บ่อยๆ ซึ่งในช่วงนั้นก็มักจะผลิตออกมาในรูปแบบของแผ่นเสียงที่มีการบันทึกเสียงได้อย่างยอดเยี่ยมและรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของ Analog เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน แม้ว่าเครื่องไม้เครื่องมือจะไม่ทันสมัยเท่ากับในยุคปัจจุบัน แต่เมื่อ CD ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับให้ความสะดวกสบายกว่าในการใช้งาน จึงทำให้เริ่มหันมาฟังเพลงในรูปแบบนี้มากกว่า เนื่องจากความเห็นส่วนตัวที่คิดว่าคุณภาพเสียงที่ได้นั้นไม่แตกต่างกันมากนัก ประกอบกับในปัจจุบันนี้แผ่นเสียงที่ทำออกมาส่วนมากมักจะมีคุณภาพต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป เหมือนกับว่าผู้ผลิตเห็นแก่ได้อย่างเดียว ไม่สนใจจิตใจของผู้บริโภคเลย

 

What Hi-Fi ? : ในส่วนของผลิตภัณฑ์สายสัญญาณของทาง GamuT ที่มีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ยี่ห้อใด ช่วยอธิบายให้ทราบเกี่ยวกับสินค้าตัวนี้สักเล็กน้อยครับ?

GamuT: สายสัญญาณเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากในเรื่องของคุณภาพเสียงที่ออกมา ดังนั้นทาง GamuT เองก็ทุ่มเทเวลาเพื่อศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีที่ให้คุณภาพสูงสุด โดยเฉพาะในวงการเครื่องเสียงแล้วนั้นปัจจัยที่ทำให้สายสัญญาณแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกัน ก็คือ ความเร็ว ยิ่งเร็วมากเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น เหมือนการส่งผ่านสิ่งของในภาพยนตร์ที่เห็นกันบ่อยๆ อย่างเช่น เทเลพอร์ต ที่ให้ความเร็วเหนือกว่าแสง แม้ว่าวิวัฒนาการของเราอาจจะยังไม่สามารถก้าวไกลไปถึงจุดนั้น แต่การเลือกใช้ เทฟล่อน (Teflon) ที่เราพิสูจน์มาแล้วว่าคุณภาพในการเป็น di-electric นั้นนับเป็นที่หนึ่งเลยทีเดียว จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการทดลองของเราที่พยายามพัฒนาและเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าย่อมไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเราเองยังเชื่ออยู่เสมอว่าการ Streaming ข้อมูลต่างๆ ผ่านทางอากาศนั้น ย่อมให้คุณภาพด้อยกว่าใช้สายสัญญาณอย่างแน่นอน ด้วยปัจจัยเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าและวงจรที่ซับซ้อน รวมถึงความต่อเนื่องของสัญญาณ

 

What Hi-Fi ? : ทิ้งท้ายกันสักเล็กน้อยนะครับ พอจะบอกแฟนๆ GamuT หน่อยได้ไหมว่า Amplifier ตัวใหม่จะผลิตออกมาช่วงไหน ?

GamuT: ณ ปัจจุบันนี้ Amplifier ตัวใหม่จากทาง GamuT นั้น กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาสินค้าอยู่เลย…ถ้าหากจะให้ระบุเวลาที่แน่นอนชัดเจนคงจะไม่ได้ แต่คาดว่าน่าจะใช้เวลา 1 ปี เป็นอย่างน้อย เพราะเราใส่ในในทุกรายละเอียดของผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้คุณภาพสินค้าออกมาดีที่สุดอยู่เสมอ

What Hi-Fi ? : ขอบคุณมากๆ ครับ สวัสดี.

 

 

Exit mobile version